บทที่ 247 ประธานถัง
“คุณชายสวี คุณเป็นคนที่มีเกียรติมาก พวกเราออกมารับประทานอาหารกับคุณ ก็ได้ออร่าไปด้วย” จูฟางเห็นโอกาสประจบขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความสอพลอ
“นั่นสิ ประธานถังแห่งโรงแรมจงเทียนเป็นผู้เจาะจงชื่อผู้รับเลย ไม่เสียแรงที่เป็นคุณชายสวี ออกมาข้างนอก แม้แต่ระดับประธานถังยังต้องมาประจบเลย!” ชายหนุ่มนามหนึ่งพูดยอขึ้นมา
“นั่นสิ ใครๆ ก็รู้ โรงแรมจงเทียนเป็นของตระกูลฉี ผู้จัดการของโรงแรมค่อนข้างจะยโส ต่อให้เป็นบุคคลมีฐานะขนาดไหนมารับประทานอาหารก็ไม่มาประจบ คิดถึงตอนนั้น ผู้อำนวยการของเรามารับประทานอาหารที่โรงแรมจงเทียน แม้แต่ผู้จัดการร้านอาหารจีนก็ไม่เห็นจะสนใจ คุณชายสวีของเราช่างมีเกียรติจริงๆ แม้แต่ผู้จัดการใหญ่ถังยังส่งคนมามอบไวน์!” ชายหนุ่มสวมสูทคนหนึ่งพูดยกยอ
ระดับของโรงแรมจงเทียนทุกคนต่างรู้ดี ต่างรู้ว่า โรงแรมจงเทียน มีKTV มีเมืองแช่เท้า มีเมืองชาบู เขตอาหารจีน เขตอาหารตะวันตก สนามบิล สนามชมการแข่งขัน สถานบันเทิงแต่ละที่ล้วนมีผู้จัดการรับผิดชอบหนึ่งคน
ส่วนผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมจงเทียน ถังฮุย ในเขตจงเทียนคุณปู่เป็นคนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เป็นบุคคลที่มีมากอิทธิพล
ถังฮุยเป็นลูกมือของหยูจื๋อเฉิงที่มีความสามารถ ได้รับสมญานามในโลกแห่งความมืดว่าฮุงสุง ท่านสุง
“ฮ่าๆ ทุกท่านชมเกินไปแล้ว ผู้จัดการใหญ่ถังกับผมเป็นเพื่อนกัน เพื่อนเขาให้เกียรติน่ะ” สวีเหอพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามันกะทันหัน มีความฉงนในใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อิทธิพลและความสามารถของถังฮุยในตี้จิง แข็งแกร่งกว่าลูกหลานตระกูลสวีคนนี้กว่ามาก น้ำหนักเหนือกว่าเยอะ
จากที่สวีเหอเคยเห็นถังฮุย ยังต้องนอบน้อมเรียกว่าท่านสุง!
ว่าแต่ ท่านสุงส่งคนเอาไวน์มาให้เขาเพื่อเป็นเกียรติ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ใบหน้าสวีเหอเต็มไปด้วยความปีติ ลำพองในใจว่า ตัวเองเป็นถึงคนของตระกูลสวีที่ยิ่งใหญ่ ไม่แน่ว่าฮุยสุงอาจจะอยากปีนป่ายสัมพันธ์กับตระกูลสวี เลยใช้ตัวเองเป็นทางผ่าน
“ยังไงคุณชายสวีก็ร้ายกาจ เพื่อนรอบข้างมีแต่คนเก่งๆ ท่านสุงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปกติผมไม่ค่อยมาที่เขตจงเทียน ก็เคยได้ยินชื่อเสียงอยู่บ้าง” จูฟางทำหน้าประจบประแจง ไม่หยุดป้อยอ
ตามคำเยินยอจากคนกลุ่มนี้ ใบหน้าของสวีเหอยิ่งได้ใจมากขึ้น รู้สึกมีเกียรติอย่างยิ่ง
อีกทั้ง ไวน์สองขวดนี้ส่งมาทันการณ์พอดี เป็นจังหวะที่กำลังคุยกับคนแซ่หลิน คราวนี้ จะทำให้ไอ้บ้านนอกที่มาจากต่างจังหวัด ได้เห็นอิทธิพลของเขา
พอเห็นฉากนี้ หลินอิ่งก็ส่ายหน้า หัวเราะอย่างเดียว เขารู้ดีว่า นี่เป็นไวน์ที่หยูจื๋อเฉิงให้คนเอามาให้ อย่างไรเสียที่นี่ก็คือโรงแรมของหยูจื๋อเฉิง อยากจะรู้ว่าเขานั่งอยู่ห้องVIPนั้น ก็เป็นเรื่องง่ายแค่นิดเดียว
ผู้จัดการที่เอาไวน์มาให้ก็บอกชัดเจนแล้วว่า มอบให้คุณชายอิ่ง ไม่เข้าใจ ทำไมถึงถูกคนพวกนี้ กลายเป็นมอบให้สวีเหอได้ แล้วยังจะมาโม้อีก?
ว่าแต่ก็นึกภาพออก อย่างไรเสียชื่อเสียงของตระกูลสวีอยู่ในวงนั้น คนที่นั่งอยู่ที่นั่นแม้ว่าจะเป็นคนที่มีฐานะ แต่เมื่อเทียบกับตระกูลสวีหนึ่งในห้ามหาเศรษฐีของประเทศหลุง ยังห่างไกลอีกมาก เป็นระดับสูงที่ไม่สามารถไต่เต้าถึง
“เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกท่าน ในเมื่อประธานถังมีน้ำใจส่งไวน์โรมาเน กงติมาให้สองขวด อย่างนั้ก็เปิดขวด ทุกคนมาดื่มกัน” สวีเหอโบกไม้โบกมือ พูดด้วยท่าทางอวดเบ่ง
พูดเสร็จ สวีเหอก็ทำท่ายิ้มเยาะส่งสายตามายังหลินอิ่ง ใช้เสียงออกคำสั่งพูดว่า “นายไปเปิดเหล้าที แล้วก็รินให้ทุกคนที่อยู่ในนี้ ได้ยินไหม?”
“เห็นแก่หน้าฉีโม่ ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนไม่รู้ความอย่างนาย” สวีเหอทำเป็นใจกว้าง “คุณฉีโม่ คุณไม่อยากเปิดตลาดอัญมณีที่ตี้จิงแล้วเหรอ? เรื่องนี้ง่ายมาก แค่ผมเอ่ยปากก็เรียบร้อย ตอนนี้ คุณต้องให้หลินอิ่งมาคารวะเหล้าหนึ่งรอบ”
“ฉีโม่ นี่เป็นโอกาสที่คุณชายสวีให้นะ เธอต้องถนอมมันไว้ให้ดีๆ อย่าให้เศษสวะที่เป็นภาระ ถ่วงเธอเอาไว้ เร็วเข้า รินไวน์ให้เขาเป็นการไถ่โทษ” พอสวีเหอพูด จูฟางก็รีบเสริมขึ้นมา
“เดิมทีเขาเป็นเลขาฯ ผู้ช่วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาควรทำ แค่การรินไวน์ให้คุณชายสวี เขาก็จะรู้สึกถูกรังแกเหรออย่างนั้นหรือ? นี่เป็นการให้เกียรติเขาอย่างมากเสียมากกว่า!”
สีหน้าของจางฉีโม่ไม่ค่อยดี ไม่แสดงออก แม้จะห่วงเรื่องผลประโยชน์ของบริษัท แต่เธอก็ไม่ยอมที่จะฝืนใจหลินอิ่ง
พอเห็นท่าทางที่ไม่ขยับของหลินอิ่ง สีหน้าสวีเหอก็ทะมึนทันที พูดด้วยเสียงเข้มว่า “ฉันให้โอกาสพวกนายแล้ว อย่าไม่รู้จักถนอมเอาไว้”
“พวกนายทำอะไร? อย่าทำให้คุณชายสวีเดือดนะ ไม่อย่างนั้นเรื่องราวจะไม่เป็นอย่างที่พูดไว้” จูฟางช่วยพูดขึ้นมา ชี้แนะจางฉีโม่กับหลินอิ่ง “พวกนายอย่าคิดว่าคุณชายสวีอารมณ์ดี ต่อให้คุณชายสวีทนดูได้ เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่กับคุณชายสวีก็ไม่ชอบหน้าพวกนาย ในนี้มีใครบ้างที่ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง?”
จูฟางยิ่งพูดก็ยิ่งเลยเถิด ไม่สนใจความรู้สึกของจางฉีโม่เลย
สำหรับเธอแล้ว จากฐานะของจางฉีโม่และหลินอิ่ง ก็ควรจะประจบสวีเหอเหมือนกับเธอ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ก็เท่ากับEQต่ำมาก
“หึ คราวนี้นายไม่เพียงหูหนวก ยังเป็นใบ้ด้วยเหรอ?” สวีเหอหัวเราะอย่างเย็นชา มองหลินอิ่งด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็ดีดนิ้วดังเปราะขึ้น ให้สุนัขรับใช้ที่อยู่ข้างกายเปิดไวน์ออกหนึ่งขวด
สวีเหอยกขาแก้วขึ้นอย่างช้าๆ ค่อยๆ หรี่ตาลิ้มรสไวน์พูดอย่างช้าๆ ว่า “ไวน์นี่ไม่เลวเลย น่าเสียดายที่ใครบางคนไม่มีลาภปากนี้”
“คนบางคนไว้หน้าแล้วก็ไม่รับ คุณชายสวีให้เขาดื่มไวน์ดีอย่างนี้ ยังจะทำท่าทำทาง ถ้าลำพังเขาเอง เกรงว่าชาตินี้คงไม่ได้ลิ้มไวน์พรีเมียมอย่างนี้แน่” ชายหนุ่มนามหนึ่งถากถางหลินอิ่งอย่างไม่เกรงใจ
ตึงๆ
ในเวลานี้เอง เสียงผลักประตูเข้ามา เห็นแต่ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ท่าทางเข้มงวด สวมสูทสีดำ
“ประธานถัง!”
“สวัสดีประธานถัง! ทำไมท่านถึงมาด้วยตัวเอง?”
ชายวัยกลางคนพอเดินเข้ามา ทุกคนต่างทำหน้าแปลกใจ สายตาทุกคู่โฟกัสไปที่จุดนั้น