บทที่ 59ร้านชาหงฮุย
“ดูแล้วคุณหลินก็น่าจะเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว” หวางหงหลิงพูดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ตาหมวยยาวสวยงามมีเสน่ห์ยิ่งเห็นได้ชัด “ตอนแรกคิดว่าคุณหลินแค่ไม่ธรรมดาในเรื่องของสะสมโบราณเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าวิชาการต่อสู้จะดีขนาดนี้”
“คุณหาผมมีธุระอะไร?” หลินอิ่งพูดขึ้นเสียงเรียบ ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้มาหาเขาเพราะอะไร
หวางหงหลิงพูดขึ้น “คุณหลิน วันนี้คุณทำให้เรื่องสำคัญของฉันพัง คุณว่าฉันหาคุณเพราะเรื่องอะไร?”
หลินอิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ยิ้มขึ้นมาแล้วพูด “หูหมิงหยินเป็นคนของคุณ?”
“ฉลาด” หวางหงหลิงท่าทางภูมิใจ สายตาชื่นชม
“เรื่องนี้เดิมเป็นแผนที่ฉันวางขึ้นมา เพื่อให้พี่ชายหน้าโง่ของฉันตกหลุมพราง” หวางหงหลิงถอนหายใจอย่างดัดจริต “ตอนแรกว่าจะรอจนถึงวันเกิดคุณปู่ หวางจื่อเหวินเอาแจกันไปให้ท่าน ฉันจะได้เปิดโปงว่านั่นมันเป็นของปลอม แต่เสียดาย โดยคุณทำลายแล้ว ทำให้ฉันเสียแผนหมด”
หลินอิ่งพูดขึ้น “แผนดี”
เขาจะไม่รู้สถานการณ์ได้อย่างไร แจกันคู่นั้นของหูหมิงหยินเป็นแผนการ เพราะจะให้หวางจื่อเหวินติดเบ็ด รอไอ้โง่นั่นดีใจที่ได้แจกันมาแล้วเอาไปอวยพรวันเกิด คนที่อยู่เบื้องหลังหวางหงหลิง ก็ขึ้นมาเปิดโปงว่านั่นคือของปลอม ต่อหน้าคุณปู่ตระกูลหวาง ในงานวันเกิดอายุแปดสิบ ทำให้คุณปู่ของตระกูลหวางผิดหวังในตัวหวางจื่อเหวินอย่างที่สุด
นี่คือการอยากเหยียบหวางจื่อเหวินให้ตายไปเลย
การแย่งชิงกันภายในตระกูลผู้ดีแบบนี้ แย่งชิงตำแหน่งคนสืบทอด ก็ถือว่าเห็นมามากแล้ว
แต่ว่า ต้องพูดว่า หวางหงหลิงคนนี้ มีนักฆ่ามืออาชีพสองคนติดตามอยู่ และมีหมากตัวสำคัญซ่อนอยู่ข้างหลังอย่างหูหมิงหยินที่มีชื่อเสียงเชี่ยวชาญด้านสะสมของโบราณ ถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ธรรมดา
“คุณหลิน คุณว่า คุณทำลายแผนฉันแบบนี้ ควรชดเชยให้ฉันยังไง?” หวางหงหลิงพูดขึ้นมาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
หลินอิ่งพูด “การแย่งชิงกันภายในของตระกูลหวาง เกี่ยวอะไรกับผม”
“คุณหลิน พี่รองของฉันโง่จนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ว่า ตระกูลหวางของเราไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด ถ้าคุณคิดว่าลำพังคุณคนเดียว จะต่อต้านกับตระกูลหวางทั้งตระกูลได้?”หวางหงหลิงเสียงขรึม มีแววตักเตือนอยู่ในน้ำเสียง
“คุณคิดว่า พี่รองที่โง่เขลาของฉันจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ เหรอ?” หวางหงหลิงพูดขึ้นเสียงเรียบ น้ำเสียงเข้มขรึม “คุณหลิน เรื่องที่เกิดขึ้นในหมิงเป่าซวนฉันเห็นหมดแล้ว คุณเป็นคนมีความสามารถ ฉันจะให้โอกาสคุณ ช่วยฉันทำงาน สำหรับเรื่องหวางจื่อเหวิน คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วง”
หลินอิ่งรู้สึกสนใจขึ้นมา ถามขึ้น “คุณมั่นใจเหรอว่าผมจะช่วยคุณทำงาน?”
“คุณปฏิเสธได้เหรอ?” หวางหงหลิงหัวเราะคิกคิกขึ้นมา หัวเราะอย่างมีเสน่ห์
เท่าที่เธอดู นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับหลินอิ่ง ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเธอ เขาจะเอาอะไรไปสู้กับหวางจื่อเหวิน? ถึงหวางจื่อเหวินจะโง่ขนาดไหน ก็ยังเป็นคุณชายรองของตระกูลหวาง เมื่อถูกบีบคั้นการฐานะเงินทอง ลำพังความสามารถในการประเมินของมีค่าแน่นี้มีประโยชน์อะไร?
“ผมไม่สนใจ” หลินอิ่งส่ายหัว
“คุณหลิน คุณไม่กังวลการแก้แค้นของหวางจื่อเหวินเหรอ?” หวางหงหลิงขมวดคิ้วถามขึ้น
หลินอิ่งยิ้มไม่พูดอะไร
หวางหงหลิงพูดขึ้นจริงจัง “คุณหลิน สถานที่นี้คุยไม่ค่อยสะดวก เราหาที่นั่งคุยอย่างละเอียดกันดีกว่า?”
“ไม่จำเป็น” หลินอิ่งส่ายหัวพูดจบก็หันหลังกลับ
“คุณ” หวางหงหลิงโกรธจนหน้าแดง เธอไม่เคยเจอคนอย่างหลินอิ่ง ไม่พิจารณาแม้แต่น้อยก็ปฏิเสธ การเชื้อเชิญจากเธอคุณหนูใหญ่ของตระกูลหวาง
ไม่รู้เขาเอาความกล้ามาจากไหน
“หลินอิ่ง กับผู้หญิงคนหนึ่ง คุณทำแบบนี้จะไม่สุภาพบุรุษเกินไปไหม?” หวางหงหลิงพูดจาตัดพ้อขึ้น ท่าทางออดอ้อน “ฉันอุตส่าห์มาช่วยคุณกำจัดคนที่หวางจื่อเหวินส่งมา คุณคิดดู ถ้าไม่ใช่แผนการของฉัน คุณจะทำให้หวางจื่อเหวินขายหน้าได้อย่างไร? ตอนนี้ แค่เวลาดื่มชาสักแก้วก็ไม่มีเลยเหรอ?”
สีหน้าของชายชุดดำทั้งสองคนจากเรียบเฉย ตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป
ในความทรงจำของพวกเขา คุณหนูใหญ่ไม่เคยมีท่าทีอ่อนโยนแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อน จากนิสัยของคุณหนูใหญ่แล้ว เมื่อโดนหลินอิ่งปฏิเสธไปครั้งหนึ่ง ก็น่าจะโมโหแล้วสั่งให้พวกเขาซ้อมหลินอิ่งไปนัดหนึ่งแล้ว?
ทำไมถึงได้เกรงใจกับหลินอิ่งที่เขาลือกันว่าไอ้ขยะขนาดนี้ ?
หลินอิ่งลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า
ชายชุดดำสองคนเดินไปขับรถบูกัตติ เวย์รอนสีแดง หวางหงหลิงขึ้นไปนั่งหลังคนขับ และหลินอิ่งก็ตามเข้าไปนั่งข้าง
ครู่เดียว รถก็ขับออกไปจากซอบโบราณ ขับเข้าไปในถนนที่คึกคัก รถสปอร์ตสีแดงคันนี้โดดเด่นกลางถนน ดึงดูดสายตาผู้คน
หลินอิ่งนั่งเงียบอยู่ด้านหลังไม่พูดอะไร ภายในรถตกแต่งอย่างหรูหรา นั่งอย่างสบาย และยังมีกลิ่นน้ำหอมจากดอกกุหลาบ เสมือนผู้หญิงทุกคนล้วนชอบดอกกุหลาบ
จากกลิ่นดอกกุหลาบ หลินอิ่งหันไปมองหวางหงหลิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง แล้วหันกลับมา
ต้องบอกว่า ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยจนเป็นภัย ขาเรียวยาวมีเสน่ห์ หุ่นสวยเซ็กซี่ ไม่แปลกใจที่ได้ชื่อว่าเป็นสามงามแห่งเมืองคู่กับฉีโม่ หน้าตาบุคลิกและยังมาจากครอบครัวผู้ดีมีตระกูล
“เป็นไงบ้าง? รถของฉันคันนี้ใช้ได้ไหม?” หวางหงหลิงท่าทางภูมิใจ พูดโอ้อวดขึ้น
“ก็งั้น ๆ” หลินอิ่งตอบ
“เหอะ” หวางหงหลิงทำเสียง ท่าทางยังคงภูมิใจ
เธอก็รู้สถานภาพของหลินอิ่ง ก็เป็นเพียงแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลจางที่เกาะเมียกิน ยังกล้าบอกว่ารถรักของเธอรถบูกัตติ เวย์รอนสีแดงว่าแค่งั้น ๆ?
ยี่สิบนาทีผ่านไป
รถสปอร์ตคันนี้จอดลงที่หน้าร้านชาที่ตกแต่งแบบโบราณอย่างสง่างาม หลินอิ่งกับหวางหงหลิงลงจากรถ
ชั้นบนของร้านมีป้ายแขวนอยู่ว่า ร้านชาหงฮุย
พนักงานต้อนรับหญิงหน้าร้าน พาหลินอิ่งและหวางหงหลิงขึ้นมาที่ชั้นสาม
การตกแต่งภายในชั้นสามเป็นแบบโบราณ สวยสง่าคลาสสิค หลินอิ่งสองคนมาถึงห้องอาหาร ชายชุดดำสองคนยืนเฝ้าประตูอยู่ด้านนอก
“คุณหลินยินดีต้อนรับครับ เชิญนั่ง ดื่มน้ำชา”
หลินอิ่งเพิ่งเข้ามา ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
หูหมิงหยินยื่นน้ำชาแก้วหนึ่งให้ด้วยรอยยิ้ม
หลินอิ่งไม่ได้เกรงใจ ก็รับน้ำชามา แล้วนั่งลงกับที่ และหวางหงหลิงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“คุณหนูใหญ่ อาหารจัดเตรียมไว้เรียบแล้ว” หูหมิงหยินพูดขึ้นด้วยความเคารพ พูดจบ ก็หันไปยิ้มให้หลินอิ่ง แล้วถอยไปยืนอยู่ด้านหลังของหวางหงหลิง
หวางหงหลิงพยักหน้า มีบุคลิกความเป็นผู้นำ
บนโต๊ะกลมเต็มไปด้วยอาหารหลายสิบอย่าง กลิ่นหอมเย้ายวน สีสันอร่อย ล้วนเป็นอาหารเลื่องชื่อ มีทั้งเนื้อทั้งเจ แกง ยำ ของหวาน ครบถ้วน พิถีพิถันทุกอย่าง
“หลินอิ่ง ฉันของเรียกคุณแบบนี้ละกัน” หวางหงหลิงพูดขึ้น สายตาจ้องไปที่หลินอิ่ง อย่างสนอกสนใจ “เมื่อก่อนฉันเคยได้ยินชื่อคุณ ล้วนแล้วแต่เรียกคุณว่าไอ้ขยะ แต่นึกไม่ถึงว่าคุณยังรอบรู้เรื่องวัตถุโบราณ วิชาต่อสู้ก็ใช้ได้ ดูแล้ว หัวสมองก็ใช้ได้”
“ฉันอยากให้โอกาสคุณ ให้คุณเป็นผู้ช่วยของหูหมิงหยิน เงินเดือนปีละล้าน” หวางหงหลิงพูดขึ้นอย่างมั่นใจ “แล้วจะช่วยคุณจัดการปัญหา ที่คุณก่อขึ้นในหมิงเป่าซวน ฉันว่าจากสถานการณ์ของคุณ คงปฏิเสธข้อเสนอฉันไม่ได้หรอกนะ?”