ตอนที่ 139 คุกนรก
“ไอ้หนู เจ้าถามมากเกินไป!”
การกระทําของหลินเซวียนเห็นได้ชัดว่าทําให้ชายชุดดําไม่พอใจ หมอกทมิฬได้พุ่งไปหาหลินเซวียนทันที
ฟูม!
ประกายดาบตัดผ่านหมอกทมิฬจนแบ่งเป็นสองซีก
” คมมาก!” สตรีชุดขาวประหลาดใจเล็กน้อย นางทราบดีถึงความห่างของพลังทั้งสอง ชายชุดดํานั้นอยู่ขั้นที่สูงกว่าหลินเซวียน แต่ดาบของหลินเซวียนกลับต้านทานหมอกทมิฬได้
“ดี! ดูเหมือนเจ้าจะเลือกข้างแล้วสินะ!”
ชายชุดดําดูโกรธเล็กน้อย เขาซ่อนตัวเองอยู่ในความมืด แต่ก็มีการโจมตีพุ่งออกมา
“คุกนรก!”
หมอกทมิฬปกคลุมหลินเซวียนอีกครั้ง โซ่ที่ถูกสร้างจากหมอกสีดําได้ปรากฏขึ้นบนพื้นดิน
ดวงตาหลินเซวียนเปิดกว้าง เขาสังเกตเห็นทุกอย่างชัดเจน
“ระวังด้วย อย่าแตะหมอกนั่น!” สตรีชุดขาวเอ่ยเดือน
“พายุหมุน!”
ดาบของเขากวาดไปรอบตัวสร้างเป็นลมพายุสีเขียวขึ้นทําลายโซ่ทั้งหมด
“ดาบวายุสามวิถี!”
คลื่นดาบตรงหน้ากลายเป็นลมพายุพุ่งออกไปอย่างรุนแรง
แต่หมอกทมิฬไม่ได้ทํามาจากโลหะ ดังนั้นมันจึงเปลี่ยนรูปได้ หลินเซวียนจึงถอยหลังทันที
“ไม่มีประโยชน์ อย่าเปลืองพลังเลย แม้แต่ยอดฝีมือขั้นสมุทรวิญญาณขั้นกลางระดับสามยังหนีไม่รอดจากคุกนรก แล้วคิดว่าเจ้าจะทําได้งั้นหรือ!”
คําของชายชุดดําเต็มไปด้วยความพึงพอใจ อีกทั้งเสียงยังดังก้องไปทั่วจนไม่สามารถหาแหล่งที่เขาอยู่ได้
หลินเซวียนถอยออกไปอีกครั้ง
“ไอ้หนู หนทางเดียวที่จะรอดคือร่วมมือกับข้า!” ชายชุดดํายังคงเกลี้ยกล่อม
หลินเซวียนขยับปากเล็กน้อย เขาไม่ได้กลัว เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับสภาทมิฬ
ก่อนหน้านี้ที่เมืองหลินชาน เขาทราบว่าพวกคนชุดดํานั้นเกรงกลัวสายฟ้าและไฟ เขายังไม่ได้ใช้สายฟ้าในการโจมตี ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลอะไรมาก
หากสู้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีปลอกแขนทองแดงอยู่ มันไม่ใช่ปัญหาที่จะปกป้องชีวิตตนเอง
” บอกข้าทีว่าอะไรคือแก่นแท้แห่งชีวิต” หลินเซวียนเอ่ยถามอีกครั้ง
สตรีชุดขาวชะงักเล็กน้อย นางคิดว่าหลินเซวียนคงกลัวและจะขอให้ช่วย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคําถามนี้แทน
“เขาและข้ากําลังมองหาสิ่งเดียวกัน แต่พวกเรายังหาไม่พบ” สตรีชุดขาวกล่าว ” ตามที่ข้าคํานวน มันน่าจะอยู่ในบริเวณนี้ มันคือไข่ของสัตว์ร้าย แต่ไม่ทราบสายพันธุ์” เพื่อต้องการให้หลินเซวียนช่วยเหลือ สตรีชุดขาวจึงบอกทุกอย่างที่รู้
“ไข่ของสัตว์ร้าย?” แม้ใบหน้าเขาจะไม่เผยท่าที่ใด แต่หัวใจนั้นกลับเต้นรัว เขาคิดว่าไข่สัตว์ร้ายคงเป็นใบที่อยู่ในแหวนเก็บของ
มันเป็นไข่ที่พวกลิงเผือกเอาให้ในถ้ำตอนนั้น มันดูธรรมดามาก เขาจึงไม่สนใจ
แต่ตอนนี้คําของสตรีชุดขาวทําให้เขาตระหนักถึงมัน
” เซียนสุรา ไข่นั่นมีอะไรพิเศษงั้นหรือ?” หลินเซวียนกล่าว
“ไข่นั่นไม่ธรรมดา มันคือแก่นแท้แห่งชีวิตของจริง” เซียนสุรากล่าว ” แต่ข้าคงไม่รับไว้ และเจ้าอย่าเอาให้ใครล่ะ”
“ความทรงจําบางอย่างของข้าถูกผนึก จึงไม่ทราบแน่ชัด” เซียนสุรากล่าวพลางครุ่นคิด
เมื่อเซียนสุราบอกเช่นนั้น หลินเซวียนจึงไม่คิดจะมอบมันให้ใคร
“ดูเหมือนพวกเราต้องแก้ปัญหาชายชุดดําก่อน” หลินเซวียนตัดสินใจ ขณะเดียวกันเขาได้ใช้เสียงผ่านกระแสจิตไปด้วย
“เจ้าต้องใช้เวลาอีกนานไหมในการฟื้นฟู?”
เสียงของหลินเซวียนดังขึ้นในหัวของสตรีชุดขาว นางชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบ “เจ้าสามารถลงมือได้ตลอดเวลา
หลินเซวียนและนางแอบวางแผนกันในหัว จากนั้นเขาได้หันไปบอกชายชุดดําว่าจะร่วมมือ
วูม!
ชายชุดดําถอนหมอกทมิฬออกก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าไปทําลายเกราะป้องกันนาง”
หลินเซวียนถือดาบเพลิงโลหิตเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ
เมื่อถึงกลางทาง เขาก็ได้ลงมือ
แต่เขาหันกลับไปหาชายชุดดําพร้อมปล่อยประกายดาบที่ทรงพลัง มันคือเจตนารมณ์แห่งดาบ
หมอกทมิฬพุ่งออกมาทันที่เพื่อต้านทานปราณดาบ
“ไอ้หนู เจ้าอยากตายมากหรือ!” ชายชุดดําโกรธขึ้นมาทันที เขาไม่คาดคิดว่าหลินเซวียนจะต-ลบหลัง
” ดาบวายุหลอมละลาย!”
เมื่อหลินเซวียนเริ่มแล้วย่อมไม่หยุด เขาโจมตีชายชุดดําต่อทันที
ขณะเดียวกัน สตรีชุดขาวได้ร่ายรําฝ่ามือพร้อมเผยรังสีพลังอันน่าสะพรึง
ปราณดาบของหลินเซวียนโจมตีผ่านอากาศไปยังชายชุดดํา ฝ่ามือสีขาวได้เข้าไปขวางทางหนี
หลินเซวียนและสตรีชุดขาวร่วมมือกันเป็นครั้งแรก
“เฮอะ พวกเจ้าอะไรข้าไม่ได้หรอก!” ชายชุดดําเย้ยหยันขึ้นขณะปล่อยหมอกทมิฬออกมาอีก
ร่างของข้าไม่มีตัวตน เจ้าไม่มีทางฟันถูก” ชายชุดดําหัวเราะอยู่กลางอากาศ
“ไอ้หนู นับว่าโง่เขลามากที่กล้าต่อต้านสภาทมิฬ!”
ฟูม!
อากาศรอบด้านผันผวนชั่วครู่ก่อนจะเผยเงาดาบอันหนาแน่นลอยผ่านหมอกดําออกไป
“ระเบิด!” หลินเซวียนตะโกนขึ้น
เปรี้ยะ!
ประกายแสงสีทองปรากฏขึ้นตามมา เวลานี้สายฟ้าได้ระเบิดจนหมอกดํารอบด้านกระจัดกระจาย
ฟูม!
หมอกทมิฬทั้งหมดได้ลอยขึ้นไปกลางอากาศ
“อ๊าก!!” ชายชุดดําร้องโหยหวนขณะกลายรูปเป็นมนุษย์และกลิ้งเกลือกไปมา
”เงาใต้พิภพ!”
ประกายแสงสีดําปรากฏขึ้นรอบตัวชายชุดดํา จากนั้นเขาได้หายไปอย่างลึกลับก่อนจะปรากฏขึ้นตัวอีกทิศทางหนึ่ง
บนร่างของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยฟ้าผ่า และยังมีร่องรอยการถูกเผาไหม้
“ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีคุณสมบัติสายฟ้า!” สตรีชุดขาวอุทานขึ้นขณะมองหลินเซวียนอย่างสงสัย
“ไอ้หนู เจ้ากล้าทําร้ายข้า ข้าจะทําให้เจ้าทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย!” ชายชุดดําตะโกนออกมาอย่างแหบแห้ง จิตสังหารอันทรงพลังกระจายไปรอบด้าน
หลินเซวียนเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “เลิกไร้สาระซะที ปีศาจอย่างเจ้าข้าสังหารมาหลายคนแล้ว?”
“อะไรนะ!? เจ้าเคยสังหารคนของพวกข้างั้นหรือ?” ชายชุดดําโกรธจัด จากนั้นหมอกทมิฬได้รวมตัวกันเป็นรูปภูตผีด้านหลังเขา
“ข้ารับมือเอง” สตรีชุดขาวพูดขึ้น
หลินเซวียนพยักหน้าพร้อมถอยหลัง เขาทราบว่าชายชุดดําคนนี้แข็งแกร่งพอ ๆ กับสตรีชุดขาว
“ข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง!” หลินเซวียนกล่าวพร้อมปล่อยสายฟ้าปกคลุมดาบ
สตรีชุดขาวพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นนางได้ลอยออกไป บนร่างของนางมีแสงเปล่งประกายอยู่
” แสงไร้มลทิน!”
มันราวกับร่างนับพันกําลังร่ายรําในเงามืด พลังวิญญาณอันมหาศาลได้กระจายออกมารอบด้านจนมิติสั่นสะเทือน
สตรีชุดขาวและชายชุดดําต่อสู้กันอย่างรวดเร็วกลางอากาศ หลินเซวียนใช้นัยน์ตาสีม่วงจดจ้อง
“เร็วมาก!” หลินเซวียนทําได้แค่ยิ้มแห้ง ๆ เขาพบว่าตนไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ด้วยเลย
ตู้ม!!
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว มุมปากของสตรีชุดขาวมีเลือดซึมออกมา ใบหน้าที่งดงามกําลังเผยความเจ็บปวด
อีกด้านหนึ่ง ชายชุดดําได้กระจายหมอกไปครึ่งถ้ำเพื่อปกปิดตนเอง
หลังจากเขาขยับมือ หมอกทมิฬได้กลายเป็นมังกรปีศาจพุ่งไปยังสตรีชุดขาวอย่างเกรี้ยวกราด
” ผสานสายฟ้ากับลม”
ดาบของหลินเซวียนพุ่งไปตัดหมอกทมิฬรูปมังกรไว้ เขาใช้พลังสายฟ้าเพื่อหวังจะทําลายมัน
“ฮึ่ม คุกนรก!”
ชายชุดดําลงมืออีกครั้ง จากนั้นโซสีดําได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศรอบทิศทาง