บทที่ 71 ไว้หน้าฉันบ้าง
“หลินอิ่งทีนี้คุณรู้หรือยังว่ามาขัดแย้งกับฉันจะมีจุดจบอย่างไร” หวางจื่อเหวินมองไปที่หลินอิ่ง และพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า“ไอ๊หยา ต้องเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย แถมยังต้องตกงาน ไหนจะถูกฟ้องร้องอีกร้อยล้าน และอาจถึงขั้นติดคุกได้เลย”
“เอาอย่างนี้ไหม” หวางจื่อเหวินพูดด้วยสีหน้าแสดงความสงสาร “เห็นแก่หน้าของฉีโม่ หลินอิ่งเพียงแค่คุณคุกเข่าและขอโทษฉัน ฉันสามารถสัญญาต่อหน้าประธานจางทั้งสองว่า นับจากนี้จะปล่อยคุณไป และจะไม่ฟ้องร้องคุณอีก และยังช่วยพูดให้คุณสามารถอยู่ทำงานที่จางซื่อกรุ๊ปต่อไปได้อีก”
พูดจบ ในใจของหวางจื่อเหวินก็รู้สึกมีความสุขมาก ที่สามารถบังคับหลินอิ่งต่อหน้าจางฉีโม่ด้วยวิธีนี้ได้ ช่างมีความสุขจริงๆ
จางหงซวนและจางหงจูนต่างยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก
นี่คือสิ่งที่คนไร้ประโยชน์อย่างหลินอิ่งสมควรได้รับ ตัวเองไม่มีกำลัง ยังกล้าที่จะหยาบคายต่อหน้าพวกเขา
เพียงแค่หลินอิ่งกล้าปฏิเสธที่จะขอโทษ พวกเขาก็จัดให้รปภ.เข้ามาทุบตีหลินอิ่งสักหมัด แล้วลากโยนออกไป ปล่อยให้คนไร้ประโยชน์อย่างเขาถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีต่อหน้าภรรยาของตัวเอง และต่อหน้าคนหลายสิบคนในบริษัท!
สีหน้าหลินอิ่งยังดูปกติ และมองไปที่หวางจื่อเหวินกับจางหงซวนสองพี่น้อง
“พวกคุณกำลังต่อบทละครกันอยู่เหรอ”หลินอิ่งถาม
“อะไรกัน ตัวเองตกอยู่ในความลำบากแล้วคุณยังกล้าที่จะเหน็บแนมกรรมการทั้งสองคนของเรากับคุณชายหวางงั้นเหรอ”จางหงจูนพูดอย่างโกรธเกรี้ยวมาก
ในความคิดของเขา ตอนนี้คนไร้ประโยชน์อย่างหลินอิ่งควรคุกเข่าขอโทษ และออกไปจากบริษัทได้แล้ว
พวกเขาทั้งสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ มีใครไม่ใช่บุคคลที่ร่ำรวยของเมืองชิงหยูนบ้างละ คนไร้ประโยชน์แบบหลินอิ่งยังกล้าเถียงด้วยเหรอ
“รปภ.เข้ามา! หลินอิ่งไม่ใช่คนของบริษัทอีกต่อไป และยังจงใจสร้างปัญหาในบริษัทด้วย พาไปสั่งสอน และโยนออกไปเดี๋ยวนี้!” จางหงซวนตะโกนออกคำสั่ง และหันไปจ้องหลินอิ่งอย่างภูมิใจ
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเรียกรปภ.มาทุบตีหลินอิ่งเพราะได้ระบายความคับแค้นใจที่ได้รับตอนอยู่ที่บ้านของจางฉีโม่ครั้งก่อนออกมา!
แกร๊ก!
ชายร่างสูงกำยำในเครื่องแบบรปภ.หลายสิบคน เดินเข้ามาจากนอกสำนักงาน ถือกระบองไฟฟ้าในมือ ดูเหมือนว่าได้เตรียมพร้อมมาอย่างดี
“ลุงใหญ่ ลุงสาม พวกคุณทำแบบนี้ในบริษัทมันเกินไปไหม” จางฉีโม่ถามด้วยความไม่พอใจอย่างมาก และมองไปที่หลินอิ่งอย่างเป็นห่วง
หวางจื่อเหวินมองไปที่จางฉีโม่กล่าวด้วยสีหน้าติดตลก “ฉีโม่ ความจริงแค่คุณเอ่ยปากขอร้องฉัน และออกไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับฉัน ฉันจะไว้ชีวิตเขาทันที”
“ฉีโม่ ไม่ต้องสนใจเขา” หลินอิ่งพูดอย่างไม่สนใจไยดี
“ดีนะ ในเมื่อให้โอกาสคุณแล้วแต่ไม่เอาเอง พาเขาออกไปแล้วตีด้วยกระบอง!” หวางจื่อเหวินพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
พอเขาพูดจบ ก็มีรปภ.หลายสิบคนถือกระบองไฟฟ้าพุ่งเข้าหาหลินอิ่งทันที
“ใครกล้าลงมือก็ลองดู!”
ตอนนั้นเอง ก็มีเสียงตำหนิด้วยความโกรธดังเข้ามา ทีมรปภ.ต่างตกตะลึงหยุดอยู่กับที่
และอูหยางเดินมาจากห้องทำงาน
“สำนักงานเป็นที่ที่พวกคุณจะเข้ามาได้งั้นเหรอ ออกไปให้หมด” อูหยางตะโกนใส่รปภ.เหล่านี้
บรรดารปภ.ต่างกลัวจนไม่กล้าพูด และออกไปจากสำนักงานโดยเร็ว
หลังจากนั้น อูหยางมองไปที่จางหงจูนและจางหงซวนด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเพ่งมองที่หวางจื่อเหวิน และหัวเราะเยาะ
“คุณช่างน่าเกรงขามจริงเลยนะ ถึงขั้นบงการพนักงานตลอดจนผู้บริหารของบริษัทได้” อูหยางพูดด้วยเสียงต่ำ
หวางจื่อเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่อูหยาง และถามด้วยท่าทีเหยียดหยาม : “คุณเป็นใคร มาอวดเก่งอะไรกับฉัน”
บริษัทเล็กๆอย่างบริษัทเครื่องประดับจางซื่อไม่รู้ว่าผู้บริหารเล็กๆของบริษัทโผล่มาจากไหน และยังกล้าท้าทายตระกูลหวางของเขา
จางหงซวนพูดกระซิบสองสามคำข้างๆหวางจื่อเหวิน สีหน้าของหวางจื่อเหวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ท่าทีที่หยิ่งยโสก็เหือดหายไป
อูหยางหัวเราะเยาะ มองไปที่จางหงจูน และถาม:“คนนี้พวกคุณสองคนเป็นคนพาเข้ามาเหรอ”
“ประธานอู ท่านนี้คือนายน้อยตระกูลหวาง หวางจื่อเหวิน สนใจลงทุนในบริษัทของพวกเรา และเป็นแขกผู้มีเกียรติของบริษัทของพวกเรา” จางหงจูนพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เป็นคนนอก แต่มาโยกย้ายทีมรปภ.ของบริษัทได้ตามอำเภอใจ ยังสามารถกำหนดตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้อีกด้วย พวกคุณสองคนเป็นกรรมการบริหารทำงานประสาอะไร ทำตัวกินบนเรือนขี้รดบนหลังคางั้นเหรอ” อูหยางตำหนิอย่างไม่เกรงใจ
สีหน้าของจางหงจูนกับจางหงซวนเปลี่ยนไปอย่างมาก รู้สึกอายมากที่ถูกต่อว่า
ไม่รู้ว่าแซ่อูคนนี้มาจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไร ดูท่าทางเหมือนต้องการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
“คุณคือประธานอูใช่ไหม สวัสดี ฉันชื่อหวางจื่อเหวินจากตระกูลหวาง หวางกั๋วคางเป็นพ่อของฉัน ตระกูลหวางและนิ่งซื่อกรุ๊ปเมืองตุงไห่ของเรามีการติดต่อทางธุรกิจกันบ้าง” หวางจื่อเหวินพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม ท่าทีก็เปลี่ยนเป็นซื่อๆ “มาที่บริษัทของคุณวันนี้ เพราะมีเรื่องที่ต้องจัดการเล็กน้อย”
“เรื่องเล็กน้อยอะไร” อูหยางถามด้วยความใจเย็น
“บริษัทของคุณมีพนักงานชื่อหลินอิ่ง เขาเจตนาร้ายทำลายโบราณวัตถุมูลค่าหลายสิบล้านของฉัน เป็นปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นทั้งข้องฉันคิดว่าคนแบบนี้ไม่ควรให้อยู่ในบริษัทของคุณนะ” หวางจื่อเหวินกล่าว “ถ้าประธานอูมีเวลาว่าง คืนนี้ฉันเลี้ยงมื้อค่ำคุณ และเห็นแก่หน้าของฉัน ไล่หลินอิ่งคนนี้ออกด้วย”
หลังจากหวางจื่อเหวินได้รู้เกี่ยวกับฐานะของอูหยาง ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่คาดคิดว่าบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ บริษัทเล็กๆจะมีเสือซุ่มมังกรอย่างอูหยางซ่อนตัวอยู่
แม้ว่าอูหยางจะบอกว่าเป็นแค่เลขาพ่อบ้านของประธานนิ่งซวนแห่งนิ่งซื่อกรุ๊ปเมืองตุงไห่ แต่นิ่งซวนไม่ค่อยได้ออกมาแสดงตัว ในแวดวงธุรกิจของเมืองชิงหยูน อูหยางก็เป็นโฆษกของนิ่งซวน!
แม้ว่าจะเป็นคนของตระกูลหวางที่อยู่มาหลายชั่วคน แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกินนิ่งซื่อกรุ๊ปเมืองตุงไห่
แต่เบื้องหลังของนิ่งซื่อกรุ๊ปเมืองตุงไห่คือตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง!นิ่งซวนเป็นทายาทโดยตรงของตระกูลนิ่งแห่งตี้จิง!เมื่อเทียบกับตระกูลที่ร่ำรวยและยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างตี้จิง ตระกูลหวางก็เป็นเพียงมดที่น่าสงสารตัวหนึ่ง
ถ้าหากต่อหน้านิ่งซวน เขาคงไม่กล้าแม้แต่จะผายลมอย่างแน่นอน จะถูกหรือจะผิด ก็ต้องรีบพูดขอโทษทันที
แต่ต่อหน้าอูหยางเลขาของนิ่งซวน ก็ยังพอมีศักดิ์ศรีอยู่บ้าง
เช่นเดียวกับเรื่องเล็กน้อยอย่างการไล่คนไร้ประโยชน์อย่างหลินอิ่งออก เชื่อว่าอูหยางก็จะทำให้ขายหน้าตระกูลหวางของเขาไม่น้อยเช่นกัน
“ขายหน้าคุณงั้นเหรอ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร”อูหยางพูดอย่างไร้ความปรานี
“อูหยาง คุณ!” หวางจื่อเหวินหน้าแดง และโกรธอย่าง มาก อูหยางทำให้โกรธจนพูดออกมาไม่ได้
ในเวลาปกติ อูหยางจะไม่ไปหาหวางจื่อเหวินซึ่งเป็นคุณชายของตระกูลหวาง แต่ปัญหาคือ หลินอิ่งมีประธานหลินหนุนหลังอยู่! แม่ง มีปัญหากับประธานหลิน ในเมืองชิงหยูนใครที่มาแล้วกล้าทำให้อูหยางเกลียด ศักดิ์ศรีที่มีก็ใช้งานไม่ได้!
อูหยางมองหวางจื่อเหวินด้วยสายตาเย็นชา และพูด “เรื่องที่คุณพูด ฉันรู้มานานแล้ว คุณอย่าทำเหมือนว่าทุกคนเป็นคนโง่ และยังกล้ามาที่นี่อีก! คุณกำลังทำลายชื่อเสียงของบริษัทเครื่องประดับจางซื่อ คุณรู้ไหมว่าสิ่งนี้ส่งผลเสียต่อบริษัทของพวกเรา ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง คุณจะรับผิดชอบเงินที่สูญเสียไปได้หรือไม่ และยังเข้ามาสั่งการรปภ. ให้ทุบตีผู้บริหารบริษัทของฉัน และยังจะไล่เขาออกด้วย คุณไม่เห็นว่าฉันเป็นคนเหรอ”
“ตอนนี้ฉันบริหารบริษัทเครื่องประดับจางซื่อแทนในนามของประธานนิ่ง ที่นี่เป็นทรัพย์สินของนิ่งซื่อกรุ๊ป คุณทำแบบนี้ เท่ากับคุณกำลังตบหน้าฉัน และตบหน้าประธานนิ่งอยู่!” อูหยางพูดเสียงดัง “กลับไปถามหวางกั๋วคางพ่อของคุณ ว่าเขากล้าทำแบบนี้ไหม”
“คุณ! ฉัน….” หวางจื่อเหวินไม่ต่อเนื่องเล็กน้อย ใบหน้าของเขาแดง อยากจะด่ากลับ แต่ก็ไม่มีความกล้า