เอาล่ะ มาตั้งสติกันนะคะนักเรียน การที่ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ…
“ก็เชี่ยแล้ว”
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ยยยยยยย!?? ทำไมป้าแว่นฉายายัยเฉิ่มถึงได้กลายเป็นสาวสวยกันค้าา??
หญิงสาวนั่งเหม่ออยู่หน้ากระจกอยู่อย่างนั้นหลายนาที ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วสำรวจรอบ ๆ
ห้องหรูหราได้ปรากฏขึ้นในสายตา ขนาดของมันน่าจะกว้างกว่าห้องของเธอประมาณ 4 เท่าได้
ผ้าม่านสีขาว เตียงสีขาว โต๊ะเครื่องแป้งหรือแม้กระทั่งกระจกก็ยังเป็นสีขาว
เมื่อรวมเข้ากับสีผมกับสีตาของร่างนี้แล้ว ราวกับว่าห้องนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะ
มันก็สวยอยู่หรอก แต่–
“เหมือนกับห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลเลย…”
ถ้าไม่นับแสงแดดกับเสียงนกร้องที่นอกหน้าต่างนั่น เธอก็คงนึกว่าห้องนี้เป็นมิติที่แยกออกมาจากโลกภายนอก
เธอเคยไปเยี่ยมญาติที่ป่วยบ่อย ๆ จึงทราบบรรยากาศในโรงพยาบาลดี ถ้าตั้งใจทำให้ห้องนี้คล้ายกับโรงพยาบาลจริง ๆ ก็ต้องขอบอกเลยว่าดีไซน์เนอร์เก่งมาก
แต่ถ้าไม่ใช่ เธอก็อยากเจอหน้าแล้วถามสักหน่อยว่า ‘คุณพี่เป็นไรมากปะคะ คิดจะสร้างห้องให้คนป่วยอยู่รึไง?’
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องนี้จะเผอิญเป็นคนป่วยจริง ๆ นั่นแหละ…
หลังจากตั้งสติได้แล้ว เธอก็เข้าใจในทันทีว่าเจ้าของร่างนี้ไม่สามารถเดินได้
ตอนแรกเธอก็อยากจะคิดว่าเป็นแค่เหน็บชาอยู่หรอก ถ้าไม่ติดซะว่ามุมห้องตรงนั้นมีรถเข็น(ซึ่งก็สีขาว)วางเอาไว้อยู่
นี่คือฝันใช่ไหม…ฝันเถอะเนอะ อืม แต่หยิกแก้มแล้วก็ยังเจ็บอยู่นา ไม่ใช่ฝันหรอ ไม่ใช่จริง ๆ อ่ะ?
“ไปต่างโลกพร้อมกับขาพิการ… เอาจริงดิ?”
…
แต่อย่างน้อยฉันก็สวย และดูเหมือนจะรวยมากด้วย เพราะงั้นก็โอเค๊
เธอยักไหล่ ยังไงที่โลกเดิมก็ไม่มีอะไรรั้งไว้อยู่แล้ว พ่อแม่กับญาติก็ตายหมด เพื่อนก็ไม่มีสักคน อ้อ ยังมียัยเพื่อนคนนั้นอยู่…แต่ถึงจะตีโพยตีพายยังไงก็กลับไปไม่ได้อยู่ดี(ลองแล้ว) เพราะงั้นสู้ใช้ชีวิตใหม่ในโลกนี้ให้คุ้มไปเลยไม่ดีกว่าหรอ?
“…”
‘แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น มันก็ทำใจไม่ได้ง่ายขนาดนั้นจริง ๆ นั่นแหละ’
20 ปี ไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลย เรียนประถม 6 ปี มัธยมอีก 6 ปี มหาลัยจนถึงตอนนี้ก็ 2 ปี เงินหมดไปไม่ใช่น้อย ๆ แถมอีกไม่นานเราก็จะได้ก้าวเข้าสู่สังคมทำงานแล้วแท้ ๆ
ที่โลกนู้นจะเป็นไงบ้างนะ เราวาร์ปมาทั้งตัวหรือมาแต่วิญญาณกันแน่ ถ้ามาแต่วิญญาณก็เท่ากับว่าร่างที่อยู่ที่นู้นก็เป็นศพถูกไหมนะ?
“เดี๋ยวนะ ถ้างั้นกู้ภัยก็ต้องไปเจอศพสภาพอนาถของฉันน่ะสิ…”
หน้าก็ไม่ได้ล้าง น้ำก็ไม่ได้อาบ แว่นตายังไม่ได้ถอดเลยมั้งน่ะ
ตาคงดำปี๋แน่ เพราะอดหลับอดนอนอ่านนิยาย…โอ้ นิยายBL ซะด้วย พยายามเข้านะ พี่ ๆ กู้ภัย
ทำไมรู้สึกท้อแท้แปลก ๆ ล่ะเนี่ย? คงเป็นเพราะตอนมีชีวิตอยู่ไม่เคยถูกชมว่าสวยสักครั้งเลยล่ะมั้ง แถมตอนตายยังอยู่ในสภาพดูไม่ได้อีก…ว่าแต่ฉันนอนอ้าปากรึเปล่านะ?
“เฮ้อ…”
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมา
…อืม แต่ร่างกายนี้ก็งามจริง ๆ นั่นแหละ หน้าตาน่ารักชะมัด นี่ฉันจริง ๆ น่ะหรอ?
ผมก็สวย หน้าก็สวย หน้าอกก็ใหญ่– เอวก็คอด เสียดายอย่างเดียวคือพิการเนี่ยแหละ
…
ทำไมคำพูดมันฟังดูคุ้น ๆ จัง?
ทำไมมันฟังดูเหมือนครั้งแรกที่เราบ่นตอนอ่านนิยายเรื่องนั้นใหม่ ๆ เลยล่ะ??
‘ผมก็สวย หน้าก็สวย หน้าอกยังใหญ่อีก? เดี๋ยวนางร้ายจะเพอร์เฟคเกินไป ก็เลยให้พิการซะเลย?’
‘ให้ตายเถอะ ‘ไนติงเกล ฟอร์ส’ นี่ ช่างเป็นนางร้ายที่น่าสงสารจริง ๆ’
…
ครั้งนี้เธอไม่โง่ลุกขึ้นยืนพรวดพราดอีกแล้ว แต่ใช้คลานไปเนิบ ๆ แทน
“ผมกับดวงตาสีขาวไข่มุก…หล่อนมองทอดลงมาจากหน้าต่าง เสียงไพเราะที่ราวกับกระดิ่งเงินดังขึ้น”
เธอท่องประโยคที่ตัวละครได้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก และชื่อของตัวละครตัวนั้นก็คือ
“…ไนติงเกล ฟอร์ส”
ชื่อคุ้นหูดังเข้ามาในสมองซ้ำ ๆ ราวกับจะตอบย้ำว่า ‘ใช่แล้วจ้า น้องเองไง’
“…แม่ง”
สรุปคือฉันไม่ได้มาต่างโลกค่ะ ฉันเข้ามาในนิยาย…นิยายBL ด้วย
โอเค สูดหายใจเข้าลึก ๆ ค่ะ ซู้ดดดด
“เยี่ยม! อย่างน้อยฉันก็ยังเป็นเพศเดิมอยู่ ถ้าให้หลุดเข้าไปเป็นนายเอกคงซวยแย่”
ความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดมากเรื่องจะเป็นเพศอะไรขนาดนั้นหรอก แต่กลัวว่าถ้าเป็นผู้ชายแล้วออกสาวเกินไปจะไม่เนียนเอา
อา แต่นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโอเมก้าเวิร์สนี่นา เพราะงั้นหนุ่ม ๆ จะสาวแตกก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง…
…
“โอเมก้าเวิร์ส?”
…
“เพศที่สองของไนติงเกลคืออะไรนะ?”
ชิบหายละ นางเป็นอัลฟ่า
พรึ่บ!
เธอที่ตอนนี้คือไนติงเกลถกกระโปรงชุดนอนขึ้นมาถึงหัว ช่างเป็นกิริยาไม่สมกับเป็นกุลสตรี แต่ตอนนี้ใครจะสนล่ะ?
“เฮ้อ! ไม่มี ไม่มีดุ้น!”
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก โดยไม่ลืมจัดกระโปรงให้เข้าที่ แต่โล่งใจได้ไม่นานก็ต้องมานั่งคิด
“…แล้วอัลฟ่าผู้หญิงจะได้กับเพศเดียวกันยังไงล่ะ?”
งอก…หรือทำไม่ได้ หรือคนเขียนไม่ได้คิดเพราะไม่ใช่นิยายGL หว่า
จนถึงในอนาคตข้างหน้า หญิงสาวก็ยังคงไม่ได้คำตอบ