เมื่อเลิกเรียน เจสันได้นั่งรถรับไปส่งไปยังเจดีย์สัตว์ร้าย ด้วยความตื่นเต้นที่เปล่งประกายในดวงตา
มันรู้สึกราวกับว่าเวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมงและเวลาดูเหมือนจะหยุดลงเมื่อเจสันมาถึงจุดหมายภายใน 25 นาที
เจดีย์สัตว์ร้ายที่นี่ใหญ่กว่าในเมืองอาร์เทสอย่างมาก มันมี 7 ชั้น ในขณะ 2 ชั้นมีไว้สำหรับฟักไข่ส่วนอีก 5 ชั้นที่เหลือสำหรับสัตว์ที่เกิดแล้วทุกชนิด (หมายถึงเกิดออกมาจากไข่นะครับ)
ในขระที่เจสันรู้สึกตกตะลึงกับความหนาแน่นของมานา ที่สามารถรับรู้ได้เจสันก็ได้เดินอย่างช้าๆ ไปที่ประตูบานใหญ่ที่เปิดออกทันที่เมื่อก้าวไปอยู่ตรงหน้าประตู
เจ้าหน้าที่ดูมีความสุขเมื่อได้เห็นเจสัน ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ความสามารถโดยกำเนิดในการปลุกวิญญาณของเด็กส่วนใหญ่ในเมืองไซโรคือมีพลังวิญญาณอย่างน้อย 11 หน่วย ซึ่งเพียงพอที่จะคุมสัตว์ร้านที่ตื่นขึ้นได้อย่างอยู่มัด
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพลังวิญญาณของใครคนหนึ่งจะมีน้อย แต่การฝึกฝนเทคนิคนรกสวรรค์สัก 2-3 เดือนก็สามารถไปถึงเกณฑ์ที่จะไปยันชั้น 2 ของเจดีย์สัตว์ร้ายได้ หรือสร้างพันธะกับสัตว์ร้ายจากพ่อค้าที่จับมา เนื่องจากรวดเร็วกว่าและเชื่อถือได้มากกว่าเจดีย์สัตว์ร้าย
เจสันเดินผ่านประตูที่เปิดอยู่และผู้ดูแลก็มุ่งตรงมาหาเขา
“สวัสดีครับผม คุณสเตลล่าใช่ไหมครับ?”
ผู้ดูแลทักทายและถามอย่างมีหวัง
เจสันพยักหน้าตอบ ขระที่ดวงตาของผู้ดูแลดูสว่างขึ้น
“ เชิญทางนี้ครับ คุณสเตลล่า”
เจดีย์มีขนาดใหญ่และใช้เวลากว่า 10 นาทีตนเดินมาถึงชั้นแรกซึ่งมีสัตว์ร้ายระดับดาวอยู่ภายใน ในช่วง 10 นาทีนี้ ผู้ดูแลได้ถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์พันธะและเจสันก้ตอบคำถามเหล่านั้นเท่าที่เขาจะตอบได้ คำถามคือเจสันต้องการสัตว์ชนิดไหน และเจสันเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะเลือกสัตว์ชนิดไหน
ตอนนี้เจสันได้เลือกทิศทางของสัตว์พันธะแล้วว่าควรจะเป็นไปในทางไหน แต่เจสันยังไม่แน่ใจว่าสัตว์ชนิดใดในที่นี่ ที่เจสันจะสามารถทำพันธะได้
ตอนนี้เจสันอยากทดสอบทฤษฎีความบริสุทธิ์มากกว่าสิ่งอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยและการทดสอบกับผลบาคูรีสีขาว เจสันต้องทำพันธะกับสัตว์ที่มีความอดทนสูง และน่าเสียดายที่พลังวิญญาณของเจสันทำให้เขาทำพันธะได้กับแค่สัตว์ที่ต่ำกว่า ระดับ 4 ดาว ซึ่งผิดแผนเขาไปในระดับหนึ่ง
แต่การทำพันธะกับสัตว์ 1 ดาว ก้ไม่ปลอดภัยเช่นกันเนื่องจากพวกมันอ่อนแอ อาจจะไม่สามารถทนต่อพลังอันแสนทรมาณของผลบาคูรีได้หรือเปล่า และมนุษย์ที่กินผลบาคูรีก็มีอันตรายเช่นกัน เพราะมันจะชำระล้างสิ่งสกปรกจำนวนหนึ่งออกไปและเจสันรู้ว่าสัวต์ระดับ 1 ดาวไม่สามารถทนกับมันไหว แต่เจสันก็ไม่มั่นใจว่าสัตว์ระดับ 3 ดาวจะทนไหวหรือไม่ เนื่องจากไม่รู้ศักยภาพของผลบาคูรีว่ารุนแรงขนาดไหน
ดังนั้นเจสันจึงเลือกสัตว์ร้ายที่มีความอดทนสูงและมีความสามารถในการรอดชีวิตจากการชำระในครั้งนี้ ในท้ายที่สุดสัตว์ร้ายหลายชนิด เจสันสามารถเลือกได้ก็น้อยลงตามเกณฑ์ที่เจสันวางเอาไว้
เจสันตัดสินใจ จำกัดการเลือกของเขาโดยเลือกเฉพาะสัตว์ระดับ 3 ดาวที่มีความอดทนสูงและมีพลังชีวิตที่สูงเพื่อการอยู่รอดจากการชำระด้วยผลบาคูรี เมื่อบอกผู้ดูแลถึงความต้องการ ผู้ดูแลไม่แน่ใจในความคิดของเจสัน เนื่องจากเกณฑ์ที่เจสันให้มามันดูคุ้นเคย
“ผมไม่ได้ต้องจะสงสัยว่าคุณมีเจตนาร้ายใดๆ แต่การซื้อสัตว์ร้ายในเจดีย์นี้มีไว้สำหรับการทำพันธะเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการทดลองกับพวกมัน”
เจสันต้องการทดลองกับสัตว์ร้ายเหล่านี้ แต่เขาไม่ได้ต้องการทำร้ายหรือฆ่าพวกมัน เนื่องจากข้อเท็จจริงเจสันต้องการผูกพันธะกับพวกมันอยู่แล้ว การห่าหรือทำให้มันพิการ มันจะลดความสามารถในการต่อสู้ของตัวเขาเอง และท้ายที่สุดอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายกับตัวผู้ทำพันธะเอง
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันสามารถผูกพันธะกับสัตว์เหล่านี้ได้ต่อหน้าคุณ ถ้ามันทำให้ความกังวลของคุณลดลง”
เมื่อได้ยินลูกค้าพูดเช่นนี้ ผู้ดูแลก้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่ได้ทำงานในเจดีย์สัตว์ร้ายมานา แต่เขาก้ได้เห็นคนบ้ามากมายที่ชั้น 1 ที่จะพยายามซื้อสัตว์ป่าด้วยเจตนาร้ายแอบแฝง
เมื่อได้ยินเจสันพูดดังนั้น ทำให้ความกังวลของเขาหายไป แต่ถ้าเขารู้ว่าเจสันต้องการทดสอบด้วยการให้ผลไม้วิเศษเพื่อที่จะชำระล้างสิ่งสกปรกของสัตว์พันธะที่เจสันจะทำพันธะด้วย เขาคงจะไล่เจสันออกไปจากเจดีย์สัตว์ร้าย และขึ้นบัญชีดำไปตลอดชีวิต มีคนจำนวนมากที่พยายามทำอะไรแบบนั้นและผลลัพธ์ที่ได้ก้ร้ายแรง ซึ่งเจสันไม่รู้เรื่องนี้
แต่การทดสอบเหล่านี้ไม่ได้ทำอย่างจริงจังหรือดำเนินไปอย่างปลอดภัย และผลไม้วิเศษเหล่านั้นมีพลังมากกว่าผลไม้ที่เจสันเป็นเจ้าของ ในความเห้นของเจสัน การทดลองส่วนใหญ่น่าจะให้พลังในการชำระมากเกินไปหรือสัตว์อาจจะอ่อนแอเกินไปทำให้ไม่สามารถทนต่อการชำระได้
เจสันได้ทำการวิจัยมามากมายเกี่ยวกับผลบาคูรีสีขาว และมันไม่ได้เป็นเพียงผลไม้พิเศษที่เลวร้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เจสันมีตอนนี้มันอยู่ในระดับต่ำที่สุด
ด้วยระดับที่ต่ำนี้ มันน่าจะเป็นไปได้สำหรับสัตว์ที่มีความอดทนสูงที่จะผ่านขั้นตอนการชำระโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ในขณะที่เจสันเองก็จะพยายามช่วยทุกวิถีทาง
เมื่อไปถึงพื้นที่สัตว์ร้าย เจสันได้เปิดดวงตาเพื่อแสกนศักยภาพของสัตวืร้ายทุกชนิดและความบริสุทธิ์ของมัน แต่เจสันก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากไม่มีสัตวืร้ายชนิดใดหรือจัวไหนที่เปล่งประกาย ซึ่งทำให้เจสันผิดหวัง
อย่างน้อยหากสถานการณืเลวร้ายเกิดขึ้น เจสันก็จะเลี้ยงสัตว์พันธะด้วยผลไม้เล็กๆ วึ่งช่วยลดเอฟเฟกต์การชำระ อย่างไรก็ตามมันดีกว่าการฆ่าสัตว์พันธะของตัวเองใช่ไหมละ
นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้ ที่ผลการชำระจะถูกลบล้างออกไป โดยความสามารถทางร่างกายของสัตว์พันธะซึ่งมันอาจจะเป็นไปได้และถึงตอนนั้นมันก้คุ้มค้าที่จะลองใช้ผลไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยเพื่อจะลองทฤษฏี ตราบใดที่สัตว์พันธะมีความอดทนสูงมันก็จะไม่ตาย
เวลาผ่านไปสักพักเจสันเริ่มผิดหวังมากขึ้น ไม่มีสัตวืร้ายสักตัวที่ตรงตามเกณฑ์ที่เจสันวางเอาไว้ และเวลาก็ผ่านไป 2 ชั่วโมง ผู้ดูแลเริ่มกังวลเล็กน้อยเพราะเกณฑ์ที่เจสันวางไว้ค่อนข้างหากยากสำหรับสัตว์ระดับดาว
เวลาผ่านไปสักพักเจสันก็ค่อยๆเดินผ่านทางเดินมองดูสัตว์ร้ายแต่ละชนิดทำให้เขาผิดหวัง
เมื่อค้นหาในแคตตาล็อกสัตวืร้าย เจสันก้ไม่พบสัตว์ร้ายที่เหมาสมเช่นกัน เจสันจึงถามทันที่
“สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่มีหรอ”
เจสันกำลังจะค้นหาต่อไป และได้เห็นตู้ที่ว่างเปล่าพร้อมภาพโฮโลแกรมที่แสดงให้เห้นสัตวืร้ายที่ดึงดูดความสนใจของเขา เมื่อเห็นภาพโฮโลแกรมดวงตาของผู้ดูแลก็ดูสว่างขึ้น และอารมณ์ของเขาก็พุ่งสูง เมื่อเห็นข้อมูลของสัตว์ร้ายตัวนั้น
“ดูเหมือนสัตว์ร้ายตัวนี้ กำลังจะคลอดลูกในขณะนี้”
ผู้ดูแลรายงานและดวงตาของเจสันก็สว่างขึ้น
ก่อนหน้านี้ เจสันต้องการสร้างพันธะกับสัตว์ 3 ดาวดตเต็มวัยและเชื่อง แต่การดูแลทารกแรกเกิดนั้นดีกว่า เพราะสามารถทำให้เชื่องได้ง่ายกว่าและการเชื่อมต่อระหว่างวิญญาณก็แข็งแกร่งกว่า
เจสันอารมณ์ดีมาก จนวิ่งไปหาผู้ดูแลและถามว่า
“เมื่อคลอดเสร็จ ฉันสามารถทำพันธะกับลูกของมันได้เลยหรือไม่??”
ผู้ดูแลรู้สึกประหลาดใจกับความกระตือรือร้นอย่างกระทันหันของเจสัน และบอกว่าต้องรอ 2-3 ตามปกติก่อนที่จะได้รับให้อนุญาตทำพันธะได้ หากสัตว์ที่เจสันต้องการทำพันธะ แต่ก็คิดว่าเจสันเป็นแม่ของมันจะง่ายกว่าที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสัตว์ เมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่งผุ้ดูแลก็นึกได้ว่า มันไม่มีกฏหมายที่ว่าห้ามขายลูกสัตว์แรกเกิด แต่มันเพียงผิดศีลธรรม เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ดูแลจึงอนุญาตไปพูดคุยกับหัวหน้า
เมื่อเห็นการแสดงออกของผุ้ดูแลและได้ยินเสียงตะโกนของหัวหน้า เจสันรู้สึกผิดเล็กน้อย หัวหน้าไม่ได้สนใจชีวิตของสัตว์และโกรธเพราะคำถามงี่เง่านี้ แม้ว่าเจสันจะรู้สึกเสียใจกับผุ้ดูแล แต่คำตอยของเขาก็คือสามารถทำพันธะได้เลยหลังจากมันคลอด
บางทรเจสันอาจจะเปลี่ยนแผนของเขา โดยมีสัตว์ร้ายแรกเกิดเป้นพันธะตัวที่ 2 ของเขา เพราะเขาสามารถป้อมผลบาคูรีสีขาวได้ หากแบ่งมันเป้นส่วนๆ และป้อนมันทีละน้อยๆ วึ่งอาจมีความเป้นไปได้แต่อาจรอได้เพราะมีสิ่งที่สำคัยรอเขาอยู่ และตอนนี้เจสันได้เลือกคู่หูตัวที่ 2 ของเขาแล้ว!!