“ใช้นามของคุณ? คุณเป็นตัวแทนของแก๊งหยางเหมินมาคุยกับผมเหรอ?” หลินอิ่งถามเสียงเรียบ
ในโทรศัพท์ จ้าวเฉิงเฉียนเงียบไปครู่หนึ่ง พูดว่า “ถือว่าใช่”
หลินอิ่งพูด “คุณคุยเรื่องร่วมงานกับผมคนเดียว? คุณอยู่ในตี้จิง มีอำนาจมากแค่ไหน?”
“คุณชายอิ่ง ผมก็ไม่ปิดบังคุณแล้ว พูดอย่างไม่เกินจริง ผมคนเดียว สามารถแทนตระกูลจ้าวได้ทั้งตระกูล” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “เมืองเทียนหลงซึ่งเป็นสิ่งที่จะตัดสินผลประโยชน์ในตี้จิงของเหล่าตระกูลผู้ดี ผมจะขอแบ่งสักนิดไม่ได้เหรอ”
“คุณกับผมร่วมงานกัน พอเพียงที่จะเอาเมืองเทียนหลงไว้ได้” จ้าวเฉิงเฉียนค่อยๆพูด “คุณเอาชิ้นใหญ่ไป ผมขอส่วนแบ่งแค่สามส่วนก็พอ”
“อย่างน้อยผมก็รับประกันกับคุณได้ จะให้ชีซิงกรุ๊ปไสหัวออกจากตี้จิง ไม่ได้อะไรจากเมืองเทียนหลงไปเลย”
“ออ?” หลินอิ่งเริ่มรู้สึกสนใจ “คุณมีความมั่นใจมาก แต่ว่า ลำพังแค่ขับไล่ชีซิงกรุ๊ปออกไป ผลงานนี้ เอาส่วนแบ่งจากเมืองเทียนหลงไม่ได้”
ต้องบอกว่า คำพูดของจ้าวเฉิงเฉียนดึงดูดความสนใจของเขา
จ้าวเฉิงเฉียนยังไงก็เป็นตัวแทนของแก๊งหยางเหมิน อำนาจที่อยู่เบื้องหลังดูถูกไม่ได้
ต้องรู้ว่า ครั้นนั้นในตระกูลกงซุน การแย่งชิงอำนาจภายใน ก็มีแก๊งหยางเหมินคอยจัดแผนการอยู่ในที่ลับ
“คุณชายอิ่ง คุณกับผมต่างก็ไม่ใช่คนทางโลกทั่วไป ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ผมต้องการธุรกิจในเมืองเทียนหลง ยินดีให้ความช่วยเหลือกับคุณ ถ้าหากคุณคิดว่าจัดการชีซิงกรุ๊ปอย่างเดียวไม่พอ ผมก็สามารถช่วยคุณจัดการคนต้าเหอในตี้จิงได้ และแม้แต่ช่วยคุณกดดันตระกูลสวีก็ได้” จ้าวเฉิงเฉียนพูดเสียงเคร่งขรึม
“แน่นอน ก็ต้องดูว่าคุณยอมให้ผลประโยชน์เท่าไหร่”
หลินอิ่งหัวเราะ พูดว่า “ตระกูลสวีก็ดี ชีซิงกรุ๊ปก็แล้ว ต่างก็สร้างความกดดันให้ผมไม่น้อย สำหรับคนต้าเหอที่คุณพูดถึง ทำไม? คืนนั้นที่อาคารเลคอาร์ตสัมผัสกับคนต้าเหอพวกนั้นแล้ว ได้ข่าวกรองสำคัญอะไรมาบ้าง?”
เห็นได้ชัดว่า จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเปิดอก มีการเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว
ตระกูลสวีและชีซิงกรุ๊ป เขาจัดให้นิ่งซวนและหรงหยังจัดการตั้งนานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับคนต้าเหอกงจิ่ว ไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย โดยเฉพาะยาพิษของคุณปู่ ยังต้องจับตัวกงจิ่วเพื่อถอนพิษ
จ้าวเฉิงเฉียนพูด “ผมรู้ร่องรอยประจำวันของคนต้าเหอแล้ว หากไม่ผิดพลาด ไม่นานผมก็สามารถหาได้ กงจิ่ว คนนั้นที่คุณอยากลากตัวออกมา”
“คุณรู้จักกงจิ่ว?” หลินอิ่งแววตาเฉียบคมยิ่งขึ้น
“คุณชายอิ่ง ผมเคยสัมผัสกับกงจิ่วก่อนคุณ ผมคุ้นเคยกับเขาดี คนต้าเหอคนนี้ไม่ธรรมดา” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “ถ้าหากผมเดาไม่ผิด บนตัวเขามีของบางอย่างที่คุณต้องการ คือยาถอนพิษ?”
“คุณจะรู้มากเกินไปแล้ว?” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
“อย่าเข้าใจผิด คุณชายอิ่ง จะติดตามเรื่องพวกนี้ไม่ได้ยาก ผมจับตาดูการแย่งชิงระหว่างคุณกับตระกูลสวีตลอด หลังจากนั้นผมก็รู้มาว่าผู้หญิงที่ถูกลอบฆ่าคืนนั้นคือคนของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน บวกกับก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องอาการป่วยของนายท่านฉีในตี้จิง ก็คาดเดาได้ไม่ยาก” จ้าวเฉิงเฉียนค่อยๆพูด
“ในเมื่อรู้เรื่องแล้ว ผมก็ต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “คุณชายอิ่ง คุณต้องเชื่อความจริงใจในการร่วมงานของผม คุณมาถึงตระกูลจ้าว ผมจะเอาที่อยู่และกิจวัตรประจำวันของผู้คุ้มกันทั้งสองคนของกงจิ่วให้คุณ”
หลินอิ่งแววตาเฉียบคม รู้ว่าจ้าวเฉิงเฉียนกำลังยื่นความต้องการในการร่วมงาน
จ้าวเฉิงเฉียนเข้าใจเขา ก่อนสถานการณ์จะคงที่ เห็นได้ชัดว่าเห็นเขาเป็นผู้มีอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนหลงแล้ว อยากได้ส่วนแบ่งจากเมืองเทียนหลง ยังทักทายกับเขาก่อน
จะขยันเกินไปไหม
หลินอิ่งพูด “ผมสามารถให้คุณมีที่นั่งในเมืองเทียนหลงได้ แต่ถ้าหากอยากได้สามส่วน ข้อเสนอที่คุณให้ยังไม่พอ”
“คุณเจ็ดผมสาม สิ่งที่ผมช่วยได้ เชื่อว่าคุณต้องพอใจแน่นอน” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างมั่นใจ
“คุณชายอิ่ง อีกไม่นานการประชุมสมาคมธุรกิจตี้จิง ตัดสินส่วนแบ่งในเมืองเทียนหลง” จ้าวเฉิงเฉียนค่อยๆพูด “ในมือผมมีแต้มอยู่ ทางด้านตระกูลกงซุน แล้วก็ตระกูลซือหม่าตระกูลอันดับหนึ่งในตี้จิง ผมสามารถตัดสินได้”
“คุณรู้จักกงซุนเฟยเทียน?” หลินอิ่งถาม
จ้าวเฉิงเฉียน “เขาก็ถือว่าเป็นลูกน้องของผม หมากตัวหนึ่งที่แก๊งหยางเหมินวางในตระกูลกงซุน”
“คุณชายอิ่ง ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยมีเรื่องข้องใจกับตระกูลกงซุน คุณทำลายแผนการของแก๊งหยางเหมินเราในตระกูลกงซุน” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างจริงจัง “ตอนนั้นในตระกูลกงซุน คุณเคยไป ภายในวุ่นวาย ระหว่างการต่อสู้ภายในตระกูลกงซุน ผมเคยสู้กับกงจิ่วครั้งหนึ่ง”
“เพราะฉะนั้น ผมคุ้นเคยกับกงจิ่วมาก จนเขาปรากฏตัวในตี้จิง ผมก็จับตาเขามาตลอด ถึงได้ข่าวกรองลับนี้มา”
หลินอิ่งแววตาเฉียบคม ไม่ได้ให้คำตอบ
จ้าวเฉิงเฉียนคนนี้ ไม่ธรรมดา
เหมือนดั่งที่เขาคาดเดาไว้ ความวุ่นวายในตระกูลกงซุนครั้นนั้น มีความเกี่ยวข้องกับจ้าวเฉิงเฉียน
แต่คิดไม่ถึงว่ากงจิ่วจะเข้าร่วมภายในด้วย
