ตอนที่ 158 ความล้มเหลว คือ จุดเริ่มต้นของความสําเร็จ
ความคิดของเจสันนั่นโฟกัสที่จุดอื่นเพราะเขายังคงคิดถึงสีที่เปล่งประกายจากแท่งหยกเหล็กที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่คําพูดของเชนก็สมเหตุสมผลสําหรับเขา เขาสงสัยว่าจะมีใครซักคนที่สามารถ ทําทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อสติเขาเจสันกลับมา เจสันคิดว่ามันเป็นความจริงที่ชัดเจนว่าเขาจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของเขา ซึ่งเขาจะต้องแก้ไขได้ในอนาคตอย่าแน่นอน
การเรียนรู้วิธีทําแท่งหยกเหล็กที่สมบูรณ์แบบเป็นขั้นตอนแรกที่เจสันต้องเชี่ยวชาญเพื่อที่จะเป็นช่างตีเหล็กที่มีชื่อเสียง
เขาไม่แน่ใจว่าเขานั้นต้องการที่จะเป็นช่างตีเหล็กระดับสูง นักเล่นแร่แปรธาตุ หรืออาจารย์รูนหรือไม่ แต่มันเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากที่จะรู้เกี่ยวกับอาชีพทั้ง 3 ในระดับหนึ่ง
ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดคือการเป็นช่างฝีมือระดับสูงสามารถช่วยให้บุคคลนั้นได้รับเครดิตและสตาร์โน้ตได้มากตราบเท่าที่เขาขยัน ในขณะที่การควบคุมมานาของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นพร้อมๆกันกับการฝึกฝนของเขา
นอกจากนี้ เจสันยังเชื่อมั่นในอาวุธและชุดป้องกันที่ผลิตโดยคนที่เป็นช่างฝีมือระดับสูง
หากอาวุธแตกหักระหว่างการต่อสู้ ความตายคือผลลัพธ์เดียว และนี่คือสิ่งที่เจสันต้องการหลีกเลี่ยงในทุกกรณี
ต้องขอบคุณดวงตามานาของเขา เขาสามารถเห็นได้ว่าความทนทานของกริชหยกเหล็กที่ชุบแข็งของเขาแย่ลงทุกวัน และเขาโชคดีเท่านั้นที่เขาไม่ต้องออกไปล่าสัตว์ในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องซื้อ มีดสองสามเล่มเพื่อความปลอดภัย
แต่ถึงกระนั้น มีดสั้นระดับกลางขั้น 1 ที่เจสันกําลังใช้อยู่ในขณะนี้ ไม่แข็งแรงพอที่จะเจาะทะลุผิวหนังของสัตว์อสูรที่ตื่นขึ้นบนยอดเขาได้
ดังนั้น เจสันจึงต้องสร้างอาวุธให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด ยิ่งเกรดสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
มันยังเป็นไปได้ที่จะสร้างอาวุธเกรด 2 ด้วยวัสดุเกรด 1 ตราบใดที่มันถูกทําให้บริสุทธิ์เพียงพอ โดยมันจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพของวัสดุออกมา 100%
นอกจากนี้ หลังจากจารึกอักษรรูนลงไป เจสันจะสามารถปรับปรุงความคมและความทนทานของอาวุธของเขา เสริมความแข็งแกร่งและความสามารถในการใช้งานให้สูงกว่าอาวุธทั่วไปที่คนในระดับเดียวกับเขา
ในท้ายที่สุด เจสันก็มั่นใจในการผลิตอาวุธมานาหลอกด้วยแร่หยกเหล็ก ตราบใดที่เขามีเวลาเพียงพอ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างอาวุธมานาที่มีหยกเหล็กเป็นส่วนประกอบเพียงอย่างเดียว เนื่องจากจําเป็นต้องมีแร่และส่วนผสมอื่นๆเพิ่มเติม นับตั้งแต่ที่อ่านเกี่ยวกับการตีขึ้นรูป เจสันก็หลงใหลในศิลปะการทําอาวุธและการสอบช่างฝีมือของเขาได้เติมพลังความทะเยอทะยานของเขาที่จะสามารถสร้างอาวุธมานาได้ ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้ก้าวเข้ามาใกล้เพื่อเติมเต็มความฝันทั้งๆที่เขารู้ว่าเขายังมีหนทางอีกยาวไกล
ใครกันที่ไม่อยากสร้างอาวุธอันทรงพลังที่สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และสามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้ได้
อาชีพของช่างตีเหล็กและรูนมาสเตอร์นั้นเชื่อมโยงกันและมักจะควบคู่ขนานกันไป นักเรียนจะเดินไปเรียนรู้งานฝีมือ เจสันรู้ว่าเขาต้องเชี่ยวชาญทั้งสองอย่างจึงจะสามารถผลิตอาวุธมานาได้ด้วยตัวเอง
ความฝันเล็กๆ อย่างหนึ่งของเจสันคือการผลิตอาวุธที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งจะทําให้เขาทําลายภูเขาให้แตกสลายได้เหมือนกับนิทานที่แม่ของเขาจะเล่าให้เขาฟังในวัยเด็ก
สิ่งที่เขาอยากรู้อย่างยิ่งคืออาวุธวิญญาณและอยากรู้ว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร แต่น่าเสียดายที่หนังสือเชิงทฤษฎีที่เขาได้รับจากเชนและดาเลียไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
เจสันเชื่อว่าเชนและดาเลียต้องการบันทึกข้อมูลนี้ และจนกว่าเขาจะถึงเกณฑ์ที่กําหนด และเขามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายในไม่ช้า
แม้ว่าเจสันจะมีความรู้เกี่ยวกับการสร้างอาวุธวิญญาณ แต่เขาก็ยังต้องเรียนรู้พื้นฐาน
เจสันน้ําแร่หยกเหล็กออกมา ซึ่งมันกองเป็นกองพะเนินเล็กๆ
ขณะที่ยกชิ้นส่วนขนาดใหญ่ขึ้น เจสันก็เข้าไปที่โรงตีเหล็ก ขณะที่เชนก้าวถอยหลังโดยไม่พูดอะไรเลย
เชนจะสังเกตทุกอย่างอย่างระมัดระวัง และเขาตัดสินใจที่จะอธิบายความผิดพลาดของเจสันหลังจากความล้มเหลวทุกครั้ง
ในขณะที่เจสันหายใจเข้าลึกๆ เจสันก็สงบสติอารมณ์ลงก่อนที่เปลวไฟต้นกําเนิดสีดําจะปรากฏขึ้นในมือของเขา
เจสันนําเปลวไฟไปทางโรงตีเหล็กอย่างช้าๆ เจสันกระตุ้นดวงตามานาของเขาโดยตรงเพื่อติดตามทุกย่างก้าวโดยละเอียดและสมบูรณ์แบบ
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เจสันต้องการจะทําในขณะที่เขาทําให้เปลวไฟร้อนขึ้นจนถึงอุณหภูมิที่จําเป็นในการหล่อแร่หยกเหล็ก
เมื่อสังเกตเห็นออกไซด์ที่ทําปฏิกิริยากับหินปูนภายในโรงตีเหล็ก เจสันจึงนําหยกเหล็กออกจากโรงตีเหล็ก ก่อนที่เขาจะส่งมานาของเขาเข้าไปในแม่พิมพ์หยกเหล็กที่ร้อนระอุ
ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีและเขาก็เหงื่อออกอย่างมากแล้วเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าการดึงสิ่งสกปรกออกมาจากหลกเหล็กนั้นยากกว่าที่เขาคิดไว้ก่อนหน้านี้มาก
ขณะฉีดมานาเข้าไปในแม่พิมพ์หยกเหล็กอย่างแรง เจสันสังเกตว่ามันยากขึ้นสําหรับเขาที่จะดําเนินต่อไปเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น
เจสันสับสนและสังเกตเห็นว่าหยกเหล็กเย็นลงเมื่อเขาไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกออกได้ในชั่วขณะ
ด้วยความรู้สึกโง่เขลาอย่างยิ่ง เจสันสาปแช่งตัวเองโดยจําไว้ว่าจะสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากแร่ได้ ตราบใดที่มันยังร้อนเพียงพอ
การทําให้เหล็กหยกร้อนขึ้นอีกครั้ง เจสันได้เพิ่มอุณหภูมิของเปลวไฟต้นกําเนิดของเขาขึ้นสองสามองศา แล้วทําซ้ํากระบวนการฉีดมานาของเขาลงในหยกเหล็กอีกครั้ง
คราวนี้มันง่ายกว่ามากที่จะนําสิ่งเจือปนออกจากหยกเหล็ก ในขณะที่เขาเพิ่มความร้อนของเปลวไฟอีกครั้งด้วยความทะเยอทะยานที่ส่องประกายในดวงตาของเขา
น่าเสียดายที่เจสันลืมควบคุมเปลวไฟต้นกําเนิดสีดําของเขา และเพิ่มอุณหภูมิเป็นเปลวไฟสูง ซึ่งจะทําลายเส้นมานาภายในเหล็กหยกในทันที ทําให้มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อมองดูเศษเหล็กที่อยู่ข้างหน้าเจสันก็ขมวดคิ้วอย่างสุดซึ้ง ขณะที่เขาหยิบแร่เหล็กหยกชิ้นต่อไป พยายามอีกครั้ง เพราะเขาไม่สามารถยอมรับความล้มเหลวของเขาได้
เชนไม่รู้สึกว่าจําเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดของเจสัน เพราะดูเหมือนว่าเจสันนั้นจะสังเกตเห็นด้วยตัวเอง
การทํางานด้วยอุณหภูมิที่ต่ํากว่านั้นเป็นไปได้ แต่จะเสียมานาจํานวนมากเนื่องจากความยากที่เพิ่มขึ้นและเสียเวลามากขึ้นไปอีก
ในขณะเดียวกัน การใช้อุณหภูมิสูงสามารถช่วยให้เขาดําเนินกระบวนการให้เสร็จสิ้นเร็วขึ้น แต่อุณหภูมิที่สูงเกินไปนั้นควบคุมได้ยาก มิฉะนั้น แร่จะค่อยๆเสื่อมสภาพลงเนื่องจากเส้นมานาที่เสียหาย
ในยุคที่ผ่านมา ทุกอย่างล้วนมีมานา และการตีอาวุธที่มีเส้นมานาไหม้เกรียมนั้นแย่ยิ่งกว่าการสร้างอาวุธไร้เกรด เนื่องจากมานาที่เพิ่มขึ้นภายในอาวุธเป็นสิ่งเดียวที่ทําให้พวกมัน “มีชีวิต” และมีประโยชน์
การฉีดมานาลงในอาวุธไม่เพียงแต่เพิ่มความคม ความทนทาน และประสิทธิภาพของอาวุธเท่านั้น แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือ ความจริงที่ว่าอาวุธที่มีค่าการนํามานาสูงสามารถมีความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเสริมของร่างกายของผู้ถืออาวุธ
การมีอาวุธที่มีค่าการนําามานาต่ําหมายความว่า ผู้ใช้จะไม่สามารถรู้สึกถึงอาวุธได้ จึงเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของผู้ถืออาวุธและทําให้เขาไม่สามารถต่อสู้อย่างเต็มศักยภาพ
เส้นมานาคือทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ สัตว์ร้าย หรือมนุษย์ และยิ่งพวกมันบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ การเพิ่มประสิทธิภาพที่ได้รับจากมานาที่ฉีดยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น รวมถึงความรู้สึกของการเคลื่อนไหวของร่างกายแทนอาวุธที่ใช้สังหาร
เจสันรู้สึกถึงกับความรู้เชิงทฤษฎีทั้งหมดที่ฝังอยู่ในจิตใจของเขา เขาต้องการสร้างแท่งโลหะบริสุทธิ์ที่สมบูรณ์แบบโดยเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์หยาบเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสําคัญของการทําให้บริสุทธิ์ เนื่องจากมีทุกสิ่งที่เจสันได้เรียนรู้ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา