“ผู้อำนวยการหวง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ผู้อำนวยการหวง คุณรู้จักคนคนนี้เหรอ?”
ตอนที่หวงลี่พูดด่าทอตำหนิหลินอิ่ง เหล่าบรรดาชายหญิงชุดสูทรองเท้าหนังในบริษัทก็แห่กันเข้ามา ประจบประแจงหวงลี่ มองหลินอิ่งด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
หวงลี่เป็นถึงผู้อำนวยการของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย เป็นคนโปรดที่อยู่เบื้องหน้าของรองประธานคุณหนูใหญ่หลินหวูซิน มีตำแหน่งสูงมากในบริษัท
หลินอิ่งสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”การที่ผมมาที่นี่ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ?”
“เหอะๆ ทำไมจะไม่เกี่ยวกับฉันล่ะ? ฉันเป็นผู้อำนวยการของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย คนที่ไม่มีหน้าที่กงการอะไรแบบแกมาที่บริษัท ฉันให้แกไสหัวไป แกก็ต้องไสหัวไป”หวงลี่พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
หลินอิ่งยิ้มไม่พูดอะไร มองไปยังพนักงานต้อนรับหญิงที่มีใบหน้าสับสนมึนงงตรงเคาน์เตอร์ ก่อนจะพูดขึ้น”ให้ผู้รับผิดชอบที่สูงที่สุดของบริษัทพวกคุณออกมาพบผม”
“หา? ผู้รับผิดชอบสูงสุด?”พนักงานต้อนรับหญิงสีหน้าประหลาดใจ ไม่เข้าใจความหมายของหลินอิ่ง
“คุณผู้ชายคะ คุณมาหาใครเหรอคะ? มีนัดไว้ก่อนล่วงหน้าไหม?”พนักงานต้อนรับหญิงพูดถามขึ้น มองสำรวจหลินอิ่งหัวจรดเท้า มั่นใจว่าในความทรงจำของตัวเองไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน
“บอกผู้ดูแลจัดการในตอนนี้ของบริษัทของพวกคุณว่า หลินอิ่งมาแล้ว”
หลินอิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก
“เอ่อนี่มัน……”พนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์สีหน้าอึดอัดลำบากใจ มองไปยังหวงลี่
“เหอะๆ”หวงลี่สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าดูถูกดูแคลน”ยังจะหาผู้รับผิดชอบสูงสุด? สภาพจนๆแสนรันทดแบบแกเนี่ยนะ? แกมาหาคุณหนูใหญ่หลินของพวกเรามากกว่ามั้ง? วันนี้คุณหนูใหญ่เมตตาให้เงินแกไปสองแสนให้แกไสหัวไป พอได้จับเงินเข้าหน่อย ก็คิดว่าจะแสวงหาผลประโยชน์ต่อได้อีก? ถึงยังกล้ามาหาคุณหนูใหญ่ถึงบริษัทแบบนี้?”
ในความคิดของหวงลี่ เธอมองทะลุถึงเป้าหมายในการมาที่หลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยของหลินอิ่ง ก็เพราะว่าได้รับผลประโยชน์จากคุณหนูใหญ่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็เลยจะใช้มุขเดิมมารีดไถ่เงินที่บริษัทอีก
ช่างเป็นไอ้คนที่ไม่รักตัวกลัวตายจริงๆ
“หลินอิ่งเอ่ย แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกคิดว่าอยากเจอคุณหนูใหญ่หลินแล้วก็จะได้เจออย่างนั้นเหรอ?”หวงลี่พูดเยาะเย้ย
“เสี่ยวหู เธอไปเรียกบอดี้การ์ดของบริษัทมา คนไร้ค่าคนนี้เป็นมิจฉาชีพ เป็นคนไม่ดีนอกลู่นอกทาง มาก่อความวุ่นวายที่บริษัท”หวงลี่สั่งกำชับพนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์อย่างไม่แยแส
“ค่ะ”พนักงานต้อนรับหญิงตรงเคาน์เตอร์ทำตามคำสั่ง โทรศัพท์ออกไป
หลินอิ่งมุมปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้พูดอธิบายอะไร
ตึกๆๆ
เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งรวดเร็วดังขึ้นมา
เข้ามาจากประตูทางข้างของล็อบบี้ชั้นหนึ่ง บอดี้การ์ดที่รูปร่างทรงพลังกลุ่มหนึ่งของบริษัทเดินเข้ามา
“ผู้อำนวยการหวง ได้ยินมาว่าท่านเรียกพวกเรามา มีรับสั่งอะไรเหรอครับ?”
“มีคนมาก่อปัญหาที่บริษัทเหรอครับ?”
หลังจากที่คนของทีมบอดี้การ์ดเดินเข้ามา ก็เข้ามาล้อมข้างๆหวงลี่รอรับคำสั่ง
หวงลี่มองหลินอิ่งสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน พูดขึ้นอย่างไม่สนใจไม่แยแส”ไอ้ชายไร้ค่าคนนี้แหละ มาโหวกเหวกสร้างความวุ่นวายที่บริษัท แถมยังมาแหกปากจะพบกับคุณหนูใหญ่หลินอีกด้วย พวกนาย ไปเชิญมันออกไปซะ”
“คุณหลินอิ่ง ออกไปเถอะ อย่าให้คนของบริษัทเราต้องลงมือเลย แบบนี้คุณจะถูกเล่นงานจนหมดสภาพนะ”
หลินอิ่งสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก พูดขึ้น”งั้นเหรอ?”
“แกอยากลองเหรอ? ออกไปสอบถามข้างนอกบ้างนะว่าหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยเป็นยังไง”หวงลี่พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
หลินอิ่งพูดขึ้น”คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ยอมให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกคุณมาพบกับผม?”
“แน่ใจแล้วจะทำไม? แกรู้ไหมว่าผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกเราคือใคร? ยังคิดที่จะมาสร้างปัญหาที่นี่อีก? ไม่ใช่เพราะว่าตอนบ่ายเห็นแก่หน้าตาของคุณหนูใหญ่หลิน ป่านนี้ฉันเล่นงานคนไร้ค่าแบบแกจนหมดสภาพไปนานแล้ว”หวงลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก
ตอนที่อยู่บนถนนก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องรถชนหวงลี่เลยถูกคุณหนูใหญ่หลินตำหนิไปหนึ่งยก ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากๆ เอาความโกรธนี้ ไปลงที่หลินอิ่งจนหมด
ผลที่ได้ พอกลับมาถึงบริษัท หลินอิ่งนี่ก็ยังจะกล้ามาสร้างความวุ่นวายถึงบริษัทอีก
ช่างเป็นไอ้โง่ที่นำความอับอายมาสู่ตัวเองแท้ๆ
หลินอิ่งพยักหน้าด้วยสีหน้าปกติ
“ไปบอกผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกคุณ ว่าหลินอิ่งมาแล้ว แล้วก็ เรียกเขาให้มาให้คำอธิบายต่อหน้าของผมด้วยตัวเขาเองด้วย”
พูดจบ หลินอิ่งก็มือไขว้หลัง หันตัวเดินจากไป
“ว่าไงนะ? ให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดมาให้คำอธิบายกับแกเนี่ยนะ?”หวงลี่มองเงาหลังของหลินอิ่งอย่างเย้ยหยัน”ช่างน่าขำจริงๆ แกคิดว่าแกเป็นใคร? แค่ไอ้ขยะไร้ค่ามิจฉาชีพที่นั่งลงแท็กซี่คนหนึ่งเท่านั้น!”
หวงลี่ถุ้ยออกมาหนึ่งที หลังจากที่หลินอิ่งเดินจากไปแล้ว ก็พูดด่าทอตามไปข้างหลังสองประโยคด้วยความไม่สบอารมณ์
ช่วงเวลาบ่าย เพราะว่าหลินอิ่งทำให้เธอถูกคุณหนูใหญ่หลินตำหนิ ทำให้เสียอารมณ์ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณหนูใหญ่หลินอยู่ด้วย ป่านนี้ให้คนไปเล่นงานเขาจนหมดสภาพไปนานแล้ว
ติ๊งต่อง
ในตอนนี้เอง จู่ๆประตูลิฟต์ก็ดังขึ้น
หลินหวูซินสวมชุดเดรสที่ดูเด่นสง่าไม่ธรรมดา สง่างามหรูหรา ล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ดหญิงสองคน เดินออกมา
“คุณหนูใหญ่ ท่านมาแล้ว”หวงลี่พูดประจบประแจง”ท่านคงไม่ทราบ ว่าตอนบ่ายไอ้โง่คนนั้นมันมาถึงที่บริษัทเลยนะคะ ทานให้เงินมันไปสองแสน มันน่าจะรู้สึกว่าไม่พอ คิดที่จะมารีดไถ่อีก ไร้เหตุผลสิ้นดี”
“เธอว่าไงนะ? ตอนบ่ายคนนั้นอะไร?”หลินหวูซินพูดถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็ไอ้ผู้ชายที่นั่งรถแท็กซี่บนถนนคนนั้นไงคะ รู้สึกว่าจะชื่อหลินอิ่งอะไรนี่แหละค่ะ”หวงลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก”หลินอิ่งอะไรนั่นยังบอกอีกว่าจะมาขอพบผู้รับผิดชอบสูงสุดอีกด้วย ฉันไล่เขาออกไปแล้วค่ะ”
“หา? หลินอิ่ง?”หลินหวูซินสีหน้าเปลี่ยนไปดูไม่ดีขึ้นมาทันที
“ตอนนี้หลินอิ่งอยู่ที่ไหน?”หลินหวูซินถามขึ้นด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
“ไม่ทราบค่ะ ฉันเพิ่งจะระเบิดโมโหด่ามันจนกลับไปแล้ว คุณหนูใหญ่จะหามันทำไมเหรอคะ?”หวงลี่พูดถามขึ้น
สูด!
หลินหวูซินสูดหายใจลึกๆด้วยความตกใจหนึ่งที ก่อนจะหันไปมองหวงลี่อย่างนิ่งขรึม พร้อมกับพูดขึ้น”เธอรู้ไหมว่าหลินอิ่งเป็นใคร?”
“คุณหนูใหญ่ทำไมเหรอคะ?”หวงลี่พูดถามขึ้น”มันก็เป็นผู้ชายไร้ค่ามิจฉาชีพไม่ใช่หรอกเหรอคะ?”
หวงลี่พอเห็นท่าทางที่ตกใจของคุณหนูใหญ่ของตัวเองก็รู้สึกประหลาดใจ หรือว่าชื่อของหลินอิ่งนี่มันมีอะไรแปลกอย่างนั้นเหรอ? ถึงทำให้คุณหนูใหญ่แสดงออกมาแบบนี้
“นี่เธอ!เธอนี่ช่างโง่เขลาจริงๆ!”หลินหวูซินตำหนิหวงลี่ โกรธจนสั่นไปหมด
“หลินอิ่งเป็นคุณชายสามที่มาจากชางโจว!วันนี้ทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท!”หลินหวูซินพูดขึ้น”แม่เฒ่ายกหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยให้กับเขาแล้ว!เธอกล้าไล่เขาไปได้ยังไง?”
“ว่าไงนะ!คุณชายสาม?”หวงลี่สีหน้าซีดขาวทันที รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
แต่ว่า คุณหนูใหญ่ที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด วันนี้กลับระเบิดโมโหออกมาอย่างที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ
จู่ๆในใจของเธอก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
หวงลี่เป็นข้ารับใช้ของตระกูลหลิน รู้สถานการณ์ภายในของตระกูลหลินแห่งลังยา ดังนั้นตอนที่ได้ยินคุณหนูใหญ่บอกว่าหลินอิ่งมาจากชางโจว เธอก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมไป
“ฉันเพิ่งได้รับแจ้งจากทางนายกของชางโจว บอกว่าคุณชายจะมาถึง แถมยังส่งรูปของเขามาอีกด้วย……”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง”นั่นก็คือชายหนุ่มที่พวกเราเจอบนถนนเมื่อตอนบ่ายของวันนี้!”
“เธอ!หวงลี่ เธอกำลังจะทำงานใหญ่ของฉันพัง!คนเขาออกไปนานเท่าไรแล้ว?”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยความกระวนกระวาย”เร็วเข้า!เธอไปขอร้องอ้อนวอนให้คุณชายสามกลับมากับฉันเดี๋ยวนี้!ถ้าเกิดเขาโมโหขึ้นมา ฉันก็ปกป้องเธอไม่ได้เหมือนกัน!”
พูดพลาง หลินหวูซินก็เดินออกไปจากตัวอาคารทันที
ส่วนหวงลี่อึ้งตะลึงไป สีหน้าตกใจกลัวถึงขีดสุด ภาพของหลินอิ่งผุดขึ้นมาในหัว
เธอนึกออกแล้ว คำพูดที่หลินอิ่งพูดขึ้นก่อนที่เขาจะจากไป ว่าให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยมาให้คำอธิบายกับเขา……
“ผู้อำนวยการหวง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ผู้อำนวยการหวง คุณรู้จักคนคนนี้เหรอ?”
ตอนที่หวงลี่พูดด่าทอตำหนิหลินอิ่ง เหล่าบรรดาชายหญิงชุดสูทรองเท้าหนังในบริษัทก็แห่กันเข้ามา ประจบประแจงหวงลี่ มองหลินอิ่งด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
หวงลี่เป็นถึงผู้อำนวยการของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย เป็นคนโปรดที่อยู่เบื้องหน้าของรองประธานคุณหนูใหญ่หลินหวูซิน มีตำแหน่งสูงมากในบริษัท
หลินอิ่งสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”การที่ผมมาที่นี่ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ?”
“เหอะๆ ทำไมจะไม่เกี่ยวกับฉันล่ะ? ฉันเป็นผู้อำนวยการของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย คนที่ไม่มีหน้าที่กงการอะไรแบบแกมาที่บริษัท ฉันให้แกไสหัวไป แกก็ต้องไสหัวไป”หวงลี่พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
หลินอิ่งยิ้มไม่พูดอะไร มองไปยังพนักงานต้อนรับหญิงที่มีใบหน้าสับสนมึนงงตรงเคาน์เตอร์ ก่อนจะพูดขึ้น”ให้ผู้รับผิดชอบที่สูงที่สุดของบริษัทพวกคุณออกมาพบผม”
“หา? ผู้รับผิดชอบสูงสุด?”พนักงานต้อนรับหญิงสีหน้าประหลาดใจ ไม่เข้าใจความหมายของหลินอิ่ง
“คุณผู้ชายคะ คุณมาหาใครเหรอคะ? มีนัดไว้ก่อนล่วงหน้าไหม?”พนักงานต้อนรับหญิงพูดถามขึ้น มองสำรวจหลินอิ่งหัวจรดเท้า มั่นใจว่าในความทรงจำของตัวเองไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน
“บอกผู้ดูแลจัดการในตอนนี้ของบริษัทของพวกคุณว่า หลินอิ่งมาแล้ว”
หลินอิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก
“เอ่อนี่มัน……”พนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์สีหน้าอึดอัดลำบากใจ มองไปยังหวงลี่
“เหอะๆ”หวงลี่สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน มองหลินอิ่งด้วยสีหน้าดูถูกดูแคลน”ยังจะหาผู้รับผิดชอบสูงสุด? สภาพจนๆแสนรันทดแบบแกเนี่ยนะ? แกมาหาคุณหนูใหญ่หลินของพวกเรามากกว่ามั้ง? วันนี้คุณหนูใหญ่เมตตาให้เงินแกไปสองแสนให้แกไสหัวไป พอได้จับเงินเข้าหน่อย ก็คิดว่าจะแสวงหาผลประโยชน์ต่อได้อีก? ถึงยังกล้ามาหาคุณหนูใหญ่ถึงบริษัทแบบนี้?”
ในความคิดของหวงลี่ เธอมองทะลุถึงเป้าหมายในการมาที่หลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยของหลินอิ่ง ก็เพราะว่าได้รับผลประโยชน์จากคุณหนูใหญ่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็เลยจะใช้มุขเดิมมารีดไถ่เงินที่บริษัทอีก
ช่างเป็นไอ้คนที่ไม่รักตัวกลัวตายจริงๆ
“หลินอิ่งเอ่ย แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกคิดว่าอยากเจอคุณหนูใหญ่หลินแล้วก็จะได้เจออย่างนั้นเหรอ?”หวงลี่พูดเยาะเย้ย
“เสี่ยวหู เธอไปเรียกบอดี้การ์ดของบริษัทมา คนไร้ค่าคนนี้เป็นมิจฉาชีพ เป็นคนไม่ดีนอกลู่นอกทาง มาก่อความวุ่นวายที่บริษัท”หวงลี่สั่งกำชับพนักงานต้อนรับหญิงที่เคาน์เตอร์อย่างไม่แยแส
“ค่ะ”พนักงานต้อนรับหญิงตรงเคาน์เตอร์ทำตามคำสั่ง โทรศัพท์ออกไป
หลินอิ่งมุมปากยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้พูดอธิบายอะไร
ตึกๆๆ
เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งรวดเร็วดังขึ้นมา
เข้ามาจากประตูทางข้างของล็อบบี้ชั้นหนึ่ง บอดี้การ์ดที่รูปร่างทรงพลังกลุ่มหนึ่งของบริษัทเดินเข้ามา
“ผู้อำนวยการหวง ได้ยินมาว่าท่านเรียกพวกเรามา มีรับสั่งอะไรเหรอครับ?”
“มีคนมาก่อปัญหาที่บริษัทเหรอครับ?”
หลังจากที่คนของทีมบอดี้การ์ดเดินเข้ามา ก็เข้ามาล้อมข้างๆหวงลี่รอรับคำสั่ง
หวงลี่มองหลินอิ่งสบถหึออกมาอย่างเย้ยหยัน พูดขึ้นอย่างไม่สนใจไม่แยแส”ไอ้ชายไร้ค่าคนนี้แหละ มาโหวกเหวกสร้างความวุ่นวายที่บริษัท แถมยังมาแหกปากจะพบกับคุณหนูใหญ่หลินอีกด้วย พวกนาย ไปเชิญมันออกไปซะ”
“คุณหลินอิ่ง ออกไปเถอะ อย่าให้คนของบริษัทเราต้องลงมือเลย แบบนี้คุณจะถูกเล่นงานจนหมดสภาพนะ”
หลินอิ่งสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก พูดขึ้น”งั้นเหรอ?”
“แกอยากลองเหรอ? ออกไปสอบถามข้างนอกบ้างนะว่าหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยเป็นยังไง”หวงลี่พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
หลินอิ่งพูดขึ้น”คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ยอมให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกคุณมาพบกับผม?”
“แน่ใจแล้วจะทำไม? แกรู้ไหมว่าผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกเราคือใคร? ยังคิดที่จะมาสร้างปัญหาที่นี่อีก? ไม่ใช่เพราะว่าตอนบ่ายเห็นแก่หน้าตาของคุณหนูใหญ่หลิน ป่านนี้ฉันเล่นงานคนไร้ค่าแบบแกจนหมดสภาพไปนานแล้ว”หวงลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก
ตอนที่อยู่บนถนนก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องรถชนหวงลี่เลยถูกคุณหนูใหญ่หลินตำหนิไปหนึ่งยก ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากๆ เอาความโกรธนี้ ไปลงที่หลินอิ่งจนหมด
ผลที่ได้ พอกลับมาถึงบริษัท หลินอิ่งนี่ก็ยังจะกล้ามาสร้างความวุ่นวายถึงบริษัทอีก
ช่างเป็นไอ้โง่ที่นำความอับอายมาสู่ตัวเองแท้ๆ
หลินอิ่งพยักหน้าด้วยสีหน้าปกติ
“ไปบอกผู้รับผิดชอบสูงสุดของบริษัทพวกคุณ ว่าหลินอิ่งมาแล้ว แล้วก็ เรียกเขาให้มาให้คำอธิบายต่อหน้าของผมด้วยตัวเขาเองด้วย”
พูดจบ หลินอิ่งก็มือไขว้หลัง หันตัวเดินจากไป
“ว่าไงนะ? ให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดมาให้คำอธิบายกับแกเนี่ยนะ?”หวงลี่มองเงาหลังของหลินอิ่งอย่างเย้ยหยัน”ช่างน่าขำจริงๆ แกคิดว่าแกเป็นใคร? แค่ไอ้ขยะไร้ค่ามิจฉาชีพที่นั่งลงแท็กซี่คนหนึ่งเท่านั้น!”
