ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ณ. โรงแรมจงเทียน หลินอิ่งลงจากรถ พาฮาเดสขึ้นไปชั้นบน ตรงไปที่ห้องทำงานประธาน
ที่หน้าห้องทำงาน เย่เฮยกับหวงชิงซานยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“คุณชายอิ่ง”หวงชิงซานพูดอย่างนอบน้อม “ไม่ทราบว่าท่านเรียกระดมพวกเรามาเป็นการด่วนนี้ มีอะไรจะให้จัดการหรือครับ?”
หลินอิ่ง ล้วงกล่องดำออกมาจากกระเป๋าเสื้อ โยนให้หวงชิงซาน พูดขึ้นว่า “ในนี้มีรายละเอียดเส้นทางและที่อยู่ของสองผู้พิทักษ์สำนักยุทธ์เชียน พวกท่านดูรายละเอียดในรายงานแล้ว คืนนี้ตรงไปลงมือจับไอ้คนต้าเหอสองคนนี้เลย”
“ผู้พิทักษ์ของสำนักยุทธ์เชียน?”หวงชิงซานขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึม
เขาเคยมีความเกี่ยวพันกับสำนักยุทธ์เชียนอยู่ สมาชิกระดับผู้พิทักษ์ ฝีมือเชิงบูโดนั้นแข็งแกร่งเอาการ
“ไม่ผิด”หลินอิ่งกำชับอีกว่า “นี่เป็นข้อมูลรายงานล่าสุดที่ฉันได้มา ช้าไปจะเสียการ จะต้องรีบลงมือจับให้ได้ และต้องจับเป็น”
รายงานฉบับนี้เป็นเอกสารที่ได้มาจากมือจ้าวเฉิงเฉียน
นี้แสดงว่า จ้าวเฉิงเฉียนจับตามองพวกคนต้าเหอมานานแล้ว
เราเองเพิ่งได้รับข้อมูลนี้มา จะต้องเร่งลงมืออย่างด่วนที่สุด มิฉะนั้น ด้วยความเจ้าเล่ห์ของพวกต้าเหอ พอถ้าคนของจ้าวเฉิงเฉียนถอนการเฝ้าจับตาออก พวกเรายังไม่ทันเข้ารับช่วงต่อ เป็นไปได้ว่าจะพลาดหลุดได้
“ผมได้จัดวางกำลังคนไว้แล้วครับ พร้อมปฏิบัติการได้ทันที”เย่เฮยพูด
“คุณชายอิ่ง ผมก็พร้อมปฏิบัติการได้ทันทีครับ”หวงชิงซานพูดด้วยสีหน้าขรึม น้ำเสียงค่อนข้างเครียด
เขารู้ดีว่า นี้เป็นภาระกิจสำคัญชิ้นแรกที่หลินอิ่งมอบให้เขา
ก่อนหน้านี้ หลินอิ่งที่เคยมอบให้เขาจับตาคนต้าเหอมาหลายกลุ่ม ยังจัดไม่ได้ว่ามีความแข็งแกร่ง ขอเพียงต้องการ นาทีไหนนาทีนั้นก็สามารถถล่มปิดเกมส์ได้
แต่มาผู้พิทักษ์ของสำนักยุทธ์เชียนนี่สิ มองข้ามเป็นเรื่องเล็กไม่ได้เลย
“คืนนี้ ฉันจะไปกำกับเอง”หลินอิ่งพูดอย่างจริงจัง “ท่านผู้เฒ่าหวง ท่านช่วยไปดูรายละเอียดของข้อมูลให้จบก่อน ปล่อยให้พวกมันเดินทางเข้าจุดเป้าหมายก่อน”
“ได้ครับ”
หวงชิงซานรับคำสั่งแล้ว นำเอากล่องดำเดินเข้าห้องทำงาน เตรียมรวบรวมเอาข้อมูลทั้งหมดในนั้นออกมา
ตี๊ดๆๆๆ…
ในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเย่เฮยดังขึ้น เขามองไปที่หน้าจอ แววตาส่อความลังเล
“คุณชายอิ่ง นี่……”เย่เฮยถามอย่างระมัดระวังคำพูด
หลินอิ่งแปลกใจนิดๆ มองหน้าเย่เฮย ถามว่า “โทรศัพท์ใครหรือ?”
มันเป็นโทรศัพท์เข้ารหัสเฉพาะของเย่เฮย ปกติเขาจะเก็บตัวในที่ลับ จะไม่มีการติดต่อกับคนภายนอกเลย แล้วจะมีโทรศัพท์เข้ามาหาเขาได้อย่างไร
“คือ เป็นโทรศัพท์จากหยังสู้สู้ ครับ”เย่เฮยพูดอย่างเคร่งขรึม “ครั้งที่แล้วที่ท่านกลับมาจากเมืองก่าง ได้ให้หล่อนเข้าเรียนที่ตี้จิง ผมมาตี้จิงเที่ยวนี้ เคยได้ไปเยี่ยมสาวน้อยคนนี้”
หลินอิ่งผงกหัว พูดว่า “รับเลย”
ถ้าเย่เฮยไม่พูดถึง เขาก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
หลังจากกลับมาตี้จิง เรื่องมันช่างมากเหลือเกิน จัดยังไงก็ไม่ยอมจบ
สาวน้อยหยังสู้สู้คนนี้นั้น เมื่อครั้งที่ตัวเองได้ไปเมืองก่างเพื่อพบหยังสวนเจิง ก็เลยได้พาหล่อนกลับมาให้เข้าเรียนที่ตี้จิง โดยได้ให้ถูซานช่วยจัดการดูแลให้เข้าเรียนในสถานศึกษาที่ดีๆ
ลูกสาวของหยังสวนเจิงคนนี้ ไม่มีญาติอีกเลยในโลกใบนี้ จะนับไปก็คงเย่เฮยที่เป็นญาติที่สนิทที่สุด
“ฮัลโหล สู้สู้ หนูโทรมาหาอา มีเรื่องไรหรือ?”เย่เฮยรับโทรศัพท์ พูดทักถามกลับไป
“ฮือๆๆ…..คุณอาเย่ ท่านมาที่โรงเรียนหน่อยได้ไหมคะ? คุณครูบอกให้หนูตามให้ผู้ปกครองมาพบ ค่ะ”
“นี่? มันเรื่องอะไรหรือ?”เย่เฮยถามอย่างฉงน
“คุณเป็นผู้ปกครองหยังสู้สู้หรือ? ช่วยรีบมาที่โรงเรียนอย่างด่วนเลย เด็กของคุณทำเรื่องเป็นปัญหาใหญ่แล้ว”ทันใดกลายเป็นเสียงผู้ชายกลางคน น้ำเสียงข่มขู่อย่างโอหัง
“คุณเป็นใคร? “เย่เฮยถามกลับอย่างเกรี้ยวกราด
“ยัยลูกหลานโง่เง่าของแกมาทุบตีลูกข้า แกเป็นผู้ปกครอง จะให้ดีวันนี้แกจะต้องมาขอโทษข้า!”
ตื๊ดด…
โทรศัพท์ถูกตัดสาย
“นี่….? คุณชายอิ่ง ท่านดูมัน….”เย่เฮยถามด้วยความรู้สึกเครียด
หลินอิ่ง ขมวดคิ้วย่น เขาก็ได้ยินเรื่องราวจากเสียงในโทรศัพท์
เรื่องของสาวน้อยคนนี้ เขาจะต้องจัดการ
หยังสวนเจิงกับท่านอาจารย์ มีความสัมพันธ์ผูกพันกันฉันพี่น้องกัน อีกทั้งก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่หยังสู้สู้ เก็บความลับไว้อย่างไม่คิดชีวิต ตัวเองก็คงหาเย่เฮยไม่พบ และคงไม่มีปัญญารวบรวมองครักษ์มังกรดำที่แตกกระจายไปแล้วให้กลับมาได้
“คุณชายอิ่ง หรือไม่งั้น ให้ผมสั่งลูกน้องเข้าไปจัดการสักคน จะได้ดูความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของสู้สู้”เย่เฮยถามขอความเห็น
“ฉันไปเองสักเที่ยวดีกว่า”หลินอิ่งกล่าว
“แกกับผู้เฒ่าหวง นำกำลังคนเข้าประจำที่ไปก่อน ฉันไปที่โรงเรียนจัดการธุระเสร็จแล้วจะรีบตามไป”
หลินอิ่งสั่งการ
“ครับ ขอรับปฏิบัติการตามคำสั่ง”เย่เฮยผงกหัวด้วยความเคารพ และก็ให้รู้สึกวางใจ
เย่เฮยถือว่าเป็นลูกศิษย์ของหยังสวนเจิงอยู่ครึ่งหนึ่ง บุญคุณมากล้น และก็มีความห่วงกังวลในตัวสาวน้อยนี้อยู่ เมื่อประธานรับปากไปเอง ในใจก็ย่อมให้รู้สึกอุ่นใจได้
ขณะเดียวกันนั้น หวงชิงซันเดินออกมาจากห้องทำงาน
“คุณชายอิ่ง ข้อมูลในรายงานทั้งหมดผมได้เคลียร์แล้วครับ พิกัดล็อกไว้เรียบร้อย”หวงชิงซานรายงาน
“ท่านกับเย่เฮย นำคนล่วงหน้าไปก่อน ถ้าเห็นจังหวะเหมาะสม มีความมั่นใจ ก็ไม่จำเป็นต้องรายงานฉัน ชิงลงมือกันได้เลย”หลินอิ่งสั่งกำชับ “ถ้าไม่มั่นใจ ก็ให้รอฉันมาถึงก่อน”
พูดจบ หลินอิ่งก็เดินนำฮาเดส เลี้ยวลงข้างล่างออกไป
ที่หลินอิ่งทำแบบนี้ ก็มีเรื่องต้องตระหนักอยู่ในใจ
ถึงยังไง หยังสู้สู้ เด็กผู้หญิงคนนี้ อายุก็ยังน้อยอยู่มาก และก็ไม่มีญาติหลงเหลืออยู่ในโลกนี้อีก เป็นคนอื่น หล่อนคงไม่ไว้ใจ ตัวเองจะได้เข้าไปเยี่ยมและดูสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงว่าหล่อนอยู่ในสภาพอย่างไร
……
เขตเมืองเก่า โรงเรียนชิงถึงแห่งตี้จิง
นี้เป็นโรงเรียนเอกชนระดับสูงแห่งหนึ่ง ภายในโรงเรียน ส่วนประกอบทุกด้านล้วนเป็นอุปกรณ์ระดับสุดยอด สภาพแวดล้อมดีเยี่ยม ตั้งอยู่ในทำเลที่เจริญที่สุดของย่านเมืองเก่า ถูกจัดว่าเป็นโรงเรียนระดับคนชั้นสูงของตี้จิง
ตั้งแต่ต้น เป็นโรงเรียนประถมศึกษาที่หลินอิ่งกำหนดให้หยังสู้สู้ ซึ่งอยู่ชั้นประถมปีที่ 5 มาอยู่
ณ.ขณะนั้น ที่ห้องธุรการ แผนกประถมศึกษา สถาบันชิงถึง
เด็กนักเรียนหญิงยืนสะอื้นคนหนึ่ง ใบหน้าแสดงออกเต็มไปด้วยความน้อยใจ น้ำตาไหลนองแก้มที่มีรอยนิ้วมือแดงชัดห้านิ้ว
ในห้องสำนักงาน ครูสตรีคนหนึ่งยืนอยู่กับสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่ง เด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนมองเด็กสาวตรงมุมห้องด้วยสายตาทะเล้นอย่างสะใจ
“อาจารย์หลี ไอ้ผู้ปกครองของหยังสู้สู้คนนี้มันจะมาหรือเปล่านะ? โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับละ มันหมายความว่ายังไง? เด็กของตัวเองทำผิด แล้วก็ทำเป็นไม่รับผิดชอบงั้นหรือ?”ผู้หญิงคนที่แวววาวไปด้วยมณีประดับเต็มตัว มองครูผู้หญิงนั้นอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันเหมือนกับได้ยินว่าเด็กโง่เง่าคนนี้ไม่มีพ่อแม่ไม่ใช่หรือ?”ผู้ชายวัยกลางคนพูดเหยียดๆ ขึ้นมา “มิน่าดูเป็นเด็กไม่ได้รับการสั่งสอนแม้แต่น้อยนิด เพราะไม่มีคนสั่งสอน เป็นเด็กผู้หญิงอะไร ทำลูกข้าถึงขนาดนี้ หน้าโดนข่วนซะลาย”
“อืม์ ฮึ…”อาจารย์หลีกระแอมออกมาเล็กน้อย “ค่ะ ท่านประธานหู ท่านทั้งสองใจเย็นๆ ค่ะ ดิฉันกำลังดูข้อมูลของหยังสู้สู้ เด็กคนนี้ ไม่มีที่ติดต่อของพ่อแม่ เมื่อตะกี้ที่ให้หล่อนติดต่อโทรศัพท์ไป คนที่บ้านหล่อนต้องมาแน่ๆ ค่ะ”
“คนที่บ้านมันจะต้องมา ลูกชายข้าหูบา โดนข่วนหน้าลาย อีกหน่อยจะต้องขายหน้าไปถึงไหน”ผู้ชายแซ่หูในชุดสากลขู่ตะคอกใส่