ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL – ตอนที่ 10

‘My Omega’ เป็นเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองของ จูเลียซ หรือก็คือนายเอกของเรื่อง 

และด้วยความที่เป็นนิยายเล่มเดียวจบ บทไนติงเกลที่โผล่มาอีกทีก็กลางเรื่องจึงน้อยม้ากมาก เพราะงั้นไม่ต้องพูดถึงการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเธอเลย

เพราะงั้นเธอจึงไม่มีทางรู้เลยว่า ไอ้เจ้าหน้าต่างที่เหมือนหลุดออกมาจากในเกมนี่เป็นพลังของไนติงเกลตัวจริง หรือเป็นสกิลโกงของผู้ข้ามโลกกันแน่?

“…”

“…”

ความเงียบอันหน้าอึดอัดก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความเย็นยะเยือกของอากาศ แต่เด็กสาวกลับเหงื่อแตกผลั่ก ๆ เต็มหน้าผาก

‘นายเห็นเหมือนกันหรอ ไม่ได้มีฉันเห็นคนเดียวหรอกหรอ?? อะไรเล่า มีอะไรก็พูดมาเซ่! จะจ้องหน้าหาพระแสงอะไร!?’

โชคดีที่ก่อนไนติงเกลจะลุกไปกระชากคอเสื้อ อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมา

“เห็นไหม ดูสิ”

“ด-ดูอะไรคะ?!”

เธอถอยกรูดไปตั้งการ์ดอีกรอบ

“แค่ให้ดูล้อ จะตกใจทำไม!”

จากนั้นทั้งคู่ก็ก้มลงมาดูพร้อมกัน ก่อให้เกิดเป็นภาพแปลกประหลาดที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งก้มมองล้อวิลแชร์อย่างตั้งอกตั้งใจ…

“นี่มัน…!”

ก่อนที่ไนติงเกลอุทานออกมา เมื่อเห็นลวดลายแปลกประหลาดบนล้อวิลแชร์ที่ปกติไม่เคยมีอยู่

มันคือลวดลายของเกร็ดน้ำแข็งที่สลักลึกลงไปบนล้อสีเงิน ซึ่งยากจะสังเกตุเห็นถ้าไม่จ้องดูดี ๆ

“…สัญลักษณ์เฉพาะของดิฉัน?”

เด็กสาวแตะไปที่บริเวณเสื้อของตัวเอง ที่หน้าอกมีตราสัญลักษณ์ลวดลายแบบเดียวกันที่เย็บด้วยด้ายสีเงินอยู่

“เห็นไหม? บอกแล้วว่าคุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมา… หืม น่าจะประมาณ 20%”

ชายหนุ่มเอียงคอไปมาโดยที่หัวยังคงก้มอยู่ตรงบริเวณล้อ 

“ได้เจ้านี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?”

เขาถามออกมาด้วยความสนใจ ก่อนจะเหลือบไปเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่มืดลงกระทันหัน

“อา เอ่อ…ขอโทษครับ”

เขาพูดขอโทษออกมา เมื่อรู้ตัวว่าดันถามอะไรที่ไม่สมควรออกไปเสียแล้ว นี่มันเหมือนกับจะถามว่า ‘พิการตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?’ เลยไม่ใช่รึไง!

สีหน้าพูดไม่ออกของเธอทำให้ชายหนุ่มอยากจะเอาหัวโขกพื้นเป็นร้อยครั้งให้กับความโง่เง่าของตัวเอง 

ซึ่งความจริงแล้ว… ที่เธอทำหน้าแบบนั้นก็เพราะไม่รู้จะตอบยังไงดีต่างหาก 

‘จะไปรู้ได้ไงฟะ ตูเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง!!’

ที่สำคัญ ในนิยายก็ไม่เคยบอกไว้ ว่าไนติงเกลสร้างวิลแชร์นี่ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่สิ ไม่ได้บอกว่ามีของแบบนี้อยู่ด้วยซ้ำ!

