บทที่ 90
หลงหลิงมองไปที่เฝิงสือตง อย่างตื่นตระหนก
“เราเป็นเพื่อนกันไม่ดีกว่าเหรอ?”
เธอไม่มีความรู้สึกใดๆกับเฝิงสือตง ไม่ชอบ และไม่เกลียดเขา แต่ถ้าเป็นไปได้ เธอก็ไม่อยากติดต่อกับเฝิงสือตงบ่อยๆหรอก
ดวงตาของเฝิงสือตงลดลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ทำไม?การนัดดูตัวก็เพื่อเป็นเพื่อนกันเหรอ?งั้นฉันจะนัดดูตัวทำไม?”
“เฝิงสือตง ตั้งแรกจนจบ ฉันไม่เคยตอบรับเป็นแฟนนายเลยนะ ก็แค่นัดดูตัว ทำความรู้จักกันแค่นั้นเอง”
ครอบครัวยังเป็นหนี้พวกเขา และเธอไม่กล้าพูดจาแรง
แต่สำหรับเฝิงสือตง สถานการณ์แบบนี้มันร้ายแรงอยู่แล้ว
“อีผู้หญิงสำส่อน!”เฝิงสือตงก็ชี้ไปที่หน้าหลงหลิงหลิงและตะโกนด่า “ทำความรู้จักอะไร คำพูดแก้ตัวทั้งนั้น! แมรงเอ๊ยเธอก็เสียตัวนอนกับคนมาตั้งหลายครั้งแล้วนิ?”
“หนึ่งในนั้นคือผู้จัดการทั่วไปที่ชื่อไป๋ยี่เฟยไม่ใช่เหรอ?”
หลงหลิงหลิงสั่นสะท้านไปทั้งตัว เมื่อเธอได้ยินคำนั้นและคิดอีกครั้งว่าที่ไป๋ยี่เฟยปฏิเสธโครงการมูลค่าหลายหมื่นล้านโดยไม่ลังเลเพื่อเธอ และเธอเหม่อลอยงุนงง
เฝิงสือตงเห็นแบบนี้ก็ยิ่งมั่นใจขึ้น “เธอนี่แสบจริงๆ! อีผู้หญิงสำส่อนนอนกับผู้ชายมานับไม่ถ้วน!”
หลงหลิงหลิงโกรธ “นายพูดบ้าอะไร? ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!”
“ไม่ใช่?”เฝิงสือตงไม่เชื่อ “ก็ฉันเห็นเธอเดินลงมาจากรถเขา! เธอยังจะแก้ตัวอีกเหรอ? เธอเป็นผู้ช่วยประธานกรรมการไม่ใช่เหรอทำไมถึงได้เดินตามผู้จัด แถมยังโยนบิกินี่ทิ้งอีก เธอยังว่าไม่ใช่อีกเหรอ ใครจะไปเชื่อ?”
“เฝิงสือตง! หุบปากซะ!”หลงหลิงหลิงจ้องไปที่เฝิงสือตง
เฝิงสือตงหัวเราะเยาะ “ทำไม?เห็นว่าฉันรู้ด้านสกปรกของเธอแล้ว เธอกลัวเหรอ? หึ! กล้าที่จะหลับนอนกับคนอื่น แต่ก็อายที่คนอื่นว่าให้งั้นเหรอ?”
ใบหน้าของหลงหลิงหลิงซีด และเธอยกมือขึ้นเพื่อดึงหูของเฝิงสือตง
เฝิงสือตงรีบคว้าข้อมือของหลงหลิงหลิง และจ้องไปที่หลงหลิงหลิง “ เธอรู้ไหม?แหวนเพชรวงนี้เป็นแหวนที่แพงที่สุดที่ฉันเลือกมาเป็นพิเศษเพื่อมอบให้สำหรับเธอ พวกเขาบอกว่าผู้หญิงชอบแหวนเพชร ฉันก็โง่ที่จะเชื่อ ผลที่ได้ล่ะ แล้วฉันซื้อมันมาเพื่ออะไร?”
“ ฉันคิดไม่ออกจริงๆว่า ไป๋ยี่เฟยมันมีอะไรดี?”
“มันเป็นแค่ผู้จัดการทั่วไป และฐานะตัวตนของก็ยิ่งไม่มีอะไรน่าดู!”
“มันดีกว่าฉันตรงไหน?”
หลงหลิงหลิงดิ้นรนอย่างหนัก แต่ผู้หญิงและผู้ชายเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่ไม่เท่าเทียมกัน และไม่สามารถหลุดพ้นออกมาได้ “เฝิงสือตง นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“กูไม่ปล่อย!”เฝิงสือตงควบคุมตัวเองไม่อยู่ “วันนี้เธอขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ ก็เพราะไต่เต้านอนกับผู้ชายมานับไม่ถ้วน กับฉันอีกคนจะเป็นไรไป?”
“เฝิงสือตง นายคิดจะทำอะไรของนายกันแน่?”
“ทำไมล่ะ?”เฝิงสือตงยิ้มอย่างดุดัน “เอากับเธอไง!”
“อะไรนะ!”
หลงหลิงหลิงดิ้นรนอย่างดุเดือด พยายามผลักเฝิงสือตงออกไป แต่น่าเสียดายที่แรงผลัก นั่นไม่เป็นผล
เฝิงสือตงกำลังข่มขืน และจะจูบหลงหลิงหลิง
ในเวลานั้น หลงหลงหลิงก็ยกเท้าขึ้น และเตะที่เป้าของเฝิงสือตง
เฝิงสือตงร้องขึ้น “อ๊าก” ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว แล้วก้มตัวปกปิดตรงนั้นของเขา ใบหน้าของเขาเจ็บปวด แต่สายตาของเขาจ้องมองไปที่หลงหลิงหลิง “อีนังนี่ แกกล้าเตะฉันงั้นเหรอ?”
หลงหลิงหลิงหอบด้วยความกลัว อย่างอ้อยอิ่ง “เฝิงสือตง ฉันขอเตือนนายอย่าทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก ที่นี่คือโหวจวี๋กรุ๊ป!ไม่ใช่บริษัทของนาย!”
เฝิงสือตงหัวเราะเยาะ และไม่สนใจมัน“ ห๊ะ! โหวจวี๋กรุ๊ปแล้วจะทำไม? กูนอนกับผู้หญิงของตัวเองต้องรายงานให้พวกมันรู้ด้วยเหรอ?”
หลงหลงหลิงจ้องมอง เฝิงสือตงอย่างบึ้งตึง “ เฝิงสือตง ฉันพูดไปแล้ว ฉันไม่เคยตอบตกลงกับนาย! ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะนายคิดไปเอง! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับไป๋ยี่เฟย! ที่สำคัญคือไป๋ยี่เฟยมีภรรยาแล้ว”
เฝิงสือตงอดกลั้นต่อความเจ็บแล้วยืนขึ้น เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ยิ่งโกรธมากขึ้น “แกนี่มันเลวจริงๆ ไป๋ยี่เฟยมีภรรยาแล้ว แกก็ยังไปอ่อยเขาเหรอ? มันมีอะไรดีกว่าฉันงั้นเหรอ?”
หลิงหลงหลงรู้สึกว่าเฝิงสือตงไร้เหตุผล แล้วหายใจเข้าลึกๆ “ก็ได้ ถ้านายอยากจะแข่งกับเขาใช่มั๊ย? งั้นฉันจะบอกนายเอง นายดีสู้เขาไม่ได้สักอย่าง ตรงไหนก็ไม่ได้ดีกว่าเขา!”
หลงหลิงหลิงไม่ต้องการเปรียบเทียบเขากับไป๋ยี่เฟยเลย แต่เฝิงสือตงบังคับให้เธอเปรียบเทียบเองนะ
ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานโหวจวี๋ และเป็นลูกชายของป๋หยุนเผิง สถานะ และฐานะของเขาเทียบเฝิงสือคงเปรียบไม่ได้เลย ยิ่งเรื่องเงิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สำหรับนิสัย ดูจากตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยดีกว่าเขาร้อยเท่า!
ยิ่งเปรียบเทียบมากเท่าไหร่ หัวใจของหลงหลิงหลิงก็เอนเอียงไปทางไป่ยี่เฟยมากขึ้นเท่านั้น
เฝิงสือตงได้ยินคำพูดของหลงหลิงหลิง ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
“แม่งเอ้ย!”เฝิงสือตงไม่พอใจ และต้องการที่จะ***กับหลงหลิง
“ตูม!”
ในเวลานั้น มีเสียงดังขึ้น ใบหน้าที่โกรธของไป๋ยี่เฟย เตะเข้าประตูห้องทำงานทีเดียว
เฝิงสือตงหยุดการเคลื่อนไหวของเขาเพราะเสียง และมองไปที่ประตูที่ไป๋ยี่เฟยยืนอยู่
เห็นแต่สองตาของไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่เฝิงสือตง “ผู้ช่วยหลง ในเวลาทำงาน โหวจวี๋กรุ๊ปไม่ให้คนนอกเข้ามา เรื่องนี้คุณไม่รู้เหรอ?”
ทันทีที่หลงหลิงหลิงเห็นไป๋ยี่เฟย เธอรู้สึกประหลาดใจและโล่งใจมาก แต่เมื่อเธอได้ยินคำถามของไป๋ยี่เฟย เธอก็ต้องก้มหน้าลง และยอมรับผิด“ ฉันขอโทษค่ะท่านประธาน มันเป็นความผิดของฉันเอง”
เฝิงสือตงได้ยินแบบนั้นจึงพูดด้วยความโกรธ: “ฉันเป็นคนนอกเหรอ?”
เมื่อพูดจบ เขาก็ยังอยากจะถามหลงหลิงหลิง และทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า “เดี๋ยวก่อนนะ เธอเรียกเขาว่าอะไรนะ? ท่านประธาน?”
หมาตัวนี้ไม่ใช่ผู้จัดการทั่วไปเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยเดินไปที่ตรงหน้าหลงหลิง ตรงข้ามก็คือเฝิงสือตง
“แก…..”เฝิงสือตงพูดไปแค่คำเดียว ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น “ผัวะ” ต่อยโดยไป๋ยี่เฟย
เฝิงสือตงจับเข้าที่หน้า ดวงตาที่โกรธจะลุกเป็นไฟ “ไป๋ยี่เฟย!แกกล้าต่อยฉันเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยมองเขาอย่างเย็นชา“ ผู้ชายที่รังแกผู้หญิงไม่ควรโดนต่อยเหรอ?”
“นอกจากนี้ ฉันรู้ว่าแกต้องการถามอะไร?ฉันสามารถบอกแกได้อย่างชัดเจน ใช่แล้ว ฉันเป็นประธานของโหวจวี๋กรุ๊ป”
เฝิงสือตงตกตะลึงอึ้งเลย
“ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเยาะ“ ก็ไม่รู้สินะ!”
เฝิงสือตงกัดฟัน และรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของไป๋ยี่เฟย “แม่งเอ้ย! ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นประธานอะไร! คนที่กล้าทุบตีฉันยังไม่เกิด!”
ท้ายที่สุด เฝิงสือตงก็คว้าคอเสื้อของไป๋ยี่เฟย และตรงเข้าไปยกมือขึ้นเพื่อปล่อยหมัด
ใบหน้าของไป๋ยี่เฟยสงบ โดยไม่ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว และพูดอย่างเย็นชา: “ต่อย! หมัดนี้ต่อยลงมาเลย ฉันรับรอง วันนี้แกฉันไม่ได้ออกไปจากตึกโหวจวี๋กรุ๊ปแน่ๆ”
“แก!”หมัดเฝิงสือตงนั่นถูกปล่อยในอากาศ
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองหมัดของเขา และพูดต่อ: “คนอย่างใจร้อนอย่างแกเหมาะกับสถานีตำรวจ”
เฝิงสือตงกำหมัดแน่น ดวงตาของเขาจ้องไปที่ไป๋ยี่เฟย อย่างกลับจะกลืนกินไป๋ยี่เฟยไปทั้งชีวิต แต่สุดท้าย เฝิงสือตงก็ปล่อยหมัดทิ้ง และปล่อยมือออกจากไป๋ยี่เฟย
“ฮึ่ม! ก็ได้ ฝากไว้ก่อน!”เฝิงสือตงตะคอกอย่างเย็นชา “วันนี้ฉันประมาทเกินไป แต่ฉันแค่เตือนพวกแกไว้ก่อน ว่าเรื่องนี้ ฉันไม่ได้เล่นๆกับแกแน่!”
หลังจากพูดจบ เฝิงสือตงก็ตะคอกอีกครั้ง และเดินออกจากห้องทำงาน
เมื่อเห็นเฝิงสือตงจากไป ไป๋ยี่เฟยก็หันกลับมาและถามว่า: “คุณโอเคไหม?”
หลงหลิงหลิงไม่กล้ามองไป๋ยี่เฟย ได้แต่ส่ายหัว
ไป๋ยี่เฟยกล่าวว่า “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว อันที่จริงคุณมีทางเลือกมากมาย ทำไมต้องไปยุ่งกับคนแบบเขา”
ความจริงเรื่องแบบนี้ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ควรยุ่งหรอก แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทำให้เขาไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก เขาจึงเลือกที่พูด
หลงหลิงหลิงดูเฉื่อยชามีทางเลือกมากมาย?
คำพูดของไป๋ยี่เฟยหมายความว่ายังไง?
เธอน่าจะคิดมากไปใช่ไหม?
หลงหลิงหลิงพยักหน้า และกล่าวว่า: “ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งเหมือนกัน แต่เมื่อก่อนที่ครอบครัวฉันจะเปิดฟาร์ม และไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น ดังนั้นจึงยืมเงินห้าล้านจากครอบครัวของพวกเขา แต่เมื่อสามปีที่แล้ว หมูติดโรคระบาด เงินห้าล้านก็หมดไป ตอนนี้เราติดหนี้ ไม่สามารถจ่ายคืนได้ ….. ”