ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 39 ทำเหมือนไม่ใช่คน

บนพื้นเต็มไปด้วยหิมะที่ขาวใส เหมือนหินหิมะที่ก่อตัวมาแล้วกว่าพันปี

สายตาที่แตกสลายของเหอเจิง เจ็บดังกระดูกที่แหลกสลาย ฟางลู่เป่ยลงมือหนักเกินไปจริงๆ เหวี่ยงเธอเหมือนกับเหวี่ยงของเล่นที่ไร้ชีวิต

แต่เธอก็เข้าใจว่า

ฟางลู่เป่ยทำอย่างนี้เพราะเธอเป็นคนไม่สู้คน

กระดูกแขนกระแทกกับพื้น ทั้งเจ็บทั้งชา เธอเก็บความเจ็บปวดไว้แล้วลุกขึ้น บนหัวเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ทั้งโกรธและเกลียดชัง “ถ้าเธอยังจะทำแบบนี้ต่อไป ก็ไม่ต้องแซ่ฟางแล้ว ตระกูลฟางไม่มีคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างเธอ”

เหอหยุนซิ่งต้องรั้งเขาไปด้วย ห้ามคำด่าของเขาไปด้วย

“ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ เจิงเอ๋อมีเหตุผลของเธอเองแหละ”

“เธอจะมีเหตุผลอะไรล่ะ” ฟางลู่เป่ยหันหน้าไป ยกมือตบไปยังหัวของเหอเจิงอีกที ขณะที่เหอเจิงเพิ่งจะยืนขึ้นมาได้ ตบจนเธอเห็นดาวเห็นเดือน ถอยหลังไปสองสามก้าว แต่ก็ไม่กล้าตอบโต้ ได้แต่ยืนรับการตบตีและคำด่า

ท่าทีที่ยอมอย่างเดียวของเหอเจิงยิ่งทำให้ฟางลู่เป่ยโกรธกว่าเดิม “โง่ก็โง่เกินไป ไหนลองบอกมาสิว่าเธอมีส่วนไหนเหมือนคุณป้าบ้าง ขอแค่เธอมีความเข้มแข็งได้ครึ่งหนึ่งของเธอ จะตกในสภาพแบบนี้หรอ”

เมื่อพูดถึงคนที่พูดถึงไม่ได้

ทันใดนั้นเหอเจิงก็เงยหน้าขึ้นมา ใช้นัยต์ตาสีดำจ้องไปยังฟางลู่เป่ย นัยต์ตาที่ดำสนิทสะท้อนแสงออกมา เหมือนกับว่าน้ำตาที่กลั้นไว้เป็นเวลานาน เวลานี้เต็มเปี่ยมแล้ว เหมือนกับว่ากำลังจะทะลักออกมา

“มองอะไรไม่ทราบ” คำขู่ของฟางลู่เป่ยกรอกหู “ฉันพูดผิดตรงไหนหรอ”

เหอหยุนซิ่งพยายามจะห้ามปากของเขา “ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ”

“คุณอย่ามาปกป้องเธอเลย เธอกำลังขาดการสั่งสอน”

เมื่อพูดจบ ก็จะตบไปยังหัวของเหอเจิงอีกที แต่ครั้งนี้เธอจับข้อมือของฟางลู่เป่ยไว้ แล้วกัดลงไปยังที่มีแขนเสื้อบางๆแบบตะวันตก

เอาความเจ็บปวดทั้งหมดระบายลงไปกับการกัดคำนี้

เวลาเธอร้ายขึ้นเหมือนจะฆ่าให้ตายเลย

ฟางลู่เป่ยร้องโอ๊ย ด้วยความเจ็บปวด เนื้อเหมือนจะถูกกัดออกไปด้วยก้อนหนึ่ง เหอหยุนซิ่งถึงดึงเหอเจิงออกมาได้

เธอลืมตากว้างมาก เป็นตาสีแดงก่ำทั้งสองดวง ตอนพูดเหมือนจะขบเคี้ยวด้วย “พ่อแม่ฉันได้เสียชีวิตนานมากแล้ว แต่ถึงยังไงก็ไม่จำเป็นต้องให้พี่มาสั่งสอนหรอก”

“เธอ มันก็เหมือนหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่เชื่องนะแหละ” คำพูดนี้ได้ทำร้ายจิตใจของฟางลู่เป่ยเหมือนกัน “ตอนแรกใครล่ะที่ร้องจะเป็นจะตายขอให้ฉ้นช่วยโกหก ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเธอจะไปเป็นถุงเลือดให้เขา ให้เธอกรีดคอตัวเองแต่แรกก็จบ”

“ฉันไปเป็นถุงเลือดที่ไหนกัน”

“ต่ำตม”

เหอเจิงกัดริมฝีปาก ทะเลาะกันจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก ช่วงอกขยายใหญ่กว่าปกติ เหมือนกับว่าหายใจไม่ออกกำลังจะเป็นลม ป้าหมิงออกมาจากห้องก็เห็นสถานการณ์เลวร้ายนี้แล้ว

ข้อมือของฟางลู่เป่ยถูกกัด เลือดอาบทั่วแขนเสื้อ

ตกใจร้องออกมาคำหนึ่ง ป้าหมิงรีบวิ่งไปดู “เกิดอะไรขึ้นกันหรอ แล้วนี่มีเลือดไหลออกมาด้วย รีบไปโรงพยาบาลด่วนเลย”

เขาไม่ใช่คุณชายที่ถูกเลี้ยงมาแบบหรูหร่าหรอก

ฟางลู่เป่ยจ้องไปยังเหอเจิง พูดแทงใจดำ “แผลแค่นี้ของฉันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ว่าเธอ โรคที่อยู่ในสมองควรรักษาได้แล้ว”

ห้องนอนบนชั้นสองไม่มีห้องอาบน้ำเดี่ยว

ป้าหมิงพาเหอเจิงไปอาบน้ำที่ห้องของเธอ

ร่างกายของเหอเจิงดูโทรมมาก อาการปวดหัว ใบหน้าซีดจนน่ากลัว ผ้าขาดเป็นช่วงๆ ไม่มีเสื้อคลุมข้างนอก แขนขาผอมแห้ง โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน มีเข็มแทงเข้าไปตลอด ทำให้มีรอยเข็มที่เป็นแผลเป็นไปแล้ว

อุณหภูมิของน้ำเพิ่มขึ้น

ห้องน้ำที่เต็มไปด้วยไอน้ำอุ่น เห็นเธอเอนตัวลงในอ่างอาบน้ำ ป้าหมิงถึงปิดประตู ค่อยๆเดินออกไป

ข้างในเต็มไปด้วยหมอก ข้างนอกก็เช่นกัน เธอไอออกมาทีหนึ่ง เสียงเบาๆออกมา คำหนึ่ง เหอหยุนซิ่งรีบดับบุหรี่ เก็บความเป็นห่วงไม่อยู่ “เธอเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่”

“ยังร้องไห้อยู่หรอ”

การทะเลาะเมื่อกี้ดุเดือดมาก ความเป็นจริงคนส่วนใหญ่ในบ้านก็ถูกปลุกตื่นหมดแล้ว แต่ไม่อยากลงมายุ่งด้วย จนกระทั้งเหอเจิงเริ่มโต้ตอบ คุณนายฟางจึงให้ป้าหมิงลงมาดู

เธอดึงความสนใจมาจากตรงประตูจ้องไปยังเหอหยุนซิ่ง ด้วยน้ำเสียงที่ยังเป็นห่วง “สถานการณ์ไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เห็นร้องไห้นะ”

“ไม่ร้องหรอ”

ในบ้านนั้นเหอเจิงเป็นคนที่ชอบร้องไห้ที่สุด

ป้าหมิงส่ายหัว “ก็เพราะว่าไม่ร้องไห้นี่แหละถึงได้เป็นห่วง อีกอย่างเห็นร่างกายของเจิงเอ๋อไม่สู้ดีเลย เมื่อกี้ฉันเห็นแวบๆ บนตัวเธอมีรอยเข็มเยอะมาก”

เหอหยุนซิ่งบีบบุหรี่ครึ่งม้วนบนมือ คิดถึงเมื่อตอนกลางวันเห็นจี้ผิงโจวพูดถึงเหอเจิงอย่างภาคภูมิใจ ที่แท้ก็เป็นแค่การหลอกลวง แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เป็นคู่สามีภรรยากัน

เขาทำแบบนี้

มันก็เกินกว่าที่คนกันเองจะทำกัน

“ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ควรให้คนรู้เยอะ”

เหอหยุนซิ่งผงกหัว หลังจากที่ใคร่ครวญแล้ว “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ แต่ว่าเรื่องการหย่าของพวกเขา ควรมีวันที่แน่นอนได้แล้วนะ”

ท่ามกลางตึกน้อยที่เงียบสงัด

เมื่อดับไฟยิ่งสงบเงียบกว่าเดิม

ชั้นสองมีแต่เสียงของเหอหยุนซิ่ง ทุกคำที่ออกมาจากปากล้วนแล้วไม่สบายหูเลย ป้าหมิงมองเขาอย่างประหลาด แต่ก็รีบเก็บอารมณ์กลับมา “เรื่องนี้ ยังไงก็ให้พวกเขาจัดการเองเถอะ”

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าบุหรี่ดับไปแล้ว เหอหยุนซิ่งต้องหยิบมันขึ้นมาสูบแน่นอน

ตอนนี้ใจของเขาร้อนแรงมาก แต่ก็พยายามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวันด้วยเสียงธรรมดาอีกรอบ “หรือว่าการให้เหอเจิงไปแต่งกับตระกูลจี้นั้นผิดตั้งแต่แรก จี้ผิงโจวไม่ได้เห็นเธอเป็นคนเลย ตอนที่อยู่โรงพยาบาล เขายังบอกว่าเหอเจิงไม่ได้เป็นอะไรมาก”

สีหน้าของป้าหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เขาพูดอย่างนี้จริงหรอ”

“ฉันจะโกหกคุณไปทำไมล่ะ”

จนผู้คนแยกกันไปหมด

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปป้าหมิงถึงกลับไปยังห้องตัวเอง

เหอเจิงเปลี่ยนเป็นชุดที่สะอาดแล้ว ผมที่ยังเปียกหมาดๆพาดอยู่บนไหล่ เหมือนร่างกายที่ไร้วิญญาณ ถือไดร์เป่าผมอย่างไร้ชีวิตชีวา เสียง สู่ สู่ ที่รบกวนข้างหู เหมือนกับว่าเป็นเสียงฝ่ามือของฟางลู่เป่ยที่ตวัดมาติดต่อกัน

“เจิงเอ๋อ”

ป้าหมิงเรียกเธอจากข้างนอก

ผ่านไปสักครู่ถึงเปิดประตู ตัวที่ผ่านการแช่น้ำอุ่น รู้สึกว่าทั้งตัวลอยไปลอยมาบนหมอก ตายังลืมไม่ขึ้นทั้งหมด “คุณป้า”

“เธอยังโอเคไหม”

“ดีขึ้นเยอะเลย”

เธอไม่ได้สนใจผมที่ยังไม่ทันแห้ง ผยักหน้าลงเหมือนตอไม้ “ฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ เรื่องเมื่อเย็นวันนี้ ไม่ต้องบอกแม่น่ะ”

ป้าหมิงพยุงเธอ แม้ว่าจะใช้แรงน้อยมาก แต่เหอเจิงก็เจ็บจนขมวดคิ้ว แล้วรีบปัดมือออกไป พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงขอโทษ “ไม่เป็นไร ฉันยังเดินได้อยู่”

ข้อศอกยังมีแผลถลอก ฝ่าเท้ายังคงอ่อนนุ่มเหมือนเดิม

ป้าหมิงค่อยๆเดินตามหลังเธอ และอยากจะขอโทษแทนฟางลู่เป่ย “เจิงเอ๋อ พี่ชายเธอนิสัยก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ เธออย่าโกรธเคืองนะ”

“ฉันไม่ได้มองอย่างนั้นหรอก”

“เรื่องที่เขาพูดนั้น เธอก็ไม่ต้องไปใส่ใจ”

“ได้”

เหอเจิงพยายาม ใช้แรงทั้งหมดที่มีกลับมาถึงห้อง มือวางบนลูกบีดประตูทันที รับรู้ความหนาวจากฝ่ามือ เธอค้างไว้แล้วค่อยๆพูดประโยคสำคัญออกมา “ป้า พรุ่งนี้ฉ้นอยากไปนั่งที่สวน ไม่ไปทักทายคุณแม่แล้วนะ”

ป้าหมิงตกใจชั่วครู่ “ทำไมจู่ๆจะไปที่นั่นละ”

คำพูดของฟางลู่เป่ยเมื่อเย็นวันนี้ก็เกินไปจริงๆ เธอกลัวเหอเจิงจะคิดอะไรไม่ออกแล้วทำอะไรบ้าๆออกมา

ความกังวลและความเป็นห่วงแสดงออกมาทางสายตา

เหอเจิงเองก็สังเกตเห็น

เธอตบมือป้าหมิงเบาๆ “วางใจเถอะ ถ้าฉันอยากไปกับครูซ่งจริงๆ เมื่อสามปีก่อนก็โดดตามไปแล้ว คงไม่รอถึงวันนี้หรอก”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset