บทที่20 ชิ้นงานถูกขโมยไปแล้ว
“อะไรนะ ฉันเข้าใจแล้ว เธออย่ากังวลไปนะ ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้เลย “ สีหน้าของหลินอิ่งเปลี่ยนไปทันที
เสียงฝั่งโทรศัพท์นั่นดังมาก เหมือนว่าที่บริษัทนั้นวุ่นวายมาก จางฉีโม่ก็วางโทรศัพท์ไป
หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย พรุ่งนี้ก็งานนิทรรศการของเครื่องประดับเพชรพลอยแล้ว King of the worldโดนขโมยไปในเวลาแบบนี้ นี่มันตั้งใจแกล้งกันชัดๆ
อีกอย่างจางซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อาคารเป่าติ่งมีกล้องเยอะขนาดนี้ ยังโดนขโมยไปได้ จะบอกว่าเป็นแค่การขโมยจริงๆ มันคงเป็นไปไม่ได้
“ท่านครับ บ้านชุดนี้ท่านไม่เอาแล้วใช่ไหมครับ? ถ้ามีเรื่องอะไรก็เราค่อยติดต่อในภายหลังละกัน “ พนักงานชายเริ่มจะพูดอย่างรำคาญ อยากจะเดินออกไปใจจะขาดอยู่แล้ว รอไปคุยงานกับลูกค้าคนต่อไป
ลูกค้าที่ไม่มีค่าอย่างหลินอิ่ง เขาไม่อยากจะอยู่ให้นานกว่านี้ แต่เขาแค่ทำตามงานที่ต้องทำ
“บ้านหลังนี้ฉันซื้อเลย ตอนนี้ฉันมีเรื่องนิดหน่อย นายไปทำเรื่องให้ฉันหน่อย “ หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น แล้วโยนบัตรธนาคารไป1ใบ “รหัสของบัตรนี้คือ6 6ตัว ทำเรื่องเสร็จโทรมาหาฉันได้เลย
พูดจบ หลินอิ่งก็หันหลังเดินจากไป
“นี่! ท่านครับ สักครู่ครับ “พนักงานชายรับบัตรจากหลินอิ่งไป แล้วอึ้งไปสักพัก
“ทำมาเป็นใจปล้ำ คิดว่าตัวเองเป็นคุณชายเหรอ! โยนบัตรมาแค่ใบเดี๋ยวก็จะซื้อบ้านราคา2ล้านหยวน สังคมสมัยนี้ใครเขาไม่มีบัตรธนาคารกัน? “ พนักงานชายไม่แยแส บ่นไปสองสามประโยค
แต่พอเขาตั้งใจดูบัตรในมือแล้ว ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
นี่เป็นบัตรสีดำมืดที่มีทองติด บนนั้นมีตัวหนังสืออยู่ไม่กี่บรรทัดสำหรับธนาคารตุงไห่VIPโดยเฉพาะ
“เดี๋ยวนะ…… บัตรออมทรัพย์แบล็คโกลด์ธนาคารตุงไห่?”พนักงานชายตกตะลึงอย่างมาก
สำหรับเขาที่อยู่ในวงการการขายมาหลายปี เขาต้องรู้จักบัตรแบบนี้อยู่แล้ว นี่เป็นบัตรที่ธนาคารตุงไห่ทำขึ้นเพื่อลูกค้าที่มียอดเงินในบัญชีมากกว่า100ล้านโดยเฉพาะ เป็นตัวแทนของระดับของผู้ใช้ด้วย และยังได้รับบริการระดับVIPของร้านค้าชั้นนำทั่วเมืองตุงไห่อีกด้วย
พนักงานขายอยากจะออกไปเรียกหลินอิ่งไว้ แต่หลินอิ่งลงจากตึกไปนานแล้ว
อีกฝั่ง หลังจากที่หลินอิ่งลงจากตึกไป เขาเรียกแท็กซี่หน้าหมูบ้านไว้คันนึง แล้วก็มุ่งตรงไปที่อาคารเป่าติ่ง
แท็กซี่เพิ่งจะสตาร์ทรถ โทรศัพท์ของหลินอิ่งก็ดังขึ้นมา
“สวัสดีครับ คุณหลิน ผมคือเสี่ยวหลี่ครับ ขอโทษด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆนะครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยใส่ใจ คุณอย่าถือสาเลยนะครับ “พนักงานชายรีบขอโทษเขา น้ำเสียงของเขาวิตกกังวลอย่างมาก
ต้องรู้ไว้ว่า ลูกคนคนใหญ่อย่างหลินอิ่ง ถ้าเขาไปบอกกับทางบริษัทว่าตัวเองทำกิริยาไม่ดีใส่ เขาต้องถูกไล่ออกแน่ๆ
“นายทำเรื่องที่ฉันสั่งให้เรียบร้อยก็พอ “หลินอิ่งพูดช้าๆ
“ครับ ผมไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ ผมรับรองว่าจะจัดการให้เสร็จภายในวันเดียวเลยครับ ขอบคุณที่คุณหลินให้โอกาสผมนะครับ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว “ พนักงานชายเหมือนโล่งอกไปที เขาพูดอย่างเกรงใจ
หลินอิ่งวางโทรศัพท์ไป
สายที่สองก็โทรเข้ามาอีก เป็นสายของอูหยาง
“ประธานหลิน ขอโทษครับ ผมทำหน้าที่ได้ไม่ดีเอง เครื่องประดับKing of the worldที่ท่านมอบหมายให้ผม หายไปแล้วครับ “ อีกฝั่งของโทรศัพท์ อูหยางพูดด้วยความตื่นตระหนก
“ผมสะเพร่าไปเอง จนทำให้ผลงานของผู้อำนวยการจางเกิดปัญหาขึ้นมา ขอโทษจริงๆนะครับ ผมอยากขอให้ประธานหลินให้โอกาสผมไถ่โทษด้วยนะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จด้วยตัวของผมเองก่อนที่งานนิทรรศการของพรุ่งนี้จะเริ่มครับ “ อูหยางพูดพร้อมความกดดันและกังวล
“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนาย นายไม่ต้องไปสนใจ “หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น
“ครับ ผมทราบครับ “ อูหยางพูดด้วยความตื่นตระหนก
หลินอิ่งวางสายไป แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
เครื่องประดับKing of the worldนี่ จะพูดไปแล้วก็แค่ราคา 2-3พันล้าน ไม่ได้สำคัญอะไร
สิ่งที่สำคัญคือ นี่เป็นงานที่เขาและฉีโม่ทำขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาสองคน