ในเวลาเดียวกัน
บนดาดฟ้าของอาคารสุ่ยจิน ชายหนุ่มในชุดจีนโบราณสีแดงคนหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้ ข้างกายมีชายชุดดำสีหน้าโหดเหี้ยมยืนอยู่นับสิบ
ชายหนุ่มชุดจีน บุคลิกสง่า สีหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมเฉียบเย็นชา แปร่งประกายรังสีที่ไม่ธรรมดา
เขา ก็คือหัวหน้าแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง หรงหยัง
“เรียนหัวหน้าแก๊งหรง คุณชายอิ่งจากตี้จิงท่านนั้น ไม่ฟังคำเตือน จอมพลสิบสามลงมือแล้ว”
ชายชุดดำคนหนึ่งตีลังกาเข้ามา หยุดอยู่ข้างหน้าหรงหยัง ก้มหน้ารายงานอย่างเคารพ
หรงหยังหรี่ตาลง รับน้ำชามาจากผู้ติดตาม ค่อยๆจีบน้ำชา
“หลินอิ่งคนนี้ยโสอวดดี พวกเราหยางเหมินออกหน้าก็กดดันเขาไม่ได้ ก็อยู่ในคาดการณ์ของฉัน” หรงหยังพูดช้าๆ “ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่ต้องมาด้วยตัวเอง”
“หัวหน้าฉลาด” ลูกน้องพูดอย่างเคารพ
“แต่ว่า หัวหน้า ผมมีเรื่องหนึ่งไม่เข้าใจ” ชายชุดดำคนหนึ่งถาม “ในเมื่อหัวหน้ารู้ว่าคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงท่านนี้ไม่ยอมง่ายๆ ทำไมถึงยังตอบตกลงจี้ฉงซานมาหาหลินอิ่งให้เขาถอนตัว?”
“ไอ้แก่จี้ฉงซานนั่น ก็เห็นอยู่ว่าไม่หวังดี”
หรงหยังส่ายหน้าหัวเราะ พูดว่า “ทำไมฉันจะไม่รู้ ไอ้แก่จี้ฉงซานก็แค่อยากยืมมือฆ่าคน? เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะจี้ฉงซานหาเรื่องเอง จี้ฉงซานใช้ทุกวิถีทางเพื่อล่อหลินอิ่งมาเมืองก่าง เป็นไปได้ยังไงว่าจะบอกให้เขาถอนตัว? เขาก็แค่อยากยืมมือฉัน เพื่อจะทดสอบเบื้องลึกของหลินอิ่ง”
“ก่อนหน้านี้ผมติดหนี้บุญคุณจี้ฉงซาน ครั้งนี้ ก็ถือว่าคืนหนี้บุญคุณเขา อีกอย่าง ฉันมีการร่วมมือการจี้ฉงซานในธุรกิจ ถ้าให้หลินอิ่งสร้างความวุ่นวายในเมืองก่าง ไม่เพียงแค่ธุรกิจเสียหาย ชื่อเสียงแก๊งหยางเหมินก็ต้องเสื่อมเสีย” หรงหยังพูดช้าๆ “อีกอย่าง ฉันก็มีความสนใจในตัวคุณชายอิ่งแห่งตี้จิงท่านนี้ บนตัวคนคนนี้ อาจจะซ่อนความลับใหญ่โตไว้ก็ได้ ไม่อย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ท่านนั้นที่อยู่เบื้องหลังจี้ฉงซาน”
“ถ้าหากจอมพลสิบสามแห่งแก๊งหยางเหมินสามารถจับตัวหลินอิ่งได้ นั่นก็หมายความว่าหลินอิ่งเป็นคุณชายตระกูลฉีที่ฝีมือไม่ธรรมดา ฉันก็จะส่งหลินอิ่งหลับตี้จิง ทั้งฉีหยิ่นและจี้ฉงซานก็ไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองให้ใคร ยังได้คืนบุญคุณคนด้วย”
“ถ้าหากจอมพลสิบสามแก๊งหยางเหมินสู้หลินอิ่งไม่ได้ นั่นก็หมายความว่า ในตัวคนคนนี้ยังมีอะไรที่ลึกลับจนเกินจะคาดเดาได้ ซ่อนเรื่องที่ดีล้นฟ้า”
พูดถึงตรงนี้ หรงหยังมุมปากยิ้มขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ลงไปประลองฝีมือกับหลินอิ่งเอง บางทีอาจจะได้อะไรบางอย่างมาก็ได้”
“หัวหน้าวางแผนได้แยบยลจริงๆ” ผู้ติดตามคนหนึ่งพูดจาประจบ
“สถานการณ์อยู่ในการควบคุมของฉัน” สีหน้าหรงหยังยิ้มอย่างมั่นใจ “มังกรตัวหนึ่งที่มาจากตี้จิง ข้ามแม่น้ำมาถึงเมืองก่าง ต่อหน้าฉันก็เป็นแค่คนธรรมดาที่จะจัดการยังไงก็ได้”
หรงหยังคิดว่าตัวเองคาดการณ์แม่นยำดั่งเทพ คาดเดาเรื่องราวการสู้รบระหว่างหลินอิ่งกับจี้ฉงซานได้อย่างแม่นยำ แล้วก็พาคนของแก๊งหยางเหมินเข้าถ้ำจับปลา แสดงบทบาทเป็นคนจับปลา นั่งรอผลประโยชน์ก็พอ
“เหอะเหอะ หัวหน้าแก๊งหยางเหมินทั้งคน ยอดฝีมือติดอันดับ กลับต้องทุ่มเทกำลังคิดแผนการเพื่อจะมาทดสอบคุณชายของตระกูลฉี? ไม่กลัวเสียชื่อเสียงแก๊งหยางเหมิน?”
เวลานี้เอง เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น
ตรงทางเดิน เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสูทสีขาว ข้างหลังมีชายสูงอายุชุดสูทคนหนึ่ง และชายหนุ่มชุดสีเทาสีหน้าเรียบเฉยคนหนึ่ง
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา แววตาเฉียบคมดุจดาบที่แหลมคม แปร่งประกายความมีอำนาจ
“นี่ นายน้อยจ้าว คุณมาได้ยังยังไง?” หรงหยังสีหน้าลังเล หรี่ตามองชายหนุ่มชุดสูท
คนที่มา ก็คือจ้าวเฉิงเฉียนที่เพิ่งลงจากเครื่องบินไม่นาน บินมาเมืองก่างจากเมืองชิงหยูนภายในข้ามคืน
“เฮ้อ” จ้างเฉิงเฉียนทำเสียงเย็นชา มองหรงหยังอย่างเย็นชา “ยังรู้ว่าฉันเป็นนายน้อย? หรงหยัง ฉันขอถามหน่อย ฉันส่งหัวหน้าหม่าแจ้งเรื่องกับนาย ทำไมนายไม่มาคฤหาสน์?”
หรงหยังสีหน้าเคร่งเครียด พูดว่า “นายน้อยจ้าว ผมตอบหัวหน้าหม่าไปแล้ว คืนนี้มีธุระ พรุ่งนี้ค่อยไปหาเจ้าสำนักที่คฤหาสน์”
“ออ?” จ้าวเฉิงเฉียนหัวเราะเย็นชา แววตาเย็นเฉียบ “ถ้าอย่างนั้น นายเห็นฉันแล้วไม่กราบไม่ไหว้? นั่นเพราะอะไร?”
จ้าวเฉิงเฉียนแสดงอำนาจอันแข็งแกร่ง กดดันจนหรงหยังเหงื่อท่วมหัว
ข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง
หรงหยังความไม่พอใจในสายตาแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“นายน้อยจ้าว ท่านล้ำเส้นแล้ว แก๊งหยางเหมิน ไม่ได้มีท่านเป็นนายน้อยเพียงคนเดียว ผมก็เป็นหัวหน้าแก๊งสาขาเมืองก่าง มีอำนาจดูแลเรื่องราวทั้งหมดของแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง” หรงหยังพูดเสียงเรียบ “อีกอย่าง เจ้าสำนักหยางมีคำสั่ง เจ้าสำนักทั้งหลายก่อนได้รับอนุญาต ห้ามก้าวก่ายเรื่องในสำนัก”
“นายน้อยจ้าว ท่านยังไม่ได้ครองอำนาจ ก็อย่าโทษผมที่ไม่ได้กราบไหว้”
หรงหยังตอบอย่างแข็งแกร่ง ใบหน้ายิ้มอย่างเย็นชา
นายน้อยแก๊งหยางเหมินมีทั้งหมดสามคน ก็เหมือนดั่งองค์ชายแย่งชิงตำแหน่ง ต่างก็แย่งชิงกันอย่างได้ตำแหน่งเจ้าสำนัก
ส่วนเขาหรงหยัง เป็นหัวหน้าที่ควบคุมอำนาจของสำนักหนึ่ง คนที่สนับสนุนนั้นไม่ใช่จ้าวเฉิงเฉียน และยังมีความสัมพันธ์ในการเป็นคู่ต่อสู้
ในใจหรงหยังก็ไม่เข้าใจ จ้าวเฉิงเฉียนทำไมถึงมาเมืองก่างกะทันหัน ยังมาหาถึงอาคารสุ่ยจิน หรือว่า เขาจะมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของหลินอิ่ง?
สถานการณ์ในเมืองก่างนี้ยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวายแล้ว
“ถามได้ดี” จ้าวเฉิงเฉียนหัวเราะเย็น สายตายังเหล่มองหรงหยัง “ในเมื่อนายก็รู้ระเบียบที่เจ้าสำนักหยางตั้งขึ้น ถ้าอย่างนั้น ฉันจะบอกให้ว่าฉันมาเมืองก่างทำไม”
“ฉันชนะในสัญญาสืบทอดอำนาจจากนายน้อยทั้งสามแล้ว วันนี้ ฉันจ้าวเฉิงเฉียน คือนายน้อยของแก๊งหยางเหมินคนเดียวเท่านั้น” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างมั่นใจ “เจ้าสำนักหยางมีคำสั่ง นอกจากท่าน เรื่องทั้งหมดในแก๊งหยางเหมิน ก็ฟังคำสั่งของฉันคนเดียว”
“อะไรนะ” หรงหยังสีหน้าตะลึง ในใจมีความรู้สึกบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น นายน้อยซูน……” หรงหยังเหงื่อท่วมหน้าผาก ถามด้วยสีหน้าลังเล
“แน่นอนว่าตายแล้ว” จ้าวเฉิงเฉียนพูดด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา “เขาฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ ตายในมือของฉัน”
“หรงหยัง นายยังคิดถึงแต่เจ้านายเก่าเหรอ? สถานการณ์อะไร นายยังแยกแยะไม่ออกหรือ?” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเย็นชา
จ้าวเฉิงเฉียนกลับประเทศหลุงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มาเมืองก่าง ก็ไม่ได้มาเพื่อหลินอิ่งโดยเฉพาะ
แล้วก็ถือโอกาส มารับช่วงสาขาแก๊งหยางเหมินเมืองก่าง ชำระล้างสำนัก
“หรงหยัง มอบอำนาจทั้งหมดของนายในเมืองก่างมา รอคำสั่งของฉันอยู่ที่บ้าน” จ้าวเฉิงเฉียนพูด
“ไม่ นายน้อยจ้าว เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ผมต้องรายงานเจ้าสำนักหยาง……” สีหน้าหรงหยังลังเล ในใจรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง
การปรากฏตัวของจ้าวเฉิงเฉียน เหมือนดั่งสายฟ้าแลบ ทำให้สมองเขาว่างเปล่า
“ช่างเถอะ เรื่องของสำนักที่เมืองก่าง ค่อยๆชำระ แต่ว่า หรงหยัง คืนนี้ ปฏิบัติการทุกอย่างที่นายทำกับหลินอิ่ง ต้องฟังคำสั่งฉัน” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเย็นชา
“นี่……” หรงหยังสีหน้าไม่ค่อยเต็มใจ แววตากะพริบ กำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ดูแล้ว เหมือนนายยังสงสัยกับคำพูดของฉันอยู่” จ้าวเฉิงเฉียนพูดช้าๆ
“เผยหวูหมิง นายมาบอกหรงหยัง ควรเคารพนายน้อยยังไง” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเชื่องช้า “หรงหยัง ระดับฝีมือของนาย เหมือนว่าจะต่ำกว่าเผยหวูหมิงหนึ่งระดับ ใช่ไหม?”
พูดไป ชายหนุ่มเสื้อสีเทาข้างกายจ้าวเฉิงเฉียนเดินออกมา ภายใต้แสงจันทร์สาดส่อง เผยใบหน้าอันหนักแน่น
“เผยหวูหมิง? นี่……” หรงหยังสีหน้าเปลี่ยน หลังจากมองชายหนุ่มเสื้อสีเทาแล้ว ก็ก้มหัว
“หรงหยัง เคารพนายน้อย” หรงหยังลุกขึ้น ก้มหน้าพูดอย่างเคารพ
จ้าวเฉิงเฉียนสีหน้าได้ใจ นั่งลงบนที่นั่งของหรงหยัง จับแหวนหยกของเขาเบาๆ
“ดีมาก หรงหยัง นายบอกฉันมา คืนนี้ นายวางแผนจัดการยังไงกับหลินอิ่งคืนนี้?”