หลินอิ่งอยู่ในอาคารชิงเหอเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ช่วยจางฉีโม่จัดการเรื่องส่งมอบงานในบริษัทเรียบร้อยแล้ว จึงพากู่ชางไห่ ขึ้นรถไปยังโรงน้ำชาแห่งหนึ่งในเมือง
ทางด้านบริษัทชิงเหอ หลี่ว่านหยวนมาเป็นลูกมือด้วยตัวเอง ด้านบริษัทจะไม่มีปัญหาอะไรอีกแน่นอน
เนื่องจากหลี่ว่านหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาก้าวมาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในชางโจวได้ ก็เพราะรู้ว่าใครสามารถล่วงเกินได้ ใครไม่สามารถล่วงเกินได้
ต่อมา ก่อนที่จะไปจี้โจว ก็คือการไปพบท่านเฉินเฟิง และไปคุยปรึกษากับซือคงฟู่
หมากอย่างท่านเฉินเฟิง หลินอิ่งยังไม่คิดจะใช้ในจี้โจวหมากกระดานนี้
เพราะวิชาบูโดของท่านเฉินเฟิงยังฟื้นฟูกลับมาไม่สมบูรณ์ อยู่ระหว่างรายการแห่งฟ้ากับรายการแห่งดิน
ตนจะต้องพิจารณาเรื่องการปลดผนึกบูโดของเขาว่าต้องปลดเท่าไร
ในตอนนี้ ยังไม่สามารถปลดผนึกของท่านเฉินเฟิงได้หมด ถ้าปล่อยให้คนผู้นี้ฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ของรายการแห่งฟ้าได้ เกรงว่าจะควบคุมบังคับได้ยาก
และซือคงฟู่ เป็นบุคคลที่สำคัญสำหรับหมากกระดานนี้ของจี้โจว
ซือคงฟู่ รวมถึงมังกรเขียวแห่งตี้จิงที่อยู่ห่างไกล เป็นมีดที่คมที่สุดในมือของเขาในตอนนี้ มีดเหล่านี้จะใช้ได้ดี และไร้เทียมทาน
แน่นอนว่า นี่เป็นดาบสองคมเช่นกัน
ยิ่งมีการใกล้ชิดกับสองคนนี้มากเท่าไร ก็ยิ่งง่ายต่อการเปิดเผยตัวตนที่เป็นความลับ
หลินอิ่งนั่งพิงกับโซฟาเบาะหลังรถ แล้วค่อยๆหลับตาพักผ่อน ภายในใจกำลังวางแผน
ผ่านไปสิบนาที
กู่ชางไห่ก็จอดรถเบนท์ลีย์สีดำหน้าโรงน้ำชา หลินอิ่งลงจากรถ แล้วเดินตรงเข้าไปบนห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสองของโรงน้ำชา
ซือคงฟู่มาถึงนานแล้ว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ของโต๊ะน้ำชา ในมือถือกาน้ำชาไม้จันทน์หนึ่งกา ค่อยๆรินลงในแก้วน้ำชาสองแก้ว
ในคืนที่ออกจากภูเขาลังยา ได้รับข้อความจากซือคงฟู่บนมือถือที่เข้ารหัสของหลินอิ่ง นัดให้มาเจอที่นี่
“ฮ่าๆ คุณชายอิ่งได้รับชัยชนะกลับมา เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจริงเลยนะครับ ยินดีด้วย” ซือคงฟู่ยิ้มอย่างเต็มใจ “ดื่มสักแก้วนะครับ เชิญครับ”
หลินอิ่งนั่งลงอย่างสง่าผ่าเผย ยกชาขึ้นมาจิบ
“ไม่ถือว่าได้กลับมาอย่างมีชัยอะไรหรอกครับ แค่เดินทางไปภูเขาลังยาเท่านั้นเอง” หลินอิ่งวางแก้วชาลง แล้วพูดอย่างเรียบเฉย
ซือคงฟู่ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณชายอิ่งอายุน้อยมีความสามารถ และไม่หยิ่งหรือผยอง หาได้ยากจริงๆ”
“ที่ภูเขาลังยาเป็นสถานที่อันตรายของคนพวกนั้น มีหลินเสวียนหมิงที่จ้องจะฆ่าคุณชายอิ่ง แล้วยังมีท่านเฉินเฟิงที่จะขอสู้กับคุณให้ได้ อีกด้านยังมีหลินเสวียนคุนผู้อาวุโสตระกูลหลินที่จ้องจะทำร้าย สถานการณ์เช่นนี้ แต่คุณชายหลินก็สามารถออกมาด้วยดี ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!” ซือคงฟู่พูดชื่นชม
ซือคงฟู่มองหลินอิ่งตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความประหลาดใจ
ในความคาดหมายของเขา หลินอิ่งสามารถลงมาจากภูเขาลังยา แต่จะต้องลำบากอย่างแน่นอน กระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส
เนื่องจาก หลินอิ่งฆ่าหลินเซี่ยว หลินเสวียนหมิงจะปล่อยให้จบง่ายๆได้อย่างไร?
สำหรับทั้งคู่ หลินอิ่งกลับตระกูลหลิน ทุกอย่างก็เพราะท่านเฉินเฟิงไปเยือนภูเขาลังยาดึงดูด ท่านเฉินเฟิงจะปล่อยหลินอิ่งไปง่ายๆได้อย่างไร?
แต่หลินอิ่ง กลับออกจากภูเขาลังยาโดยที่ไม่มีอะไรสึกหรอแม้แต่น้อย อีกทั้งความตั้งใจยังไม่ถูกทำลายอีกด้วย ไม่ได้รับความโหดร้ายของตระกูลหลิน ดูเหมือนมีแสงทองสาดส่องมายังเขา
นี่แสดงว่าอะไร?หลินอิ่งใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลหลินอย่างราบรื่น
“ผมรู้สึกสงสัยนิดหน่อย คุณชายอิ่งจัดการท่านเฉินเฟิงกับหลินเสวียนหมิงยังไง” ซือคงฟู่เอ่ยถาม
หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “แม่เฒ่าพูดแล้ว”
“งั้นดูท่าคุณชายอิ่งจะมีความสำคัญต่อแม่เฒ่าตระกูลหลินนะครับ ถึงได้ยอมปราบปรามผู้อาวุโสสองกับท่านเฉินเฟิง” ซือคงฟู่พูดอย่างสะท้อนใจ “ด้วยวิธีนี้ ก็มีแค่คุณชายใหญ่ท่านนั้น ที่จะสามารถแย่งชิงความเป็นหนึ่งกับคุณชายอิ่งได้”
“คุณชายอิ่งเคยพบหลินเซวียนคุณชายใหญ่ท่านนั้นรึยังครับ?ช่วงหลายปีมานี้เด็กคนนี้มีชื่อเสียงในแวดวงลึกลับมากเลยนะครับ ผู้คนต่างขนานนามเขาว่าท่านผู้นำ หลายปีมานี้เขาครองตำแหน่งที่หนึ่งของรายการแห่งดินมั่นคงมาก ไม่มีใครกล้าท้าทายอันดับของเขา”
หลินอิ่งกล่าว “เคยพบหลินเซวียนแล้ว”
“หืม?คุณชายอิ่งคิดว่าคนผู้นี้เป็นยังไงครับ?” ซือคงฟู่ถาม
หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “ผมเห็นว่าเขาเป็นโครงกระดูกที่อยู่บนสุสาน”
“ฮ่าๆ ดี!คุณชายอิ่งมีความมั่นใจขนาดนี้ ผมก็มั่นใจมากขึ้นครับ” ซือคงฟู่หัวเราะไปด้วยพูดไปด้วย
“ซือคง คุณได้ข่าวเรื่องของจี้โจวไหม?” หลินอิ่งถามอย่างใจเย็น ตรงไปตรงมา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของซือคงฟู่ก็ตึงเครียดขึ้นมา พูดว่า “เรื่องของตระกูลเผยแห่งจี้โจวใหญ่ขนาดนั้น วุ่นวายจนลือกันไปทั่วทั้งแวดวงลึกลับ ผมต้องได้ข่าวอยู่แล้ว”
“เรื่องนี้ ตระกูลหลินแห่งลังยาทำได้ดีมาก ผู้คนต่างขนานนามตระกูลหลินว่าคู่ผยองไร้เทียมทาน คุณชายหลินเซวียนและคุณชายหลินอิ่งจะไปมณฑลจี้โจวด้วยกัน อำนาจของตระกูลหลินจะต้องกลืนกินมณฑลจี้โจวอย่างแน่นอน”
ซือคงฟู่ค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “คุณชายอิ่งได้ปรากฏตัวในแวดวงลึกลับ คนที่ติดตามเรื่องของคุณมีไม่น้อยเลย ต่างรู้สึกสงสัยกันว่าคุณชายสามที่พึ่งได้รับตำแหน่งเป็นใครมาจากไหนกันแน่”
“จากที่ผมรู้มา หลินเซวียนกลายเป็นแนวโน้มของจี้โจว กองกำลังท้องถิ่นที่ซับซ้อนในจี้โจวส่วนใหญ่ถูกเขาดึงเข้าหากันแล้ว เกรงว่าจะไม่สามารถเอาชนะได้”
หลินอิ่งถามต่อไปว่า “คนที่หนุนหลังหลินเซวียนคือใคร?”
ซือคงฟู่พูดอย่างจริงจัง “นอกจากหลินเสวียนคุนกับสมาชิกผู้อาวุโสในตระกูลหลินแล้ว หลินเซวียนกับสำนักกระบี่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก เกี่ยวพันกับสำนักกระบี่อย่างไร แม้แต่ผมยังไม่สามารถสืบได้เลยครับ”
“สำนักกระบี่?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย
หนึ่งคฤหาสน์สองห้องโถง สี่ประตูบ้านหกหลัง
สำนักกระบี่เป็นหนึ่งในสี่สำนักของแวดวงลึกลับ มีประวัติมายาวนาน และมีภูมิหลังที่ลึกซึ้ง
พลังของแวดวงลึกลับมาตลอด อีกทั้งแทบจะเป็นทายาทเพียงคนเดียว ที่มีสมาชิกน้อย และโดดเดี่ยวอยู่ในโลกไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ทุกครั้งที่มียอดฝีมือลงจากเขา นั่นก็จะเป็นบุคคลที่เก่งกาจมากคนหนึ่ง
ซือคงฟู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “หลินเซวียนได้รับความสำคัญจากสัตว์ประหลาดเก่าแก่ของสำนักกระบี่ สำหรับที่ว่าผู้นั้นเป็นใคร ผมยังไม่อาจรู้ได้ครับ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซือคงฟู่ก็เปลี่ยนบทสนทนา “จากที่ผมรู้ คุณชายอิ่งมีหมากที่ใช้ได้นะครับ พี่น้องที่ดีที่สุดของคุณ จ้าวเฉิงเฉียนคุณชายน้อยแห่งแก๊งหยางเหมิน อิทธิพลที่ไปแผ่ขยายที่จี้โจวไม่เล็กเลยนะครับ แก๊งหยางเหมินมีทหารชั้นยอดและแม่ทัพผู้แข็งแกร่งในจี้โจว”
หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย “ผิดคุณซือคงไม่ได้เลยนะครับ จ้าวเฉินเฉียนชวนผมไปที่จี้โจวนานแล้วครับ เพื่อให้เขาสามารถเคลื่อนย้ายได้”
“อืม” ซือคงพยักหน้า “คุณชายอิ่งครับ ยังมีข่าวที่สำคัญมากอันหนึ่งครับ”
“ข้อมูลลับสุดยอด มังกรเหลืองลงเขามาแล้วครับ ตาแก่นั่นออกจากมณฑลหวงไห่ ส่วนการเคลื่อนไหวผมยังไม่รู้ครับ”
“อ่อ?” หลินอิ่งเริ่มสนใจขึ้นมา
“มังกรเหลืองอาศัยอยู่ในมณฑลหวงไห่มานานหลายปี การลงเขาครั้งนี้ ก็เพราะคุณชายอิ่ง” ซือคงฟู่พูดอย่างจริงจัง “แน่นอนว่า เขามาเพราะผมเช่นกัน”