พระราชาที่หยุนอิงพูดถึงก็คือ ผู้นำสหพันธ์วรยุทธ์
“ท่านผู้นำวางใจเถิดครับ แค่ผมคนเดียวก็เอาอยู่”ดาร์สกล่าว
หยุนอิงเห็นดังนั้นก็พยักหน้าเบาๆเอ่ย “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ลำบากลุงดาร์สหน่อยแล้วกันนะ”
ดาร์สพยักหน้าอย่างเคารพ
หยุนอิงตะโกนขึ้นไปหาไป๋ยี่เฟยที่อยู่บนเนินสูง “ไอ้กระจอก เอาน้ำฝนล้างคอแกให้สะอาดๆล่ะ คนที่แกตามหากำลังขึ้นไปแล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น
ตอนที่อยู่บ้านใหญ่ตระกูลจาง ไป๋ยี่เฟยใช้พละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดต่อสู้กับดาร์ส หมัดนั้นกระแทกเข้าที่ร่างกายของมัน แต่รู้สึกราวกับว่าเหมือนเขาต่อยเข้ากับกำแพงเหมือนกับความรู้สึกตอนที่ต่อยหยุนอิง
แต่ว่าเขาก็รู้สึกได้ว่าหยุนอิงนั้นแข็งแกร่งกว่าดาร์ส
เมื่อคืนก่อน หยุนอิงกล่าวไว้ว่าเพื่อความจริงใจในการร่วมมือ เธอจะบอกว่าจุดลมปราณของดาร์สอยู่ที่ไหน
และที่เมื่อกี้หยุนอิงพูด ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่คำพูดธรรมดาๆ แต่ไป๋ยี่เฟยก็เข้าใจความหมายอีกนัยหนึ่งที่เธอต้องการจะสื่อได้ทันที
จุดลมปราณของดาร์สอยู่ที่ลำคอ
คนข้างล่างที่ได้ยินหยุนอิงพูดแบบนั้นก็หัวเราะเยาะไป๋ยี่เฟย
“ฮ่าๆ….แกตายแน่ไอ้กระจอก”
“ท่านดาร์สของพวกเราแข็งแกร่งยิ่งกว่าหุ่นยนต์!”
“ในเขตจีนแผ่นดินใหญ่ของพวกแก ไม่มีใครสู้ท่านดาร์สได้เลย!”
ดาร์สก็หัวเราะเยาะไปกับคนพวกนั้น หัวเราะเยาะที่ไป๋ยี่เฟยไม่รู้จักเจียมความสามารถของตัวเอง
จากนั้นเขาก็โยนร่มในมือทิ้ง ก่อนจะก้าวยาวๆขึ้นไปบนเนินสูง ไม่เหมือนกับเขากำลังไปปะทะศึกสำคัญเลย กลับกันกลับเดินไปอย่างสบายๆชิวๆ
และตอนนี้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพอเห็นฉากนี้เข้าก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยดี
หลิวเสี่ยวอิงกังวลจนกำมือแน่น ดวงตาจ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟยไม่กระพริบ
ส่วนไป๋ยี่เฟยที่ยืนอยู่บนเนินสูงยังคงแสดงสีหน้าสงบนิ่ง
พอเห็นดาร์สเดินขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยก็นำร่างของอู๋เฉียงไปวางไว้บนหินก้อนหนึ่ง ให้เขาพิงเอาไว้ ให้อู๋เฉียงได้เห็นการต่อสู้ของเขากับดาร์ส จะได้เห็นด้วยตาของตัวเองว่าไป๋ยี่เฟยได้แกแค้นให้กับเขาแล้ว
เพราะมียาของหลิวเสี่ยวอิงที่ช่วยรักษาซากศพของอู๋เฉียงไว้ ร่างกายของเขาจึงไม่เน่าเปื่อย
ไป๋ยี่เฟยกล่าวกับอู๋เฉียงด้วยเสียงเคร่งเครียด”ก่อนหน้านี้บอกนายไว้ว่าถ้าว่างแล้วไปดื่มกันสักแก้ว แต่ว่า……เหล้านี้คงต้องรอชาติหน้า”
“ฉันได้ยินจากศิษย์พี่เฉินมาว่า นายชอบหลิงหลิง เขายังถามอีกว่าฉันจะว่ายังไง”
“ฉันไม่ทันได้พูด ตอนนี้ก็ดูเหมือนมันจะสายไปเสียแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากจะบอกนายว่า เรื่องแบบนี้ นายต้องเป็นคนไปบอกเองเพราะยังไงมันเป็นเรื่องของนายกับเธอ”
“แต่ลูกพี่เฉินบอกว่านายไม่กล้าบอก ฉันเข้าใจได้ นายกังวลว่าจะถูกปฏิเสธ ต่อไปถ้าเจอหน้ากันอีกก็คงจะทำตัวลำบาก ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าความหวังเดียวที่มีอยู่ในจะแตกสลาย”
“เฮ้อ……รอชาติหน้า ถ้านายเจอคนที่ชอบล่ะก็ ต้องกล้าๆหน่อยไปบอกเธอซะ ว่านายชอบเธอ จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ครึ่งๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้พูดอะไรออกไป”
“ไอ้น้อง นายดูไว้ดีๆนะ ดูว่าฉันจะแก้แค้นให้นายยังไง”
พอเอ่ยประโยคเหล่านี้จบ ดาร์สเองก็เดินขึ้นมาถึงแล้ว
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นยืนช้าๆ มองไปทางดาร์ส
ดาร์สมองเห็นร่างของอู๋เฉียงที่อยู่ข้างไป๋ยี่เฟย ก็อดจะหัวเราะเยาะไม่ได้”อะไรกัน?ไอ้คนนี้เป็นญาติแกงั้นเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยเอ่ยตอบนิ่งๆ “ไม่ใช่ เขาเป็นลูกน้องของฉัน”
ดาร์สได้ยินดังนั้นก็ค่อนข้างตกใจ “แค่ลูกน้องคนนึง? แกก็เลยมาสู้กับฉันเพื่อไอ้ลูกน้องของแก?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า”ใช่”
ดาร์สถูกยั่วโมโหจนหัวเราะออกมา”ฮ่าๆ……ไอ้ห่า…..แกมันบ้าจริงๆ! เพื่อไอ้ลูกน้องคนเดียว แกต้องมารนหาที่ตายโดยเฉพาะแบบนี้เลย? ที่แท้คนของแผ่นดินใหญ่ก็มีแต่พวกคนโง่!”
ไป๋ยี่เฟยมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ชีวิตแลกชีวิต ถึงจะยุติธรรม”
“และชีวิตของคนไม่มีแบ่งแยกสูงต่ำ!”
“ฉะนั้น ไปตายซะ!”
พวกหลิวเสี่ยวอิงมองฉากนี้ต่างพากันเป็นกังวลจนต้องกลั้นลมหายใจ
แต่พวกหนานเหมินกลับส่งเสียงร้องเชียร์
“ต่อยเลย!ต่อยเลย!ต่อยเลย!”
“ไอ้กระจอกนี่คิดจะสู้กับท่านดาร์ส? จะเป็นไปได้ยังไง?”
“เหอะ!ท่านดาร์สเป็นถึงยอดฝีมือระดับที่หนึ่งชั้นกลาง มันกำลังรนหาที่ตายชัดๆ!”
“อีกอย่างท่านดาร์สเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้โดยเฉพาะ แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า มันจะมีอะไรไปสู้กับท่าน?”
“ไอ้กระจอกนี่ต้องตายอย่างน่าอนาถแน่!”
……
ไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้าใส่ดาร์สอย่างรุนแรง ใช้วิชาหมัดที่ฉินหัวสอนต่อสู้กับดาร์ส
ดาร์สมองดูไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าไม่แยแส
แต่ว่าตอนที่ไป๋ยี่เฟยพุ่งชนเข้าใส่นั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เพราะเขารู้สึกได้ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้ใช้พลังอ้านจิ้ง
การปะทะกันของยอดฝีมือระดับหนึ่ง จะไม่ใช้พลังอ้านจิ้งได้ยังไง?
แต่เขารู้ดีว่าแม้ว่าไป๋ยี่เฟยจะไม่ใช้พลังอ้านจิ้ง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังที่มีอยู่ในหมัดของไป๋ยี่เฟย และในขณะเดียวกันก็ทำให้เขารู้สึกถูกขู่โดยสัญชาตญาณ
“ปัง!”
หลังจากเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ร่างของดาร์สก็ลอยกระเด็นออกไปทันที
พวกของหนานเหมินที่มองดูอยู่ข้างล่างต่างพากันตกตะลึง
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
“ท่านดาร์สแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ไม่มีใครทำลายท่านได้ไม่ใช่เหรอ?”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
หยุนอิงที่เห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง
หมัดเดียวของไป๋ยี่เฟยก็ทำให้ดาร์สกระเด็นได้ จากนั้นก็ไม่ทันให้ดาร์สได้สวนกลับเขาเหยียดพื้นก่อนจะกระโดดออกไป
จากนั้นก็ตามดาร์สที่กระเด็นอยู่กลางอากาศขึ้นไป และก็ไป๋ยี่เฟยได้ปล่อยหมัดชกเข้าที่คอของดาร์ส
“ปึง!”
ดาร์สถูกกระแทกลงที่พื้นดูดลงไปในดินโคลน
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็ลงมาสู่พื้น มองดาร์สอย่างอาฆาต
“พลั่ก ผัวะ พลั่ก……”
ไป๋ยี่เฟยปล่อยหมัดอย่างรวดเร็ว ซ้ายขวาสลับเหมือนกับตอนที่ฉินหัวต่อยเต้าจ่าง
แต่เขาชกไปได้ไม่ได้เท่าไหร่ก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงรีบลุกขึ้นถอยหนี
ดาร์สแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าจริงๆ เมื่อครู่ไม่รู้ว่าเขาชกไปเท่าไหร่ แต่ดาร์สกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด กลับกันฝ่ามือของเขาเองที่เริ่มชา
และในตอนที่เขากำลังถอยหนีนั้น ดาร์สก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและชกตรงที่เขายืนอยู่
ถ้าหากเขาช้ากว่านี้เพียงแค่ก้าวเดียว หมัดนั้นก็คงกระแทกเข้าที่ร่างกายของเขา
หมัดนี้ต่อยเข้ากลางอากาศ ดาร์สลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าว่างเปล่า ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “สมควรตายจริงๆ!”
ไป๋ยี่เฟยเห็นดังนั้นหัวใจของเขาก็ร่วงลงไปตาตุ่มทันทีหยุนอิงหลอกเขา!
จุดลมปราณของดาร์สไม่ได้อยู่ที่คอ
คนที่อยู่ด้านต่างพากันส่งเสียงเฮฮา
“บอกแล้วไงท่านดาร์สแข็งแกร่งยิ่งกว่าเล็กกล้า จะแพ้ได้ยังไง?”
“สมกันที่เป็นท่านดาร์สผู้ยิ่งใหญ่!”
“ท่านดาร์สต้องกำลังแกล้งมันเล่นแน่ๆ!”
“ฮ่าๆ……”
ในขณะนี้ไป๋ยี่เฟยก็นึกอะไรบางอย่างออก และเขารู้สึกว่าดูเหมือนเขาจะละเลอะไรบางอย่างไป
แต่ในขณะนี้เสียงลมพัดดังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยไม่มีเวลาคิดมากมายนัก และวาดมือครึ่งวงกลมทันทีพยายามผลักหมัดของดาร์สออกไป