ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 72 รักมาก

เป็นเวลากลางคืน

รถที่จอดอยู่ด้านนอกสวนซางได้ขับออกไปแล้ว

คนใช้ถือร่มรีบเดินตามเข้าไป และได้ยินเสียงคุณปู่ตวาดลั่นว่า “โจว นับวันแกยิ่งไม่มีระเบียบแล้วนะ!”

พวกคนใช้ไม่กล้าเข้าไป พวกเขาได้ยินด่าลั่นออกมาไม่หยุด จี้ซูเองที่เพิ่งถึงก็เห็นจี้ผิงโจวเดินออกมาจากด้านในพอดี เธอเองก็ไม่กล้าเข้าไปเหมือนกัน

จี้ผิงโจวไม่มีร่ม ทั้งเขาจึงเต็มไปด้วยหิมะที่หนาวเหน็บ สีหน้าของเขาเย็นชามาก

จี้ซูที่กำลังจะเดินตามเขาไป ก็ได้ยินเสียงห้ามของจี้เหยียนเซียง จากด้านหลังว่า “ไม่ต้องไป”

จี้ซูถามว่า “มีอะไรเหรอคะทำไมพี่เขาทำหน้าแบบนั้น”

“จะมีอะไรอีกล่ะ” จี้เหยียนเซียงทำท่าเหมือนจะขำ “เจ็บครั้งเดียว ให้มันจบๆ ผ่านวันนี้ไป เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

และทั้งสองก็ยืนมองจี้ผิงโจวเดินจากไป

ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยหิมะ มือของเขาหนาวเย็นจนมือแดง รอบๆกายเขามีแต่ความเงียบ

นี่เป็นครั้งแรกที่จี้ซูรู้สึกสงสารเขา เธอจึงทนไม่ได้และพูดแทนจี้ผิงโจวว่า “พวกพี่ทำไมต้องอยากให้พวกเขาเลิกกัน เรื่องหย่ามันควรที่จะเป็นเรื่องที่พวกเขาตัดสินใจเอง พวกพี่ทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย!”

จี้เหยียนเซียงขมวดคิ้ว และถามว่า “นี่เป็นเรื่องของพวกเขาสองคนเหรอ? นี่มันเรื่องของทั้งสองตระกูลต่างหาก!”

“พวกพี่ไม่มีเหตุผลจริงๆ!”

“เสี่ยวซู เธออย่าคิดจะพาเหอเจิงกลับมาอีก ถ้าเธอทำ อย่าว่าแต่ฉันเลย คุณปู่เองก็ไม่ปล่อยเธอไว้เหมือนกัน!”

จี้ซูรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม เธอจึงพูดออกมาว่า “พวกพี่ไม่เคยรู้ว่าเหอเจิงสำคัญกับพี่โจวมากแค่ไหน พวกพี่เอาแต่พูดว่าเหอเจิงแต่งงานเข้ามาเพื่อจะเป็นคุณนาย เธอจะมีความสุข แต่มีวันไหนบ้างที่เธอมีความสุข? พวกพี่ทำกับเธออย่างไรบ้างพี่รู้ดี!”

คิดไม่ถึงเลยว่าเหอเจิงจะเซ็นใบหย่า

และคิดไม่ถึงอีกว่าจี้ผิงโจวจะรั้งเธอไว้ไม่ได้

จี้ซูไม่อยากเสแสร้งอีกต่อไป เพราะจริงๆแล้ว เธอไม่ได้ไม่ชอบเหอเจิงเลย เธอกลับคิดว่าเหอเจิงค่อนข้างจะเข้าเธอด้วยซ้ำ

จี้ซูตาแดง และพูดเสียงสั่นว่า “พี่คะ ถึงพี่จะเกลียดเธอ แต่เธอก็ยังมาถ่ายเลือดให้พี่ คืนนี้พี่จะนอนหลับลงไหม?”

“หุบปากเดี๋ยวนี้!”

“หุบก็หุบ ฉันเองก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรกับพวกพี่อีกแล้วเหมือนกัน!”

พูดจบ น้ำตาเธอก็ไหลออกมา จากนั้นเธอก็ถือร่มและวิ่งออกไป ไปทางที่จี้ผิงโจวเดินไปเมื่อครู่

เธอวิ่งเร็วมาก ไม่นานก็ตามทัน จากนั้นก็ยื่นร่มไปกางให้จี้ผิงโจวด้วย

เมื่อยืนข้างๆเขา ก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดนั่น

จี้ผิงโจวเห็นดังนั้น ก็พยายามจะพูดออกมา แต่ก็เหมือนจะไม่มีแรงพูด เพราะเมื่อครู่ ตอนทะเลาะกับเหอเจิง ตอนทะเลาะกับฟางลู่เป่ย และตอนทะเลาะกับคุณปู่ เขาได้ใช้แรงไปหมดแล้ว

“ฉันน่าจะโทรหาพี่เร็วกว่านี้…..” จี้ซูพูดอย่างรู้สึกผิด เธอรู้ช้าเกินไป และตอนที่รู้ก็ทำแค่เพียงส่งข้อความหาจี้ผิงโจวเท่านั้น “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาปิดบังพี่…”

“ไม่โทษเธอหรอก”

ถ้าไม่ใช่เพราะข้อความของเธอ

ตอนนี้เขาคงน่าจะกำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่บ้านของเจิ้งหลางอยู่ ถ้าผ่านไปช่วงนี้ไป เขาคงไม่รู้ว่าเหอเจิงมาเซ็นใบหย่าตอนไหน

แต่ก่อนตอนที่เธอพูด อาจจะแค่ยั่วโมโหไป แต่วันนี้ เธอเซ็นมันลงไปจริงๆแล้ว มันกลับมาอีกไม่ได้แล้ว

“พี่เซ็นหรือยัง? พี่จะหย่ากับเหอเจิงจริงๆเหรอ?”

“ยัง”

แต่เขาไม่เซ็นแล้วจะยังไงต่อ

คุณปู่พูดแล้วว่า ไม่เซ็นก็ให้แยกกันอยู่ เมื่อถึงเวลา สมรสก็จะขาดไปเอง

จี้ซูตบอกตัวเองเบาๆอย่างโล่งใจ “งั้นก็ดีแล้ว คุณปู่รักพี่จะตาย ถ้าพี่ไม่อยากหย่า ท่านก็ไม่บังคับพี่”

เธอใสซื่อและไม่ค่อยรู้อะไรมาก

จี้ผิงโจวเองก็เหนื่อยที่จะอธิบายอะไร เขาทำได้แค่ยิ้มอ่อนๆ และเดินเข้าห้องตัวเอง

ร่างกายของเขาไม่ค่อยดีมาตลอด

และไม่เหมือนกันจี้เหยียนเซียง

เขาเป็นโรคเกี่ยวกับไขกระดูก และมักจะปวดขึ้นมาบ่อยๆ เวลาที่กำเริบมากๆก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน

ตั้งแต่ที่เหอเจิงจากไป

เขาก็ใช้ยาเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเองมากตลอด และเขาก็ยังไปโรงพยาบาลทุกวัน ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังสุภาพอ่อนโยนกับคนอื่นเหมือนเดิม

เป๋ยเจี่ยนเองก็ยังขับรถให้จี้ผิงโจวอยู่

แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ จี้ผิงโจวไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย

เป๋ยเจี่ยนรู้ว่าจี้ผิงโจวกำลังโกรธและโทษเขา

โทษที่เขาปิดบังไม่ให้รู้ว่าเหอเจิงกำลังจะไปเซ็นใบหย่า เดิมที่เขาคิดว่าคุณปู่จะสามารถช่วยจี้ผิงโจวได้ ถึงแม้วิธีนี้จะค่อนข้างโหดร้ายก็ตาม

“พี่โจวจะไปทานข้าวกับหลางหลางไหมครับ?”

เขารวบรวมความกล้าถาม

จี้ผิงโจวตอบกลับด้วยเสียงไม่สู้ดีนัก “กลับไปทานที่บ้าน”

คุณปู่ใกล้จะไปแล้ว และท่านเองก็มีงานวิจัยมากมายที่ต้องปรึกษาหารือ ท่านเป็นผู้อาวุโส เมื่อเวลาที่ต้องการพัฒนาใดๆ ต่างก็ต้องการความเห็นจากท่าน ทำให้ท่านเองก็ไม่มีเวลามาจัดการเรื่องของจี้ผิงโจวมาก

จี้ผิงโจวเองก็รู้และเข้าใจดี

หลังจากวันนั้นที่เขาทำลายข้าวของจนพังกระจายและยับเยิน เขาก็จะกลับไปอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนกับคุณปู่ทุกวัน ไปกล่าวขอโทษท่าน และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

ช่วงไม่กี่วันมานี้ จี้ผิงโจวเงียบและนิ่งมาก แต่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่

เป๋ยเจี่ยนสังเกตเขาผ่านทางกระจกหลัง

สีหน้าท่าทางเขานิ่งและเย็นชามาก จนยากที่คาดเดา ทั้งๆที่เขาน่าจะความรู้สึกเศร้าหรือเสียใจบ้าง แต่มองอย่างไรก็มองไม่ออก

“พี่โจวครับ ถ้าพี่จะโกรธผม ผมจะบอกกับน้าว่าให้ย้ายผมไปที่เมืองคันเจียงแล้วเปลี่ยนคนมาแทนก็ได้ครับ”

จี้ผิงโจวกวาดสายตามองไปที่เขา “วันนั้นฉันพูด”

เป๋ยเจี่ยนส่ายหน้า “เปล่าครับ”

เมื่อเดินทางมาถึงที่ตึกหลัก

จี้ผิงโจวก็เดินเข้าไปก่อน เป๋ยเจี่ยนเองเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินตามเข้าไป และไปนั่งตำแหน่งของเขา

อาหารมื้อนี้ค่อนข้างครึกครื้น

คุณปู่เองก็เอาแต่ชมว่าอาหารดีมาก และก็หันไปถามว่าจี้เหยียนเซียงเป็นอย่างไรบ้าง ท่านทั้งยิ้มและหัวเราะอยู่แบบนั้น ทำให้จี้ผิงโจวและพี่เฉินที่อยู่ข้างๆ ต่างก็หัวเราะสนุกสนานไปด้วย

ขณะที่จี้ผิงโจวดื่มน้ำซุปไก่เข้าไป เขาก็รู้สึกร่างกายร้อนผ่าวๆ หน้าตาเขาซีด

เมื่อเดินออกมาจากตึกหลัก เป๋ยเจี่ยนยื่นมือไปรับร่มจากคนใช้มาก และเดินตามจี้ผิงโจวมาติดๆ เพราะเขากลัวว่าอาการของจี้ผิงโจวจะกำเริบ

จี้ผิงโจวเดินมาที่ข้างรถ

เป๋ยเจี่ยนคิดว่าเขาไม่อยากเดินจึงเตรียมจะเปิดประตูรถให้ แต่จี้ผิงโจวก็พูดขึ้นมาว่า “เอากุญแจรถให้ฉัน”

“พี่โจว…”

“คุณปู่ตอนนี้คงทานยาและเข้านอนแล้ว”

“แต่ว่า”

จี้ผิงโจวรีบพูดแทรกขึ้น “ถ้านายรู้สึกอยากจะขอโทษฉันจริงๆ ก็เอากุญแจรถมา”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset