“ปั้นเรื่องขึ้นเอง? ไม่ นี่มันมีคนลงนามร้องเรียน”หัวหน้าถางพูดอย่างยืนกราน “ระหว่างขั้นตอนที่พวกคุณรับที่ดิน ทำการใช้อำนาจคุกคามข่มขู่ผู้อาศัย และก่อให้ผู้อื่นเสื่อมเสียสภาพจิตใจ นี่มันทำร้ายความเป็นระเบียบเรียบร้อยของส่วนรวมอย่างรุนแรง ทำลายกฎระเบียบอย่างรุนแรง”
นิ่งซวนพูด “หัวหน้าถาง พวกคุณทำงาน ก็ต้องพูดถึงหลักฐานด้วย ไม่มีหลักฐาน อย่าใส่ร้ายคนอื่น มีสิทธิ์อะไรให้บริษัทของเราหยุดงานตามใจชอบ?”
หัวหน้าถางพูด “หลักฐาน? พวกเราก็ต้องมีหลักฐานมัดมือแน่นอน มีพยานด้วย”
“ผู้อาศัยเดิมหลายบ้าน ล้วนลงนามร้องเรียนนิ่งซื่อกรุ๊ปของพวกคุณ ใช้วิธีรุนแรง ข่มขู่ความปลอดภัยคนอื่น”หัวหน้าถางพูดอย่างเชื่องช้า
“ผู้อาศัยเดิม? นี่เกรงว่าจะถูกตระกูลซือหม่าใช้เงินซื้อมั้ง? ทำหลักฐานเท็จมันผิดกฎหมาย”นิ่งซวยพูดเคร่งขรึม “ถ้ามีพยาน ก็ขอหัวหน้าถางเชิญคนมา มาพูดกันต่อหน้า”
“เฮ้อ นิ่งซวน ของกินไปเรื่อยได้ แต่คำพูดจะพูดไปเรื่อยไม่ได้”ซือหม่าเชี่ยวพูดอย่างเย็นชา “นิ่งซื่อกรุ๊ปของพวกคุณและหลินอิ่งคนนั้น ทำงานเผด็จการไม่สนกฎระเบียบมาโดยตลอด ข่มขู่ผู้คนประชาชน เรื่องแบบนี้ คนอื่นเขาลงนามร้องเรียนแล้ว คุณยังพูดว่าทำหลักฐานเท็จ?”
“ไอ้แก่อย่างแก เล่นวิธีแบบนี้ สักวันชำระบัญชีกับแกอย่างชัดเจนแน่”นิ่งซวนมองซือหม่าเชี่ยวอย่างเย็นชา
ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย
ที่ดินภูเขาฉางชิงแห่งนี้ นั่นคือทรัพยากรที่ผู้อาวุโสหลินอิ่ง รวบรวมมาจากตระกูลจ้าว ตระกูลกงซุน
ยังมีอีกส่วนหนึ่ง เขาเป็นคนใช้เงินราคาสูงซื้อมาถึงมือด้วยตัวเอง
ในกระบวนการนี้ ไม่เคยใช้วิธีสกปรกอะไรเลย ราคาก็ชอบธรรมอย่างแน่นอน
อย่างไรเสีย หลินอิ่งให้เขาเอาโครงการของเมืองเทคโนโลยีเทียนหลง ไม่ได้คำนึงถึงผลกำไรเลยแม้แต่น้อย ทุ่มทั้งกองเงินกองทองเข้าไป ยังต้องใช้วิธีรุนแรงเหรอ?
“ฉันว่า ไอ้เด็กอย่างแกอย่าอวดดีเกินไป ปู่ของแกนิ่งไท่จี๋บุคคลน่าเกรงขามขนาดนั้น ต่อหน้าเพื่อนเก่าอย่างพวกเรา ยังไม่ได้อวดดีอย่างแกเลย”ซือหม่าเชี่ยวพูดอย่างเย็นชา “แกอย่ายืนผิดฝั่งไป คิดว่าพึ่งหลินอิ่งของตระกูลฉี ก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้เหรอ”
“แคกแคก”หัวหน้าถางไอแห้งไปสองครั้ง พูดอย่างเคร่งขรึม “คุณนิ่ง คุณพูดจาระวังหน่อย พวกเรามีหลักฐานแน่นอน มิเช่นนั้นไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ทุกอย่างล้วนทำตามกฎระเบียบ บุคคลเกี่ยวข้องที่ร้องเรียน ทางด้านกรมพาณิชย์ตั้งคดีเพื่อเข้าตรวจสอบ กำลังเก็บหลักฐานตรวจสอบ”
“ก่อนผลตรวจสอบจากกรมพาณิชย์ออกมา ห้ามแตะต้องที่ดินภูเขาฉางชิงแห่งนี้ เพราะว่า นิ่งซื่อกรุ๊ปของพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี”
“ก่อนกรมพาณิชย์ทำการตรวจสอบ?”นิ่งซวนกลั้นความโมโห
คดีตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ ก็เป็นพวกเขาที่เป็นคนตัดสิน?
ตระกูลซือหม่าคิดจะเล่นอะไร คนโง่ก็สามารถดูออก
หาคนมาเป็นพยานเท็จ เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ยังทำถึงขั้นกรมพาณิชย์ตั้งคดีตรวจสอบ
“คุณนิ่ง เอกสารทางราชการที่เกี่ยวข้อง ทางหน่วยงานเราจะส่งไปที่นิ่งซื่อกรุ๊ปของพวกคุณ”หัวหน้าถางพูดด้วยท่าทางเป็นการเป็นงาน “ผมก็แจ้งให้คุณทราบแล้ว ตอนนี้ ผมขอให้บริษัทของคุณ หยุดการก่อสร้างทั้งหมดในภูเขาฉางชิง ถอนทีมงานก่อสร้างกลับเดี๋ยวนี้ ขับรถอุปกรณ์การก่อสร้างทั้งหมดกลับไป มิเช่นนั้น คุณก็คือก่อสร้างผิดกฎหมาย”
นิ่งซวนพูด “หยุดการก่อสร้าง? ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น หัวหน้าถาง คุณรับผิดชอบได้ไหม?”
หัวหน้าถางพูดเคร่งขรึม “คุณนิ่ง คุณพูดจาระวังหน่อย ที่ดินภูเขาฉางชิงแห่งนี้ รายงานไปที่กรมพาณิชย์แล้ว ก่อนผลการตรวจสอบคดีออกมา ใครก็ทำอะไรไม่ได้”
“อีกอย่าง หากผลการตรวจสอบเป็นจริง คุณก็เจอเรื่องใหญ่แล้ว อย่าว่าแต่งานก่อสร้างพัฒนาเลย นิ่งซื่อกรุ๊ปของพวกคุณก็ต้องหยุดการบริหารทุกอย่าง ยอมรับการตรวจสอบจากกรมพาณิชย์”
“คุณ”นิ่งซวนตื่นเต้นหวาดกลัว รู้สึกจัดการยาก
คนเหล่านี้เตรียมการมาเป็นอย่างดี
แล้วเขาก็ยังทำอะไรหัวหน้าถางไม่ได้
นี่คือแผนการสมคบคิด
กรมพาณิชย์ ระดับค่อนข้างสูง นั่นเป็นหน่อยงานโดยตรงของประเทศ ตั้งขึ้นมาเพื่อเจาะจงการทำผิดกฎหมายด้านพาณิชย์และเศรษฐกิจโดยเฉพาะ
ไม่มีบริษัทพาณิชย์ไหน ยินดีไปมาหาสู่กับหน่วยงานนี้
“เหอะเหอะเหอะ นิ่งซวน คุณก็ตายใจเถอะ รีบพาคนของคุณออกไป”ซือหม่าเชี่ยวพูดอย่างเย็นชา “คนของตระกูลซือหม่าเรายังไม่ได้ตายหมด ภูเขาฉางชิงนี้ ไม่ใช่ว่าใครอยากขุดก็ขุดได้”
พูดไป พวกซือหม่าเชี่ยวทั้งกลุ่ม ต่างก็หัวเราะเย็นชามองนิ่งซวน
ทันใดนั้นนิ่งซวนก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก สีหน้าค่อนข้างลำบากใจ เอามือถือออกมา กำลังจะโทรศัพท์ถามหลินอิ่งอีกครั้ง
ซือซือ
เวลาเดียวกัน รถเบนท์ลี่ย์สีดำคันหนึ่งหักโค้ง ขับเข้ามาด้วยความเร็ว ขับไปถึงข้างเส้นเตือนภัย
คนต่างชาติร่างสูงสีหน้าเย็นชาคนหนึ่ง เปิดประตูรถ
ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตสีดำสีหน้าหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินลงจากรถ
หลินอิ่งมาแล้ว
“ประธานหลิน ท่านมาแล้ว ผู้นำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายท่านนี้ แล้วก็คนของตระกูลสวีและตระกูลซือหม่าล้วนมาแล้ว”นิ่งซวนพูดอย่างจริงจังอยู่ด้านข้าง
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูด กวาดตามองพวกซือหม่าเชี่ยวอย่างเย็นชา
“คนนี้ก็คือคุณชายอิ่งในตำนาน?”ซือหม่าเชี่ยวพึมพำสีหน้าเคร่งเครียด สังเกตมองหลินอิ่ง
“นี่……พ่อ หลินอิ่งมาแล้ว……”หลังจากซือหม่าเฟิงเห็นหลินอิ่งแล้ว สีหน้าก็ลุกลี้ลุกลน อยู่ด้านหลังของซือหม่าเฟยวู่
คนของตระกูลซือหม่า ถึงแม้จะตัดสินใจเป็นอริกับหลินอิ่งตั้งนานแล้ว และรู้ว่าเป็นไปได้อย่างสูงที่หลินอิ่งจะมาภูเขาฉางชิงด้วยตัวเอง
แต่ว่า พอหลินอิ่งมาด้วยตัวเอง พวกเขา ในใจก็อดที่จะเคารพยำเกรงและหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้
หลินอิ่งยืนอยู่ตรงนั้น ราศีที่ทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน ก็เกิดขึ้นเอง
โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ซือหม่าเฟิงเพิ่งถูกหลินอิ่งสั่งสอนอย่างหนัก จนทุกวันนี้ยังรู้สึกกลัวในใจ
“หลินอิ่งมาแล้วก็มาแล้ว กลัวอะไร”ซือหม่าเฟยวู่พูดอย่างเคร่งขรึม “ทุกวันนี้พวกเราทำงานร่วมกับตระกูลสวี เป็นคู่แข่งกับเขา”
“อือ?”หลินอิ่งมองไปที่ซือหม่าเฟิงอย่างเย็นชา จากนั้นก็มองซือหม่าเฟยวู่อย่างหนักแน่น “คุณลืมแล้วใช่ไหม ผมเคยพูดอะไรกับคุณไว้?”
“คุณชายอิ่ง ผมลืมไปแล้วจริงๆ ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรจะสั่งสอน?”ซือหม่าเฟยวู่แข็งใจพูด
ตอนนั้น หลินอิ่งเคยพูดว่า อย่าให้ซือหม่าเฟิงปรากฏตัวในสายตาเขาอีก
ซือหม่าเฟยวู่ก็จำได้ ตัวเองเคยรับปากต่อหน้า จะส่งซือหม่าเฟิงไปต่างประเทศทันที
เพียงแต่ว่า ทุกวันนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ตอนนั้นตระกูลซือหม่าของพวกเขา ไม่กล้าสู้กับหลินอิ่ง
ทุกวันนี้ ยืนอยู่ฝั่งตระกูลสวี มีตระกูลสวีสนับสนุน ไม่แน่ว่าจะไม่สามารถสู้ได้
“เหอะ”มุมปากหลินอิ่งมีรอยยิ้มอันเย็นชา “ความกล้าของตระกูลซือหม่าของพวกคุณ ใหญ่โตขึ้นไม่น้อยนะ”
ชิ้ว
พูดตบ หลินอิ่งขยับเท้า ถีบก้อนหินบนพื้นก้อนหนึ่งลอยขึ้น
“อ้าก”
ทันใดนั้น ซือหม่าเฟิงก็ร้องอย่างเจ็บปวดเหมือนหมูถูกเชือด คนทั้งคนกระเด็นลอยออกไปอย่างไม่มีมูล ล้มออกไปสิบกว่าเมตร ตีลังกาไปหลายรอบหัวทิ่มพื้น กระอักเลือดไม่หยุด
“หลินอิ่ง แก แก”ซือหม่าเฟิงหายใจหอบ พูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว