พอแม่เฒ่าแห่งตระกูลหลินพูดคำพูดนี้ออกมา คนตระกูลหลินที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็สีหน้าไม่ดีขึ้นมาทันที
“แม่เฒ่า ท่านรู้สึกว่าไอ้เด็กหลินอิ่งนั่นมีความสามารถจริงๆ เหรอ?”ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลหลินเปิดปากพูดขึ้น สีหน้าเคร่งขรึม
“จากที่หลินเฉียนพูดมา เด็กหลินอิ่งนั่นเมื่อก่อนเคยกบดานอยู่ในเมืองเล็กๆ ไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงไม่ใช่หรือไง? แล้วจะมีความสามารถจริงๆ ได้ยังไง?”
“แล้วจากนั้น จู่ๆ หลินอิ่งก็กลับคืนสู่ตี้จิงอย่างแข็งแกร่งทรงพลัง กวาดล้างตระกูลที่มีชื่อเสียงไปหลายตระกูล ตอนนี้ก็ได้ครอบครองตี้จิงแล้ว แม้แต่ลูกศิษย์ของท่านเฉินเฟิงก็สามารถฆ่าได้ นี่มันเห็นได้ชัดว่ามันชักจะมีปัญหาแล้ว!”ผู้อาวุโสของตระกูลหลินคนนี้พูดประมาณการ”แม่เฒ่า จากที่ผมดู เห็นได้ชัดว่าหลินอิ่งก็เป็นแค่เครื่องมือหุ่นเชิดที่อยู่ฉากหน้าเท่านั้น จะต้องมีอำนาจอิทธิพลที่แข็งแกร่งคอยควบคุมอยู่ข้างหลังแน่นอน ตัวเขาเอง ไม่มีความสามารถอะไรหรอก”
“คนที่ไม่รู้ประวัติแน่ชัดแบบนี้ พวกเราตระกูลหลินจะเชื่อใจเรียกกลับเข้ามาในตระกูลหลินง่ายๆ ไม่ได้นะครับ”
“แม่เฒ่า ที่พี่สามพูดก็มีเหตุผล ตอนแรกตระกูลฉีถูกทำลายจนหมด ไม่มีต้นสายปลายเหตุเลยสักนิด หลินอิ่งนั่นก็ถูกไล่ออกจากตระกูลฉีมาสิบกว่าปีแล้ว ไปเป็นลูกเขยไร้อนาคตที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงแอบซ่อนตัวอยู่ที่เมืองเล็กๆ จู่ๆ ก็กลับคืนสู่ตี้จิงอย่างทรงพลัง มีอำนาจอิทธิพลที่แข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง?”
“นี่มันเป็นไปได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น ก็คือเขามีคนระดับสูงคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น!”
ในตอนนี้ ก็มีผู้อาวุโสของตระกูลหลินอีกคนลุกขึ้นพูด
การมาของท่านเฉินเฟิงแห่งหุบเฉินเฟิง ทำให้คนตระกูลหลินได้รู้ถึงหลินอิ่งที่ตี้จิง บุคคลที่มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลหลินแห่งลังยามากมาย ต่างพากันสำรวจตรวจสอบหลินอิ่งอย่างลับๆ กันทั้งนั้น
ในสายตาของพวกเขา หลินอิ่งเป็นแค่ตัวหมากที่ถูกคนควบคุมบงการอยู่เท่านั้น ตัวเขาเองไม่ได้แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้นแบบที่เห็นแน่นอน
หลานตระกูลที่มีชื่อเสียงของตี้จิงในโลกธรรม แม้จะบอกว่าอำนาจแข็งแกร่งไม่เท่าตระกูลสันโดษ แต่ก็ยังคงเป็นแดนสุดโลกธรรมอยู่ อำนาจทางการเงินไต่เต้าถึงระดับสูงสุด ความพยายามของคนปกติธรรมดาหลายชั่วอายุคนก็ยังยากที่จะเอื้อมถึง
ต่อให้เป็นตระกูลที่แข็งแกร่งและหยิ่งผยองแบบตระกูลหลินแห่งลังยา ถ้าอยากไปแทรกแซงยุ่งเกี่ยวกับองค์กรตระกูลใหญ่ของตี้จิงจริงๆ ก็สามารถจัดการทั้งหมดได้อย่าง่ายดายโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลินอิ่งเลยด้วยซ้ำ
ส่วนหลินอิ่ง มีดีอะไร ถึงสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทุกอย่างรอบๆ ตัว ก่อตั้งตี้จิงได้?
สมมติว่าถ้าหลินอิ่งมีความสามารถนั้นจริงๆ แล้วทำไมหลายปีก่อนถึงต้องแอบไปเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่เมืองเล็กๆ อย่างเงียบๆ ไม่มีข่าวคราวด้วย?
“แฮ่มๆ ……”แม่เฒ่าตระกูลหลินไอกระแอมสองที ใบหน้าเคร่งขรึมเข้มงวด ในตาแฝงไปด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา ค่อยๆ พูดขึ้น”ที่พวกแกพูดมา ฉันได้คิดพิจารณาหมดแล้ว ไม่ต้องเสวนาแล้ว ฉันมีการตัดสินใจของฉันเอง”
พูดพลาง แม่เฒ่าก็ชำเลืองตามองหลินเฉียน พร้อมกับพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ “หลินเฉียน ตอนนี้น้องสิบสองอยู่ที่ไหน?”
น้องสิบสองของตระกูลหลิน ก็คือพ่อแท้ๆ ของหลินซูชิง แล้วก็เป็นตาของหลินอิ่งด้วย
นายท่านใหญ่ของตระกูลหลินในตอนนั้น ในยุคสมัยนั้นได้แต่งงานกับภรรยาแล้วก็มีนางสนม มีลูกทั้งหมดยี่สิบกว่าคน ห้าชั่วอายุคนอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน สาขาครอบครัวค่อนข้างใหญ่
แม่เฒ่าตระกูลหลินบางทีก็ไม่มีเวลามาดูแลลูกๆ ของตัวเอง
“รายงานแม่เฒ่า อาสิบสองยังถูกลงโทษอยู่ที่เมืองชางโจว บันทึกไว้ในเอกสารข้อมูล ว่าอาสิบสองทำงานใช้แรงงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในโลกธรรม พึ่งพากำลังของตนเอง ตัวอาสิบสองก็ปฏิบัติตามกฎของตระกูลอย่างเคร่งครัด ไม่มีส่วนร่วมทางทำธุรกิจใดๆ “หลินเฉียนพูดด้วยความเคารพนอบน้อม
พ่อแท้ๆ ของหลินซูชิง น้องสิบสองรุ่นที่สองของตระกูลหลิน หลินซวนหวา ตอนนั้นเพราะว่าลูกสาวหลินซูชิงได้แต่งงานกับคนในโลกธรรม ทำให้นายท่านใหญ่ตระกูลหลินโกรธ ด้วยความโกรธจึงส่งเขาไปลงโทษที่เมืองชางโจว
จากกฎข้อบังคับ ไม่อนุญาตให้หลินซวนหวามีส่วนร่วมทางธุรกิจ ห้ามรับความมั่งคั่งต่างๆ ทางโลกตลอดชีวิต แค่ทำงานใช้แรงงานเลี้ยงชีพตัวเองอย่างสุจริตเท่านั้น
พูดให้ชัดเจน ก็คือไม่อนุญาตให้ใช้ชีวิตเพลิดเพลินไปกับความเจริญรุ่งเรืองทางโลก ทำได้แค่จมปลักอยู่กับความยากจนทางโลกเท่านั้น
แถม วิชาบูโดที่แตกฉาน ความสามารถต่างๆ นานาที่หลินซวนหวามีติดตัวอยู่ ก็ไม่สามารถแสดงออกมาใช้ได้
เหมือนกับที่ตระกูลหลินพูด ความสามารถทั้งหมดของเขามาจากตระกูลหลิน ตระกูลหลินบอกว่าห้ามใช้ เขาก็ใช้ไม่ได้
นี่ก็คือกฎของตระกูลสันโดษ!
“อื้อ……”แม่เฒ่าตระกูลหลินพยักหน้าด้วยความพออกพอใจ”น้องสิบสองก็ซื่อสัตย์รักษากฎ รู้ว่าตัวเองไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกสาวให้ดีๆ จึงยอมรับโทษแต่โดยดี”
“สิบกว่าปีมานี้ เขาก็ลำบากเหมือนกัน หลินเฉียน แกจัดเตรียมคน พาตัวน้องสิบสองกลับมายังตระกูลหลิน บอกเขาว่า หมดเวลาโทษของตระกูลแล้ว ได้ทำการยกเลิกโทษของเขาเรียบร้อยแล้ว”แม่เฒ่าตระกูลหลินพูดสั่งกำชับ
“ครับ!”หลินเฉียนพยักหน้าอย่างเคารพนับถือ
“ในเมื่อเรียกให้เด็กหลินอิ่งนั่นกลับคืนสู่ตระกูลหลินแล้ว ก็ต้องเห็นแก่ตายายแท้ๆ ของเขาเหมือนกัน”แม่เฒ่าค่อยๆ พูดขึ้น
พอได้ยินแม่เฒ่าเตรียมการแบบนี้ ผู้อาวุโสของตระกูลหลินที่อยู่ตรงนั้น สีหน้าก็ยิ่งดูไม่ดีขึ้นไปอีก
“แม่เฒ่า ท่านจะพาตัวน้องสิบสองกลับมาไม่พอ ยังจะพาเด็กนอกคอกที่ซูชิงไปคลอดทิ้งไว้ข้างนอกกลับตระกูลมาด้วยอย่างนั้นเหรอ? กะที่จะให้เขามาหยุดรั้งท่านเฉินเฟิงหรือไงกัน?”น้องสามตระกูลหลินพูดถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“แม่เฒ่า นี่มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อตระกูลหลินของพวกเราเลยนะครับ ไม่เพียงแต่จะไปก้าวก่ายท่านเฉินเฟิงแล้ว แถมยังช่วยเก็บกวาดความยุ่งเหยิงวุ่นวายที่หลินอิ่งก่อขึ้นที่โลกธรรมให้อีก ต่อให้หลินอิ่งจะยอดเยี่ยมยังไง หรือว่าพวกเราตระกูลหลินขาดเด็กที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างนั้นเหรอ? ขาดเขาไปใช่ไหม?”น้องสามของตระกูลหลินพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ท่านตัดสินใจแบบนี้ เกรงว่าเด็กๆ มากมายในตระกูลคงจะไม่ยอมแน่นอน”
“เหอะๆๆ “แม่เฒ่าตระกูลหลินหัวเราะแห้งออกมาสองสามที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยแววตาเต็มไปด้วยปัญญาและความช่ำชอง”ฉันก็แค่เรียกหลินอิ่งกลับตระกูลมา ให้เด็กหนุ่มสาวแบบพวกเขาดูสักหน่อยว่า เขาปฏิบัติยังไง”
“ถ้าพวกเขาไม่ยอม ก็ต้องทำให้ดีกว่าหลินอิ่ง พิสูจน์ตัวเอง ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะนึกว่าตัวเองสุดยอดสมบูรณ์แบบ ขาดการฝึกฝนการต่อสู้ทางโลกธรรม แล้วก็จะยากที่จะกลายเป็นคนที่มีความสามารถเก่งกาจ”
แม่เฒ่าตระกูลหลินท่าทางประณีตรอบคอบ เห็นได้ชัดว่า การที่เชิญหลินอิ่งกลับมาที่ตระกูล มีเจตนาที่ลึกซึ้งแฝงเอาไว้
“แต่ว่า……”น้องสามตระกูลหลินยังอยากที่จะพูดแต่ก็หยุดพูดไป รู้สึกไม่พอใจ
“เอาล่ะ พวกแกไม่ต้องเสวนาอะไรเยอะแยะแล้ว พวกแกล้วนแต่เป็นลูกที่ฉันคลอดมา ความคิดของพวกแกฉันจะไม่รู้ได้ยังไง? เรื่องที่พวกแกคิดพิจารณาอยู่ในใจ ฉันก็คิดได้เหมือนกัน”แม่เฒ่าตระกูลหลินพูดตัดบท
“การที่เรียกหลินอิ่งกลับมาตระกูลหลิน อย่างแรก ก็เพื่อให้ตระกูลหลินแห่งลังยาของพวกเรา สามารถเข้าไปอยู่ในตี้จิงได้อย่างราบรื่น ขยายอิทธิพลของตระกูลหลินแห่งลังยาให้ยิ่งใหญ่ขึ้น พวกแกก็รู้ ว่าช่วงนี้กลุ่มสันโดษไม่ค่อยสงบ อำนาจอิทธิพลในทุกๆ ที่ล้วนแต่สอดมือเข้ามาทางโลกธรรม ตระกูลหลินของพวกเราก็ต้องคว้าโอกาสดีๆ เอาไว้ด้วยเหมือนกัน”แม่เฒ่าตระกูลหลินค่อยๆ พูดขึ้น”ส่วนอย่างที่สอง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครคอยวางแผนบงการอยู่เบื้องหลังของหลินอิ่งคนนี้ ขอแค่ได้เจอหน้า ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าฉันจะควบคุมเด็กแบบเขาไม่อยู่”
พูดจบ แม่เฒ่าตระกูลหลินก็โบกมือ พร้อมกับพูดขึ้น”เรื่องก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน หลินเฉียนไปพาตัวน้องสิบสองกลับมายังภูเขาลังยา แล้วออกคำสั่งให้คนไปบอกหลินอิ่งที่ตี้จิงตามแผนการของฉัน”
“นอกจากนี้ พวกแกถอยไป เชิญท่านเฉินเฟิงมาที่ห้องโถงใหญ่ ฉันอยากจะพูดคุยเจรจากับเขา ว่าการตายของลูกศิษย์ของเขา จะจัดการอย่างไร”