ขณะเดียวกัน ศพของสวีจิ่วหลิง ก็ถูกหามออกไปโดยทหารลับของตระกูลสวีที่หลงเหลืออยู่
ทุกคนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น พลางในใจก็เกิดความสลดใจขึ้นมา พร้อมความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
นี่ก็คือคุณชายอิ่งแห่งตี้จิง มหาอำนาจหลินอิ่ง !
ในใจของพวกเขาต่างรู้ดีว่าในวันข้างหน้า ตระกูลสวีจะต้องถูกลบออกจากตี้จิงแน่นอน ……
การจัดระเบียบใหม่ของตี้จิงครั้งนี้ หลินอิ่งถือเป็นผู้จัดเระเบียบที่ทรงอำนาจที่สุด
และเกรงว่าในอีกสิบปีข้างหน้า ถ้าหากไม่เกิดเหตุอะไร ตี้จิงก็คงจะไม่มีใครสามารถเป็นคู่แข่งกับหลินอิ่งได้เลย
การประชุมสุดยอดเทียนหลงครังนี้ ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อหลินอิ่ง ผู้มีตำแหน่งเป็นราชาแห่งตี้จิง
เพียงไม่นาน กลุ่มผู้จัดการประชุมก็เริ่มการดำเนินการ เมื่อทุกคนต่างลงนามและรับมอบเอกสารสัญญา พร้อมกับยืนยันทัศนคติแล้ว ก็เหลือเพียงแค่กลับไปเพื่อรอการเริ่มดำเนินการเจรจาธุรกิจเท่านั้น
คุณชายโหมและแอนนา นั่งอยู่ในมุมอับมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“คุณแอนนา ไม่แปลกเลยที่ตอนนั้นหลินอิ่งจะไม่สนใจความช่วยเหลือจากพวกเราเลย ……” ดวงตาของคุณชายโหมส่องประกายออกมา พร้อมกับพูดอย่างเฉื่อยชา “ฐานะบารมีของตระกูลโครเมียร์เรา สำหรับเขาแล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีค่าอะไรเลย เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งการช่วยเหลือจากพวกเราเพื่อปราบปรามการปิดกั้นจากกลุ่มองค์กรธุรกิจต่างชาติเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เขาคนเดียวก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างราบคาบเหมือนกับการประชุมสุดยอดเทียนหลงแล้ว”
“ใช่แล้วค่ะ ความอำนาจและความทักษะสามารถของคุณหลิน เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์ภายนอกที่พวกเราเห็นยังแข็งแกร่งกว่านั้นไปหลายเท่าเลยทีเดียว” แอนนาพูดด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ดวงตาคู่สวยประกายแสงวิบวับออกมา
ส่วนควินสันที่นั่งอยู่ข้าง ก็ลุกลี้ลุกลนไม่สงบ ใบหน้าไม่สู้ดีมากนัก
แอนนาชำเลืองไปมองลูกน้องชายคนนี้แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย :”ควินสัน ตอนนี้ นายยังคิดว่าคุณหลินเป็นแค่คนที่มีดีแค่เปลือกอยู่หรือเปล่า?”
“ผม……” ควินสันแสดงสีหน้าเขินอาย พูดอย่างอ้ำอึ้ง
การกระทำที่ทรงอำนาจของหลินอิ่งนั้น ไม่ได้เป็นเพียงการตบหน้าของเขาอย่างจัง
แต่มันกลับทำให้เขานั้นแทบอยากจะซุดแผ่นดินหนีไปไกลๆ ซะ
หลินอิ่งที่ถูกเขาดูถูก กลับกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ มีพลังอำนาจเบ็ดเสร็จในการพลิกผันสิ่งต่างๆ
