ซุนโช่ฉัยชำเลืองตามองพวกหลู่ฉังชิง สายตาไม่พอใจ เผยให้เห็นถึงความทรงพลังน่าเกรงขาม
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่?”ซุนโช่ฉัยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม
“เอ่อ……หัวหน้าสมาคมซุน พวกเรามีธุระกับหลินซื่อกรุ๊ปแห่งเจียงเป่ย กำลังเจรจาธุรกิจกันอยู่ครับ”หลู่ฉังชิงพูดขึ้นอย่างเชื่อฟัง สีหน้าท่าทีตึงเครียดไม่น้อย
“หัวหน้าสมาคมซุน ท่านจะมาก็บอกพวกเราก่อนสักคำสิครับ นี่มันยังไม่ทันได้ต้อนรับท่านอย่างดีเลย ขอโทษจริงๆครับ”มีชายวัยกลางคนสวมชุดสูทอีกหนึ่งคนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าประจบประแจง
คนที่พูดคือประธานหวางเจ้านายของสโมสรจื่อจิน
เจ้านายหวางคนนี้ฝีมือยอดเยี่ยมมากในจี้โจว เป็นบุคคลที่มีเครือข่ายเส้นสายในสังคมเป็นวงกว้าง
แต่ว่า ซุนโช่ฉัยหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจแห่งจี้โจว ไม่เพียงแต่จะมีอิทธิพลอย่างมากในจี้โจวแล้ว ยังเป็นเศรษฐีที่มีชื่อเสียงมากในเจียงเป่ยอีกด้วย
ซุนโช่ฉัยหรี่ตาลงมองพวกเขาหนึ่งที แล้วหันมามองหลินอิ่ง พูดขึ้นอย่างประจบประแจง”ท่านหัวหน้า คุณชายอิ่ง ท่านให้ผมมามีเรื่องอะไรจะมอบหมายอย่างนั้นเหรอครับ?”
หลินอิ่งจิบไวน์ไปหนึ่งคำ พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ”คนพวกนี้นายรู้จักไหม?”
“รู้จักครับๆ ล้วนแต่เป็นคนของวงการธุรกิจในจี้โจวทั้งนั้น”ซุนโช่ฉัยพยักหน้าพูดขึ้นทันที
หลินอิ่งพยักหน้า พูดขึ้น”ดีเลย คนพวกนี้ข่มขู่คุกคามจะไล่ฉันออกจากสโมสรจื่อจิน จี้โจวเป็นถิ่นของนาย นายดูเอาแล้วกันว่าควรจะทำยังไง”
“หา? จะไล่ท่านออกไป?”ซุนโช่ฉัยสีหน้าตกใจ เขาหรี่ตาลงอย่างเหี้ยมโหด มองไปหาหลู่ฉังชิงอย่างเย็นชา
“หลู่ฉังชิง นายกล้าเป็นปฏิปักษ์กับคุณชายอิ่งเหรอ? นายคิดว่านายเป็นใคร? ไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วใช่ไหม?”ซุนโช่ฉัยพูดขึ้นด้วยความโกรธ พูดล้อเล่นอะไรกันอยู่ หลินอิ่งเป็นถึงหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจแห่งตี้จิงเชียวนะ!
ซุนโช่ฉัยมีเส้นสายทางธุรกิจมากมายในตี้จิง เพราะว่าเป็นความสัมพันธ์กับสมาชิกของสมาคมธุรกิจแห่งตี้จิงก็เลยได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยในเมืองเทียนหลง
สำหรับเขาแล้ว หลินอิ่งก็คือไฉ่ซิ้งเอี๊ยสูงสุด เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของเขาอย่างมาก!
ดังนั้น ตอนที่หลินอิ่งโทรศัพท์มาบอกว่าถึงจี้โจวแล้ว ปฏิกิริยาแรกของซุนโช่ฉัยก็คือจะสักการะบูชาบุคคลที่เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์แห่งความมั่งคั่งนี้อย่างดีเลย!