ตึก ๆ ๆ เวลาผ่านพ้นไปพร้อมกับเสียงหัวใจเต้นละรัวของทั้งสองฝ่าย

อีกคนกลัวโดนอุ้ม ส่วนอีกคนกลัวโป๊ะแตก

ในท้ายที่สุด ไนติงเกลก็ตัดสินใจใช้แผนการที่เตรียมไว้

“ดิฉัน…จำไม่ค่อยได้น่ะค่ะ”

เธอใช้มือจับแก้มพลางกรอกตาครุ่นคิด แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จึงถอนหายใจออกมา

“ง-งั้นหรอครับ”

[เทคนิคที่ 1 ‘เค้าจำไม่ได้จริง ๆ นะ’

หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ‘ปลอดภัยไว้ก่อน’ เป็นวิชาที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแถสีข้างถลอก เวลาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจตอบว่า ‘ไม่ทราบ’ ได้

ความพิเศษของมันคือการ ‘ไม่ปฏิเสธ’ แต่ก็ ‘ไม่ตกลง’ ทำให้ผู้ใช้สามารถยืดเวลาตอบไปได้อีกระยะหนึ่ง

แต่การที่จะใช้เทคนิคนี้ได้แนบเนียนนั้น จำเป็นต้องมีเทคนิคอีกอย่างควบคู่ไป

ด้วย!]

“ค่ะ…แต่ว่า”

[เทคนิกที่ 2 ‘นั่นมัน UFO!!’]

ไนติงเกลหลับตาลง พลางใช้นิ้วเรียวยาวเลื่อนผ่านที่วางแขนอย่างนุ่มนวล ราวกับว่าวิลแชร์ตัวนี้เป็นเพื่อนเก่าที่อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนาน 

“…มันก็อยู่ข้างกายดิฉันมาตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะค่ะ”

“อา…”

[‘เบนความสนใจ’ หรือ ‘โยนขี้’ ในกรณีนี้คุณกำลังใช้คะแนนความน่าสงสารเพื่อเปลี่ยนประเด็น!

เมื่อรวมเทคนิกทั้งสองเข้าไป ก็จะช่วยทำให้เป้าหมายตกอยู่ในสภาวะ ‘คิดเองเออเอง’ ช่วยให้ผู้ใช้ลื่นไถลหนีเอาตัวรอดไปได้ชั่วคราว ข้อเสียก็คือ ไม่สามารถใช้กับหัวข้อเดิมได้ซ้ำเป็นครั้งที่สอง!]

เธอเมินข้อความบนหน้าต่างที่เด้งขึ้นมารัว ๆ ก่อนจะชี้นำคำถามถัดไปเพื่อจูงอีกฝ่าย เพื่อจบประเด็นนี้เสียที

“อา ว่าแต่ เมื่อครู่คุณพูดว่าดิฉันเป็นคนสร้างขึ้นแค่ 20% หรือคะ?”

“หะ? อ่อ ใช่ครับ ผมรู้สึกถึงพลังเวทย์ส่วนหนึ่งของคุณในวิลแชร์ตัวนี้ แต่อีกส่วนที่เป็น 80% ผมไม่ทราบว่าเป็นของใคร”

การจะใช้อุปกรณ์ที่จอมเวทย์สร้างขึ้นนั้นไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่คิด เพราะผู้ใช้จำเป็นต้องได้รับอนุญาติจากผู้สร้างก่อนจึงจะใช้ได้

ซึ่งการใช้งานนั้นจำเป็นต้องถ่ายพลังเวทย์ของตัวเองลงไปในสิ่งของ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอุปกรณ์เหล่านี้จึงมีเพียงชนชั้นสูงที่เอื้อมถึง ไม่ใช่แค่ราคาแพงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีทักษะด้วย

‘สรุปคือไนติงเกลไม่ได้เป็นคนสร้าง แต่เป็นหุ้นสินะ’

แต่ปกติใส่พลังไปแค่ 5% ก็เพียงพอแล้วแท้ ๆ แล้วทำไมไนติงเกลถึงใส่พลังลงไปตั้ง 20% เลยล่ะ?

“เข้าใจแล้วค่ะ อีก 80% คงจะเป็นยอดฝีมือที่ท่านดยุกจ้างมาสินะคะ”

“หืมม แต่ถ้างั้นมันก็แปลกแล้วล่ะ”

อยู่ดี ๆ ชายผมดำก็ขมวดคิ้วขึ้นมา พลางจ้องเข้าไปในล้อรถยิ่งกว่าเดิม

“เอ้ะ อะไรแปลกหรอคะ?”

“อ่า โทษที ใช่คำว่าแปลกคงจะเสียมารยาทสินะ ให้ใช้คำว่าคาดไม่ถึงจะดีกว่า”

‘…มันต่างกันรึพ่อ?’

ดูเหมือนว่าเขาจะอ่านสีหน้าออก จึงรีบพูดประโยคต่อมาทันที

“พลังเวทย์อีก 80% เนี่ย มันให้ความรู้สึกเหมือนมาจากราชวงศ์ไงไม่รู้”

 

 

“…ไรนะ?”

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBLณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset