“ฮาฮาฮา พวกคุณพูดถูก ฉันเห็นด้วย”
ฮามามองคนในงานต่างก็ยืนอยู่ฝั่งตัวเอง ช่วยกันพูดจาเสียดสีหลินอิ่ง ก็หัวเราะกันฮาฮาขึ้นมา สีหน้าพอใจ
“ทั้งๆที่เป็นแค่ไข้ขยะไร้น้ำยาคนหนึ่งเท่านั้น ยังมาทำตัวเสแสร้งต่อหน้าพวกเราอีก?” ฮามาพูดจาหัวเราะเย็นชา สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก “แกไม่เห็นเหรอ? คนที่มาร่วมงานพิธีเปิดงาน ไม่มีคนรู้จักแกเลย”
“นี่ยังไม่พอเพียงที่จะอธิบายเหรอ? แกมันก็แค่คนไร้ชื่อเสียงเท่านั้น?”
“หลินอิ่ง ทางที่ดีแกควรไปสืบดูหน่อย ว่าพวกเราเป็นคนอะไรกันบ้าง จากนั้น ค่อยมาพูดกับฉัน กลัวแค่ว่าถึงเวลาแล้วแกจะไม่กล้า” ฮามายิ้มอย่างได้ใจ
ฮามาสีหน้าได้ใจมาก รู้สึกว่าตัวเองก็คือพระเอกในงานพิธีเปิดงานนี้
ไอ้ไรน้ำยาที่ชื่อหลินอิ่งนั่น ยังมาหาเรื่องตัวเองอีก?
ไม่รู้จักดู ทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็เป็นไฮโซมีหน้ามีตาในสังคม ต่างก็พูดเข้าข้างตัวเอง
ส่วนหลินอิ่ง ในงานไม่มีคนรู้จักเลย
เห็นได้ชัด ว่าหลินอิ่งเป็นแค่คนไร้ชื่อเสียงในแวดวงสังคมเมืองก่าง ไม่มีความสัมพันธ์ไม่มีคนรู้จัก
สามารถมาร่วมงานเลี้ยงพิธีเปิดบริษัทสาขาของโครเมียร์กรุ๊ป บางทีอาจจะแอบเข้ามาก็ได้
“คุณฮามา ไอ้หลินอิ่งอะไรนี่ ดูเหมือนจะไม่ยอมขอโทษท่านและเพื่อนของท่าน ต้องการให้ผมช่วยไหม? ผมจัดการให้คุณได้ทุกอย่าง รอหลินอิ่งออกจากอาคารไวโอเลต ผมจะไปจัดการเอาตัวมาให้ท่านเอง” ชายวัยกลางคนสีหน้าเจ้าเล่ห์ พูดกับฮามาอย่างเคารพ
“คุณฮามา ซุปเปอร์สตาร์หลี่ ไม่รบกวนสองท่านลงมือ ไอ้ขยะแบบนี้ เดี๋ยวผมจัดคนในสมาคมไปจัดการมันจนพิการเลย” มีชายร่างอวบอีกคนยิ้มอย่างเย็นชามองหลินอิ่ง
หลินอิ่งส่ายหัว มุมปากยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
เขาไม่เข้าใจจริงๆ คนพวกนี้แต่ละคนก็ไม่รู้จัก เข้ามาก็ไม่รู้จักแยกแยะผิดถูกช่วยฮามาพูดขึ้นทันที หวังอะไรกันเหรอ?
“พวกคุณชอบคุกเข่าเลียแข้งเลียขาพวกฝรั่งมากใช่ไหม? พวกคุณรู้เรื่องราวความเป็นมาแล้วเหรอ?” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย มองไปที่คนพวกนั้นที่มามุงดู
“เรื่องราวเป็นมายังไงยังไม่รู้เรื่อง พวกคุณยังมาเอะอะเสียงดังที่นี่”
หลินอิ่งยกน้ำชาขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น จีบไปคำหนึ่ง
วางแก้วน้ำชาลง หลินอิ่งมองฮามา พูดอย่างเรียบเฉย “คุณไม่รู้จักผม นั่นก็หมายความว่า คุณกับผมมันคนละระดับกัน”
“คุณพูดมามากมายขนาดนี้ แต่ผมยังคงนั่งอยู่ในที่นั่งวีไอพีของตระกูลโครเมียร์”
“ผมกล้านั่งในที่นั่งวีไอพี คุณละ คุณกล้านั่งไหม?”
