ย้อนกลับไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น
นายเอกผู้มากความสามารถ จูเลียซ ไอแซค เล่าไอเดียของตัวเองให้ไนติงเกลและลุยซาร์ฟัง และไอเดียนั้นก็คือ–
“ให้คุณหนูปลอมตัวเป็นฝ่าบาทหรือเจ้าคะ!”
เมดลุยซาร์เกือบหลุดตะโกนออกมา เมื่อได้ฟังแผนการบ้าบิ่นของเขา
“ต-แต่ถ้ามีคนใช้เวทย์ส่องดูล่ะเจ้าคะ?”
“แล้วคิดว่าจะมีคนกล้าสอดส่องราชวงศ์ไหมล่ะ? โทษประหารชีวิตเชียวนะ”
“นั่นก็จริง…แต่ว่า”
สายตาของเธอมองต่ำลงมาและหยุดอยู่ที่ขาของไนติงเกล ด้วยสีหน้าคลางแคลงประหนึ่งจะถามว่า ‘แล้วจะทำยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ?’
“…”
“…”
ความเงียบอันน่าอึดอัดก่อตัวขึ้นระหว่างคนสามคน
‘ลุยซาร์ไม่มีเวทย์มนต์ เธอจึงไม่รู้ว่าฉัน–อะแฮ่ม! จูเลียซสามารถใช้เวทย์ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้สินะ’
“เรื่องนั้–”
แต่ก่อนที่ไนติงเกลจะได้อ้าปากตอบ ร่างของลุยซาร์ก็ได้หายไปแทนที่ด้วยแผ่นหลังของชายคนหนึ่งแทน…
เป็นจูเลียซที่เอาตัวเข้ามาบังเธอไว้
“เวทย์ลวงตากับเวทย์แรงโน้มถ่วงน่ะง่ายนิดเดียว ที่ยากน่ะคือกลิ่นเฉพาะตัวของอัลฟ่า เพราะงั้นถ้าไม่ใช่มิสไนติงเกลก็ทำไม่ได้หรอกนะ”
เขาเว้นวรรคก่อนจะกล่าวต่อมาอีกประโยคหนึ่งที่เสียดแทงเข้าหัวใจของอีกฝ่าย
“อีกอย่างคนรับใช้ไม่ควรมองเจ้านายด้วยสายตาแบบนั้นด้วย”
“อา…!”
ลุยซาร์ถอยหลังไปสองสามก้าว… เธอไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นคุณหนูเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่เป็นห่วงก็เท่านั้น… แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่คนรับใช้จะไปตัดสินว่าเจ้านายควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไรอยู่ดี
ลุยซาร์ที่รู้ว่าตัวเองข้ามเส้นไป จึงโค้งศีรษะลงด้วยความรู้สึกผิด
“คุณหนู! บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ!”
“ฮึ!”
จูเลียซสะบัดหน้าหนีประหนึ่งเป็นผู้เสียหาย และนั่นก็ทำให้ไนติงเกลอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อเธอตบหลังของชายหนุ่มเบา ๆ เป็นอันบอกว่า ‘พอแล้วล่ะ ขอบคุณนะ’ อีกฝ่ายจึงค่อยถอยออกไปได้
“ไม่เป็นไรค่ะลุยซาร์ คราวหลังขอให้ระวังกว่านี้ก็พอแล้ว”
“ฮืออออออออออ คุณหนู!!”
เด็กสาวเมินหัวหน้าแม่บ้านที่เริ่มร้องไห้อีกแล้ว ก่อนจะส่งสัญญาณให้จูเลียซเริ่มร่ายเวทย์ได้
“ฝากไปบอกมิสเตอร์จินให้ด้วยนะคะ มาเริ่มกันเถอะค่ะ”
…แต่หลับตารอเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยังไม่เริ่มร่ายเสียที
“มีอะไรหรือคะ?”
เธอหันกลับไปมองชายผมดำที่ยืนกลอกตาไปมา
“อืมม เรื่องกลิ่นน่ะถึงจะบอกว่ายาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรอกนะ… ถ้าคุณลำบากใจล่ะก็ให้คุณคนรับใช้คนนั้นทำดีไหม? ว่าไง?”
เขาหมายถึงโอเมก้าจิน คนรับใช้ส่วนตัวของพระเอก เพราะอย่างที่บอก ถึงจะยากแต่ก็ไม่ใช่ทำไม่ได้ เผลอ ๆ จะง่ายกว่าการใช้เวทย์แรงโน้มถ่วงตลอดเวลาเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ส่ายหน้า
“…ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องของฝ่าบาทดีไปกว่าดิฉันอีกแล้วค่ะ”
‘ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ้หมอนั่นมันแสดงไม่เป็น!!’
เมื่อมีเหตุผลที่ฟังขึ้น เส้นผมสีขาวแพลตทินัมของเธอจึงได้เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเสียที
…
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
ไนติงเกลกำลังกล่าวสุนทรพจน์ด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามสไตล์คุณชายเย็นชา ในขณะที่ใจเต้นตุ้บ ๆ ภาวนาขอให้ทั้งสามเจอพ่อตัวปัญหาไว ๆ
นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากที่แก๊งล่าโปเก*อนออกจากหอประชุมไป พลังของเธอก็ลดลงฮวบฮาบเพราะไม่มีเวทย์ของจูเลียซคอยหนุน
ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เธอแสร้งเดินมาจนถึงเวทีได้โดยไม่หน้าหงายไปเสียก่อน แต่ตอนนี้พลังเวทย์อันน้อยนิดของเธอดันจะหมดลงเสียแล้ว…
[สกิล ‘ควบคุมแรงโน้มถ่วงเฉพาะที่ LV 1 ปิดการใช้งาน’]
[สกิล ‘เสริมกำลังกายเฉพาะที่ LV 1’ เปิดการใช้งาน]
ไนติงเกลเปลี่ยนสกิลที่ช่วยทำให้ลอยเป็นสกิลเสริมแรงที่ใช้พลังเวทย์น้อยกว่าแทน เพราะงั้นตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ได้ด้วยท่อนแขนที่เกาะโพเดียมอยู่ล้วน ๆ
ถ้ามองผ่าน ๆ ก็คงไม่คิดอะไร แต่เมื่อตั้งใจมองก็จะพบว่าตอนนี้เจ้าชายกำลังกอดแท่นโพเดียมไว้แน่นประหนึ่งเป็นคนรักที่หายจากกันมานาน
แกร่ก! และที่สำคัญคนรักของเขากำลังจะหักแล้ว!!
‘มาเร็วเร้วววว! พี่แบกได้อีกไม่นานแล้ว!’
********************************************************************
“คุณบอกว่าไปหาดูทุกที่แล้วแต่ก็ยังไม่เจอ เลยคิดว่าเขาน่าจะกลับมาที่หอประชุมแล้ว แต่หนสุดท้ายก็ไม่อยู่…อย่างนั้นสินะ?”
“เอิ่ม ครับ…”
เขารู้สึกซาบซึ้งใจมากที่เพื่อนของคุณหนูไนติงเกลให้ความช่วยเหลือ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดเสียวกับสายตาคมกริบราวกับมีดของอีกฝ่าย
“แล้วไปทำอีท่าไหนเจ้าชายถึงได้หายไปได้?”
“ท่านบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ…จากนั้นก็ไม่กลับออกมาอีกเลยครับ”
เขาตอบกลับเสียงเบา โดยไม่แม้แต่จะท้วงติงเรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวราวกับเจ้าชายเป็นสุนัขที่เขาลืมล่ามไว้ด้วยซ้ำ และนั่นก็ทำให้ลุยซาร์เผลอมองด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ได้
‘…แบบนี้น่ะดีจริง ๆ หรือเจ้าคะ มิสเตอร์จิน?’
น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเอะใจเลยด้วยซ้ำ
“น่ารำคาญจริง”
จูเลียซถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เขาต้องออกจากหอประชุมมาอย่างช่วยไม่ได้ เพื่อตามหาคนที่ไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ เรื่องเจ้าชายหายมันไม่ใช่เรื่องของเขาเลยด้วยซ้ำ มันควรจะเป็นหน้าที่ของคนรับใช้น่ะถูกแล้ว
แต่สุดท้ายที่ต้องจำใจออกมาก็เพราะ–
‘มิสเตอร์จูเลียซ ดิฉันขอฝากเรื่องฝาบาทด้วยนะคะ’
หึ! ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็เป็นเรื่องที่เพื่อนสนิท(?)ขอร้องมานี่นา!