บทที่128 ฆ่าพวกคุณตระกูลเหวิน ผมคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
ผับตี้อู่เฉิง ตั้งอยู่ในเขตหัวหยางที่เจริญที่สุดในตี้จิง
ผับตี้อู่เฉิงมีไฟประดับจนสว่างมาก ทั้งหมดต่างเป็นไฟประดับและสถาปัตยกรรมชั้นนำระดับสากล
ตกแต่งได้หรูหรามากๆ ที่ผนังฝังด้วยทองคำและหยก แขกที่มาบ่อยๆไม่ใช่คนรวยในตี้จิง แต่เป็นเหล่าคนดังในตี้จิง เป็นสถานที่รวมตัวเหล่าคนมีชื่อเสียงของตี้จิงจริงๆ คลับของเหล่าคนรวย
ปัจจุบันตี้จิงมีคำกล่าวขานว่า แค่เข้าไปผับตี้อู่เฉิง ก็ไม่มีใครทำอะไรคุณได้!
โรงแรมเหอผิงที่เทียบได้กับศตวรรษที่แล้ว
ที่นี่ ก็คือใจกลางอุตสาหกรรมของตระกูลเหวินแห่งตี้จิง!
เบนท์ลีย์สีน้ำตาลคันหนึ่งจอดลงใกล้ๆตี้จิง หยูจื๋อเฉิงดึงประตู หลินอิ่งลงจากรถ สายตาเย็นชามองสถานบันเทิงนี้ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา
“ท่านอิ่ง ท่านจะเข้าไปคนเดียวจริงๆเหรอ?”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างกังวล
“คุณพาคนของคุณ ล้อมรอบทางออกของตี้จิงก็พอแล้ว อย่าปล่อยคนของตระกูลเหวินไปสักคนเดียว เข้าใจหรือยัง?”หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา
“เข้าใจครับ!”หยูจื๋อเฉิงพูด
หลินอิ่งจุดบุหรี่ เดินเข้าไปในตี้จิงขนาดใหญ่
สายตาหยูจื๋อเฉิงสับสน มองแผ่นหลังที่สวมเสื้อกันลมสีดำ ได้กลิ่นฆ่าคนอย่างเลือดสาด
แม้ว่าตี้จิงจะอยู่ในโลกใต้ดินมานานหลายปี กลายเป็นบอสใหญ่ แต่ตอนนี้ ก็ยังถูกสปิริตของท่านอิ่งทำให้ตกใจ
จู่ๆก็กล้าบุกเข้าไปในซ่องโจรของตระกูลเหวินแห่งตี้จิงตัวคนเดียว!
ต้องรู้ว่า ตระกูลเหวินแห่งตี้จิงไม่ใช่ตระกูลธรรมดา สุดยอดฝีมือนั้นที่เอาชนะตัวเองได้ก็ไม่รู้ว่ามีตั้งเท่าไหร่ พวกขีปนาวุธที่สามารถซื้อได้ในตลาดมืดของต่างประเทศ ก็มีทุกอย่าง!
หยูจื๋อเฉิงมอบหมาย มอบความกล้าให้เขาเต็มร้อย ถึงแม้ว่าจะเอาบรรดาคนสนิทหรือตัวสำคัญมา พร้อมกับขีปนาวุธทุกอย่างก็ตาม ก็ยังไม่กล้าบุกตี้จิง เพราะนั่นคือกำลังรนหาที่ตาย
ตี้จิงเป็นรังโจรของตระกูลเหวินแห่งตี้จิง จำนวนคนกับขีปนาวุธเพียงพอแน่นอน และยังมีเหล่าสุดยอดฝีมือมากมายนับไม่ถ้วน
หยูจื๋อเฉิงประมาณการ ขีปนาวุธที่ยกมาทั้งค่ายเข้าบุกตี้จิง ก็ยังอาจจะสู้ไม่ได้!
ในนั้นไม่ใช่แค่มีปรมาจารย์ที่มีศิลปะการต่อสู้ชั้นดี แต่ตัวละครโหดๆไม่ว่ารูปแบบไหนก็มีทั้งนั้น!
แต่ท่านอิ่ง จู่ๆก็ดูนิ่ง ผ่อนคลาย ทำเป็นเหมือนดื่มน้ำกินข้าว เดินเข้าไปตี้จิง ไปจัดการสองคนพี่น้องแห่งตระกูลเหวินแห่งตี้จิง เหวินเทียนเจียวกับเหวินเทียนเฟิ่ง
ท่านอิ่งกำชับ คนของตัวเองทุกคน แค่รอล้อมรอบฆ่าอยู่ข้างนอกก็พอแล้ว เพราะเกรงว่าจะตีหญ้าให้งูตื่น
คิดไป หยูจื๋อเฉิงก็โบกมือ พวกลูกน้องต่างปลอมตัวอยู่ในร้านค้าตามถนนต่างๆ รอโอกาส ที่พร้อมจะดำเนินการได้ทุกเมื่อ
หลินอิ่งเดินเข้าไปในตี้จิง อาคารในเมืองนับไม่ถ้วนช่างดูงดงาม สายตาของเขาจับจ้องไปที่อาคารหนึ่งบนหอระฆังอันมีเอกลักษณ์ที่เต็มไปด้วยสไตล์ศตวรรษที่แล้ว ที่หอระฆังมีสิบแปดชั้น
นี่คืออาคารเหวิน และก็นัดสถานที่ตอบกลับเรียบร้อยแล้วกับเหวินเทียนเฟิ่ง และเหวินเทียนเจียว
หลังจากหลินอิ่งได้รับรายงานจากนิ่งซวน ก็รอไม่ไหวที่จะต้องรีบจัดการเรื่องของตี้จิงให้เสร็จ จึงรีบกลับไปเมืองตุงไห่
ดังนั้น จึงลงมาจากชั้นใต้ดินด้วยตัวเอง ทรมานเหวินจิ่วอย่างหนัก ให้เขาใช้ข้อความเข้ารหัสตอบกลับค่ายฐานสายลับตระกูลเหวินเอง ติดต่อเหวินเทียนเจียว บอกว่าเรื่องเรียบร้อยแล้ว ให้คืนนี้เจอกันที่ชั้นสิบอาคารเหวินเพื่อรายงานสถานการณ์
เวลานี้ อาคารเหวิน ชั้นที่สิบ สภาพหรูหราดูแพง ปูด้วยพรมแดง ในห้องรับแขกเต็มไปด้วยความตะวันตก
ชายชุดดำหลายๆคนพร้อมสายตาเย็นชายืนเรียงแถวหน้าประตู
ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อกล้ามสีแดง หวีผมทรงโมฮอก นั่งสูบบุหรี่บนโซฟาหนังแท้ เขาถือกาน้ำอย่างดูภูมิใจ กำลังเทชาพร้อมพูดคุยกับชายหนุ่มสองคนท่าทางดูรวย
ผู้ชายที่โดดเด่นนี้ ก็คือเหวินเทียนเจียวแห่งตระกูลเหวินแห่งตี้จิง ช่วงนี้มีศักดิ์ศรีในตี้จิงไม่เป็นสองรองใคร ได้รับความสนใจจากผู้คน หัวหน้าแก๊งตี้จิง มีความมั่งคั่งอยู่ในมือ มากกว่าหลายแสนล้าน?
“อาเอ้อ อาซาน อาจิ่วบอกผมว่า เรื่องจัดการเสร็จแล้ว คุณลองเดาสิ หยูจื๋อเฉิงงูเจ้าถิ่นนั่นที่ไม่มีตาดู ไปทำงานให้ชาติตระกูลไหนมา?”เหวินเทียนเจียวพูดอย่างสนุกสนานสูบบุหรี่ แหวนเพชรสีดำโดดเด่นขนาดใหญ่บนนิ้วนาง
“เหวินเทียนเจียว เอ่อ ผมเดาไม่ออก”เหวินซานพูดด้วยความเคารพ“ผมรู้แค่ว่า ไม่ว่าใครหน้าไหนหรือตระกูลใดกำลังสอดแนมพวกเรา ตระกูลเหวิน ก็เท่ากับว่ากำลังรนหาที่ตาย!”
“ถูกต้อง!เหวินเทียนเจียว จากที่ผมอาเอ้อดูแล้ว กล้าสืบส่องการดำเนินการของผู้นำเฟิ่ง นั่นก็คือกำลังยั่วยุตระกูลเหวินของพวกเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นตระกูลนิ่งหรือตระกูลกงซุน หรือว่าจะเป็นไอ้กากเดนตระกูลสวีนั่น”เหวินเอ้อพูดอย่างบ้าระห่ำ“พวกเราก็ฆ่าพวกเขาตายได้ทั้งนั้น!แม้แต่ตระกูลฉีแห่งตี้จิงก็ถูกพวกเราฆ่าเรียบ แล้วพวกเขาตระกูลผู้ดีไม่กี่คนยังจะกล้ามาเจอกับเรื่องวิบัติพวกนี้อีกเหรอ?อยากตายหรือไง?”
“ไม่ถูกสิ ไม่ถูกสิ”เหวินเทียนเจียวหัวเราะอย่างมีเลศนัย“อย่าดูถูกตระกูลผู้ดีแห่งตี้จิงพวกนี้นักเลย พวกเราทำให้ตระกูลฉีพินาศได้ ก็เพราะหลายปัจจัย ……”
“แต่ว่า ไม่ว่าตระกูลผู้ดีไหน กล้ามาลองดีกับตระกูลเหวิน พวกเขาต้องตายหมด!”เหวินเทียนเจียวพูดอย่างทรงพลัง“พออาจิ่วพาคนมา ผจะทรมานม้าเร็วคนนั้นสักหน่อย ได้ยินว่ายังไม่ยอมเปิดปากพูด?แล้วยังเป็นนักฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อายุน้อยอีก?เหอะ ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำเสียจริง”
“ใช่แล้ว!”จู่ๆเหวินเทียนเจียวก็คิดอะไรขึ้นมา พูดไปอย่างแน่วแน่ว่า“ผมได้รับข่าวมา ได้ยินว่า ฉีเวิ่นติ่งที่พักอยู่ที่จื่อหลงซานจู่ๆก็ฟื้นแล้ว?พวกคุณสองคน จัดการให้ผมนะ เตรียมตัวจัดการฉีเวิ่นติ่ง แค่เขาไปจากจื่อหลงซานได้ ก็เอาให้ตายเลย!”
“ตาแก่คนนี้ ไม่ธรรมดา อย่าให้เขากัดกลับเด็ดขาด ต้องฆ่าให้เรียบ!”เหวินเทียนเจียวพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“เหวินเทียนเจียววางใจเถอะ พวกเรากลับไปก็จะจัดการให้ตาแก่นั่นตาย”เหวินเอ้อพูดอย่างตื่นเต้น
ในฐานะที่เป็นนักฆ่า ถ้าวางแผนลักลอบฆ่าฉีเวิ่นติ่งที่เคยเป็นคนใหญ่คนโตประเทศหลุงของเองกับมือได้ ก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ทียอดเยี่ยม เป็นโอกาสที่จะมีชื่อเสียงในหมู่นักฆ่า!
“ไม่ต้องนานนัก พวกเราตระกูลเหวินจะรวบรวมตี้จิง ยืนอยู่บนยอดพีระมิดอันสูงสุดของประเทศหลุง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหวินเทียนเจียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เหวินเอ้อกับเหวินซานก็หัวเราะตาม
ตอนนี้อำนาจของตระกูลเหวินยิ่งใหญ่ แน่นอนว่ามีอำนาจความเป็นตระกูลผู้ดีอันดับหนึ่งแห่งประเทศหลุงแน่นอน!
ปัง!
มีเสียงระเบิดดังขึ้น โคมไฟระย้าบนเพดานจู่ๆก็แตก พริบตาเดียว ทั้งอาคารเหวินก็มืดลง ไฟดับหมด จู่ๆก็ตัดไฟหรืออย่างไร?
“เกิดอะไรขึ้น?ไม่มีเครื่องปั่นไฟเหรอ?ทำไมจู่ๆไฟดับได้?”สายตาของเหวินเทียนเจียวดูสงสัย มองไปรอบๆ
ในขณะเดียวกัน ที่ห้องจ่ายไฟขนาดใหญ่ในชั้นใต้ดินอาคารเหวิน
หลินอิ่งปิดประตู เหยียบไปที่ร่างของชายเสื้อดำ ร่างเหมือนกับลม พุ่งไปที่บันได
สิบวินาทีถัดมา
หลินอิ่งปรากฏตัวบนชั้นสิบที่มืดทึบไม่มีแสงไฟ ทางเดินยาวกว่าร้อยเมตร มีห้องมากมายนับไม่ถ้วนกับนักฆ่ากว่าสามสิบคนกำลังทำการลาดตระเวนคุ้มกัน
“ใครน่ะ?ทำอะไร?ที่นี่คือถิ่นของตระกูลเหวิน!”
จู่ๆ บอดี้การ์ดชุดดำคนหนึ่งก็เปิดไฟฉาย ส่องไปที่ชายวัยรุ่นที่สวมเสื้อกันลมสีดำ
เพียงชั่วขณะ เสียงดังพรึ่บ บอดี้การ์ดชุดดำหลายสิบคนต่างหยิบปืนพกที่กระเป๋าเสื้ออย่างรวดเร็ว ค่อยๆพุ่งเข้ามาที่แล้วยิงไปที่ชายหนุ่มลึกลับนั่น
ปัง!
เวลานี้ ชายชุดดำหายไปจากที่เดิม ไฟฉายที่สว่างอยู่เพียงอย่างเดียวก็ถูกเตะ
บนทางเดินโล่งๆ มีเสียงตบตี ดังปังปังอู้อี้ขึ้นมา
ท่ามกลางความมืด พวกบอดี้การ์ดชุดดำฝีมือดี ลอยออกไปทีละคน ชนไปที่กำแพงแรงๆ เหมือนกับกำลังถูกทรมานอย่างบ้าคลั่ง หาคนที่ลงมือไม่เจอ
ในสิบวินาที การ์ดทุกคนของตระกูลเหวิน ต่างถูกทำร้ายหมดสติไปที่พื้น กระดูกแตกหัก
หลินอิ่งใช้ขาข้างหนึ่งเตะประตูไม้สีแดงออก โทรศัพท์สว่างขึ้น มองเห็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อกล้ามสีแดง สายตาเต็มไปด้วยความน่ากลัว
“คุณเป็นใครกันแน่?มาที่นี่ทำไม?”เหวินเทียนเจียวพูดด้วยความโกรธ“คุณรู้ไหมว่านี่คือที่ไหน?ผมเหวินเทียนเจียว นี่คือถิ่นของพวกเราตระกูลเหวิน คุณอยากตายหรือไงมาคนเดียวน่ะ?”
“ผมก็มาหาคุณนั่นแหละ”หลินอิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา“ตระกูลเหวินเจ๋งมากเหรอ?แค่ผมคนเดียวก็จัดการตระกูลเหวินของพวกคุณได้!”
พูดจบ หลินอิ่งก็เตะเหวินเทียนเจียวกลับไปในห้อง ดังเอี๊ยดขึ้นมาไปทั้งร่าง แล้วก็ล้มลงพื้น