ตอนนั้นเขาช่วยชีวิตกงซุนฉงหลง ทำลายแผนการ พวกเขาทั้งสองฝ่ายถึงได้สูญเสียแผนการทั้งหมด
“เป็นยังไง? คุณชายอิ่ง คุณเจ็ด ผมสาม คุณกับผมร่วมมือกันครอบครองเมืองเทียนหลง เป็นเรื่องง่ายดาย” จ้าวเฉิงเฉียนพูด “ผมจะใช้อำนาจที่ใหญ่ที่สุดในตี้จิงมาช่วยเหลือคุณ”
“แน่นอน คุณให้หนทางผมเส้นหนึ่ง ผมก็จะแบ่งหนทางให้คุณเส้นหนึ่ง” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างใจเย็น
“ทางด้านตระกูลเผยแห่งจี้โจว มีโอกาส อาจจะควบคุมตระกูลในแวดวงลึกลับทั้งหมด ไม่ทราบว่าคุณสนใจหรือไม่?” จ้าวเฉิงเฉียนพูดอย่างเคร่งขรึม “พูดตามตรง ผมคนเดียวควบคุมไม่ได้ หากคุณเข้าร่วม ต้องได้แน่นอน”
หลินอิ่งกำลังครุ่นคิด ได้ยินคำพูดของจ้าวเฉิงเฉียนแล้ว รู้สึกสนใจขึ้นมา
นี่ถึงจะเป็นจุดสำคัญที่จ้าวเฉิงเฉียนมาหาเขา
ธุรกิจทรัพย์สินในโลกทั่วไป พูดตามตรง ไม่ได้มีความดึงดูดเขามากเท่าไหร่นัก
เขาจะยึดแก๊งมังกรคืน ลำพังเขาคนเดียวทำไม่ได้แน่ ไม่เพียงแค่ต้องมีรากฐานอันแน่นหนาในโลก ยังต้องมีอำนาจอันแข็งแกร่งในแวดวงลึกลับที่เพียงพอ
“เรื่องของตระกูลเผยจี้โจว รอจัดการตี้จิงให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากัน ผลประโยชน์สามส่วนผมให้คุณได้ ต้องดูว่าคุณทำได้ถึงระดับไหน” หลินอิ่งรับปาก แสดงทัศนคติ
“ได้” จ้าวเฉิงเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คุณชายอิ่ง คุณรอข่าวดีจากผมละกัน”
เสมือน พูดให้หลินอิ่งหวั่นไหวได้แล้ว สำหรับจ้าวเฉิงเฉียนแล้ว เป็นเรื่องดีอันมหาศาล
“อืม”
หลินอิ่งวางสาย นั่งพิงอยู่หลังรถ หลับตาพักผ่อน
……..
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
กลุ่มวิลล่าภูเขาชา
ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของตระกูลจ้าว ภูเขาชาทั้งหมดอยู่ในนามของตระกูลจ้าว
ดินแดนดั่งขุมทรัพย์ที่เมฆหมอกโอบล้อม น้ำดีลมดี
ระหว่างทางขึ้นเขาเต็มไปด้วยคฤหาสน์ที่หรูหราสวยงาม
ฮาเดสจอดรถไว้นอกวิลล่า หลินอิ่งลงจากรถ มือไขว้หลังเดินเข้าวิลล่าตระกูลจ้าว
หน้าประตูวิลล่า มีลูกหลานตระกูลจ้าวที่แต่งกายไม่ธรรมดายืนกันเป็นแถว ยืนอยู่สองฝั่ง รอการมาถึงของหลินอิ่ง
“ยินดีต้อนรับคุณชายอิ่ง”
วินาทีที่หลินอิ่งก้าวเท้าเข้าไป ทุกคนต่างก็ก้มหน้า กล่าวคำต้อนรับอย่างเคารพ ภาพเหตุการณ์ตระการตา
“เชิญ”
ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่ดูน่าเกรงขามยกมือบอกทาง เชิญหลินอิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลจ้าวอย่างเคารพ
