พลบค่ำ เข้าสู่ช่วงกลางคืน
ณ สโมสรจื่อจิน ภูเขาจื่อจิน เมืองจี้โจว
สโมสรจื่อจินเป็นสโมสรไฮโซชั้นสูงที่สุด มีเฉพาะบุคคลที่ทรงพลังระดับสูงในเมืองเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมได้ เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังมีฝีมือเก่งกาจทรงพลังในจี้โจว ซื้อภูเขาจื่อจินทั้งลูก ที่นี่สร้างเป็นเขตวิลล่า มีสนามกอล์ฟ ลานตกปลา สถานบันเทิงต่างๆมากมาย
ขบวนรถที่ดูไม่ธรรมดาขบวนหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าของสโมสรจื่อจิน
รถโรลส์รอยซ์ที่อยู่ตรงกลางคันนั้น มีชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่งลงมาจากรถ นอกจากนี้ก็มีผู้หญิงหน้าตาสวยงามที่บุคลิกไม่ธรรมดาคนหนึ่งลงตามมาด้วยอีกคน
หลินอิ่งกับหลินหวูซินมาแล้ว ทั้งสองคนเดินเข้ามาในสโมสรจื่อจินที่ราวกับทำเนียบขาวด้วยกัน ดึงดูดสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน
เข้ามาในสโมสร บนพื้นปูพรมแดงตามทางเดิน ทั้งสองข้างก็เป็นผนังคริสตัลที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง แขวนภาพสีน้ำมันที่เห็นแล้วตราตรึงสร้างความประทับใจไว้มากมาย
ทั้งสองข้างยังมีบอดี้การ์ดสวมชุดสูทที่มากความสามารถยืนอยู่จำนวนมาก
หลินอิ่งเข้ามาในสโมสรพร้อมกันกับหลินหวูซิน
ข้างในกำลังจัดงานเลี้ยง ตรงหน้าของโต๊ะคริสตัลล้วนแต่มีเหล่าบรรดาบุคคลวงการธุรกิจที่แต่งตัวไม่ธรรมดากำลังพูดคุยกันอยู่
ตามหลินหวูซินเข้าไปในงาน ทุกคนในงานแทบจะหันสายตามามองกันหมด
หลินหวูซินเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองจี้โจว แล้วก็เป็นแขกประจำของสโมสรจื่อจินด้วย สะดุดตาผู้คนอย่างมาก
แต่หลินอิ่งที่อยู่ข้างกายของเธอ เป็นใบหน้าที่ดูแปลกหน้าแปลกตามากๆ
ในตอนนี้ ดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของผู้คนในงาน ต่างก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้มีสถานภาพอะไร ถึงสามารถทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลินที่สูงส่งขนาดนั้นมาด้วยกันกับเขาได้
“คุณชายสาม ที่ที่ฉันเตรียมไว้อยู่ภายในคฤหาสน์ มีบุคคลที่เป็นหัวหน้าผู้นำของวงการธุรกิจอยู่สองสามท่าน ท่านดูว่าท่านพึงพอใจกับที่ตรงนี้ไหม?”หลินหวูซินพูดถามความเห็น
หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”พอได้”
“ได้ค่ะ”หลินหวูซินพยักหน้า จากนั้นก็เรียกพนักงานที่สวมชุดเครื่องแบบมาสองสามคน ให้พวกเขาลงไปเตรียมการ ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงคฤหาสน์กลางแจ้งของสโมสรจื่อจิน ข้างๆมีสระว่ายน้ำที่กว้างใหญ่อยู่ด้วย ไกลออกไปมีสนามกอล์ฟอยู่อีกหนึ่งแห่ง
ริมสระว่ายน้ำจัดที่นั่งสวยงามไว้หลายตัว บนโต๊ะมีไวน์ที่ดูแพงหรูหราควบคู่กับจานผลไม้ที่จัดวางอย่างสวยงาม
หลินอิ่งนั่งลงที่เก้าอี้ตำแหน่งสูงสุดด้วยท่าทางทรงพลังยิ่งใหญ่ หลินหวูซินนั่งประกบอยู่ข้างๆ เปิดไวน์ออก หลังจากที่รินไปแล้วนิดหน่อย ก็ลุกขึ้นยื่นแก้วไวน์ให้กับหลินอิ่ง
หลินอิ่งรับแก้วไวน์มา เขย่าเล็กน้อย
“แขกที่ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาของคุณหนูใหญ่หลินท่านนี้คือใครเหรอครับ? ถึงทำให้คุณหนูใหญ่ต้องรินไวน์ด้วยตัวเองแบบนี้?”
ไม่ไกลออกไป ชายวัยกลางคนรูปร่างอวบเล็กน้อย สวมชุดสูทที่ดูแพง ปากคาบซิการ์หนึ่งมวน พูดขึ้นอย่างไม่สนใจใยดี
เขาจูงมือดาราสาวคนหนึ่งมาด้วย นั่งลงตรงที่นั่งข้างๆ
“คุณหนูใหญ่หลิน”
ในตอนนี้เอง ก็มีชายวัยกลางคนที่รูปร่างสมบูรณ์อีกสองสามคนเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวทักทาย นั่งลงที่ที่นั่งข้างๆ
“ทุกท่าน นี่คือกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย คุณหลินอิ่ง”หลินหวูซินพูดแนะนำ
“ทุกท่านล้วนแต่เป็นพันธมิตรคนสำคัญของหลินซื่อ คุณอิ่งมาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ ก็เลยให้ทุกท่านมาทำความรู้จักกันสักหน่อย”
พูดพลาง หลินหวูซินก็ผายมือไปยังบรรดาชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ แนะนำให้กับหลินอิ่ง
“ท่านประธาน ท่านนี้คือประธานของบริษัทก่อสร้างที่หนึ่งของจี้โจว ประธานหลู่ ท่านนี้คือประธานซุนของบริษัทหวังเฉาเอนเตอร์เทนกรุ๊ปของจี้โจว……”
หลินอิ่งก้มหัวเล็กน้อย
สองสามคนที่หลินหวูซินแนะนำมานี้ ล้วนแต่เป็นเถ้าแก่ใหญ่ที่มีอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งมากของเมืองจี้โจว ล้วนแต่เป็นอันดับต้นๆไม่ที่หนึ่งก็ที่สองของขอบเขตอุตสาหกรรมต่างๆ
คนพวกนี้ ก็เป็นเหล่าพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยด้วยเช่นกัน
ว่ากันในอีกระดับหนึ่ง หลินซื่ออพยพมาจากถิ่นอื่น วงการธุรกิจของจี้โจวยังจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเจ้าพ่อทางอุตสาหกรรมธุรกิจของจีโจวเหล่านี้อยู่
“กรรมการผู้จัดการที่มาดำรงตำแหน่งคนใหม่ของหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย?”ชายวัยกลางคนที่ปากคาบซิการ์คนนั้นพูดขึ้นอย่างไม่สนใจไม่แยแส มองสำรวจหลินอิ่งด้วยใบหน้าสงสัย”เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพวกคุณหลินซื่อถึงไม่แบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลกับพันธมิตรเก่าแก่แบบพวกเราเลยล่ะ? เขาเนี่ยนะ จะสามารถแบกรับธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ได้?”
คนที่พูดก็คือหลู่ฉังชิง ประธานหลู่ของบริษัทก่อสร้างที่หนึ่งของจี้โจว เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาของอุตสาหกรรมก่อสร้างของจี้โจวคนหนึ่ง
“เอ่อ ประธานหลู่ คุณหลินอิ่งมาจากชางโจว เป็นคุณชายสามของตระกูลหลินของพวกเรา สถานภาพและความสามารถของเขา ฉันคิดว่าคุณอย่าตั้งคำถามในตัวเขาจะดีกว่านะคะ”หลินหวูซินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก
เธอก็รู้สึกว่าแปลกอยู่ไม่น้อย หลู่ฉังชิงพูดจาผิดปกติอยู่ไม่น้อย ไม่เหมือนกับท่าทางการกระทำตอนปกติ เหมือนกับจงใจทำให้หลินอิ่งรู้สึกลำบากใจ
“คุณหนูใหญ่หลิน ผมเชื่อในอำนาจทางการเงินของตระกูลหลินของพวกคุณ แต่ว่า เขาเนี่ยนะ? คุณชายสามอะไร? คงจะไม่เป็นคนไร้ค่าที่พึ่งพาอาศัยเชื้อสายความสัมพันธ์หรอกใช่ไหม?”หลู่ฉังชิงพูดขึ้นอย่างไม่แยแส ใบหน้าภาคภูมิใจ”ขอโทษด้วย เหล่าบรรดาพันธมิตรเก่าแก่แบบพวกเรารู้จักแค่คุณชายใหญ่หลินเซวียนคนเดียวเท่านั้น คุณชายสามคุณชายสี่อะไรนี่ ไม่รู้จัก”
“คุณหนูใหญ่หลิน ก็ไม่ต้องแนะนำคนคนนี้ให้พวกเรารู้จักแล้วล่ะครับ เมื่อตะกี้พวกเราพันธมิตรเก่าแก่ปรึกษาพูดคุยกันแล้ว ตัดสินใจที่จะมาระงับความร่วมมือทางธุรกิจทั้งหมดกับทางหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยของพวกคุณ”หลู่ฉังชิงสูบซิการ์พร้อมกับพูดขึ้น
หลินหวูซินพูดถามขึ้นด้วยสีหน้าโมโหเล็กน้อย”ทำไมกันล่ะ?”
หลู่ฉังชิงจิบไวน์ไปหนึ่งจิบ พูดขึ้นอย่างช้าๆ”เพราะว่าพวกเราไม่รู้จักคุณชายสามหลินอิ่งอะไรนี่ ถ้าเขาเป็นคนไร้ความสามารถ ทำบริษัทพังพินาศขึ้นมา? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องชดใช้เงินไปด้วยกันกับหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ยของพวกคุณด้วยไม่ใช่หรือไง?”
หลินหวูซินสีหน้าบิดเบี้ยว พูดขึ้น”ประธานหลู่ คุณหมายความว่ายังไง? จะฉีกสัญญากับหลินซื่อกรุ๊ปอย่างนั้นเหรอ?”
หลู่ฉังชิงพูดขึ้นอย่างไม่สนใจใยดี”คุณหนูใหญ่หลินคุณอย่าเข้าใจผิดล่ะ พวกเราเคารพหลินซื่อ แล้วก็เคารพคุณมากเช่นกัน แต่แค่สงสัยในความสามารถของหลินอิ่งคนนี้ ถ้าคนไร้ค่าคนนี้รู้จักตัวเอง ยอมถอยไปให้คุณหนูใหญ่หลินมาบริหารจัดการเรื่องของบริษัท หรือไม่ก็ให้คุณชายใหญ่หลินเซวียนกล่าวทักทายกับพวกเราสักหน่อย พวกเราก็จะยังร่วมงานต่อไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดกันอีก”
“นี่คุณ!”หลินหวูซินรู้สึกโมโหสุดๆ มองไปยังหลินอิ่ง
เธอดูออก ว่าพฤติกรรมที่ผิดปกตินี้ของหลู่ฉังชิง เบื้องลึกเบื้องหลังแล้วจะต้องมีคนคอยชักจูงชี้นำอยู่เป็นแน่ ฟังน้ำเสียงคำพูดนี้แล้วก็คือคุณชายใหญ่หลินเซวียนนั่นเอง
เธอก็ไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างหลินอิ่งและหลินเซวียน ทำได้แค่ดูว่าหลินอิ่งจะมีเจตนาท่าทีอะไร
หลินอิ่งสีหน้าปกติ ดื่มไวน์ที่อยู่ในมือไปหนึ่งแก้ว วางแก้วไวน์ลง สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน
“สงสัยความสามารถของผม?”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ กวาดสายตามองพวกหลู่ฉังชิงอย่างเย็นชาหนึ่งที”ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคนต่ำต้อยแบบพวกคุณไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงมาวิจารณ์ลับหลังเรื่องงานภายในของหลินซื่อ”
“กล้ามายโสโอหังฉีกสัญญากับหลินซื่อแห่งเจียงเป่ย? หลินเซวียนเป็นคนให้ความกล้านี้กับพวกคุณสินะ?”