อาคารสำนักงานใหญ่ สมาคมธุรกิจเมืองก่าง
หน้าอาคารจอดรถสีดำเรียงกันเป็นคันๆเต็มไปหมด ข้างรถมีผู้ชายเสื้อลำลองสีหน้าเคร่งขรึมยืนอยู่ ใช้ฝูงชนยืนกั้นเป็นวงล้อม
รถเบนท์ลี่ย์สีดำคันหนึ่งขับผ่านเส้นวงล้อม ชายต่างชาติร่างสูงคนหนึ่งเดินลงมา เปิดประตูรถอย่างถนัด
ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีขาวลงจากรถด้วยสีหน้าเย็นชา เดินผ่านฝูงชน เข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่
ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ หน้าประตูแผนกต้อนรับ มีชายสวมชุดลำลองยืนเรียงกันอยู่สิบกว่าคน และเจ้าหน้าที่ธุรการใส่แว่นอีกหลายคน
ภายในแผนกต้อนรับ ฉู่สงซานนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสง่าผ่าเผย สีหน้าเคร่งเครียด มีบอดี้การ์ดติดตามอยู่สองนาย
ตรงหน้าเขามีชายวัยกลางคนสองคน สีหน้าเคร่งขรึม
“ประธานฉู่ ประธานหลินของพวกคุณยังไม่มาอีกหรือ? จะบังคับให้ผมใช้อำนาจออกหมายเรียกใช่ไหม?” ชายวัยกลางคนใบหน้าหยาบกระด้างพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ต้องรู้ว่า ตอนนี้ผมทิ้งตำแหน่งหน้าที่ มาเจรจากับเขาในนามส่วนตัวเท่านั้น”
“ถ้าหากให้ผมใช้นามของกองพิเศษหวู่อันมา เกรงว่าเขาควบคุมสถานการณ์ได้ยาก”
ฉู่สงซานขมวดคิ้วแน่น พูดว่า “หัวหน้ากองพิเศษเฉา ประธานอยู่ระหว่างทางมาแล้ว คุณอดใจรออีกนิดนะครับ”
ชายวัยกลางคนสองคนตรงหน้า คนหนึ่งคือหัวหน้าเฉาแห่งกองพิเศษหวู่อัน อีกคนคือหัวหน้าหลัวแห่งกรมพาณิชย์
ถึงแม้ฉู่สงซานจะรู้สึกเอือมระอา แต่ก็ต้องไว้หน้าพวกเขา
“พวกเรารออีกแค่สามนาที” หัวหน้ากรมหลัวพูดด้วยเสียงเย็นชา แล้วมองเวลาบนนาฬิกา “ถึงเวลา ถ้าหลินอิ่งยังไม่มา พวกเราก็จะปิดล้อมสำนักงานใหญ่สมาคมธุรกิจ ทำการตรวจค้นหาหลักฐาน”
“พอถึงตอนนั้น ประธานฉู่ คุณก็จำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับพวกเรา ส่งมอบเอกสารข้อมูลลับทางธุรการทั้งหมดให้พวกเรา” หัวหน้ากรมหลัวพูด
ฉู่สงซานสายตาสั่นไหว จ้องหัวหน้ากรมหลัวแววตาเย็นชา บนใบหน้าเริ่มมีอาการโมโห
ตอนนี้สำนักงานใหญ่สมาคมธุรกิจเมืองก่างอยู่ในการควบคุมของเขากับหลินอิ่งทั้งหมดแล้ว
เอกสารธุรการที่เก็บไว้ในอาคารสำนักงานใหญ่ ล้วนก้าวก่ายถึงความลับทางการค้ามากมาย จะให้ไปอยู่ในมือคนอื่นง่ายๆได้ยังไง?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า เบื้องหลังของหัวหน้ากรมหลัวและหัวหน้ากองพิเศษเฉานั้น อาจจะเป็นจี้ฉงซานก็ได้
จะให้สองคนนี้บุกเข้าไป เขาก็ไม่มีหน้าไปร่วมงานกับหลินอิ่ง และยังร่วมกันแบ่งปันธุรกิจในเมืองก่างอีกแล้ว
“ทั้งสองทำงานรีบร้อนหละหลวมเกินไปหรือเปล่า? สำนักงานใหญ่สมาคมธุรกิจนั้นเกี่ยวพันถึงธุรกิจทั้งเมืองก่าง สถานการณ์การพัฒนาการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงิน พวกคุณจะเข้ามาตรวจข้นเอกสารลับได้ง่ายๆแบบนี้?” ฉู่สงซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หัวหน้ากรมหลัวพูดอย่างเชื่องช้า “ประธานฉู่ ไม่ใช่พวกเราไม่ไว้หน้าคุณ แต่ว่าประธานหลินของคุณ หลินอิ่ง สร้างความวุ่นวายในระบบการเงินของเมืองก่าง ทำให้เกิดความปั่นป่วนในตลาด”
“ไม่ใช่ว่าผมอยากจะจ่อจงกับประธานหลินของพวกคุณ แต่ผมได้รับการร้องเรียนจากคนอื่น ถึงได้มาตรวจสอบ อีกอย่าง ประธานหลินของพวกคุณ ทำพฤติกรรมผิดกฎหมายหลายอย่าง”
“ในมือผมกำหลักฐานไว้บางส่วน สามารถยืนยันได้ว่าหลินอิ่งทำการลงทุนผิดกฎหมายในเมืองก่าง ทำการผูกขาดทางการค้า ตามกฎหมายพาณิชย์แล้ว สามารถทำการเอาผิดเขาได้ ให้เขาชดใช้ค่าปรับจนล้มละลายได้แน่นอน”
หัวหน้ากรมหลัวพูดอย่างเฉื่อยชาไม่ใส่ใจ หัวหน้ากองพิเศษเฉาก็รีบพูดหาเรื่องด้วย “ใช่แล้ว พวกเราก็แค่กังวลผลกระทบที่ไม่ดี ถึงได้เข้ามาตรวจสอบด้วยตัวเอง ผมขอพูดอย่างไม่เกรงใจหน่อยนะ ถ้าจะให้พวกเราเอาจริงขึ้นมา ตอนนี้ก็สามารถตรวจยึดบริษัททั้งหมดในเมืองก่างของประธานหลิน และตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมดของเขาได้”
ทั้งสอง คนนี้คำคนนั้นคำ ใช้ถ้อยคำที่แข็งแกร่ง
ฉู่สงซานสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนหลินอิ่งมา เขาจะตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ เพราะว่าหลินอิ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการร่วมมือครั้งนี้
“ใช่เหรอ? มีคนร้องเรียนผม? ใคร?”
เวลาเดียวกัน นอกแผนกต้อนรับมีเสียงชายหนุ่มอันเย็นชาดังขึ้น
หลินอิ่งเดินเข้ามาพร้อมฮาเดสและคริส
เขามองหน้าหัวหน้ากรมหลัวและหัวหน้ากองพิเศษเฉา
“คนร้องเรียนคือจี้ฉงซานเหรอ? เขาส่งคุณสองคนมา?”
หลินอิ่งดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงอย่างสง่า มองไปที่ทั้งสองคนและพูดอย่างเชื่องช้า
“คุณก็คือหลินอิ่ง?” หัวหน้ากองพิเศษเฉาสังเกตมองหลินอิ่งอย่างดี หรี่ตาลงเล็กน้อย
“พร่ำเพ้อ” หัวหน้ากรมหลัวสีหน้าโมโหเล็กน้อย พูดย้อนทันที “พวกเราทำงานทำไมต้องฟังคำสั่งจี้ฉงซาน? สรุปแล้วก็คือ มีประชาชนมากมายที่ร้องเรียนคุณ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาหลักฐานออกมา ผมมาเมืองก่าง ธุรกิจทั้งหมดดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย ไม่ทราบว่าพวกคุณได้รับผลสรุปมาจากไหน ว่าผมสร้างความวุ่นวายในระบบการเงิน?” หลินอิ่งพูดเสียงเย็นชา
หัวหน้ากรมหลัวแห่งกรมพาณิชย์อะไรนั้น ก็เป็นแค่ข้าราชการนั่งตำแหน่งไร้ผลงานไปวันๆเท่านั้น
จี้ฉงซานเฟื่องฟูในเมืองก่างมานานปีขนาดนี้ หาเงินจากการเก็งกำไรซื้อขายที่ดิน ทำการผูกขาดตลาดอย่างโจ่งแจ้ง เขาไม่ไปตรวจ
เขาแค่รับซื้อบริษัทที่เมืองก่างเพียงไม่กี่บริษัทโดยเงินสดทองแท้ ก็กลายเป็นทำลายระบบการเงินแล้ว?
คิดว่าเขาเป็นคนรังแกง่ายอย่างนั้นเหรอ?
“หลินอิ่ง คุณช่วยทำตัวดีๆหน่อย ตอนนี้ผมกำลังถามคำถามคุณอยู่” หัวหน้ากรมหลัวพูดด้วยสีหน้าโมโห “คุณอย่าคิดว่าทำอะไรคุณไม่ได้ คุณทำธุรกิจในเมืองก่าง ก็ต้องรักษาระเบียบของเมืองก่าง”
“คุณใช้อำนาจยึดบริษัทลาตินในเมืองก่าง และจงใจปั่นหุ้น สร้างความวุ่นวายในตลาดหุ้น” หัวหน้ากรมหลัวพูดเสียงเย็นชา “เรื่องพวกนี้ผมมีหลักฐานหมด”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เรียกคนของลาตินกรุ๊ปมาสอบได้ ถามพวกเขาว่ามีปัญหาอะไรไหม” หลินอิ่งพูดอย่างเชื่องช้า รับน้ำชามาจากมือคริส ค่อยๆดื่มไปคำหนึ่ง “สำหรับเรื่องตลาดหุ้นเมืองก่าง คุณแน่ใจหรือว่าตลาดหุ้นปั่นป่วน? แต่ไม่ใช่จี้ฉงซานควบคุมให้ตลาดหุ้นปั่นป่วน เพราะฉะนั้นทำให้พวกคุณอยู่ไม่สุขแล้ว?”
“คุณ!” หัวหน้ากรมหลัวสีหน้าโมโห ถูกหลินอิ่งถามกลับจนโมโห
ตอนแรกเขาจะมาข่มขู่หลินอิ่ง ปรากฏกลับกลายเป็นว่าถูกหลินอิ่งถามจนพูดอะไรไม่ออก
“คุณหลิน คุณอย่าอวดดีเกินไป” หัวหน้ากองพิเศษเฉาจ้องหน้าหลินอิ่งพูด “พฤติกรรมของคุณในวงการธุรกิจ สักวันกรมพาณิชย์ต้องชำระบัญชีอย่างชัดเจนแน่นอน ตอนนี้ ผมจะมาบอกคุณถึงปัญหาที่ใหญ่หลวงข้อหนึ่ง”
“ทำไมสมาคมธุรกิจเมืองถึงต้องล้มตำแหน่งหัวหน้าสมาคมของคุณท่านจี้กะทันหัน รบกวนคุณอธิบายมาอย่างละเอียด”
“ในเรื่องนี้เพราะคุณกักขังหน่วงเหนี่ยวผิดกฎหมาย และเอาเรื่องความปลอดภัยของสมาชิกสมาคมธุรกิจมาข่มขู่ใช่ไหม?”
“ผมได้รับการร้องเรียน บอกว่าคุณกักขังหน่วงเหนี่ยวผิดกฎหมายต่อสมาชิกสมาคมธุรกิจ ตั้งหลายวันแล้ว ที่ไม่พบเห็นสมาชิกของสมาคมในเมืองก่าง”
“ผมจะบอกคุณว่า เมืองก่างเป็นสถานที่ให้ความสำคัญกับกฎหมาย ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะทำอะไรตามใจชอบ” หัวหน้ากองพิเศษเฉาพูดก้าวร้าว จ้องหลินอิ่งสายตาเย็นชา
หลินอิ่งวางแก้วน้ำชา ส่ายหัวยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไม? ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธุรกิจเมืองก่าง มีเพียงจี้ฉงซานคนเดียวที่นั่งได้เหรอ? คนอื่นนั่งไม่ได้?”
“ผมก็เป็นคนให้ความสำคัญกับกฎหมาย” หลินอิ่งพูด “พวกคุณพูดปากเปล่าไร้หลักฐาน ก็อย่ามาพูดจาใส่ร้ายกันที่นี่”
“พวกคุณจำไว้ คำพูดและพฤติกรรมของพวกคุณทุกอย่าง นั้นหมายถึงกรมพาณิชย์และกองพิเศษหวู่อัน”
ได้ยินแล้ว หัวหน้ากองพิเศษเฉาสีหน้าโมโห พูดอย่างเย็นชา “ได้ งั้นผมจะเอาหลักฐานให้คุณ สมาชิกสมาคมธุรกิจถูกคุณขังไว้ในอาคารสำนักงานใหญ่ใช่ไหม? ตอนนี้ ผมจะตรวจค้นอาคาร ให้พวกเขาออกมาเป็นพยานกันซึ่งๆหน้า”
“ก็ได้ คุณเรียกสมาชิกสมาคมธุรกิจเป็นสอบได้” หลินอิ่งพูดอย่างเฉื่อยชา “ผมให้สมาชิกสมาคมทุกคนมาที่นี่ พวกเขาทุกคนอยู่ในอาคารสำนักงานใหญ่พอดี ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณตรวจค้น”
“เพียงแค่” หลินอิ่งมองหัวหน้ากองพิเศษเฉาด้วยสายตาเย็นชา “ถ้าหากว่า เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด คุณ จะให้คำอธิบายยังไงกับผม?”
หัวหน้ากองพิเศษเฉาสีหน้าเปลี่ยน รับรู้ถึงความเย็นเยือกที่ถาโถมเข้ามา ใจสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“ความจริงทุกอย่างผมต้องสอบให้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ผมจะขอโทษคุณเอง” หัวหน้ากองพิเศษเฉาพูดอย่างจริงจัง “ถ้าหากผมตรวจสอบอะไรไม่ดีออกมา ถ้าอย่างนั้น หลินอิ่ง วันนี้คุณต้องตามผมไปที่กองพิเศษหวู่อันสักรอบ”