ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 435 นายกเทศมนตรีของเมืองก่าง ถังคังเจิ้น

“คนของตระกูลฉีแห่งตี้จิง?”ถังคังเจิ้นน้ำเสียงสงสัย“คนที่คุณพูดให้ผมฟังเมื่อครั้งที่แล้ว คุณชายตระกูลฉีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในตี้จิงคนนั้นน่ะเหรอ?”

ถังคังเจิ้นเคยฟังเรื่องที่จี้ฉงซานพูดถึงหลินอิ่ง จากนั้นก็ให้คนไปสืบข้อมูลมา

จึงรู้ว่าหลินอิ่งที่จี้ฉงซานพูดถึง เป็นคนเหี้ยมโหดคนหนึ่งของตี้จิง

อย่างน้อย ก็สามารถต่อสู้วัดกำลังกับคนระดับเขาได้

“ไม่ผิด หลินอิ่งคนนั้นนั่นแหละ เขาถึงเมืองก่างแล้ว เรื่องสมาคมธุรกิจเมืองก่าง คำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ความวุ่นวายของการเงินที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นฝีมือของหมอนี่ทั้งนั้น”จี้ฉงซานพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“เหล่าจี้?คุณยอมให้เขากำเริบเสิบสานที่เมืองก่างได้ยังไง? แม้ว่าในตี้จิงหลินอิ่งจะสุดยอดมาก แต่พอมาถึงเมืองก่างแล้ว ก็ต้องเคารพกฎของเมืองก่างสิ”ถังคังเจิ้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม

“ถ้าอย่างนั้น ผมส่งคนจากกรงการเมืองและกองพิเศษหวู่อันไปจัดการแล้วกัน หาข้ออ้างทำให้เขายอมถอยออกจากเมืองก่างเองดีไหม?”ถังคังเจิ้นถามขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง

“ไม่ต้อง เหล่าถัง เรื่องนี้ผมมีแผนแล้ว แค่รบกวนคุณช่วยไปจัดการไกล่เกลี่ยพวกที่ไม่ยอมอยู่ในลู่ในทางในสังคมพวกนั้นก็พอ”จี้ฉงซานพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“อื้อ”ถังคังเจิ้นพยักหน้า“จากมิตรภาพของพวกเรา คุณไม่ต้องพูดอะไรเยอะผมก็เข้าใจได้”

“เหล่าถัง ถ้าได้ข่าวดีจากคุณ ผมจะจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างดีให้เลย”จี้ฉงซานพูดขึ้น

เสียงตู๊ดๆดังขึ้นมาสองครั้ง สายถูกวางไปแล้ว

พอวางสายลง จี้ฉงซานก็จิบชาอย่างไม่รีบไม่ร้อน ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ไอ้เด็กหลินอิ่งนั่น พยายามที่จะใช้วิธีแบบนี้เพื่อเอาชนะฉันอย่างนั้นเหรอ? เหอะๆ กระจอกสิ้นดี”

“พ่อ ผมคงกังวลมากเกินไป คุณให้ลุงถังออกหน้าแทนแบบนี้ เรื่องนี้น่าจะจัดการไม่ยากแล้วล่ะครับ”จี้ชวนพูดขึ้นด้วยสีหน้าดีใจ

เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของพ่อจี้ฉงซานกับนายกเทศมนตรีถัง แต่ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะลึกซึ้งถึงขนาดนี้!

“มีคนใหญ่คนโตแบบนายกเทศมนตรีถังคอยคุ้มกันเป็นที่พึ่งพิงแบบนี้ ในเมืองก่างนี้จะไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาทำอะไรพวกเราตระกูลจี้อีก”จี้ฉงซานพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ

……

ณ ศาลากลาง เมืองก่าง

ภายในห้องทำงานของนสยกเทศมนตรี มีชายชราผมขาวสวมแว่นตาสายคล้องสีทองคนหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม

ด้านหน้าของชราคนนี้ มีชายวัยกลางคนสามคนกำลังโค้งคำนับอยู่

หนึ่งในนั้น สวมเครื่องแบบกองพิเศษหวู่อัน มีเข็มกลัดอยู่ที่ไหล่ แสดงถึงอำนาจสูงสุดของตุลาการของเมืองก่าง

ทั้งสามคน แบ่งเป็นหัวหน้ากองพิเศษหวู่อัน หัวหน้ากรงการเมือง ผู้อำนวยการกรมการรักษาความลับ

ส่วนชายชราคนนี้ ก็คือคนที่ทรงพลังที่สุดของเมืองก่าง ถังคังเจิ้น

“ช่วงนี้ สื่อต่างๆของเมืองก่าง มีคนจงใจปั่นป่วนสถานการณ์ ทำให้ประชาชนเกิดความโกลาหลวุ่นวาย” ถังคังเจิ้นสีหน้าน่าเกรงขามมีอำนาจ พูดขึ้นอย่างไม่รีบไม่เร่ง“ไปสั่งให้สื่อพวกนั้นปิดปากเงียบเดี๋ยวนี้”

“แล้วก็ไปตามหาตัวคนที่ชื่อว่าหลินอิ่งที่มาจากตี้จิงมาด้วย ฉันต้องการโทรศัพท์คุยกับเขาสักครั้ง”

……

วันต่อมา

ในเวลาชั่วข้ามคืน สื่อข่าวต่างๆในเมืองก่างต่างก็เงียบสนิทไม่มีข่าวคราวอะไรเลยแม้แต่น้อย

ประเด็นหัวข้อเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์จี้ฉงซานที่ได้รับความสนใจในอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ ทั้งหมดก็สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ข้อมูลข่าวสารในทางด้านลบเกี่ยวชื่อจี้ฉงซานชื่อนี้ ก็ค้นหาไม่เจออีกแล้วในอินเทอร์เน็ต

ข่าวที่สะเทือนไปทั่วเมืองก่อนหน้านี้ ก็นิ่งเงียบไป

มันหายไปรวดเร็วท่ามกลางความเงียบสนิท!

แม้ว่าผิวหน้าจะเงียบสงบ แต่ว่าทุกคนในเมืองก่างรู้กันดี ว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของจี้ฉงซานแน่นอน!

ความสามารถของคนคนนี้ แข็งแกร่งถึงขนาดที่ปิดปากสื่อทุกสำนักในเมืองก่างได้!

คนที่พูดถกประเด็นร้อนออนไลน์ในอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ ก็เงียบกริบ ต่างปิดปากเงียบเรื่องของจี้ฉงซาน

“ประธานหลิน ข่าววิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนถูกปิดไปจนหมด ภายในเวลาชั่วข้ามคืน ข่าวทุกอย่างถูกปิดกั้นเอาทั้งหมดเลยครับ”

ในห้องทำงานของอาคารสุ่ยจิน

ฉู่สงซานเดินเข้ามาด้วยสีหน้าหนักอึ้ง พูดขึ้นอย่างจริงจัง“จี้ฉงซาน ให้ถังคังเจิ้นออกหน้ามาช่วยแล้ว”

“เมื่อคืน ผู้รับผิดชอบของบริษัทสื่อหลายสำนักของผม ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากกรงการเมืองของเมืองก่าง แม้ว่าจะไม่ได้พาตัวคนไป แต่ก็เป็นการบอกเตือนเอาไว้”

พอได้ฟังแบบนั้น หลินอิ่งก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย นั่งอยู่บนเก้าอี้ ดื่มชาไปหนึ่งคำ

วางแก้วชาในมือลง ก่อนจะพูดขึ้น“ถังคังเจิ้นโผล่หน้าออกมาเองเลยเหรอ?”

เขารู้จักถังคังเจิ้นดี คนใหญ่คนโตของเมืองก่าง มีความสามารถมากขนาดไหน ไม่บอกก็รู้

แม้ว่าถังคังเจิ้นจะไม่ได้ลงมาสู้รบแทนจี้ฉงซานเอง แต่พูดสั่งออกมาแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งเมืองก่างแล้ว

“ประธานหลิน จริงๆผมเดาแล้วว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไพ่ในมือของจี้ฉงซาน แต่ละใบล้วนแต่มีพลังอำนาจที่น่าเกรงขามทั้งนั้น”ฉู่สงซานพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง“สถานการณ์ต่อไป ควรจะรับมือยังไงดี?”

หลินอิ่งใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ กำลังคิดวิเคราะห์

จู่ๆ ข้างนอกก็มีชายหนุ่มแต่งกายชุดสูททางการคนหนึ่งเดินเข้ามา พาผู้ชายใส่ชุดธรรมดาทั่วไปสีหน้าเข้มงวดสองคนมาด้วย

ดูออกได้อย่างไม่ยากเลยว่า คนที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาสองคนนี้มีสถานภาพเป็นอะไร

“คุณหลิน สวัสดีครับ ผมชื่อติงยี่ เป็นเลขาของนายกเทศมนตรีถัง”ชายหนุ่มมองมายังหลินอิ่ง พร้อมกับพูดขึ้นอย่างจริงจัง

“ที่ผมมาในวันนี้ ก็เพื่อจะมาพูดเจรจากับคุณหลินแทนนายกเทศมนตรีถังครับ”

ติงยี่ พูดเปิดประเด็น

หลินอิ่งมองไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย มุมปากยกโค้ง

ตัวเองยังไม่ทันไปได้หาเลย แต่เขากลับส่งคนมาคุยถึงที่แล้วอย่างนั้นเหรอ?

“ว่ามาสิ นายกเทศมนตรีถังของพวกคุณมีเรื่องอะไรที่ฝากมาบอก?”หลินอิ่งถามขึ้นอย่างนิ่งๆ

ติงยี่พูดตอบ“คุณหลิน นายกเทศมนตรีถังให้ผมมาบอกกับคุณว่า เมืองก่าง เป็นที่ไม่ใช่จะมาทำอะไรตามอำเภอใจได้ พฤติกรรมของคุณหลังจากที่คุณมาที่เมืองก่าง มันทำลายความสงบเรียบร้อยของประชาชน”

“แวดวงธุรกิจ แวดวงการเงิน สื่อต่างๆ ของเมืองก่างล้วนแต่เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปหมดเพราะว่าคุณ”

“แล้ว?”หลินอิ่งถามขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

“นายกเทศมนตรีถังบอกว่า เห็นแก่หน้าของตระกูลฉี เมืองก่างจะไม่ใช้มาตรการเข้มงวดใดๆกับคุณหลิน แต่หวังว่าคุณจะสำนึกได้ด้วยตัวเอง”ติงยี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ตอนนี้ยังทัน รีบพาคนของคุณ ร่วมถึงทรัพย์สินที่คุณเอามาลงทุนในเมืองก่าง ถอนออกไปให้หมดซะ แล้วออกจากเมืองก่างไป เรื่องมันยังเจรจายืดหยุ่นกันได้อยู่”

ติงยี่พูดจบอย่างนิ่งสงบใจเย็น มองหลินอิ่งอย่างนิ่งเฉย

เขาท่าทางมั่นใจ ท่าทางวางมาดสุดๆ

ในฐานะที่เป็นเลขาของผู้นำสูงสุดของเมืองก่าง การได้เป็นตัวแทนไปเจรจาแทนผู้นำสูงสุด เขาถือว่ามีอำนาจเด็ดขาด

ต่อให้รู้ว่าเบื้องหลังของหลินอิ่งจะไม่ธรรมดา เป็นคนที่มีความสามารถเก่งกาจราวกับมังกรของตี้จิงก็ตาม

แต่พอมาอยู่ต่อหน้าของคุณท่านถังแห่งเมืองก่าง ถึงเป็นมังกร เก่งกาจขนาดไหนก็ต้องยอมจำนนอยู่ดี

“นายกเทศมนตรีถังของพวกคุณ กำลังเตือนผมอยู่?”หลินอิ่งยิ้มนิ่งๆ“คำพูดของเขา ผมน้อมรับไว้แล้ว”

“ตอนนี้คุณกลับไปเถอะ พอกลับไปแล้ว ก็ไปบอกกับนายกเทศมนตรีถัง ว่าสอดมือเข้ามายุ่งในครั้งแรก ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วกัน เรื่องระหว่างผมกับจี้ฉงซาน ถ้าเขากล้าเข้ามายุ่งอีก ผมรับประกันเลยว่าเขาจะนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองก่างนี้ได้ไม่เกินสามวันแน่นอน”

พอคำพูดนี้พูดจบ ก็สร้างความประหลาดใจไม่น้อยให้กับติงยี่ทันที ติงยี่ช็อกตกใจสีหน้าเปลี่ยนไป มองหลินอิ่งด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset