เต้าจ่างส่ายหัวอย่างราบเรียบแล้วพูดว่า: “ทุกคนก็รู้นายกับฉัน ก็รู้ว่าพวกเราเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ถ้าอย่างนั้นคำพูดก็ยิ่งตรงกว่า นายก็ควรจะเชื่อมากกว่า”
ไป๋ยี่เฟย: “……”
นี่มันตรรกะบ้าอะไร?
ก็เพราะพวกเราเป็นศัตรูคู่อาฆาต ฉันต้องการให้แกตาย แกก็ต้องการให้ฉันตาย ดังนั้นสิ่งที่พูดออกมาจากหัวใจเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยหมดคำพูดอย่างฉับพลัน ต่อจากนั้นจึงถามว่า: “ถ้าอย่างนั้นฉันอยากจะรู้ว่าร่วมมือกับนาย นายจะให้อะไรกับฉัน?”
“ให้เกาะหนึ่งแห่งกับนาย แต่ไม่ใช่หลันเต่า และนายจะอยู่บนเกาะไปตลอดชีวิต นายสามารถทำตามอำเภอใจอยู่บนเกาะได้” เต้าจ่างพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูดว่า: “ตรงจริงๆด้วย”
เต้าจ่างเข้าใจว่าจะหลอกใช้ใจคนอย่างไรจริงๆด้วย
เขาไม่ได้สัญญาว่าเขาจะร่ำรวยไปด้วยกันเหมือนอย่างเหลียงเหว่ยชาว แต่กลับจะขังไป๋ยี่เฟยไว้บนเกาะแห่งหนึ่ง
พูดแบบนี้น่าเชื่อถือกว่าสิ่งที่เหลียงเหว่ยชาวพูดมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น แต่ไหนแต่ไรมาสิ่งที่ไป๋ยี่เฟยต้องการไม่มีอะไรมากกว่าการใช้ชีวิตที่สงบสุขอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูงเท่านั้นเอง
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ชี้ไปที่ลู่หยางและลู่เหมียวเหมียวแล้วพูดว่า: “แล้วพวกเขาล่ะ? ถ้าหากสำเร็จจริงๆ พวกเขาเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ นายจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”
เมื่อลู่เหมียวเหมียวและลู่หยางเห็นเช่นนี้ก็นิ่งอึ้ง ต่อจากนั้นมองไปที่เต้าจ่างอย่างวิตกกังวล
ซุนจุ้นและเต่าจ้างแอบสมรู้ร่วมคิดกัน ต่อจากนั้นซุนจุ้นก็ไปยั่วยุลู่เหมียวเหมียวและลู่หยาง จงใจล่อไป๋ยี่เฟยมาที่นี่ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
เต้าจ่างกลับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ทั้งสองคนเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่สำคัญเท่านั้นเอง ถ้าหากนายตกลงจะร่วมมือกับฉัน พวกเราจะจัดการตามใจนาย”
“ฆ่าพวกเขาก็ได้เหรอ?” ไป๋ยี่เฟยเลิกคิ้วถาม
เต้าจ่างพยักหน้า และเห็นด้วยกับความคิดของไป๋ยี่เฟย
และการพยักหน้าของเต้าจ่าง ทำให้สีหน้าของลู่เหมียวเหมียวและลู่หยางซีดเซียวขึ้นมาทันที
จากนั้นลู่หยางก็พูดอย่างกังวลว่า: “ผู้อาวุโสเต้าจ่าง ลุงซุนบอกว่า…..”
เพียงแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลู่เหมียวเหมียวก็กระชากเขา แล้วพูดว่า: “ยังมีอะไรต้องพูดอีก พวกเราสองคนแค่หมากเท่านั้นเอง ไม่สำคัญสำหรับพวกเขา”
ดังนั้น ไม่มีสิทธิ์ตัดสินความเป็นความตายของตัวเอง
ลู่หยางก็นิ่งไป
ความจริง ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ต้องการจะฆ่าลู่เหมียวเหมียวและลู่หยางจริงๆ แต่ว่าต้องการให้พวกเขาเห็นว่าเต้าจ่างเลือดเย็นมากแค่ไหน และพวกเขาโง่มากแค่ไหนเท่านั้นเอง
เต้าจ่างก็ย่อมเข้าใจเจตนาของไป๋ยี่เฟยเป็นธรรมดา แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจคนธรรมดาเหล่านี้ พวกเขารู้แล้วก็ไม่สำคัญ ดังนั้นก็พูดไปตามน้ำของไป๋ยี่เฟย
ต่อจากนั้นไป๋ยี่เฟยก็ถามว่า: “ถ้าฉันปฏิเสธที่จะร่วมมือล่ะ?”
“ง่ายดาย ฆ่านายก็พอ” เต้าจ่างพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตำแหน่งของคลังเก็บทองที่สามพวกเราก็รู้แล้ว ส่วนจะเข้าไปอย่างไร ก็ย่อมหาทางได้เสมอ”
ไป๋ยี่เฟยคิดไปสักครู่แล้วถามอีก: “ถ้าอย่างนั้นฉันต้องการจะรักษาชีวิต แกล้งทำเป็นตอบตกลงล่ะ?”
“ฉันมีวิธีที่จะทำให้นายร่วมมือกับฉันอย่างจริงใจ” เต้าจ่างตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไป๋ยี่เฟยไม่ถามอีกต่อไป แต่ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
เต้าจ่างก็ไม่ได้เร่งเร้าเขา ให้เขาคิดด้วยตัวเอง
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยไม่ได้คิดว่าจะตกลงร่วมมือด้วยหรือไม่ แต่เป็นกำลังคิดว่าควรจะหนีออกไปได้อย่างไร
แต่ไป๋ยี่เฟยคิดเรื่องนี้นานเกินไปไม่ได้ เนื่องจากเรือมุ่งหน้าสู่ทะเล ยิ่งห่างออกไปนานเท่าไหร่ ยิ่งห่างจากหลันเต่ามากเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เขาจะหนีออกไปก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
ดังนั้น ใช้เวลาไม่นาน ไป๋ยี่เฟยก็พูดอย่างจริงจังว่า: “ฉันคิดดีแล้ว ฉันจะหนี”
เมื่อลู่เหมียวเหมียวและลู่หยางที่อยู่ข้างๆเห็นแบบนี้ มองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยความประหลาดใจ
เต้าจ่างกลับไม่ได้แสดงออกอะไร เพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถ้างั้นก็ลองดู”
เพิ่งจะพูดจบ ยอดฝีมือระดับที่สองห้าคนก็เดินเข้ามาในห้องโถง แบ่งออกยืนอยู่ทั้งสองด้านของไป๋ยี่เฟย
และเต้าจ่างอยู่ตรงหน้าของเขาศิษย์น้องของเต้าจ่างอยู่ข้างหลังของเขา แบบนี้ทั้งสี่ทิศทางจึงถูกปิดกั้นไว้
ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา
ใบหน้าของศิษย์น้องเต้าจ่างดูจองหอง“แกคิดว่าแกจะสามารถหนีไปได้เหรอ?”
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ ยักไหล่แล้วพูดว่า: “ฉันแค่ระดับที่สามเอง แต่พวกแกเป็นระดับที่สอง ยังจะต่อสู้กันอย่างไร?”
เต้าจ่างมองไปที่เขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ศิษย์น้องเต้าจ่างยิ้มเยาะเย้ย“ยังถือว่ารู้ตัวดี ฉันจะบอกกับแกให้ ศิษย์พี่ของฉันให้ความสำคัญกับแกถึงได้ร่วมมือกับแก ถ้าแกฉลาดสักนิดทางที่ดีก็…..เยสเข้!”
เขาเพิ่งพูดได้เพียงครึ่งหนึ่ง ไป๋ยี่เฟยก็เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
ไป๋ยี่เฟยหันหลังมาแล้วพุ่งเข้าไปหาศิษย์น้องเต้าจ่าง และต่อยไปที่บนหน้าอกของเขาหนึ่งหมัด ศิษย์น้องเต้าจ่างทรงตัวไม่อยู่ ร่างก็ถอยหลังไปหลายก้าว
ศิษย์น้องเต้าจ่างคาดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยจะลงมืออย่างกะทันหัน ยิ่งคิดไม่ถึงว่าถ้าหากเขาจะหลบหนี จะบุกทะลวงมาจากทิศทางไหน
เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาเป็นอันดับสองรองจากเต้าจ่าง และบุกทะลวงที่ดีที่สุดคือยอดฝีมือระดับที่สองชั้นต่ำที่อยู่ข้างๆ
แต่ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่เล่นแง่ เพราะการกระทำต่อยศิษย์น้องเต้าจ่างหนึ่งหมัด กลับทำให้ยอดฝีมือระดับที่สองอื่นๆอีกหลายคนดึงสติกลับมา โจมตีเขาอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง สู้กับไป๋ยี่เฟยก็ง่ายดายที่จะเอาชนะ นับประสาอะไรกับหลายคนตอนนี้
เพราะแบบนี้ เต้าจ่างถึงได้สงบนิ่งอย่างเช่นเคย และสีหน้าก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ยอดฝีมือระดับที่สองจำนวนมากมายแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยต้องการจะหลบหนีออกไป มันเป็นไปไม่ได้
“พลั่ก!”
ไป๋ยี่เฟยถูกยอดฝีมือระดับที่สองตีโดนร่างกายพร้อมกัน และกระเด็นออกไปในทันที จากนั้นกระแทกทะลุกับกระดานไม้ที่อยู่ข้างหลัง ไปถึงอีกห้องหนึ่ง
ห้องนี้อยู่ด้านข้างของห้องโถง เหมือนห้องเก็บของ
ยอดฝีมือระดับที่สองหนึ่งในนั้นส่งเสียงเย็นชาอย่างดูถูก: “แค่เศษสวะที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเท่านั้นเอง!”
หลังจากที่พูดจบก็ก้าวเข้าไปในรูนั้น ต้องการดึงไป๋ยี่เฟยออกมา
สีหน้าของลู่เหมียวเหมียวและลู่หยางที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งซีดมากขึ้น และร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ตอนนี้พวกเขากลับขัดแย้งในใจ ด้านหนึ่งหวังว่าไป๋ยี่เฟยจะโดนพวกเขาฆ่าตาย แบบนี้พวกเขาก็จะไม่ถูกไป๋ยี่เฟยฆ่าแล้ว อีกด้านหนึ่งก็คิดว่าไป๋ยี่เฟยฆ่าคนเหล่านี้ตาย แบบนี้ในใจของพวกเขาก็ได้ระบายความโกรธแค้น
แต่พวกเขาก็ตระหนักดีว่า ไป๋ยี่เฟยไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้ ถึงแม้ว่าหนึ่งในนั้นคนเดียวก็เอาชนะไม่ได้
ตอนนี้บนใบหน้าของทุกคนมีรอยยิ้มที่หยิ่งผยอง และมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง
ก็ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็ยืนอยู่ที่เดิม ให้ยอดฝีมือระดับที่สองเดินเข้าไปหนึ่งคน
ศิษย์น้องเต้าจ่างยังอุทานว่า: “ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหน อยู่ด้านความแข็งแกร่งก็อ่อนบอบบางอย่างสมบูรณ์ ยังต้องการจะหลบหนี เทียบเท่ากับคนปัญญาอ่อนเพ้อฝัน!”
แต่เวลาผ่านไปสิบวินาทีกว่า ยอดฝีมือระดับที่สองคนนั้นยังไม่ได้ลากไป๋ยี่เฟยออกมา
ในเวลานี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
หนึ่งคนในนั้นตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างในว่า: “พี่แปด เกิดอะไรขึ้น? ทำไมยังไม่รีบลากมันออกมาอีก?”
ทันทีที่ตะโกนเสร็จ คนที่ถูกเรียกว่าพี่แปดก็เดินออกมา
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือ เขาไม่ได้ลากไป๋ยี่เฟยออกมา แต่กุมคอของตัวเองไว้ และเดินออกมาด้วยดวงตาที่ไร้อารมณ์
คอที่เขากุมอยู่ก็กำลังมีเลือดไหล เลือดไหลออกมาข้างนอกตามร่องนิ้วมือของเขา ไม่ว่าจะกุมไว้อย่างไรก็ปิดไม่อยู่ดี
เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ดังกึกล้มลงไปอยู่บนพื้นทันที ตายแล้ว
ทุกคนตกตะลึง
ท่าทีของเต้าจ่างเคร่งขรึม ในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
“พี่แปด นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ยอดฝีมือระดับที่สองชั้นต่ำคนนั้นที่เพิ่งตะโกนเมื่อกี้นี้ก็รู้สึกประหลาดใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้
พูดไปด้วยเดินไปที่ตรงหน้าร่างของพี่แปดแล้วมองดูไปด้วย ต่อจากนั้นเดินเข้าไปในหลุมนั้นอย่างไม่เชื่อในความชั่วร้าย
แต่ว่าเขาเพิ่งเดินไปถึงตรงหน้าหลุม ก็เห็นดวงตาสีแดงเลือดหนึ่งคู่ จ้องมองตรงมาที่เขา
ดวงตาทั้งสองของเขาเบิกกว้างโดยไม่รู้ตัว และในใจก็ตกตะลึง
ต่อจากนั้นไอ้ดวงตาสีแดงสดทั้งสองนั้นก็พุ่งมาที่ตัวเองอย่างกะทันหัน
ยอดฝีมือระดับที่สองถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ต่อจากนั้นชกหมัดออกไปด้วยความตื่นตระหนก
“อ๊าก!”
หมัดของยอดฝีมือระดับที่สองกระแทกไปที่บนไหล่ของไป๋ยี่เฟย แต่กลับผ่านไปไม่นาน เหมือนถูกไป๋ยี่เฟยสะท้อนกลับ พลังนั้นพุ่งกลับมาที่บนตัวของเขาเอง และกระแทกแขนของจนหัก
วินาทีถัดมา ไป๋ยี่เฟยเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน ตามยอดฝีมือระดับที่สองที่ถอยไปข้างหลัง และหมัดเดียวชกไปที่หัวของเขา