บทที่ 215 เผชิญหน้า
ยี่สิบนาทีต่อมา รถลินคอล์นคันสีดำของคริสก็มาถึงอาคารไห่หยางในเขตเหนือของเมือง
ข้างกายของเขาติดตามด้วยชายชุดดำสามแว่นตาดำคนหนึ่ง เขาเดินกร่างเข้าลิฟต์ไป ขึ้นไปจนถึงชั้น 59 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องประชุมคณะกรรมการ
บนทางเดินมีบอดี้การ์ดในชุดสูทท่าทางเย็นชายืนอยู่เป็นแถว มองผ่านประตูกระจก สามารถมองเห็นสีหน้าท่าทางที่หวาดผวาของเหล่าผู้ถือหุ้นที่อยู่ในห้องประชุมได้
บนที่นั่งหลักในห้องประชุม มีชายหนุ่มในเสื้อโค้ตสีดำกำลังนั่งสูบบุหรี่อย่างใจเย็น และยังมีชายวัยกลางคนที่มีรัศมีอันแรงกล้า ในมือถือลูกประคำอยู่ข้าง ๆ เขา
“นี่คือ?” คริสยืนอยู่หน้าประตูห้องประชุม พลางขมวดคิ้ว สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เขาตกใจ เขารับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกติ
“แกคงจะเป็นคริสสินะ?” หลินอิ่งกล่าวอย่างเรียบ ๆ “การกระทำและแผนการทุกอย่างที่ลาตินกรุ๊ปทำในก่อนหน้านี้ แกเป็นคนวางแผน?”
“แกรู้จักฉัน?” คริสสีหน้าท่าทางสงสัย ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
เขาจ้องมองหลินอิ่งด้วยสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด พลางเอ่ยถาม: “แกเป็นใคร?”
“หลินอิ่ง” หลินอิ่งตอบ
“หลินอิ่ง? แกคือเศษสวะที่เซียวจวงพูดถึงคนนั้น?” คริสแสดงท่าทางไม่อยากจะเชื่อออกมา พลางสำรวจหลินอิ่งอีกครั้ง สีหน้าท่าท่างประหลาดใจกว่าเดิม “นี่… นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
ในฐานะบุคคลแนวหน้าของบริษัทข้ามชาติ สายตาของคริสนั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก คนแบบไหนเขาไม่เคยเจอ รัศมีอันแรงกล้าที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของหลินอิ่งนั้น จะต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน
“ดูเหมือนว่าแกยังไม่ค่อยรู้จักฉัน” หลินอิ่งกล่าวอย่างช้า ๆ “แต่ว่า ฉันกลับคุ้นเคยแกเป็นอย่างมาก คริส บุคคลอันดับสามแห่งสำนักงานใหญ่ลาตินกรุ๊ป ผู้จัดการรับผิดชอบเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของลาตินกรุ๊ป ถูกต้องไหม?”
“แกเคยสืบข้อมูลของฉัน?” คริสจ้องมองไปที่หลินอิ่งอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นคมกริบราวกับใบมีด
ตำแหน่งผู้จัดการรับผิดชอบเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของลาตินกรุ๊ปนั้น เป็นความลับสุดยอด แม้แต่เซียวจวงยังไม่รู้ มีเพียงบุคลากรภายในศูนย์กลางเท่านั้นที่รู้
ลาตินกรุ๊ปในฐานะบริษัทใหญ่ที่มีอิทธิพลไปทั่วทุกมุมโลก หน้าที่ของคริสก็คือรับผิดชอบกิจการทุกอย่างที่อยู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เปิดเผยอย่างกลุ่มเทคโนโลยีธุรกิจ หรือธุรกิจลับอย่างบริษัทฟอกเงินและบริษัททหารรับจ้าง ล้วนมีเขาเป็นคนรับผิดชอบ อำนาจอิทธิพลใหญ่โตจนคาดไม่ถึง
“ในเมื่อแกรู้จักฐานะที่แท้จริงของฉัน ยังกล้าที่จะเป็นปรปักษ์กับฉัน?” คริสมองหลินอิ่งด้วยความสนใจ
ในใจเขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ในเมื่อหลินอิ่งรู้ว่าเขามีที่มาใหญ่โต ทำไมถึงยังกล้าท้าทายอีก?
“แกคิดว่าแกแข็งแกร่งมากเหรอ?” หลินอิ่งยิ้มเยาะ
“ใช่ไหม?” คริสยิ้มเยาะตอบกลับ ยังคงรักษาความมั่นอกมั่นใจ “ดูแล้ว พวกกรรมการสวะของไห่หยางกรุ๊ปคงถูกแกซื้อไปหมดแล้ว แกรู้แผนการที่ฉันใช้จัดการกับไห่หยางกรุ๊ป?”
“ล่อให้ฉันมาที่ไห่หยางกรุ๊ป จริง ๆ แล้วแกมีแผนการอะไร? แล้วแกจะทำอะไรฉันได้?” คริสกล่าวอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่โอหังเป็นอย่างมาก
แน่นอน ด้วยฐานะและความสามารถของเขา เขามีทุนมากพอที่จะโอหัง พูดได้ว่าทั่วเมืองตุงไห่ คริสสามารถที่จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยก็ได้ เพราะว่าอยู่ในระดับที่ต่ำจนเกินไป
ในขณะที่พูด สายตาที่คมกริบของคริสก็กวาดมองไปยังคณะกรรมการทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา กล่าวเสียงเข้ม: “พวกไม่รู้จักเป็นตายอย่างพวกแก ยังกล้าขายฉัน? พวกแกลืมรสชาติความหวาดกลัวที่ฉันมอบให้แล้วเหรอ? รู้ไหมว่า แค่คำพูดฉันประโยคเดียว ก็สามารถทำลายครอบครัวของพวกแกได้!”
คณะกรรมการที่อยู่ตรงนั้น ล้วนมีท่าทางหวาดผวา บนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น ในใจหวาดกลัวเป็นหมื่นเท่า
วิธีการของคริสพวกเขาเคยเผชิญมาแล้ว ที่พูดออกมาไม่ใช่แค่คำขู่อย่างแน่นอน เขาสามารถทำมันได้ และฝีมือของหลินอิ่ง พวกเขาก็เคยเห็นเหมือนกัน
นี่คือการเผชิญหน้าระหว่างสองผู้เป็นอมตะชัด ๆ พลังอำนาจของทั้งสองคนกระทบกัน ประกายไฟกระเด็นออกมาเล็กน้อย ก็สามารถทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป
“หึ ไอ้แก่อย่างแก รู้ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงได้เปลี่ยนจุดยืน? ยังเอะอะโวยวายอยู่ที่นี่? แกรู้ไหมว่า กลุ่มเฮยยิงลูกน้องของแกยอมจำนนแล้ว?” เสิ่นซานกล่าวอย่างเย็นชา
“ยังมาข่มขู่คุกคามอยู่ที่นี่? ช่างไม่รู้เป็นตายเลยจริง ๆ” เสิ่นซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ที่ให้แกมา แน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องซุ่มยิงเมื่อครั้งที่แล้ว และเรื่องที่แกพยายามยักยอกเงินในกระเป๋าของท่านหลิน หนี้เก่าหนี้ใหม่รวมกันคิด!”