“ตามที่ตกลงกันไว้ จากนี้จงหุบปากเน่าๆ ของนายไว้ซะ แล้วอย่ามาพูดใส่ร้ายคุณหลินต่อหน้าฉันอีก” สายตาของแอนนาเต็มไปด้วยชัยชนะ พร้อมพูดสั่งสอน
“ผมรู้แล้วครับ พี่แอนนา” ควินสันพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก “จริงด้วยสิ พี่แอนนา พี่ช่วยพูดเกี่ยวกับผมในทางที่ดีกับต่อหน้าคุณหลินหน่อยนะ ผมไม่อยากถูกเขาเกลียด ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป”
ควินสันรู้สึกโชคดีอยู่ในใจ ต้องขอบคุณที่คุณชายโหมห้ามเขาเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เขาแอบทำอะไรตามอำเภอใจ เพื่อไปให้ความร่วมมือในการต่อต้านหลินอิ่งกับตระกูลสวี
ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะถูกลากตัวออกไป แล้วก็ศพของเขา ……
“ควินสัน คุณยังต้องฝึกฝนเรียนรู้อีกมาก เพราะความคิดของคุณยังอ่อนหัดเกินไป” คุณชายโหมกล่าวสั่งสอน
เมื่อพูดไป แววตาของคุณชายโหมล่องลอยไป พร้อมกับพูดกับตัวเอง:”ผมจะต้องรายงานเรื่องทุกอย่างที่เกิดในวันนี้ให้กับท่านเอิร์ล คุณแอนนา บางทีการจะพุ่งเป้าไปยัง
หลินอิ่ง คุณอาจจะต้องใช้กลยุทธ์ที่มากกว่านี้”
สีหน้าของแอนนาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในสมองปรากฏภาพร่างของชายคนนั้นขึ้นมา แล้วใบหน้าก็แดงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
……
หนึ่งวันถัดมา
องค์กรตระกูลใหญ่แห่งตี้จิงแทบจะระเบิด
ข่าวจำนวนมากแพร่สะพัดไปทั่วทุกสารทิศ สร้างความสนใจให้กับผู้คนนับไม่ถ้าน
คุณท่านตระกูลสวี สวีจิ่วหลิงเสียชีวิตภายในการประชุมสุดยอด
ซึ่งเป็นฝีมือของคุณชายอิ่งแห่งตระกูลฉี ที่กดดันจนทำให้ชายชราผู้ทรงเกียรติคนนี้ต้องตายไป
และเหตุการณ์นี้ทำให้แวดวงเหล่าผ็สูงศักดิ์ของตี้จิงทุกคนต่างก็ได้รับความหวาดกลัวจากหลินอิ่ง
ส่วนเมืองเทียนหลงก็ได้ตกไปอยู่ในการควบคุมของหลินอิ่งแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ผู้คนจำนวนมากต่างจัดเตรียมของขวัญไปมอบให้แก่หลินอิ่งผ่านนิ่งซวนผู้เป็นตัวแทนขององค์กรตระกูลใหญ่
เพื่อแสดงออกถึงเจตจำนงในหารศิโรราบ และเอาใจหลินอิ่ง
ส่วนอีกเรื่องที่ว่าบุคคลระดับสูงของตระกูลสวี รวมทั้งเผียวจินฮุนประธานของชีซิงกรุ๊ป ถูกจับเข้าคุกกองพิเศษเว่ยอัยฝ่ายทหาร
มีสาเหตุมาจากส่องใด ก็ไม่ได้มีการประกาศต่อสาธารณชน
แต่ว่าทุกคนก็พอจะคิดได้ การกลุ่มคนที่ทรงอำนาจขนาดนี้ถูกจับเข้าคุก แถมยังเป็นคุกของกองพิเศษเว่ยอันอีก นี่ต้องจะไปทำผิดอย่างมหันต์ขนาดไหน?
ทุกคนต่างสามารถรับรู้ถึงอำนาจสวรรค์ที่ยากจะคาดเดาได้
การทำผิดต่อหลินอิ่ง ก็เทียบเท่ากัลทำผิดต่อสวรรค์!
ส่วนคนที่เหลือของตระกูลสวี เวลาเพียงค่ำคืนเดียวต่างก็หายสาบสูญจากตี้จิงไปทันที
ในขณะที่ธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของตระกูลสวี ก็มีการลือกันว่าตกไปอยู่ในนามของหลินอิ่งอย่างไร้เงื่อนไข นี้อาจเป็นหนทางเอาตัวรอดของตระกูลสวีที่เหลืออยู่
เวลานี้ ณ จงเทียนซิงเฉิง อาคารดวงดาว ภายในห้องทำงานประธาน
หลินอิ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ บนโต๊ะมีชาดำร้อนถ้วยหนึ่งที่ไอร้อนกำลังโพยพุ่งออกมาตั้งอยู่บนโต๊ะ
เขาลองชิมชาถ้วยนั้นอย่างพิถีพิถัน
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังแทรกเข้ามาจากด้านนอก
“เข้ามาได้”
หยูจื๋อเฉิงเดินเข้ามา
“ท่านอิ่งครับ เจอตัวถูซานกับซื่อไท่แล้ว โดยถูกส่งตัวมาโดยทหารลับของตระกูลสวีครับ” หยูจื๋อเฉิงพูดรายงานอย่างนอบน้อม
หลินอิ่งพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะออกคำสั่ง:”ให้พวกเขาสองคนพักรักษาตัวก่อนสักพัก แล้วค่อยมาจัดการเรื่องนี้”
ก่อนหน้านี้ที่มุซาชิ จูโตะมาลอบฆ่าตัวเขา ซึ่งจากที่คิดแล้วคงต้องเป็นเพราะว่าการเคลื่อนไหวของเขาได้ถูกเปิดเผยแน่นอน และสุดท้ายถึงค่อยตรวจพบว่าซื่อไท่กับถูซานถูกจับตัวไป และข้อมูลความลับก็ถูกคนต้าเหอเค้นจนได้ไป
เมื่อบุคคลหลักของตระกูลสวี บ้างก็ตายไป บ้างก็ถูกจับเข้าคุก คนที่เหลือยังถือว่าพอมีความสำนึกอยู่บ้าง ที่รู้จักนำตัวพวกเขาส่งกลับมา
“ท่านอิ่ง คนตระกูลสวี เมื่อวานนี้ได้โอนทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลมาให้กับผม จากนั้นคนของพวกเขาก็ออกจากตี้จิงไปตอนดึก มุ่งหน้าไปยังต่างประเทศ ซึ่งผมจะอยู่ที่ทะเลกุหลาบของบริเวณทะเลหลวงคอยจับตาดูพวกเขา” หยูจื๋อเฉิงพูดด้วยสีหน้าสุขุม “หรือว่าจะให้ออกคำสั่งออกไปให้จัดการกับตระกูลสวีทุกคนที่อยู่ทะเลหลวงดีครับ?”
“ผมจะได้จัดเตรียมส่งตระกูลสวีทุกคนไปขุดเหมืองที่แอฟริกา ถ้าหากว่าท่านอิ่งต้องการถอนรากถอนโคน ก็ขอเพียงออกคำสั่งได้เลยครับ”
หลินอิ่งวางถ้วยชาในมือลงพร้อมตอบกลับอย่างเฉยชา:”ไว้ชีวิตพวกเขาไปก่อน ตอนนี้ตระกูลสวีได้ถูกตัดออกจากตี้จิงแล้ว ไม่มีอำนาจใดๆ แล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเขายังมีความคิดที่จะทำอะไรไม่ดีอีก คุณก็ไปหาเหตุผลบางอย่างมาแล้วระเบิดพวกเขาทิ้งซะ”
บุคคลหลักของตระกูลสวี สวีฉางเฟิงและลูกชาย รวมทั้งสวีถันโจวสองพ่อลูกต่างก็ถูกจัดการอย่างลับๆ ส่วนคนที่เหลือซึ่งเป็นคนธรรมดาในตระกูลสวีล้วนถูกหยูจื๋อเฉิงควบคุมอยู่ในบริษัทเหมืองแร่ที่แอฟริกา
ด้วยความที่หลินอิ่งไม่ชื่นชอบการฆ่าฟัน คนกลุ่มนี้จึงถูกปล่อยปละละเลยไปเสียอย่างนั้น
“ครับ น้อมรับคำสั่งครับ” หยูจื๋อเฉิงกล่าวรับอย่างเคารพ “ใช่แล้ว ท่านอิ่ง ยังมีหลายเรื่องที่ต้องรายงานกับท่านด้วย”
“เมืองเทียนหลงกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนตระกูลซือหม่าแห่งเจียงโจว พวกเรายังไม่ทันที่จะได้ลงมือใดๆ ก็มีตระกูลอื่นที่หวังจะเอาใจคุณจึงได้ชิงตัดหน้าลงมือฆ่าสองพ่อลูกซือหม่าเฟยวู่แล้วครับ” หยูจื๋อเฉิงพูดรายงาน
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย เพราะเรื่องนี้เขาได้คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว
“ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือวันนี้คุณฉู่ฉู่และคุณแอนนาคนนั้นต่างก็มาที่จงเทียนซิงเฉิงเพื่อพูดคุยกับคุณครับ” หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างเคร่งขรึม “ทางผู้ใหญ่ของคุณผู้หญิงทั้งสองคนนี้ก็มาด้วย ผมไม่กล้าตัดสินใจ เลยแยกทั้งสองคนให้ไปพักอยู่ในห้องรับรองคนละห้องแล้วครับ”
“คุณว่าควรจะจัดการกับทั้งสองอย่างไรดีครับ?”