ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 73 พาเธอกลับมา

รถถูกขับออกไปแล้ว ในเวลาภายในหนึ่งนาที

เป๋ยเจี่ยนยังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับ สายตาก็มองไปทางรถที่เคลื่อนตัวออกไป ยืนอยู่จนกระทั่งจี้ซูเดินถือร่มมา และตบไหล่เขาเบาๆ เขาหันหน้ากระแทกกับร่มเบาๆ

จี้ซูเองก็รีบถอยไปสองสามก้าว จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ยืนอึ้งอะไรอยู่ พี่ฉันล่ะ?”

เมื่อครู่ทุกคนต่างก็เห็นว่าเขาทั้งสองออกมาพร้อมกัน

เมื่อเป๋ยเจี่ยนไม่ได้ตอบ จี้ซูก็มองไปทางด้านหลัง ไม่เห็นรถจอดอยู่ ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จี้ซูกระซิบถามว่า “ไปแล้วเหรอ?”

เป๋ยเจี่ยนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักหัว

“ไปหาเหอเจิงใช่ไหม?”

เขาส่ายหัว

“ไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่รู้ครับ”

ดูแล้วเขาก็ไม่น่าจะกล้าถาม จี้ซูถอนหายใจออกมาเบาๆ “ครึ่งเดือนผ่านมาแล้ว ฉันนึกว่าพี่เขายอมแพ้แล้วเสียอีก”

ช่วงนี้อาการของจี้ผิงโจวค่อนข้างเงียบขรึม และทำเหมือนเรื่องวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และทุกคนเองก็ไม่กล้าพูดหรือยั่วโมโหอะไรเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

จริงๆแล้วใบหย่านั้น เหอเจิงเซ็นหรือไม่เซ็น มีเพียงแค่คุณปู่เท่านั้นที่รู้ แต่คุณปู่บอกว่าเธอเซ็นแล้ว ก็คงน่าจะเซ็นแล้วจริงๆ

แต่ก่อน

ทุกคนในบ้านจี้ต่างก็คิดว่าจี้ผิงโจวเอาเหอเจิงมาเป็นแม่บ้าน เป็นที่ระบายอารมณ์บนเตียง หรือบางคนอาจจะพูดให้ดูดีหน่อย ก็จะบอกว่าเหอเจิงเป็นแค่ภรรยาในนามเท่านั้น แต่หลังจากทที่เกิดเรื่องนืคืนวันนั้น ทำให้จี้เหยียนเซียงเองก็ความคิดเปลี่ยนไป

จี้ซูมองไปที่ตาของเป๋ยเจี่ยน และกำลังจะพูดอะไรกับเขา แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนจากในตึกหลักพูดว่า “คุณหนูระวังบันไดค่ะ”

เธอตกใจเล็กน้อยก่อนจะดึงมือเป๋ยเจี่ยนและรีบวิ่งไปหลบหลังรถอีกคันที่จอดอยู่

ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก จนเป๋ยเจี่ยนได้ยินเสียงลมหายใจของจี้ซู

เห็นตั้งแต่เล็ก วันนี้เธอโตแล้วจริงๆ

เป๋ยเจี่ยนสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย เขาพยายามจะเอาตัวแนบชิดติดไปกับรถให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็กระซิบว่า “คุณหนูครับ ทำไมเราต้องหลบด้วยครับ?”

จี้ซูมองไปทางจี้เหยียนเซียงที่เดินผ่านไปอย่างระมัดระวัง “นายบื้อหรือไง ถ้าพี่ฉันเห็นว่านายอยู่ที่นี่ แต่พี่ฉันไม่อยู่ เธอต้องถามแน่ๆว่าโจวโจวล่ะไปไหน? ตอนนั้นนายจะตอบว่าอย่างไร?”

เพราะว่าใกล้กันมากเกินไป จึงทำให้เป๋ยเจี่ยนหัวใจเต้นแรงขึ้นมาก จากนั้นก็พูดตะกุกตะกักว่า “ก็บอกว่า….อะ..ออกไปแล้วไงครับ”

“โง่มากๆๆๆ!” จี้ซูเงยหน้าขึ้นและขำเล็กน้อย “แบบนั้นเธอก็รู้ซิว่าพี่เขาไปหาเหอเจิง แล้วก็ไปฟ้องคุณปู่ แบบนั้นที่พี่ฉันแสดงมาหลายวัน ก็เสียเปล่าน่ะซิ”

“ผมไม่ทันคิดครับ…”

เรื่องแบบนี้ เป๋ยเจี่ยนคิดได้ไม่เยอะเท่าผู้หญิงแน่

รอจนจี้เหยียนเซียงเดินลับตาไป จี้ซูถึงค่อยๆถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นก็วางหน้าผากลงบนไหล่ของเป๋ยเจี่ยน ผมนุ่มๆของเธอสัมผัสโดนหน้าของเป๋ยเจี่ยนจนทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหว แต่จี้ซูกลับไม่รู้เรื่องอะไร

แถมยังพูดต่ออีกว่า “พี่เหยียนเซียงชอบต่อต้านเหอเจิงเป็นพิเศษ เธออยากให้พวกเขาเลิกกันมาก นายรู้ไหมเพราะอะไร?”

“ทำไมเหรอครับ?”

เป๋ยเจี่ยนถามขึ้น

“เพราะว่าชีวิตการแต่งงานของเธอเองก็ไม่สุขสมหวัง และก็มักจะคิดว่าฟางเหอเจิงไม่เหมาะสม แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจริงๆพี่โจวไปจากเหอเจิงไม่ได้”

“ทำไมเหรอครับ?”

“มีอะไรมาทำไมหนักหนาเนี่ย ฉันบอกว่าจากไม่ได้ก็คือจากไม่ได้ ไม่งั้นนายก็รอดู ไม่เร็วไม่ช้าพี่จะต้องพาเธอกลับมาแน่!”

พูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมา และประสบสายตากับเป๋ยเจี่ยนพอดี เมื่อเห็นสายตาเขาก็คิดว่าเขาน่าจะง่วง จึงพูดว่า “พี่เขาไปแล้ว งั้นเราก็กลับกันเถอะ”

เป๋ยเจี่ยนถือร่ม

ทั้งสองยืนเบียดอยู่ในร่มคันเดียวกัน จี้ซูเดินไปด้วยพร้อมกับยื่นมือออกไปรับหิมะ ถุงมือที่เธอใส่เป็นขนแพะ เพราะฉะนั้นเวลาที่หิมะตกใส่ หิมะขาวๆก็จะค่อยๆหายไป

จากนั้นก็เดินมาถึงสถานที่ที่พวกเขาทะเลาะกันวันนั้น

จี้ซูหยุดฝีเท้า และถามเสียงเครียดว่า “อ่าใช่ วันนั้นพี่เหยียนเซียงตบพี่ลู่เป่ยใช่ไหม?”

เรื่องนี้เป๋ยเจี่ยนเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน

“ใช่ครับ เพราะเขาเองก็ต่อยพี่โจวครับ”

“งั้นน่าจะเจ็บมากเลยใช่ไหม?”

“ไม่มีอะไรบาดเจ็บมากครับ แค่ปากแตก ทายาสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้น”

จี้ซูส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า “ฉันหมายถึงพี่ลู่เป่ยน่าจะเจ็บมากใช่ไหม? ฉันน่าจะไปดูเขาหน่อย และก็ขอโทษเขาด้วย”

เธอก้มหน้าลง และพึมพำกับตัวเอง “ใช่ น่าจะไปดูเขา”

ความอบอุ่นในใจเขาเมื่อครู่หายไป เป๋ยเจี่ยนเอามือล้วงกระเป๋าอีกครั้ง และทุกอย่างก็เงียบสนิท

—–

ที่เมืองเหยียนเจียงนี้ น้อยมากที่หิมะจะตกติดกันหลายๆวัน

ทั้งหลังคาและพื้นปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ที่ทั้งลื่นและหนา ดูแล้วทั้งสวยและอันตรายมาก

มีอยู่วันหนึ่งฟางลู่เป่ยออกมายืนคุยโทรศัพท์อยู่ ประกอบกับตอนนั้นฟ้ามืดแล้ว เขาจึงไม่ระวังด้านบนหัวเท่าไหร่ เขายืนอยู่คุยอยู่สักพัก ก้อนหิมะที่ละลายติดกันเป็นก้อนแข็งๆ ก็ไหลลงมากระแทกที่หลังเขา ทำให้เขาต้องพักรักษาอยู่นานหลายวันกว่าจะหายดี

ป้าหมิงบอกว่าโชคยังดีที่เขายังถึงฆาต เพราะถ้าก้อนน้ำแข็งนั่นแหลมกว่านี้ เขาคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นแล้วที่บ้านตระกูลฟาง จะสั่งคนใช้ว่า ก่อนจะเริ่มงาน ให้จัดการเคลียหิมะพวกนั้นให้เรียบร้อย

ป้าหมิงเปิดประตูให้เหอหยุนซิ่งออกไป ขณะที่กำลังจะปิดประตูนั้นก็เห็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม กำลังเดินเข้ามา

เธอมองออกว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร

“คุณหนูจี้?”

จี้ซูสะบัดหิมะที่อยู่บนหัวออก จากนั้นก็พูดว่า “ป้าหมิง ยังจำฉันได้ด้วย”

“จำได้ซิคะ”

ในบ้านตระกูลจี้มีอยู่หลายคน มีจี้เหยียนเซียงที่เป็นหลายโรค จี้ผิงโจวที่ก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง และมีอีกคนหนึ่งที่แข็งแรงและสุขภาพดีที่สุดก็คือจี้ซุนี่แหละ

ตอนที่จี้ผิงโจวแต่งงานกับเหอเจิง ป้าหมิงเคยเจอบจี้ซู

เวลานี้ควรจะต้อนรับเธอ

แต่ป้าหมิงจำได้ว่า วันนั้นฟางลู่เป่ยพาเหอเจิงกลับมา เธอได้เตรียมน้ำอุ่นให้เหอเจิงล้างหน้า ทันทีที่เหอเจิงเงยหน้าขึ้น ก็เห็นรอยแดงก่ำรอบๆคอเธอ แถมยังมีเลือดกำเดาไหลออกมาอีก แต่เหอเจิงไม่ได้ร้องไห้อะไร

ฟางลู่เป่ยที่ยืนข้างๆ ก็มีรอยตบสีแดงเถือกปรากฏอยู่บนใบหน้า เขาสบถคำด่าออกมาไม่หยุด

จากนั้นก็หันไปถามเหอเจิงว่าจมูกโดนกระแทกมาตอนไหน แถมยังด่าอีกว่าจี้ผิงโจวไม่ใช่คน ควรจะเลิกกับเขาตั้งนานแล้ว

ถึงแม้เวลาจะผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ป้าหมิงยังจำได้ดี “คุณหนูจี้ ช่วงนี้คุณเจิงไม่อยู่บ้านค่ะ ถ้าคุณจะมาหาเธอ…ฎ

จี้ซูขำแห้งๆ “เธอเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

ป้าหมิงพอจะเดาได้ว่าเธอมาเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เหอเจิงกลับไป คิดได้แบบนั้นเธอยิ่งไม่อยากให้จี้ซูเข้าไป จากนั้นป้าหมิงก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ค่อยดีค่ะ ตอนนี้ให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ก่อน เพราะฉะนั้นคุณอย่าเพิ่งมาเจอเธอเลยค่ะ”

“พี่ไม่ได้มาเธอเหรอ?”

คืนก่อน เขขาออกมาคนเดียวนี่นา

ป้าหมิงงงเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “ไม่ได้มานะคะ”

จี้ซูขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อว่า “ช่างเถอะค่ะ ฉันก็ไม่ได้มาหาเธอ ฉันมาหาพี่ลู่เป่ยค่ะ เขาอยู่ไหมคะ?ไ

จี้ซูถามยังไม่ขาดคำ ฟางลู่เป่ยก็ปารกฎตัวขึ้น เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว และมีเสื้อคลุมสีน้ำตาลผูกที่เอวอยู่ ดูดีมากๆ

เขากำลังก้มหน้าก้มตา จัดการกับกระดุมเสื้อตัวเองอยู่

จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อเขาจากไกลๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นจี้ซูยืนโบกไม้โบกมือให้เขาอยู่ “พี่ลู่เป่ย!”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset