หลินอิ่งสีหน้าเรียบเฉย ดื่มน้ำชาอย่างไม่แยแส พูดว่า “ผมนั่งตรงไหน ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกบคุณ แล้วคุณเป็นใคร?”
“ฉันเป็นใคร? เหอะเหอะเหอะ”
ชายผมหยิกสีหน้าเต็มไปด้วยความยโสโอหัง ยิ้มแล้วเขย่าแก้วไวน์ในมือ
“เสี่ยวเผ่ย นายไปบอกคนร่วมชาติหน้าโง่ของนายหน่อย ว่าฉันเป็นใครกันแน่”
เสี่ยวเผ่ยตั้งแต่ชายผมหยิกมาแล้ว สีหน้าดีใจ พูดจาก็มั่นอกมั่นใจขึ้น
“ท่านนี้ เป็นถึงคุณชายแห่งตระกูลอภิมหาเศรษฐีประเทศYแห่งยุโรปเหนือ คุณฮามา” เสี่ยวเผ่ยแนะนำด้วยสีหน้าได้ใจ “นายพูดกับคุณฮามา ทางที่ดีระวังคำพูดด้วย”
“คุณชายอภิมหาเศรษฐีประเทศYแห่งยุโรปเหนือ?” หลินอิ่งมุมปากยิ้มขึ้น ส่ายหน้า
ประเทศYก็แค่เป็นประเทศเล็กๆเท่านั้น
คุณชายอภิมหาเศรษฐี?
ระดับแค่นี้ เมื่อเทียบกับตระกูลโครเมียร์ หรือว่าตระกูลระดับประเทศที่ครอบคลุมทั้งโลกมืดอย่างตระกูลพอร์ตเล็ต มันต่างกันมากเกินไป
“แกส่ายหน้าอะไร?” หญิงสาวประเทศหลุงคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายฮามา สีหน้าไม่พอใจ มองหลินอิ่งอย่างเย็นชา “ดูท่าทางหน้าโง่อย่างแก ไปนั่งที่นั่งวีไอพีไม่รู้ที่ต่ำที่สูง แกไม่พอใจใช่ไหม?”
“เมื่อกี้ถามน้องชายฉันหมายความว่ายังไง? เขาพูดผิดตรงไหน?” สาวสวยจ้องหน้าถามหลินอิ่งอย่างไม่พอใจ “หรือว่าแกไม่ได้นั่งที่ผิด? น้ำหน้าอย่างแกหรือจะให้คุณแอนนาเชิญไปนั่งในที่นั่งวีไอพีเหรอ?”
ใครจะไม่รู้ ตระกูลโครเมียร์เป็นคนตาสูง ทำอะไรมักสูงส่ง ในสถานที่สำคัญแบบนี้ งานเลี้ยงที่เชื้อเชิญบรรดามหาเศรษฐีทั่วเมืองก่างมากมายแบบนี้ ทำไมถึงให้ชายหนุ่มประเทศหลุงคนหนึ่งไปนั่งในที่นั่งวีไอพีได้?
โดยเฉพาะ เด็กหนุ่มคนนี้ดูแปลกหน้ามาก ไม่ใช่คนที่จะมาอยู่ในแวดวงสังคมไฮโซได้
คาดว่า คงเป็นคนจากบริษัทเล็กๆมาเปิดหูเปิดตา
หลินอิ่งยิ้มเรียบเฉย พูดว่า “ผมรู้สึกว่าพูดคุณตลกมา ผมนั่งตรงไหน ควรทำยังไง เกี่ยวอะไรกับพวกคุณเหรอ?”
“แน่นอน คนไร้ชื่อเสียงอย่างแก ไอ้คนไร้น้ำยาคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาอวดดีต่อหน้าพวกเรา ยังไปนั่งที่นั่งวีไอพี?” หญิงสาวพูดและหัวเราะเย็นชา “ไม่รู้จักส่องกระจกดูน้ำหน้าตัวเอง? ฐานะขี้หมาอะไร ยังอยากนั่งอยู่เหนือพวกเรา?”
“รู้ว่าคนที่มาที่นี่วันนี้ เป็นคนฐานะตำแหน่งอะไรบ้างไหม?”
“ใช่แล้ว ท่าทางยากจนอย่างแกนั่นเหรอ ยังทำตัวรวยไปนั่งที่นั่งวีไอพี?” ฮามาสีหน้าไม่พอใจ “ฉันทำธุรกิจในเมืองก่างนานขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นหน้าแก”
“คนมีหน้ามีตาในเมืองก่างฉันเคยทักทายเห็นหน้ามาหมดแล้ว ฉันไม่รู้จักแก นั่นก็หมายความว่า ฐานะแกต่ำเกินไป แกมันก็แค่ไอ้ขยะไร้น้ำยา”
ฮามาพูดด้วยน้ำเสียงยโสโอหัง
หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา ยกน้ำชาขึ้นดื่มคำหนึ่ง
เขาไม่เข้าใจจริงๆ สมองของคนพวกนี้ใส่อะไรกันบ้าง
คนที่เขาไม่รู้จัก ก็คือขยะไร้น้ำยา?
ตรรกะนี้ช่างซาบซึ้งจริงๆ
“ว้าว นั่นคือคุณฮามา แล้วก็ดาราดังหลี่เหมิงเล่อด้วย”
“ไอ้เด็กหนุ่มที่นั่งดื่มชาคนนั้นคือใคร ทำไมยังกล้าอวดดีต่อหน้าคุณฮามากับสาวสวยหลี่อีก? นี่มันรนหาที่ตายเหรอ?”
“โอ้โห พวกเธอเห็นไหม? เด็กหนุ่มนั่นยังกล้าไปนั่งในที่นั่งวีไอพี? คิดว่าตัวเองเป็นใครเนี่ย?”
ขณะที่ฮามาพูดจาหาเรื่องหลินอิ่งอยู่ ก็ดึงดูดความสนใจของคนในงานส่วนใหญ่มองมา ทำให้เกิดความวุ่นวาย
เพียงครู่เดียว แขกที่เข้ามาในงาน ต่างก็พากันมามุงดู สังเกตหลินอิ่งด้วยสีหน้าสงสัย
ต้องรู้ว่า คุณฮามาเป็นมหาเศรษฐีต่างชาติที่มีชื่อเสียงมากในแวดวงมหาเศรษฐีเมืองก่าง
ลูกชายของอภิมหาเศรษฐีประเทศYแห่งตะวันตก ตระกูลทำธุรกิจเครื่องบิน บริษัทขนาดใหญ่ มีเงินมหาศาล
ส่วนผู้หญิงข้างกายที่ฮามากอดอยู่ ชื่อว่าหลี่เหมิงเล่อ เป็นคนมีชื่อเสียงแห่งเมืองก่าง ดาราสาวที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง
ไม่เพียงแค่ในเมืองก่าง มีชื่อเสียงมากในวงการบันเทิงประเทศหลุง ช่วงนี้หนังที่เธอแสดงเป็นนางเอกกำลังเข้าฉายอย่างโด่งดัง คนพูดถึงกันทั่ว เพราะฉะนั้นในสถานที่สังคมแบบนี้ ชื่อเสียงก็โด่งดังไม่น้อย
“แกชื่ออะไร? บอกชื่อตระกูลแกมา” ฮามามองหน้าหลินอิ่งด้วยสีหน้าไม่พอใจ พูดจาเหยียดหยาม
หลินอิ่งวางแก้วน้ำชา พูดเสียงเรียบ “หลินอิ่ง”
“หลินอิ่ง? เมืองก่างมีตระกูลหลินเหรอ? แกเป็นลูกชายตระกูลไหน? กล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าฉัน? ฉันจะโทรหาผู้ใหญ่บ้านแก ให้พวกเขาสั่งสอนแกดีๆหน่อย” ฮามาพูดอย่างยโส
ตามที่เขารู้ ในเมืองก่างไม่เคยมีตระกูลหลิน
หลินอิ่ง? ไม่เคยได้ยิน
ไอ้ขยะไร้น้ำยาที่โผล่ออกมาจากไหน?
ยังกล้าอวดดีที่นี่?
“ไม่รู้ไอ้เด็กบ้าที่ไหน เสียอารมณ์จริงๆ” หลี่เหมิงเล่อพูดด้วยสีหน้าดูถูก ชี้หน้าหลินอิ่ง “แก รีบขอโทษน้องชายฉันเดี๋ยวนี้”
“ขอโทษเขา?” หลินอิ่งมองไปอย่างรู้สึกสนใจ “เพราะอะไร?”
“ไม่เพราะอะไร หลินอิ่ง แกรีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ขอโทษน้องชายฉันเดี๋ยวนี้”
หลี่เหมิงเล่อตะโกนต่อว่าเย็นชา ท่าทางยโส
เธอดูท่าทางเฉยชาของหลินอิ่งแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ใครที่เห็นคุณฮามาข้างกายเธอแล้ว ไม่เคารพบ้าง?
ไอ้น่าโง่ไร้แววตานี่ ไม่แค่หาเรื่องน้องชายเขา ยังทำตัวอวดดีต่อหน้าดาราชื่อดังอย่างเธออีก?
จากการแต่งกายของหลินอิ่งแล้ว เหมือนนักเรียนที่ยังเรียนมหาลัยอยู่ มาสถานที่ไฮโซแบบนี้ แม้แต่เสื้อผ้าดูดีสักตัวก็ไม่มี ยังแสดงอย่างกับปัญญาอ่อน
ฐานะต่ำต้อยขนาดนี้ ยังมีหน้ามาอวดดีกับเธออีก?
“เหอะ” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา “น้องชายคุณทำผิด คนที่ต้องขอโทษ คือเขา”
“แกพูดอีกครั้งซิ”
ฮามามองหน้าหลินอิ่งอย่างโมโห
“แม้แต่ชื่อวงศ์ตระกูลก็ไม่กล้าบอก ยังกล้ามาอวดดีที่นี่อีก? ถ้าไม่เห็นแกหน้าคุณแอนนา วันนี้ฉันก็จะไม่จัดการแกที่นี่” ฮามาพูดเสียงเย็นชา ท่าทางดูเหมือนอยากฆ่าคน
“น้องชายฉันว่าแกแค่สองคำ แกก็ไม่พอใจแล้วเหรอ คนอย่างแก แม้แต่เลียขาของพวกเรายังไม่มีสิทธิ์เลย แกไม่รู้จักดูสถานการณ์หน่อย ท่าทางอย่างแกเหรอ คนในนี้มีใครที่แต่งกายไม่สมศักดิ์ศรีบ้าง?” หลี่เหมิงเล่อพูดจาเสียดสี “ถ้าฉันเป็นแก คงหากำแพงชนหัวตายไปแล้ว ยังมีหน้ามานั่งที่แขกวีไอพีอีก? ดึงดูดความสนใจคนอื่น น่าตลกจริงๆ”
ฮามาทั้งสองยิ้มอย่างดูถูก พูดจาเสียดสีไม่หยุด
อยู่ในแวดวงไฮโซ ในใจก็ต้องรู้บ้าง
คนต่ำต้อยก็ควรหลีกทางให้คนสูงกว่า ก้มหัว ขอโทษ
ไอ้ขยะไร้น้ำยาอย่างหลินอิ่งแบบนี้ ไม่มีฐานะอะไรแม้แต่น้อยในเมืองก่าง เห็นคนอย่างพวกเขา ก็ควรเลียแข้งเลียขาถึงจะถูก
ยังกล้าแสดงท่าทางยโสอวดดีแบบนี้อีก?
“คุณฮามา คุณหลี่ พวกคุณใจเย็นๆหน่อย จากฐานะของพวกคุณสองคน ไม่จำเป็นต้องไปถือสากับคนต่ำต้อยไร้น้ำยาแบบนี้” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูด
“ใช่ พวกท่านสองคน ไปถือสากับคนอย่างหลินอิ่ง ลดตัวเองลงไปเปล่าๆ” ชายวัยกลางคนพูดเสียดสีขึ้นอีก “คนหน้าด้านแบบนี้ ไม่มีอะไรต้านทานได้ ไม่รู้จักเจียมตัวเอง จะไปนั่งที่วีไอพี ยังไม่ยอมขอโทษให้น้องชายซุปเปอร์สตาร์หลี่อีก พวกเราก็อย่าไปถือสามันเลย”
“ไม่ว่ายังไง ทุกคนแค่รู้ว่า ไอ้ไร้น้ำยาคนนี้มันหน้าด้านไปนั่งในที่นั่งวีไอพี แค่นี้ก็พอ”