ตอนที่หลินอิ่งบีบคั้นกดขี่คุณท่านสวีในสมัยก่อน ซุนโช่ฉัยก็อยู่ที่อาคารเทียนหลงด้วย เห็นมากับตาของตัวเองว่าหลินอิ่งนำพวกคนของกองพิเศษเว่ยอัน ไปพาประธานเผียวของชีซิงกรุ๊ปความมั่งคั่งข้ามชาติไป แล้วก็จัดการกับตระกูลสวี
ลักษณะการกระทำแบบนั้นมันทรงพลังเหนือมนุษย์ไปแล้วจริงๆ
ในใจของซุนโช่ฉัยเคารพและชื่นชมหลินอิ่งสุดๆ ไม่กล้าลบหลู่เลยแม้แต่นิดเดียว
ส่วนพวกเศรษฐีในพื้นจี้โจวแบบพวกหลู่ฉังชิง ไม่คิดว่าจะกล้ามาอวดเบ่งอำนาจต่อหน้าของคุณชายอิ่งแบบนี้ ช่างไม่รู้จริงๆว่าหลินอิ่งสุดยอดขนาดไหน
“เอ่อ……หัวหน้าสมาคมซุน ท่านกับหลินอิ่งสนิทกันเหรอครับ?”หลู่ฉังชิงพูดถามขึ้นด้วยสีหน้าซีดขาว
“นายกล้าเรียกชื่อเต็มๆของหัวหน้าสมาคมหลินอย่างนั้นเหรอ? นายนี่ช่างกล้าเหลือเกินนะ!” ซุนโช่ฉัยพูดตำหนิออกมาอย่างรวดเร็ว”หัวหน้าสมาคมหลินเป็นหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจแห่งตี้จิง นายว่า ฉันกับหัวหน้าสมาคมหลินสนิทกันไหมล่ะ? คนที่มีตาหามีแววไม่แบบนาย คุณชายอิ่งแห่งตี้จิงนายก็กล้ามาก้าวก่าย? นายรู้จักดีแล้วหรือไง?”
พอตำหนิหลู่ฉังชิงเสร็จ ซุนโช่ฉัยก็หันมองไปยังประธานหวางที่สีหน้าตกใจอยู่ข้างๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม”เจ้านายหวาง!คุณเป็นคนก่อตั้งสโมสรจื่อจิน? คุณจัดการไล่พวกหลู่ฉังชิงออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“หัวหน้าสมาคมซุน เอ่อ นี่มันไม่ดีมั้งครับ……” เจ้านายหวางพูดขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียดจริงจัง
ฝั่งหนึ่งก็ซุนโช่ฉัยที่มั่งคั่งยิ่งใหญ่ในจี้โจว อีกฝั่งก็คือหลู่ฉังชิงที่มีคุณชายหลินเซวียนอยู่เบื้องหลัง คนทั้งสองฝั่งล้วนแต่เป็นคนที่ไม่ได้ไปก้าวก่ายง่ายๆทั้งนั้น
หลู่ฉังชิงก็ถูกซุนโช่ฉัยที่โมโหเกรี้ยวกราดทำให้ตกใจจนอึ้งตะลึงไปเหมือนกัน พูดขึ้นด้วยความไม่เต็มใจ”หัวหน้าสมาคมซุน ท่านรู้ไหม? คุณชายหลินเซวียนลั่นวาจาไว้ในจี้โจวแล้ว ว่าใครก็ตามที่ไปข้องเกี่ยวกับหลินอิ่งเท่ากับว่าเป็นปฏิปักษ์กับคุณชายหลินเซวียน……ท่านทำแบบนี้ มันขาดการคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนไปไม่น้อยเลยนะครับ”
สำหรับเขาแล้ว หลินเซวียนมีอิทธิพลมากกว่า
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าหลินอิ่งก็มีภูมิหลังอยู่บ้างเหมือนกัน แต่อิทธิพลของเขาในจี้โจวไม่สามารถเทียบกับคุณชายหลินเซวียนได้เลย
“อ๋อ? คุณชายหลินเซวียน?”ซุนโช่ฉัยมองไปยังหลู่ฉังชิงพร้อมกับถามขึ้น
“ใช่ หัวหน้าสมาคมซุน พวกเราไม่ได้ข่มขู่ท่าน แต่จะเตือนสติท่านสักหน่อย คุณชายหลินเซวียนเป็นบุคคลยังไงท่านเองก็รู้ดี……”
หลู่ฉังชิงค่อยๆพูดขึ้น
เพี๊ยะ!