เมื่อก่อนคริสคนนี้คอยควบคุมลาตินกรุ๊ปอยู่เบื้องหลังอย่างลับ ๆ พูดได้ว่าทำให้หัวมังกรแห่งตุงไห่อย่างเขาเสียศักดิ์ศรี แล้วยังให้คนมาซุ่มยิงอีก”
หลังจากที่คบหากับท่านหลิน อยู่ที่เมืองตุงไห่เขาเสิ่นซานกับนับว่าเป็นบุคคลอันดับต้นๆ ระยะนี้มักจะประสบอุปสรรคอยู่บ่อยๆ ทำให้เสียชื่อเสียง ในท้องอัดเต็มไปด้วยไฟ ในที่สุดก็จับจิ้งจอกเฒ่าอย่างคริสได้
“กลุ่มเฮยยิง? พวกแกรู้จักกลุ่มเฮยยิง?” คริสสีหน้าท่าทางลังเล ในดวงตาปรากฏแววสับสนวุ่นวายออกมา
ด้วยความสามารถของเสิ่นซาน สืบได้ว่าเขาเป็นคนลงมือนั้นไม่ยาก แต่ว่า รู้จักกลุ่มเฮยยิงได้ยังไง? นั่นเป็นถึงไพ่ใบเอกในมือของเขา เป็นกลุ่มหน่วยงานลับชั้นนำที่เขานำมาจากประเทศMเซียวนะ!”
ความสามารถในการต่อต้านการสอดแนม และความสามารถในการปกปิดระดับมืออาชีพของกลุ่มเฮยยิง อันธพาลอย่างเสิ่นซานจะสามารถจับจุดอ่อนออกมาได้ยังไง?
“พูดจามั่วซั่ว ฉันไม่รู้ว่าพวกแกได้ข้อมูลมาจากไหน กำลังขู่ฉันเหรอ?” คริสยิ้มเยาะ “ความสามารถพวกนายสามารถจัดการกับกลุ่มเฮยยิงได้? กำลังล้อเล่นอยู่เหรอ?”
“แกเชื่อมั่นลูกน้องของแกขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลินอิ่งส่ายหน้า พลางกล่าวอย่างเรียบ ๆ “ตอนนี้แกลองโทรติดต่อลี่น่าเลขาของแกดู หรือไม่ก็ลองติดต่อเฮยยิง”
สีหน้าของคริสเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ในตอนนี้เขาได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแล้ว
ตรู๊ด…ตรู๊ด…
โทรออกไปกี่สายก็ไม่มีคนรับ คริสสีหน้าเหมือนคนจมน้ำ รู้สึกถึงความกดดัน
ในตอนนี้เขาสามารถมั่นใจได้ว่า กลุ่มเฮยยิงได้ถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ
คริสคิดว่าตัวเขาได้ลงมืออย่างระมัดระวังมากพอแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เห็นเสิ่นซานอยู่ในสายตา แต่ยังคงเป็นดั่งสิงโตจับกระต่ายใช้สุดกำลัง เมื่อคืนเขาได้สั่งให้ลี่น่าเลขาของเขาติดต่อกลุ่มเฮยอิงให้ย้ายที่ถิ่นฐาน ก็เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
แต่คิดไม่ถึงว่า จะถูกจัดการเร็วขนาดนี้? วันก่อนพึ่งสั่งให้คนไปซุ่มยิงหลินอิ่งและเสิ่นซาน เวลาสั้น ๆ แค่สองสามวัน หลินอิ่งคนประเทศหลุงคนนี้เด็ดขาดขนาดนั้นเลย? ทั้งยังมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถจัดการกับกลุ่มเฮยยิงทั้งหมดได้แล้ว?
คริสไม่เข้าใจว่า หลินอิ่งคนประเทศหลุงที่ผู้คนลือว่าเป็นเศษสวะคนนี้ แท้จริงแล้วมีฝีมือยังไงกันแน่? นั่นเป็นถึงหน่วยสายลับระดับแนวหน้าของสำนักสืบสวนด้านความมั่นคงแห่งประเทศM ปฏิบัติภารกิจลับโดยเฉพาะ มืออาชีพระดับสากล ถูกกำจัดได้ยังไง?
เขาหายใจเข้ายาว ๆ ครั้งหนึ่ง คริสบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ กล่าวอย่างเคร่งขรึม: “แกจัดการกับกลุ่มเฮยยิงได้ยังไง? ต้องการจะทำยังไงกันแน่?”
เริ่มจากวินาทีนี้ ในใจของเขาได้เห็นหลินอิ่งเป็นคนที่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา ไม่ธรรมดา