หวงลี่ถุ้ยออกมาหนึ่งที หลังจากที่หลินอิ่งเดินจากไปแล้ว ก็พูดด่าทอตามไปข้างหลังสองประโยคด้วยความไม่สบอารมณ์
ช่วงเวลาบ่าย เพราะว่าหลินอิ่งทำให้เธอถูกคุณหนูใหญ่หลินตำหนิ ทำให้เสียอารมณ์ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณหนูใหญ่หลินอยู่ด้วย ป่านนี้ให้คนไปเล่นงานเขาจนหมดสภาพไปนานแล้ว
ติ๊งต่อง
ในตอนนี้เอง จู่ๆประตูลิฟต์ก็ดังขึ้น
หลินหวูซินสวมชุดเดรสที่ดูเด่นสง่าไม่ธรรมดา สง่างามหรูหรา ล้อมรอบด้วยบอดี้การ์ดหญิงสองคน เดินออกมา
“คุณหนูใหญ่ ท่านมาแล้ว”หวงลี่พูดประจบประแจง”ท่านคงไม่ทราบ ว่าตอนบ่ายไอ้โง่คนนั้นมันมาถึงที่บริษัทเลยนะคะ ทานให้เงินมันไปสองแสน มันน่าจะรู้สึกว่าไม่พอ คิดที่จะมารีดไถ่อีก ไร้เหตุผลสิ้นดี”
“เธอว่าไงนะ? ตอนบ่ายคนนั้นอะไร?”หลินหวูซินพูดถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็ไอ้ผู้ชายที่นั่งรถแท็กซี่บนถนนคนนั้นไงคะ รู้สึกว่าจะชื่อหลินอิ่งอะไรนี่แหละค่ะ”หวงลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก”หลินอิ่งอะไรนั่นยังบอกอีกว่าจะมาขอพบผู้รับผิดชอบสูงสุดอีกด้วย ฉันไล่เขาออกไปแล้วค่ะ”
“หา? หลินอิ่ง?”หลินหวูซินสีหน้าเปลี่ยนไปดูไม่ดีขึ้นมาทันที
“ตอนนี้หลินอิ่งอยู่ที่ไหน?”หลินหวูซินถามขึ้นด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
“ไม่ทราบค่ะ ฉันเพิ่งจะระเบิดโมโหด่ามันจนกลับไปแล้ว คุณหนูใหญ่จะหามันทำไมเหรอคะ?”หวงลี่พูดถามขึ้น
สูด!
หลินหวูซินสูดหายใจลึกๆด้วยความตกใจหนึ่งที ก่อนจะหันไปมองหวงลี่อย่างนิ่งขรึม พร้อมกับพูดขึ้น”เธอรู้ไหมว่าหลินอิ่งเป็นใคร?”
“คุณหนูใหญ่ทำไมเหรอคะ?”หวงลี่พูดถามขึ้น”มันก็เป็นผู้ชายไร้ค่ามิจฉาชีพไม่ใช่หรอกเหรอคะ?”
หวงลี่พอเห็นท่าทางที่ตกใจของคุณหนูใหญ่ของตัวเองก็รู้สึกประหลาดใจ หรือว่าชื่อของหลินอิ่งนี่มันมีอะไรแปลกอย่างนั้นเหรอ? ถึงทำให้คุณหนูใหญ่แสดงออกมาแบบนี้
“นี่เธอ!เธอนี่ช่างโง่เขลาจริงๆ!”หลินหวูซินตำหนิหวงลี่ โกรธจนสั่นไปหมด
“หลินอิ่งเป็นคุณชายสามที่มาจากชางโจว!วันนี้ทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท!”หลินหวูซินพูดขึ้น”แม่เฒ่ายกหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยให้กับเขาแล้ว!เธอกล้าไล่เขาไปได้ยังไง?”
“ว่าไงนะ!คุณชายสาม?”หวงลี่สีหน้าซีดขาวทันที รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
แต่ว่า คุณหนูใหญ่ที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด วันนี้กลับระเบิดโมโหออกมาอย่างที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ
จู่ๆในใจของเธอก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
หวงลี่เป็นข้ารับใช้ของตระกูลหลิน รู้สถานการณ์ภายในของตระกูลหลินแห่งลังยา ดังนั้นตอนที่ได้ยินคุณหนูใหญ่บอกว่าหลินอิ่งมาจากชางโจว เธอก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมไป
“ฉันเพิ่งได้รับแจ้งจากทางนายกของชางโจว บอกว่าคุณชายจะมาถึง แถมยังส่งรูปของเขามาอีกด้วย……”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง”นั่นก็คือชายหนุ่มที่พวกเราเจอบนถนนเมื่อตอนบ่ายของวันนี้!”
“เธอ!หวงลี่ เธอกำลังจะทำงานใหญ่ของฉันพัง!คนเขาออกไปนานเท่าไรแล้ว?”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยความกระวนกระวาย”เร็วเข้า!เธอไปขอร้องอ้อนวอนให้คุณชายสามกลับมากับฉันเดี๋ยวนี้!ถ้าเกิดเขาโมโหขึ้นมา ฉันก็ปกป้องเธอไม่ได้เหมือนกัน!”
พูดพลาง หลินหวูซินก็เดินออกไปจากตัวอาคารทันที
ส่วนหวงลี่อึ้งตะลึงไป สีหน้าตกใจกลัวถึงขีดสุด ภาพของหลินอิ่งผุดขึ้นมาในหัว
เธอนึกออกแล้ว คำพูดที่หลินอิ่งพูดขึ้นก่อนที่เขาจะจากไป ว่าให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยมาให้คำอธิบายกับเขา……