ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 80

เจสันมองไปที่สกอร์พิโอ (ชื่อของแมงป่องเจสัน ) ด้วยความดีใจ แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจอย่างสมบูรณ์ว่า มันจะสามารถพัฒนาไปสู่สัตว์ที่ตื่นขึ้นด้วยผลบาคูรีสีขาวหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ยังมีความคือหน้าที่สามารถรับรู้ได้ มันเพียงพอต่อการทดลองที่สามารถบอกได้ว่ามันสำเร็จ

 

ถึงอย่างนั้นเจสันก็ยังคงตกใจกับความเจ็บปวดของมัน อย่างไรก็ตามเจสันก็สามารถรับรู้ได้ถึงความต้องการที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นของ สกอร์พิโอ บางทีมันอาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากความทะเยอทะยานของเจสันที่ต้องการแข็งแกร่งขึ้นในทุกวิถีทาง และมันอาจจะอยากพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดเท่าที่มันจะทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดทางสายเลือดของมัน

 

สกอร์พิโอมีอายุเพียง 5 วัน แต่มันก็สามารถพัฒนาตัวเองจนถึงสัตว์ระดับ 1 ดาบ ขั้นกลาง และเจสันก็สงสัยว่ามันจะใช้เวลานานแค่ในจนถึงระดับ 3 ดาว โชคดีที่ไม่ใช่แค่สกอร์พิโอเท่านั้นที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา แต่ความแข็งแกร่งของเจสันเองก็เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความพยายามอย่างต่อเนื่องที่เจสันได้ฝึกฝนจนตอนนี้ เจสันกำลังจะเข้าสู่ขั้นมือใหม่ระดับ 7 แล้ว

 

อาจจะใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์จนกว่าเจสันจะสามารถเข้าสู่มือใหม่ระดับ 7 ได้ ซึ่งมีความรวดเร็วเป็นอย่างมากสำหรับการก้าวขั้นจาก ระดับ 6 ไปยังระดับ 7 และเมื่อวันก่อนเจสันปวดร่างกายเป็นอย่างมากเนื่องจากการขยายโลกแห่งวิญญาณที่ร่วมกันของพาราสกอร์ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าแกนมานาของเจสันมีขนาดใหญ่ขึ้น ร่างกายและพลังวิญญาณของเจสันก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

สกอร์พิโอเป็นสัตว์ร้ายทางกายภาพมากกว่าสัตว์ร้ายทางมานาหรือธาตุต่างๆ ยกเว้นพิษตามธรรมชาติของมัน เนื่องจากร่างกายของเจสันได้รับการปรับเปลี่ยน ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและทนทานมากขึ้น กระดูกและอวัยวะอื่นๆ ก็มีความทนทานมากขึ้น ในขณะเดียวกันแม้อันดับของเจสันจะอยู่ในขั้นมือใหม่ระดับ 6 แต่แกนมานานั้นอยู่ในระดับ 7 ที่กำลังจะพัฒนาเข้าสู่ระดับ 8 ในขณะที่ทางร่างกายกำลังเข้าสู่ระดับ 7

 

เมื่อสกอร์พิโอเติบโตเต็มที่ร่างกายและแกนมานาจะใกล้เคียงกับเจสัน เพราะอาร์เทมิสนั้นให้พลังทางมานามากกว่าการเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพในขณะที่สกอร์พิโอนั้นให้พลังด้ายกายภาพมากกว่า ตอนนี้พลังวิญญาณของเจสันอยู่ที่ 7.2 หน่วย หรือมากกว่านั้น ถึงแม้การปลุกวิญญาณของเจสันจะเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบ 7.2 กับอดีตซึ่งพลังวิญญาณที่แทบจะไม่มี ตอนนี้มันแตกต่างออกไปมากทำให้เจสันดีใจเป็นอย่างมาก

 

วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเกร็กก็อยู่บ้านโดยทำแบบฝึกหัดของตัวเอง เจสันไม่สนใจการบ้านของเกร็กเพราะเจสันนั้นทำของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากแบบฝึกหัดที่เกร็กต้องทำ นอกจากนี้แบบฝึกหัดของเกร็กก็คล้ายๆกับแบบฝึกหัดของเจสันทำให้เจสันรู้คำตอบอยู่แล้ว เจสันรู้เรื่องราวส่วนใหญ่ในขณะที่อ่านหนังสือมาก่อน สกอร์พิโอกำลังนั่งเล่นอยู่บนผมของเจสันในขณะที่อาร์เทมิสยังคงหลับใหลอยู่ในโลกวิญญาณ