“ที่นั่งที่ผมนั่ง คุณไม่กล้านั่ง? นี่ยังไม่พอที่จะอธิบายอีกเหรอ ว่าคุณกับผมมันต่างกันแค่ไหน?”
พูดจบ หลินอิ่งก็ปิดปากเงียบ เทน้ำชาให้ตัวเอง หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร กินอย่างใจเย็น
“แก ไอ้ไร้น้ำยาประเทศหลุงแกอยากตายเหรอ” ฮามาพูดอย่างโมโห ถูกคำพูดของหลินอิ่งทำให้โมโห
“แกคอยดูละกัน ไอ้ไร้น้ำยา รอคนของตระกูลโครเมียร์มา ต้องโยนแกลงทะเลเลี้ยงฉลามแน่ แกก็อวดดีไปก่อนเถอะ” ฮามาโมโหหนัก เกลียดจนอยากเข้าไปต่อยหลินอิ่ง
คนไร้น้ำยาแบบนี้คนเดียว กล้ามาถามเขาว่ากล้านั่งที่นั่งวีไอพีไหม?
ช่างอวดดีเหลือเกิน
โกรธก็โกรธ ฮามาก็ไม่กล้านั่ง
เพราะว่า เขายังไม่มีสิทธิ์
ที่นั่งวีไอพีของตระกูลโครเมียร์ นั่นมีไว้ให้แขกพิเศษจริงๆ ต้องได้รับคำเชิญจากตระกูลเขา ถึงจะนั่งได้
ถ้าหากไม่รักษาระเบียบ ไปนั่งที่นั่งวีไอพีไปเลื่อย ก่อกวนระเบียบ
ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ต้องเผชิญก็คือความโมโหจากตระกูลโครเมียร์
ฮามารู้ตัว ถึงแม้พ่อของเขาจะเป็นอภิมหาเศรษฐีประเทศY ก็คุ้มหัวเขาไม่อยู่
ไปมีเรื่องกับหลินอิ่งเพราะความโมโหชั่วขณะ ไปนั่งบนที่นั่งวีไอพี สิ่งที่ต้องชดเชย ก็คงจะเป็นชีวิต
“ไม่กล้าใช่ไหม?” หลินอิ่งหัวเราะเย็นชา ส่ายหัว “ผมไม่เข้าใจจริงๆ”
“พวกคุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะนั่งเท่าเทียมกับผม เอาความกล้าจากไหนมา ปากมากที่นี่?”
“แก? แกพูดอะไร? แกนี่มันอวดดีจริงๆ”
“ไอ้เด็กแซ่หลินนั่น อวดดีจนขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ไม่มีพวกเราทุกคนในสายตาเลย กล้าเหยียดหยามทุกคน”
“แม่งเอ้ย ถ้าไม่เห็นแก่อยู่ในงานเลี้ยงตระกูลโครเมียร์ ฉันจะเข้าไปตบหน้ามันสักสองครั้ง”
คนที่มามุงดู ต่างก็สีหน้าโมโห จ้องหน้าหลินอิ่งด้วยความโกรธ ท่าทางทุกคนที่กระตือรือร้น โมโหจนอยากเข้าไปจัดการหลินอิ่ง
คำพูดของหลินอิ่ง เหยียดหยามทุกคนอย่างไร้เยื่อใย
คนที่ฐานะไม่ชัดเจนคนหนึ่ง ไอ้เด็กหนุ่มหน้าโง่ มีสิทธิ์อะไรมาปากเสียกับผู้ดีมีตระกูลอย่างพวกเขา?
ยังนั่งกินอาหารในที่นั่งวีไอพีอย่างโจ่งแจ้ง? ยังบอกว่าพวกเขาไม่กล้านั่ง?
“หน้าไม่อายจริงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองฐานะอะไรยังไปนั่งที่นั่งวีไอพี ยังกล้ามาพูดจาอวดดีกับพวกเรา?”
“ยังบอกว่าพวกเราเลียแข้งเลียขาฝรั่ง? แม่งเอ้ย ไม่รู้จักดูฐานะตัวเอง? คุณฮามาเขาเป็นถึงคุณชายอภิมหาเศรษฐีแห่งประเทศY ฐานะสูงส่ง? แกมันก็แค่คนกระจอกคนหนึ่ง ยังมีหน้ามาเทียบกับคนอื่นเขาอีก?”
“เหอะเหอะ ไอ้หลินอิ่งอะไรนี่มันใจใหญ่จริงๆ? ไอ้ยากจนคนหนึ่ง มาอวดดีในสถานที่แบบนี้ ยังกล้ามาเปรียบเทียบกับคุณฮามาอีก?”
“ใช่ พวกเราจำเป็นต้องรู้สถานการณ์ด้วยเหรอ? ตลกสิ้นดี ผู้ใหญ่ต้องพูดเรื่องผิดถูกด้วยเหรอ? กับแค่หนุ่มยากจนคนเดียว ไร้ฐานะตำแหน่ง แม้แค่นิ้วของคุณฮามายังเทียบไม่ได้เลย”
“พูดน่าเกลียดหน่อย คนอื่นเขารังแก แกจะทำอะไรได้? แกฐานะอะไร ในใจจะไม่รู้เลยเหรอ?”
หลังจากคำพูดของหลินอิ่ง คนที่มามุงดูต่างก็พูดจาเสียดสีอย่างไม่พอใจ
พวกเขามาก็เพื่อจะประจบนายทุนใหญ่ฮามาคนนี้ เข้ามาช่วยกันพูด เพื่อให้เขาประทับใจ
แต่ใครจะไปรู้ ว่าจะโดนไอ้หลินอิ่งนี่มาด่าว่าเลียแข้งเลียขา?
“เหอะเหอะ หลินอิ่ง ไอ้ไร้น้ำยาแกฟังไม่รู้เรื่องใช่ไหม? แกคิดว่าแกมีเหตุผลมากเหรอ?” หลี่เหมิงเล่อสีพูดด้วยหน้าไม่พอใจ “ยังด่าคนว่าเลียแข้งเลียขาฝรั่ง? โอ้ ฟังแล้วก็มีกลิ่นเหม็นสาบ แกทำไมไม่รู้จักคิด ทำไมคนอื่นเขาถึงไปเลียแข้งเลียขาฝรั่ง ทำไมต้องช่วยคุณฮามาพูดด้วย?”
“ถ้าแกหลินอิ่งมีความสามารถจริง ก็ให้ทุกคนไปเลียแข้งเลียขาแกซิ? ให้ทุกคนช่วยแกพูดซิ?” หลี่เหมิงเล่อพูดเสียดสี สีหน้าได้ใจ มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เหอะ ตลกสิ้นดี คนปัญญาอ่อนแบบนี้ ไม่รู้ว่ามาในงานได้ยังไง”
“หลินอิ่ง แกรู้ไหมว่าไม่รู้ระเบียบไปนั่งที่นั่งวีไอพีของตระกูลโครเมียร์ นั่นหมายความว่าแกมันไร้การศึกษาไร้มารยาทในการเข้าสังคม” หลี่เหมิงเล่อพูดด้วยสีหน้าดูถูก “ฉันไม่เคยเห็นคนหน้าด้านแบบนี้เลย ไร้การศึกษา ไร้มารยาท ไร้ระเบียบวินัย เอามาเป็นต้นทุนความอวดดีของตัวเอง?”
“หลินอิ่ง แกนี่มันตลก ปัญญาอ่อนสิ้นดี”
“ออ?” หลินอิ่งหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดคราบน้ำมันบนปาก หันไปมองหลี่เหมิงเล่ออย่างสนใจ “ไร้การศึกษา ไร้รู้จักระเบียบ? คุณดูออกจากไหน?”
“ผมนั่งบนที่นั่งนี้ นั่นเป็นเพราะคำเชิญของโครเมียร์ แอนนา ให้ผมมานั่ง” หลินอิ่งพูดอย่างใจเย็น “คุณมีปัญหาอะไรไหม?”
“ฮาฮา”
หลี่เหมิงเล่อเอามือปิดปาก หัวเราะออกมา
“กับท่าทางยากจนของแกเนี่ยนะ? ยังบอกว่าคุณแอนนาเชิญแกมานั่ง? ฮาฮา อย่าทำให้คุณอื่นหัวเราะตายเหรอ” หลี่เหมิงเล่อเอามือปิดปากหัวเราะ