เขายังพูดไม่ทันจบ ซุนโช่ฉัยก็ตบไปที่หน้าของหลู่ฉังชิงอย่างแรง
ตบไปจนหน้าของหลู่ฉังชิงแดงบวมออกมา ทั้งอายทั้งโกรธ แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร
“นายคิดว่าตังเองมีหลินเซวียนเป็นที่พึ่งก็กำเริบเสิบสานได้แล้วสินะ?”ซุนโช่ฉัยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ฉันจัดการกับหลินเซวียนไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะจัดการกับนายไม่ได้นะ”
จัดการสั่งสอนหลู่ฉังชิงด้วยสีหน้าน่าเกรงขาม ก่อนที่ซุนโช่ฉัยจะหันมองไปยังหลินอิ่งด้วยสีหน้ายิ้มแฉ่ง พูดประจบประแจง”หัวหน้าสมาคมหลิน ช่วงเวลาที่ท่านอยู่ที่จี้โจว ถ้ามีเรื่องอะไรก็สั่งผมมาได้เลยครับ เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ในจี้โจวผมสามารถจัดการได้ครับ อย่างเช่นคนต่ำต้อยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้ ท่านไม่ต้องไปเกรงใจพวกเขา ลงไปตบตีพวกเขาให้สกปรกมือเปล่าๆ ให้ผมมาจัดการก็พอแล้วครับ”
ซุนโช่ฉัยนับถือและชื่นชมต่อหลินอิ่งอย่างมาก
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าหลินเซวียนก็มีตัวตนอยู่ด้วยเหมือนกัน
หลินเซวียนมีอำนาจอิทธิพลอย่างมากในจี้โจว เอาชนะใจบุคคลทรงพลังมีอำนาจมากมายของจี้โจว แล้วก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอย่างมากกับตระกูลเผยอันดับหนึ่งของจี้โจวด้วย
แต่ หลินเซวียนจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็เป็นคนนอกที่อพยพเข้ามาอยู่ดี แล้วก็ไม่ได้มีผลประโยชน์กับเขาเหมือนกัน พบกันแล้วก็แค่ไว้หน้ากันก็เท่านั้น
แต่หลินอิ่งไม่เหมือนกัน หลินอิ่งถือครองสมาคมธุรกิจแห่งตี้จิงไว้ มีวงการธุรกิจตี้จิงอยู่ในกำมือ เป็นแหล่งเงินทองของเขา แถมซุนโช่ฉัยก็ยิ่งมองว่าหลินอิ่งสามารถเอาชนะหลินเซวียนได้ด้วย
อันไหนมันสำคัญกว่า ซุนโช่ฉัยแยกแยะได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ดังนั้นเขาจึงยอมที่จะไปก้าวก่ายหลินเซวียน แต่ไม่ยอมที่จะก้าวก่ายหลินอิ่ง
พอเห็นท่าทางที่ประจบประแจงหลินอิ่งของซุนโช่ฉัย พวกหลู่ฉังชิงก็สีหน้าบูดเบี้ยวทันที ในใจรู้สึกตื่นตระหนก
พวกเขาคิดไม่ถึง ว่าอิทธิพลของหลินอิ่งจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สามารถทำให้ซุนโช่ฉัยยอมก้าวก่ายคุณชายหลินเซวียน แล้วก็ยอมทำเรื่องต่างๆให้กับเขา……
ในตอนนี้ พวกเขาเจอกับของหนักเข้าแล้ว
หลินหวูซินที่นั่งอยู่ข้างๆหลินอิ่ง สีหน้าก็ตกใจเล็กน้อย
เธออยู่ที่จี้โจวมานานหลายปี รู้จักความสามารถของซุนโช่ฉัยเป็นอย่างดี หัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจแห่งจี้โจวคนนี้มีอิทธิพลอย่างมากในวงการธุรกิจของจี้โจว มีเครือข่ายเส้นสายอยู่ทั่วทุกสาขาอาชีพ เป็นบุคคลอันดับต้นๆ
ก่อนห้านี้หลินหวูซินเคยได้ยินมาก่อนว่าหลินอิ่งแข็งแกร่งและทรงพลังมากในตี้จิง แต่คิดไม่ถึงว่า หลินอิ่งจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้ในตี้จิง ถึงขนาดที่สามารถแผ่กระจายมาถึงจี้โจวแห่งนี้ได้……
ถ้าเกิดชื่อตำแหน่งหัวหน้าสมาคมของสมาคมธุรกิจแห่งตี้จิงของหลินอิ่งนี้ ไม่ใช่ชื่อตำแหน่งที่ว่างเปล่าล่ะก็……ถ้าอย่างนั้น เขาขึ้นไปนั่งในตำแหน่งที่สูงท่ามกลางที่ที่มีคนใหญ่คนโตชั้นสูงอยู่รวมขนาดนั้นด้วยอายุที่น้อยแบบนี้ได้ยังไง?
หลินหวูซินครุ่นคิดอย่างสงสัยอยู่ในใจ มองใบหน้าที่รูปหล่ออ่อนเยาว์ของหลินอิ่ง สีหน้าเริ่มแดง เมินหน้าไปอย่างช่วยไม่ได้
“ซุนโช่ฉัย ก่อนหน้านี้ฉันบอกแล้วว่าจะทำให้ไอ้คนสกุลหลู่นี่ล้มละลายซะ นายก็จัดการเรื่องนี้แทนฉันแล้วกัน”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างง่ายๆ”พอไปตี้จิงแล้ว นายก็ไปหานิ่งซวนได้เลย”
“ครับ!เรื่องของท่านหัวหน้าสมาคมหลิน ก็คือเรื่องของผม!” ซุนโช่ฉัยตบอกพูดขึ้น สายตาแฝงไปด้วยความตื่นตัว
เขาฟังออกว่าในคำพูดของหลินอิ่งแฝงความหมายอะไรเอาไว้ ครั้งหน้าให้เขาไปหานิ่งซวนที่ตี้จิง?
นิ่งซวนคือใคร? คนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ตี้จิงมีใครที่ไม่รู้ว่านั่นก็คือไฉ่ซิ้งเอี๊ย คนที่จัดการดูแลเรื่องเงินของคุณชายอิ่ง นี่เป็นโอกาสที่คุณชายอิ่งจะทำให้เขามีโชคมีลาภแล้วยังไงล่ะ!
ซุนโช่ฉัยมองไปยังหลู่ฉังชิง สีหน้ากลับมาน่าเกรงขามตามเดิม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน”หลู่ฉังชิง นายได้ยินแล้วยัง? คุณชายอิ่งบอกให้นายล้มละลาย นายเองก็น่าจะรู้นะว่าควรทำยังไง ไสหัวออกไปจากจี้โจวอย่างเชื่อฟังซะ จี้โจว ไม่มีที่ให้นายซุกหัวนอนแล้ว”
หลู่ฉังชิงราวกับถูกฟ้าผ่า อึ้งตะลึงอยู่กับที่ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสนมึนงง
ใช่ ระดับของหลินอิ่ง แค่ประโยคเดียวก็สามารถเปลี่ยนชะตาของคนมากมายได้เลย