ในค่ำวันนั้น สมาคมธุรกิจเมืองก่างมีการจดงานต้อนรับพวกนักข่าว เพื่อประกาศต่อสาธารณะ ว่าหลังจากผ่านการประชุมลงมติของสมาชิกทั้งหมดแห่งสมาคมธุรกิจแล้ว จี้ฉงซานไม่ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจอีกต่อไป และยกเลิกกฎข้อบังคับทางการค้าทั้งหมดที่ออกมาในสมัยที่จี้ฉงซานยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคม
พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทั่วเมืองก่างก็ตอบสนองกลับมาอย่างล้นหลามทันที!ส่งผลกระทบมากมายมหาศาล
ทุกตรอกซอกซอย ทุกเครือข่ายในเมืองก่างล้วนแต่พูดคุยถึงเรื่องที่จี้ฉงซานถูกถอนออกจากตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธุรกิจ
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองก่าง ทำลายความเข้าใจของบรรดาผู้คนทั้งหมดในเมืองก่าง
ถึงยังไง จี้ฉงซานก็ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธุรกิจในเมืองก่างมานานกว่าหลายสิบปี เป็นเหมือนกับหัวหน้าผู้นำของวงการธุรกิจเมืองก่าง จู่ๆก็ถูกคนร่วมกันเฉดออกจากตำแหน่งหัวหน้าสมาคม?
หรือถูกคนบีบบังคับให้ออกจากตำแหน่ง?
ทำให้เหล่าบรรดาผู้คนต่างคาดเดากันไปต่างๆนานา ว่าจี้ฉงซานดันไปก้าวก่ายทำให้ใครไม่พอใจเข้า
ใครกันที่มีกำลังความสามารถมากมายขนาดนี้? ถึงขนาดที่ทำให้มหาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองก่างที่มีอำนาจเด็ดขาดในแวดวงธุรกิจสั่นคลอนได้?
โดยเฉพาะ จี้ฉงซานถูกรื้อถอนออกจากตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธุรกิจ กฎข้อบังคับทั้งหมดของสมาคมธุรกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถูกยกเลิกไปทั้งหมด
ผลกระทบที่ตามมา ถือว่าสะเทือนไปทั้งแวดวงธุรกิจของเมืองก่างเลยก็ว่าได้ ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คนนับไม่ถ้วน
มันบ่งบอกว่าจี้ฉงซานสูญเสียอำนาจเด็ดขาดในการปกครองตลาดของแวดวงธุรกิจไปโดยสิ้นเชิง ไม่มีอำนาจผูกขาดแล้ว
มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ
คนที่ยืนอยู่ฝ่ายจี้ฉงซาน ก็รู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย สูญเสียตลาดไปมากมาย สูญเสียทรัพย์สินไปนับไม่ถ้วน
บริษัทเล็กๆอุตสาหกรรมต่างๆที่ถูกจี้ฉงซานกดขี่ข่มเหงในสมัยก่อน ก็พากันดีอกดีใจ ภูเขาที่กดทับอยู่ในใจของพวกเขา ในที่สุดก็ถูกยกออกไปสักที
ทุกตรอกซอกซอยในเมืองก่าง
“เห้อ จี้ฉงซานไม่ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธุรกิจแล้ว ได้ยินว่ากฎข้อบังคับมากมายของสมาคมธุรกิจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วย ข่าวนี้มันบ้าชัดๆ จี้ฉงซานเคยทำเรื่องอะไรไม่ดีให้กับเมืองก่างตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
“เห้อ แปลกจริงๆ คุณจี้ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย? พวกทีมธุรกิจของเขาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทีอะไรเลยด้วย”
“นี่มันไม่ได้แล้วจริงๆนะ ถ้ากฎข้อบังคับของสมาคมธุรกิจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป บริษัทมากมายก็จะได้รับผลกระทบแน่ๆ ได้ยินมาว่าตอนนี้ราคาของพวกผลไม้พวกเนื้อหมูก็เพิ่มขึ้นสูงแล้ว ขนาดเนื้อหมูก็แทบจะไม่มีปัญญาซื้อกินแล้วนะ!”
“ใช่ ตอนนี้คนในแต่ละสายงานอาชีพ กำลังรอดูสถานการณ์อยู่ ช่วงนี้จึงไม่มีใครกล้าลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้า ตลาดหุ้นก็เลยโกลาหลวุ่นวาย!”
พลเมืองกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหาร กำลังดูการรายงานข่าวล่าสุดพลางพูดคุยถกเถียงกัน
ถึงยังไง ผู้ถือหุ้นของเมืองก่างเยอะมาก การที่เป็นมหานครด้านเศรษฐกิจ ประชาชนพลเมืองก็ล้วนแต่ให้ความสนใจกับทิศทางของแวดวงธุรกิจตลอดเวลา
ภาพแบบนี้ สามารถพบเห็นได้บ่อยไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารร้านไหนก็ตามในเมืองก่าง
แทบจะทุกคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
แน่นอนว่า นอกจากเรื่องที่จี้ฉงซานถูกรื้อถอนออกจากตำแหน่งของหัวสมาคมแล้ว
ก็ยังมีอีกหนึ่งข่าวใหญ่ ที่ทำให้ทั้งเมืองก่างสั่นสะเทือน!
แค่ในเวลาคืนเดียว
เกิดการโต้เถียงเรื่องข่าวลือกันทั่วทุกเครือข่าย ประชาชนแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม
“ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจี้กำลังสู้อยู่กับบุคคลนั้นอยู่หรือเปล่า? คนคนนี้ช่างกล้าหาญจริงๆ แผนการก็ชาญฉลาดมากๆด้วย เรื่องราวที่ไม่ดีในอดีตของจี้ฉงซานก็ถูกคนออกมาแฉจนหมด แถมมีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันด้วย!”พลเมืองคนหนึ่งในมือถือข้าว อีกมือถือหนังสือพิมพ์รายวันพูดขึ้น
“พูดตรงๆ หลังจากที่ผมเห็นแล้ว ก็รู้สึกตกใจไม่น้อย มันเปลี่ยนมุมมองที่ผมมีต่อจี้ฉงซานไปเลย ที่แท้เขาก็ใช้แผนการสกปรกเหมือนกัน!”
“เอารัดเอาเปรียบบีบบังคับคนงานอย่างบ้าคลั่ง เปิดโรงงานนรกจำนวนมาก ทำให้ผู้คนมากมายเหนื่อยล้าจนตาย ไม่ก็เป็นมะเร็ง แถมยังใช้สมาคมการกุศลในการฟอกเงินอีก ทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี ไม่คิดว่ายังจะฆ่าปิดปากทั้งครอบครัวของพวกนักข่าวที่คิดจะเปิดโปงเรื่องนี้อีกด้วย”วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ พร้อมกับดูข่าวในโทรศัพท์มือถือ
“นี่ยังไม่เท่าไรนะ ให้ตายสิ จี้ฉงซานยังควบคุมวงการอสังหาริมทรัพย์ของตลาดหุ้น ทำให้ในตอนนั้นผู้คนจำนวนมากพากันกระโดดตึกฆ่าตัวตาย สองปีก่อนญาติของผมเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น ถูกแผนการของบริษัทอะไรสักอย่างของจี้ฉงซานดึงดูดเข้า ก่อนหน้านั้นยังบอกกับผมอยู่เลยว่าจะลงทุนเงินไปสักก้อน แต่ผลลัพธ์ จู่ๆก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ก่อนตายก็เอาแต่พูดด่าว่าไอ้สารเลวจี้อยู่ตลอดเวลา ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าคืออะไร ที่แท้ ก็เป็นเรื่องเลวๆที่ไอ้จี้ฉงซานมันทำขึ้นมา!”ชายวัยกลางสวมชุดสูทคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความเคียดแค้น
“เหี้ยมโหดจริงๆ พวกคุณดูพวกคนงานในสารคดีพวกนั้นสิน่าสงสารขนาดไหน? เป็นโรคร้ายแต่กลับไม่มีเงินรักษา ครอบครัวของพวกคนที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายพวกนั้นก็บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไหนจะศพของคนในครอบครัวของนักข่าวอีก นี่มันโศกนาฏกรรมชัดๆ!ทำไมถึงเหี้ยมโหดได้ขนาดนี้กันนะ?”
วันนี้ สื่อข่าวทั่วทั้งเมืองก่าง ต่างก็รายงานความจริงพร้อมกับหลักฐาน
มีวิดีโอสารคดีหนึ่งที่เรียกได้ว่าช็อกโลกเลยก็ว่าได้
ในนั้น มีผู้จัดการแวดวงธุรกิจของจี้ฉงซานคนหนึ่ง พูดอธิบายไว้อย่างชัดเจนถึงกระบวนการอย่างละเอียดในแต่ละขั้นตอนของโรงงานนรกของจี้ฉงซานว่าปฏิบัติการกันยังไง เพื่อที่จะรักษาต้นทุนเอาไว้ เขาขูดรีดบีบเค้นคนงานยังไงเพื่อให้คุ้มมากที่สุด ใช้คนเยี่ยงสัตว์ แล้วสุดท้ายก็ทำการล้างความผิดทิ้งไป
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของหลักฐานที่ฆ่าพวกนักข่าวด้วย เคยมีนักข่าวคิดที่จะเปิดโปงความชั่วที่อยู่เบื้องหลังของจี้ฉงซาน ก็ถูกฆ่ายกครัว แม้แต่เด็กอายุเจ็ดขวบก็จับโยนลงไปในทะเลได้ลงคอ
แล้วก็ จี้ฉงซานบงการควบคุมตลาดหุ้นของเมืองก่างอย่างบ้าคลั่ง หลอกลวงผู้ถือหุ้น เพื่อให้ได้เงินจำนวนมากมาย
แน่นอนว่า ยังมีเรื่องที่จี้ฉงซานพลิกจากซ้ายไปขวาอีกด้วย เขาเพิ่มราคาที่ดินให้สูงสุด ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องมีปัญหาเรื่องการพักอาศัยไปตลอดชีวิต!แล้วก็ทำยังไงถึงฉาบผิวหน้าของเศรษฐกิจฟองสบู่ให้ดูดี แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
ประวัตินองเลือดทั้งหมดของจี้ฉงซาน กระบวนการขั้นตอนเหี้ยมโหดที่เขาทำมาตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนแต่มีหลักฐานที่ชัดเจนทั้งสิ้น
ในส่วนของโรงงาน ในส่วนของตลาดหุ้น ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคำสารภาพของผู้เสียหาย หรือผู้กระทำก็มีหมด!แค่ดู ก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบได้ทันที
สารคดีความยาวประมาณหนึ่งชั่วโมง มีคนคลิ๊กเข้าชมทะลุร้อยล้านในเวลาชั่วข้ามคืน คนส่วนใหญ่ในเมืองก่างล้วนแต่ดูกันอย่างจริงจังจนจบกันหมดแล้ว
ถึงขนาดที่ สารคดีนี้ยังถ่ายทอดไปยังต่างประเทศอีกด้วย แล้วก็เมืองในจังหวัดอื่นๆอีกมากมาย กลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดในอินเทอร์เน็ตไปแล้ว
สารคดีเรื่องนี้ ได้ทำการฉีกกระชากผิวหน้าที่สวยงามของจี้ฉงซานออกไปเรียบร้อยแล้ว แล้วเปิดเผยร่างกายที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดออกสู่สายตาของผู้คนบนโลก
สรุปสั้นๆก็คือ จี้ฉงซานเป็นผีดูดเลือด เป็นเจ้าถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของเมืองก่าง!
ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างรู้สึกตื่นตกใจและทอดถอนใจ
เมืองก่างที่ผิวหน้าดูสวยหรูดูดี!แต่ความจริงแล้ว สังคมกลับไม่ต่างอะไรจากระบบทาสในช่วงไม่กี่ศตวรรษก่อนหน้านี้เลย!
สิ่งที่จี้ฉงซานทำ ไม่ได้ส่งผลดีต่อสังคมเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่ส่งผลดีอะไรต่อเมืองก่างเลยด้วย
มีผลเพียงอย่างเดียว ก็คือเป็นการช่วยสนับสนุนญี่ปุ่นไปอย่างช้าๆเท่านั้น
เงินทุนมหาศาลที่จี้ฉงซานปล้นเก็บมาจากพลเมืองของเมืองก่าง ก็ส่งไปให้กับรัฐบาลของญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาเองก็เป็นคนสัญชาติญี่ปุ่น ได้รับการโปรดปรานอย่างมากจากรัฐบาลญี่ปุ่น!
สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้กับเมืองก่าง มีเพียงแค่ตึกลอยฟ้าตึกเดียวเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นอีก เดี๋ยวก็ต้องพังทลายไป ตกต่ำลงสู่ระดับที่ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ไปตามกาลเวลา
ในเวลาชั่วข้ามคืน ภายในเมืองก่าง นอกจากคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับจี้ฉงซานแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ก็เป็นพวกคนต่างก็มีความโกรธแค้นต่อจี้ฉงซานกันหมด!
เพราะว่า การกระทำของจี้ฉงซาน สร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนพลเมืองเป็นอย่างมาก
เพราะว่าความเห็นแก่ตัวของคนแค่คนเดียว ได้ทำให้ทุกคนต่างก็เดือดร้อนกันไปหมด!
นี่ ก็คือคำอธิบายที่ดีที่สุดของจี้ฉงซาน!
จี้ฉงซาน “คนใจบุญ”ที่แสนยิ่งใหญ่คนนี้ ได้ทำให้เหล่าผู้คนต่างพากันโกรธเกลียดเคียดแค้นไปเรียบร้อยแล้ว!