“อย่าว่าแต่คุณเลย ต่อให้มังกรเหลืองมาใช้วิชานี้ต่อหน้าผม ก็แค่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเท่านั้น” หลินอิ่งพูดเรียบ
“แก…” หลินเซี่ยวกระอักเลือดคำใหญ่ มองหลินอิ่งด้วยแววตาสิ้นหวัง “บอกมา แกเรียนมาจากที่ไหนกันแน่?!”
พลิกทะเลพิชิตมังกร เคล็ดวิชานี้เป็นกระบวนท่าที่นักพรตมังกรเหลืองหวงแหน และเป็นกระบวนท่าที่ร้ายกาจที่สุดที่สอนให้กับเขา
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่หลินเซี่ยวติดตามอาจารย์เรียนวิชานี้ ตอนนั้นเขาต้องตรากตรำร่ำเรียนอยู่บนทะเลถึงหนึ่งปีเต็ม
ต้องอยู่บนผิวทะเลที่เป็นน้ำแข็ง ควานทะเลจับฉลามด้วยนิ้วมือทั้งห้า กระทั่งสามารถซัดน้ำแข็งจากผิวทะเลลงไปได้หลายสิบเมตรแล้วจับฉลามที่ว่ายอยู่ในน้ำให้ตายได้ จึงจะถือว่าเรียนรู้กระบวนท่านี้สำเร็จ
ความลำบากในช่วงเวลานั้น มีเพียงเขาที่รู้
ด้วยกระบวนท่านี้ หลินเซี่ยวสามารถท่องยุทธภพได้ ในแวดวงลึกลับก็สยบได้อย่างราบคาบ ในบูโดระดับเดียวกันก็แทบไม่มีใครสกัดเขาได้
เป็นเคล็ดวิชาที่นำความภาคภูมิมาให้เขา และเป็นความภูมิใจในบูโดของเขามาตลอด
แต่…วันนี้หลินอิ่งกลับใช้กระบวนท่านี้ทำจนเขาหมดท่า
ขยี้ความภาคภูมิของหลินเซี่ยวจนแหลกละเอียด แทบให้ความศรัทธาในบูโดของเขาแตกสลาย
หลินอิ่งยิ้มมุมปาก ไม่อธิบาย
หลินอิ่งแตกฉานเคล็ดวิชาทั้งหมดในแก๊งมังกร
พลิกทะเลพิชิตมังกรที่หลินเซี่ยวเรียนมาจากนักพรตมังกรเหลือง ต่อหน้าหลินอิ่งก็เป็นแค่กลเด็กเล่นเท่านั้น
และเพราะวิชาส่วนใหญ่ของหลินเซี่ยวมาจากนักพรตมังกรเหลือง หลินอิ่งจึงเดาทางออกและสยบเขาได้
ไม่เช่นนั้นด้วยกำลังของหลินอิ่งในตอนนี้ หากจะคว่ำหลินเซี่ยวยังต้องใช้กำลังอีกมาก
หลินอิ่งไพล่หลัง เดินไปทางหลินเซี่ยว
หลินเซี่ยวตื่นตระหนก อยากจะลุกขึ้น แต่เพราะความเจ็บปวดทั่วร่าง ชี่กังภายในที่แตกซ่าน และการที่กระดูกเส้นลมปราณสะบั้นจึงขยับตัวไม่ได้
“หลินอิ่ง แกจะทำอะไร?!”
พลั่ก!
หลินอิ่งเหยียบใบหน้าหลินเซี่ยวอย่างแรง กดใบหน้าเขาติดพื้นขยับไม่ได้
“จำไว้! อย่ามาข่มขู่ผู้หญิงของผมต่อหน้าผม!” หลินอิ่งพูดเสียงเย็น “แต่น่าเสียดาย คุณไม่มีโอกาสเรียนจุดนี้แล้ว!”
หลินเซี่ยวกระอักเลือดออกมาสองคำ หน้าแดงอับอาย เบิกตาโต ทั้งขายหน้าทั้งโกรธ
ความอดสูเช่นนี้ทำให้เขาโมโหตายทันที
เขาเป็นถึงคุณชายสองแห่งตระกูลหลิน เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูล เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในแวดวงลึกลับ
แต่กลับ…กลับถูกคนสยบลงพื้น เหยียบศีรษะต่อหน้าธารกำนัล!
“คุณชายเซี่ยวไม่เป็นใช่ไหม? หลินอิ่ง! คุณอย่าทำไปเรื่อยนะ! คิดจะทำอะไรนะ?!”
“คุณชายเซี่ยวเป็นคนที่แม่เฒ่าให้ความสำคัญมาก คุณอย่าทำไปเรื่อยนะ! เกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบไม่ไหว!”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากผู้อาวุโสหลิวเห็นท่าทางหลินเซี่ยวซมซานแล้วก็ตกใจตะโกนโหวกเหวก รีบร้อนจะมาคุ้มกัน
“ไอ้แก่ ตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอดเลย ยังมีใจไปห่วงคนอื่นอีก?”
ซือคงฟู่หัวเราะหยอกเย้า หมุนตัวซัดฝ่ามือออกไป ทำจนผู้อาวุโสหลิวต้องพ่ายถอยหลังเนืองๆ ไม่อาจสนใจหลินเซี่ยวได้อีก
วินาทีนี้ ใบหน้าลูกหลานตระกูลหลินแต่ละคนที่มุงล้อมดูจากไกลๆ ต่างตกใจจนหน้าขาวซีด
พวกเขาไม่กล้าเสียงดัง มองคุณชายเซี่ยวถูกหลินอิ่งเหยียบติดอยู่กับพื้นเหมือนสุนัขตัวหนึ่งอย่างตกตะลึง
ภาพนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
ใครก็คิดไม่ถึง ว่าคุณชายเซี่ยวที่จัดงานเลี้ยงให้หลินอิ่งที่กลับตระกูลหลินมาเสียหน้า
แต่ท้ายที่สุด…กลับเป็นเช่นนี้ไปได้!
คุณชายเซี่ยว รัชทายาทสองแห่งตระกูลหลิน มีอำนาจในตระกูลหลินเพียงใด?
แต่เมื่อประมือกับคุณชายสามหลินอิ่งที่กลับมาอย่างทรงอิทธิพลแล้ว กลับถูกกำราบจนเหมือนสุนัข
เหลือเชื่อ! ไม่อยากจะเชื่อเลย!
ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง คนตระกูลหลินกลุ่มนี้ยังต้องคิดว่าตาตัวเองมีปัญหา!
“หลินอิ่ง! อย่าฆ่าฉันนะ ถ้าแกฆ่าฉัน นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังมีแต่จะทำให้แกต้องลำบาก”
หลินเซี่ยวทิ้งศักดิ์ศรีคุณชายสองตระกูลหลินไปแล้ว กระหืดกระหอบร้องขอชีวิต
“ฉันยินดีจะขอขมาแก ขอโทษคุณนายแกด้วย ขอแต่อย่าฆ่าฉันเลย!”
“ฉันเป็นคุณชายสอง เป็นพี่แก ถ้าแกฆ่าฉันแล้วจะไปอธิบายกับแม่เฒ่ายังไง? แม่เฒ่าต้องโกรธแน่ แล้ว… ปู่ๆ ของฉันก็ต้องไม่ปล่อยแกไปด้วย!”
“หลินอิ่ง! ถึงแกจะฆ่าฉันก็ครองตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลินไม่มั่นคงหรอก! อย่าลืมนะ! ตระกูลหลินยังมีคุณชายใหญ่อีก ถ้าพวกเราเพลี่ยงพล้ำทั้งสองฝ่าย สู้กันตายไปข้าง มีแต่จะให้คุณชายใหญ่ได้ประโยชน์!”
หลินอิ่งยังคงไร้อารมณ์ แม้ได้ฟังคำวิงวอนขอชีวิตของหลินเซี่ยวแล้ว เขาก็ยังไม่หวั่นไหว ซ้ำเพิ่มแรงเท้าหนักกว่าเดิม เหยียบจนกล้ามเนื้อใบหน้าอีกฝ่ายเปลี่ยนรูป ศีรษะลงฝังอยู่ในปูน
“อ้า…!”
หลินเซี่ยวส่งเสียงทรมาน อดกลั้นต่อความเดือดดาลแล้วพูดดีเอาใจ “หลินอิ่ง อย่าเพิ่งวู่วามไป ถ้าวู่วามฆ่าฉันแล้ว มีแต่จะให้แกเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด”
“ฉันยอมจับมือเป็นมิตรกับแก ต่อไป ฉันจะสนับสนุนแกต่อสู้กับคุณชายใหญ่ ครั้งนี้ฉันยอมแพ้แกแล้ว”
หลินอิ่งกล่าวเรียบ “ตอนนี้มายอมแพ้? ก่อนหน้านี้มัวทำอะไรอยู่ล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้ฉันมีตาหามีแววไม่ หลินอิ่ง แกปล่อยฉันไปเถอะ อาจารย์ของฉันคือนักพรตมังกรเหลือง แกฆ่าฉันแล้วไม่แค่ต้องรับกับศึกหนักจากตระกูลหลิน อาจารย์ฉันก็ต้องไม่ปล่อยแกไปแน่”
หลินอิ่งยิ้มเย็น พูดด้วยความเย้ยหยัน “คุณคิดว่ามังกรเหลืองจะทำอะไรผมได้?”
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิด หลินอิ่ง ฉะ ฉันไม่ได้เอานักพรตมังกรเหลืองมาขู่แก รอบนี้ฉันแพ้แล้ว”
“หลินอิ่ง ตอนอยู่ตี้จิงแกยังไม่ฆ่าหลินสวนถูเลย นี่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าแกเกรงจะทำให้แม่เฒ่าโกรธเหรอ? ยำเกรงความเกรียงไกรของตระกูลหลิน”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมแกต้องใช้อารมณ์ บีบฉันให้ถึงที่สุดด้วยล่ะ?”
หลินเซี่ยวใช้ความคิดทั้งหมดราวกับเกิดปัญญาในยามวิกฤต เพื่อร้องขอชีวิตแล้ว คุณโทษอะไรก็พูดออกมาหมด
หลินอิ่งส่ายหน้า กล่าวเรียบๆ “อย่างที่คุณพูด คุณเก่งกว่าหลินสวนถู ที่ผมไม่ฆ่าเขา เพราะเขาไม่คู่ควร”
“ผมหลินอิ่ง ไม่ฆ่าคนกระจอก!”
เมื่อพูดจบ หลินอิ่งก็ออกแรงเหยียบหน้าอกหลินเซี่ยว
ครืน! อาคารทั้งชั้นสั่นสะเทือน เพดานด้านบนแตกร้าวและมีเศษหินตกลงมาประปราย
“อ้า…!”
หลินเซี่ยวครวญครางทรมานอย่างบ้าคลั่ง เลือดสดทะลักออกมาจากปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความแค้น
วินาทีต่อมา เขาก็สิ้นลมหายใจ ศีรษะหันไปอีกข้าง
คุณชายสองของตระกูลหลินถูกหลินอิ่งเหยียบตายคาที่