กลิ่นหอมที่รู้สึกคุ้นเคยปะทะเข้ากับจมูกอีกครั้ง คราวนี้กลิ่นชัดมากกว่าเดิม จนเธอสามารถแยะแยะได้ว่ามันเป็นกลิ่นของอะไรบ้าง
“กลิ่นเหมือนมินท์กับดอกไม้สักอย่างเลย… พรืด! คราวนี้เป็นยาสีฟันกับสบู่หรอเนี่ย?”
ตอนนี้ไนติงเกลรู้แล้วว่าต้นตอของกลิ่นมาจากอะไร เธอเคยได้กลิ่นแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งจากในบ้าน
ดัชเชสฟอร์ส ผู้มีกลิ่นหอมเหมือนนมกับน้ำผึ้งนั่นเอง
กลิ่นนั้นอยู่ใกล้มาก ถ้าบอกว่าอยู่ข้างหน้านี้แล้วก็ไม่ผิดนัก ไนติงเกลหยุดเวทย์มนต์ก่อนที่วิลแชร์จะพาไปยังสวนหย่อม
ตอนนี้เธอซ่อนตัวอยู่หลังกำแพง กลิ่นลอยมาจากต้นลมทางขวา ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับสวนหย่อมพอดี
‘อยู่ในสวนสินะ…’
แม้จะรู้ว่าเสี่ยง แต่เด็กสาวก็อดอยากเห็นโอเมก้าคนอื่นนอกจากแม่ตัวเองไม่ได้ จึงแอบชะโงกหน้าไปดู…
…
ก่อนจะหุบหน้ากลับมาแทบไม่ทัน
‘นี่ตูมาเห็นอะไรวะเนี่ยยยยย!!!??’
ในบริเวณสวนหย่อม เธอเห็นมีชายที่คาดว่าจะเป็นโอเมก้ายืนหันหลังอยู่ เขามีผมสีดำ และสวมชุดเครื่องแบบนักเรียนสีกรมท่า เป็นคนที่เห็นแค่หลังก็บอกได้เลยว่าหล่อ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ประเด็นสำคัญก็คือ บริเวณด้านหน้าไปอีกดันมีนักเรียนชายสี่คนนอนคว่ำหน้าอยู่!!
‘เชี่ยยยย นี่ตูมาเห็นฉากฆาตกรรมหรอวะเนี่ย!!? ไม่น่าหื่นจัดจนตามกลิ่นมาเลย ใครมันจะไปรู้ว่าโอเมก้าโลกนี้มันจะโหดขนาดนี้ฟะ!!’
ไม่รู้ว่าเสียงกรีดร้องในใจดังรอดออกมารึยังไง แต่จู่ ๆ ชายผมดำคนนั้นก็หันขวับมาทางนี้
ไนติงเกลที่ช็อกตาค้างไปแล้วได้แต่นั่งนิ่งตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ไม่แม้แต่จะพยายามหนีหรือแก้ตัวใด ๆ ทั้งนั้น
ไนติงเกล “…”
ชายผมดำ “…”
…
ราวกับถูกหยุดเวลา ทั่วทั้งสวนหย่อมเงียบไปชั่วขณะ ชายผมดำคิ้วกระตุกเล็กน้อย ส่วนไนติงเกลยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้อยู่ แม้หัวใจจะเต้นรัวจนจะหลุดออกจากปากอยู่แล้วก็ตาม
สุดท้ายก็เป็นชายผมดำที่เอ่ยออกมาก่อน
“…คุณ?”
เสียงทุ้มนุ่มดังออกมาจากปากของเขา ชายหนุ่มก้าวเท้าออกมา แต่ไนติงเกลเอ่ยขัดเสียก่อน
“อย่าเข้ามานะคะ ดิฉันเป็นคนพิการนะ”
“…หะ?”
“ดิฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นค่ะ โปรดวางใจได้”
“?? เอ่อ ช่ว–”
“ค่ะ! ดิฉันจะไม่นำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ใครทราบด้วยค่ะ!”
“ไปแจ้งครูสิเฟ้ย!! เอ้ย! อะแฮ่ม ๆ …ผมกำลังจะขอให้คุณช่วยไปแจ้งอาจารย์ให้หน่อยต่างหากล่ะครับ”
‘อะ อ่าวหรอ ไอ้เราก็นึกว่ากำลังจะโดนฆ่าปิดปากซะอีก’
เมื่อได้ยินดังนั้น ไนติงเกลจึงลดมือที่ตั้งการ์ดลง
“แน่นอนค่ะ แต่นั่นก็ต่อเมื่อหลังจากที่ดิฉันได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดก่อนนะคะ”
“ก็ไม่ได้กะจะปิดบังอยู่แล้ว แต่ขออย่างเดียว ถ้าฟังแล้วก็ช่วยอย่าเข้าข้างเจ้าพวกนี้ทีก็แล้วกัน…ครับ”
เด็กหนุ่มที่ยังไม่ทราบชื่อ หันหลังเดินกลับไปกระชากคอเสื้อหนึ่งในสีคนที่นอนสลบอยู่ขึ้นมา ตอนแรกเธอตกใจมาก นึกว่าเขายังไม่สาแก่ใจ แต่เมื่อเห็นสัญลักษณ์บนอกของชายคนนั้นแล้ว เธอก็เข้าใจทันที
‘สัญลักษณ์ราชรถทองคำ! นี่มันตราประจำตระกูลเอิร์ลโรเจอร์’
และเมื่อเค้นจากความทรงจำของไนติงเกล ก็พบว่านักเรียนชายคนนี้หน้าตาละม้ายคล้าย ‘เรนอล โรเจอร์’ ที่เจอกันเมื่อหลายปีก่อนมาก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้แทบจำไม่ได้เพราะโดนอัดซะยับอ่ะนะ…
“คุณชายท่านนี้คือ เอ่อ คุณชายเรนอล แห่งตระกูลโรเจอร์สินะคะ? ส่วนท่านอื่น ๆ…”
หลังจากที่ได้ยินคำยืนยันจากปากของเด็กสาว พ่อหนุ่มผมดำก็ปล่อยเรนอลลงกับพื้นทันที ก่อนจะเดินไปกระชากหนังหัวคนอื่น ๆ ขึ้นมาให้เธอได้ระบุตัวตนต่อไป
‘แกเห็นฉันเป็นตัวสแกนลอยนิ้วมือรึไงยะ??’
“คนนั้นคือบุตรชายคนรองของบารอนลีฟ…คนนี้บุตรชายคนเล็กของไวส์เคาท์เจอร์เดอริก…คนนี้บุตรชายคนเล็กของบารอนนูว์”
หลังจากตอบจนครบ ชายผมดำก็เหวี่ยงคุณชายคนสุดท้ายลงกับพื้น ก่อนจะพยักหน้า
“ถูกหมดอย่างที่เดาไว้”
‘เอ้า นี่คือถามตูเพราะแค่อยากให้แน่ใจหรอกหรอ…’
เมื่อได้ยินน้ำเสียงอวดดีของอีกฝ่าย ไนติงเกลก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาโดยไม่ปิดบัง
“เฮ้อ ยังไงก็ช่างเถอะค่ะ ทีนี้เล่าให้ดิฉันฟังได้หรือยังคะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
เด็กหนุ่มที่มีท่าทีอวดดีเล็กน้อย พ่นลมหายใจออกทางจมูก พร้อมกันกับที่ดวงตาสีฟ้าราวท้องทะเลจ้องกลับมาที่ดวงตาสีซีดของเธออย่างซื่อตรง …และนั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกนิดหน่อย หลังจากถูกผู้คนหลบสายตามานาน
‘ว้าว… นี่มันก็นานมากแล้วนะ ที่ถูกใครสักคนมองตากลับมาตรง ๆ แบบนี้?’
แน่นอนว่าเธอรู้ตัวดี ว่านี่ไม่ใช่ความรู้สึกของเธอ แต่เป็นความรู้สึกของไนติงเกลตัวจริง แต่ถึงกระนั้นก็อดรู้สึกสดชื่นแปลก ๆ ไม่ได้อยู่ดี
หลังจากคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงทุ้มนุ่มของชายผมดำก็ดังขึ้นอีกครั้ง