 

ปกติสกอร์พิโอจะอยู่ในโลกวิญญาณ แต่มันก็เหมือนกับอาร์เทมิสที่ชอบอยู่ใก้ลชิดกับเจสัน ซึ่งมันก็น่าแปลกสำหรับแมงป่องที่มีเข็มพิษและน่ากลัว แต่เจสันก็ไม่ได้รังเกียจ เจสันเคยถูกสกอร์พิโอต่อยโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนหน้านี้แต่ดูเหมือนว่าเจสันจะมีภูมิต้านทานพิษของสกอร์พิโอทำให้ไม่เป็นอะไร

 

การต่อยไม่ได้ลึกมากเพราะมันแค่เล่นกับเจสันและเจสันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดมากมายอย่างนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเจสันเห็นว่าเกร็กทำการบ้านไม่เสร็จซักที จึงเข้าไปช่วยเกร็กทำการบ้าน เพื่อที่เกร็กจะได้มีเวลาพอที่มาจะมาเป็นคู่ซ้อมการต่อสู้ให้กับเจสัน

 

เกร็กระงับความแข็งแกร่งของตัวเองให้อยู่ในขั้นมือใหม่ระดับ 6 แบบคงที่ และเริ่มฝึกเจสันให้ใช้เทคนิคพื้นฐานทุกประเภท ในขณะที่เจสันว่องไวและใช้เทคนิคต่างๆ ตามลำดับ ซึ่งเกร็กค่อนข้างที่จะห้าวหาญขณะที่ใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งเข้าสู้กับเจสัน แต่เจสันสามารถมองการโจมตีของเกร็กออกทั้งหมด และฝึกใช้การดจมตีด้วยกริซไม้ ขณะที่เกร็กสามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิดและเช่นเดียวกับ ลีโอ ฮาร์ท

 

เกร็กก็ใช้ถุงมือสำหรับการต่อสู้ ดูเหมือนว่าถุงมือจะเป็นอาวุธทั่วไปที่นักต่อสู้นิยมใช้ อย่างไรก็ตามมันดีมากสำหรับเจสันที่ต้องการหาจุดด้อยของตัวเอง ในขณะที่ทั้งคู่ต่อสู้กันมาเป็นเวลา 30 นาที จนกระทั่งเจสันต้องยอมแพ้ด้วยรอยฟกซ้ำมากมายทั่วร่างกาย

 

แม้ว่าเกร้กจะระงับความแข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้ แต่เกร็กก็ยังถูกครอบงำด้วยร่างกายและความแข็งแกร่งของการต่อสู้โดยกำเนิด เกร็กได้เรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวที่ดีขึ้นนอกจากนี้เกร็กยังมีความเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากขึ้นเพีงไม่กี่ปี

 

เจสันเริ่มมองเห็นอะไรเล็กน้อยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงที่เขาพบในโลกนี้ เจสันสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวในแต่ละครั้งของเกร็ก แต่หลังจากนั้นไม่นานเจสันก็ไม่สามรถหลบการโจมตีของเกร็กได้ถึงแม้จะรับรู้ถึงการโจมตี เจสันจึงคิดว่านี้ไม่ใช่ทางเลือกในตอนนี้

 

เจสันยังมีประสบกาณ์ไม่เพียงพอ แต่เจสันรู้สึกว่าตัวเองนั้นใกล้ชิดกับเกร็กมากขึ้นในอีกระดับหนึ่ง ถ้าเจสันเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติมแทนการใช้พื้นฐานตลอดเวลา เจสันอาจจะสามารถหลบการโจมตีของเกร็กได้ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์เจสันได้ไปโรเงรียนแต่ดูเหมือนจะไม่มีการสอนศิลปะการต่อสู้หรือการป้องกันตัวใดๆ  ให้กับนักเรียน ซึ่งทำให้เจสันรู้สึกผิดหวัง แม้ว่าจะได้เรียนรู้ความสามารถในการปรับปรุงแกนมานาและเพิ่มความสามารถในการดูดวับมันก็ตาม

 

อะไรคือการใช้แกนมานาระดับสูง เมื่อเราไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยความคิดนี้เจสันยังคงออกกำลังกายทุกวันเพื่อฝึกกล้ามเนื้อทุกวันต่อไป ก่อนที่จะไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรและพืชวิเศษต่อจนกว่าจะจำข้อมูลทั้งหมดได้ครบถ้วน และเจสันไม่เคยลืมที่จะฝึกเทคนิคนรกสวรรค์สามครั้งต่อวัน เพราะมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปแล้ว

 

 

**

 

เมื่อเข้ามาในห้องเรียนในวันรุ่งขึ้น มีเพื่อนร่วมชั้นหลายคนซุบซิบกันและเจสันได้ยินนักเรียนคนหนึ่งพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย สิ่งนี้ดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของเจสัน แต่เจสันก็ไม่ได้ถามใครจนเมื่อประตูเปิดออก กรีลเดินเข้ามาในห้อง

 

“พวกคุณบางคนคงทราบกันแล้วและการบ้านของโรงเรียนได้หมดลงแล้วและต่อไปนี้ฉันสามารถตัดสินใจได้ว่าจะมอบงานอะไรนอกเนื่องจากคำสั่งของโรงเรียนให้ทุกคนได้ทำกัน เพราะฉันรู้ว่าทุกคนต่างโหยหาที่จะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบใหม่ที่ทรงพลัง ฉันจะสอนเมื่อทุกคนผ่านการมอบหมายงานในสัปดาห์ที่เหลือ หากใครไม่ส่งงานจะถูกลงโทษ นั้นหมายความว่ายิ่งส่งงานเร็วเท่าใดก็จะยิ่งได้เรียนรู้เทคนิคศิลปะการต่อสู้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หลังจากสัปดาห์นี้สิ้นสุด ฉันจะไม่อธิบายเกี่ยวกับเทคนิคอื่นๆ ยกเว้นเทคนิคที่ฉันจะมอบให้ และขอให้ส่งงานกันให้ตรงเวลา”

กรีลกล่าว

 

อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับทุกคนและเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจคำพูดของกรีล แต่ความหมายก็ค่อนข้างเข้าใจได้ การส่งงานที่ได้รับมอบหมายให้เร็วที่สุดจะทำให้มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้เทคนิคศิลปะการป้องกันตัวแบบใหม่จากครูของพวกเขาจนกว่าจะสิ้นสุดสัปดาห์

 

‘ครูของเรามีหน้าที่สอนศิลปะการป้องกันตัวไม่ใช่เหรอ!? ‘

นั่นคือความคิดในใจของเกือบทุกคน

 

“ถ้ามีคนสงสัย ฉันไม่ได้พูดถึงเทคนิคศิลปะการต่อสู้ระดับสูงหรือระดับ 1 ทั่วไป….. คุณสามารถเลือกเทคนิคใดก็ได้ที่ฉันเรียนรู้มาตลอดทั้งชีวิตซึ่งรวมถึงเทคนิคระดับ 3 เทคนิคพิเศษและไม่เหมือนใครหรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะโดยยาก คิดว่าน่าจะพอทำให้ทุกคนพอใจกันนะ”

 

ทั่วทั้งห้องเกิดเสียงเฮลั่น ในขณะที่เจสันมองดูกรีลอย่างเงียบๆ

‘ทักษะระดับ 3 กรีลเป็นใครกันแน่ ? ฉันว่าไม่ใช่แค่ครูธรรมดาๆ และแหละ’

 

เทคนิคระดับ 3 ถือเป็นสมบัติจากแอสทริกซ์และยังถือว่าเป็นเทคนิคที่หายากในคาเนียร์ ทำให้เจสันสงสัยในตัวของกรีล

 

‘พูดถึงเทคนิคเฉพาะหรือพิเศษ ?? เขากำลังจะทำอะไรในหมู่เกาะอาร์คิเพลาโกส… เขาไม่ควรอยู่ที่คาเนียร์ เขาต้องเป็นผู้นำนิกายหรืออยู่ในปราสาทในฐานะเจ้าชายของอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่ง ? ‘

 

เจสันรู้สึกประหลาดใจมากและอยากจะถามกรีลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เจสันก็นิ่งเงียบ นักเรียนคนอื่นๆ มีความสุขที่ได้ฟังอะไรแบบนั้น  แต่มีนักเรียนบางคนที่เข้าใจถึงเทคนิคระดับ 3 กรีลไม่เพียงให้เทคนิคดังกล่าวแก่เด็กนักเรียนและประโยคถัดไปจะทำให้เด็กนักเรียนทุกคนรู้สึกไม่พอใจทันที

 

“งานแรกที่จะมอบให้ทุกคน คือ ทุกคนต้องฆ่าสัตว์ร้าย 10 ตัว เป็น 2 ขั้นตอน ที่มีอันดับเหนือกว่าพวกคุณ ข้อกำหนดของฉันงนั้นง่ายๆ คุณต้องจัดการมันด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยไม่ใช้ปืนมานา หรืออาวุธวิญญาณในการสังหาร และไม่อนุญาติให้ใช้สัตว์พันธะสำหรับงานนี้ ห้ามร่วมกลุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น คุณต้องล่าเพียงคนเดียว นอเหนือจากนั้นคุณอาจจะใช้ทุกอย่างที่คุณต้องการ คุณสามารถดักจับสัตว์ร้ายหรือพยายามลอบสังหารมันฉันก็ไม่ได้ว่า ข้อกำหนดอีกอย่างคือคุณจะต้องบันทึกวิดีโอทุกอย่างด้วยม้วนเทปที่ฉันจะให้ไป มีปุ่มกดด้านข้างมันจะกระพริบเมื่อเริ่มบันทึก อุปกรณ์นั้นเต็มไปด้วยมานาและแบตเตอรี่สำหรับการใช้งาน 1 สัปดาห์ สำหรับงานนี้ไม่มีการลงโทษสำหรับผู้ไม่ส่งงาน แต่รางวัลที่คุณจะได้รับเมื่อส่งงานนี้ นั้นเป็นรางวัลที่หาไม่ค่อยได้นัก ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี”

 

ในขณะที่ม้วนวิดีโอติดปีกกำลังบินมาหาทุกคน ใบหน้าของทุกคนก็อยู่ในสภาพครุ่นคิด การเอาชนะสัตว์ร้าย 10 ตัวที่มีอันดับสูงกว่าโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครหรือสัตว์พันธะของตัวเอง ?? ครูล้อเล่นหรือเปล่า ?

 

แต่ละอันดับแบ่งออกเป็น 3 ขั้น ระดับที่ 1- 3 เป็นระดับเริ่มต้น ในขณะที่ 4-6 เป็นขั้นกลาง 7-9 เป็นขั้นสูง นั้นหมายความว่าหากมีใครอยู่ในขั้นผู้ชำนาญระดับ 3 เหมือนนักเรียนส่วนใหญ่ พวกนั้นจะต้องเอาชนะสัตวืร้ายที่ตื่นขึ้นซึ่งมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน

 

หากสามารถใช้สัตว์พันธะของพวกเขาได้สิ่งนี้จะไม่ถือว่าเป็นปัญหาเพราะนักเรียนส่วนในโรงเรียนนี้มีสัตว์พันธะเป็นสัตว์ร้ายที่มีระดับการตื่นขึ้นของพลัง ตัวอย่างเช่น ลีโอ ฮาร์ท ซึ่งเป็นผู้ชำนาญระดับ 5 และเขาจะต้องเอาชนะสัตว์ร้ายที่มีวัฒนาการขั้นต่ำ.. เขาจะทำอย่างนั้นได้ยังไง

 

***เพิ่มเติม ผู้แปลได้เรียงลำดับสัตว์ร้ายผิดนะครับ สัตว์ร้ายระดับวิวัฒนาการมีอันดับที่สูงกว่าสัตว์ที่พลังตื่นขึ้นมา ขออภัยด้วยนะครับ ***

 

มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะยากมากแต่ผลประโยชน์ของมันก็มากมายพอที่จะลองทำดูโดยไม่ต้องกังวล และทุกคนรีบออกจากห้องทันทีที่กรีลอธิบายจบ มีเพียงเจสันที่ยังอยู่ในห้องกับกรีล

 

กรีลได้สังเกตเห็นเจสันและเจสันได้เอ่ยปากถาม

“สามารถใช้ได้ทุกอย่างใช่ไหม ยกเว้นข้อจำกัดที่ครูอธิบายไว้”

 

เจสันได้วางแผนคร่าวๆ เอาไว้ แต่อยากจะถามให้ชัวก่อนที่จะเริ่มแผนของเขา

 

“สามารถทำได้ทุกอย่าง ที่ไม่มีในข้อจำกัด”

 

เจสันได้บันทึกก่อนที่กรีลจะพูด ไว้เป็นหลักฐานเพราะเจสันไม่ไว้ใจกรีล ก่อนที่เจสันจะเดินออกไป

 

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้า

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes
Score 7.8
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง God’s eyes ดวงตาของเทพเจ้าจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset