มนุษย์สองคนกับสัตว์อีกหนึ่งตัวกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่
มันมีขนสีดำขลับและดวงตาสีฟ้าราวกับอัญมณี ใบหูที่ตั้งขึ้นคอยระแวดระวังทุกอย่าง
สัตว์ตัวนั้นคือหมาป่า หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือจอมเวทย์ที่แปลงร่างเป็นหมาป่า
ฟึ่ด ๆ
มันใช้จมูกอันยอดเยี่ยมดมไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็ใบหูตั้งขึ้น เมื่อสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง
“เจอแล้ว!”
เสียงทุ้มต่ำที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ดังขึ้น ส่งผลให้คนที่ตามมาข้างหลังอีกสองคนตื่นตัว
จากนั้นทั้งคู่วิ่งเข้ามาหาหมาป่าตัวใหญ่ที่กำลังยืนส่ายหางต่ำ ๆ อย่างอารมณ์ดี
“เจอฝ่าบาทแล้วหรอครับ!”
“อยู่ข้างหน้านี่แหละ”
ทันทีหลังจากกล่าวจบ หมาป่าตัวใหญ่ก็ยืนขึ้นก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์
เขาคือชายหนุ่มผู้มีผมและตาสีเดียวกับหมาป่า ‘จูเลียซ ไอแซค’ นั่นเอง
“เจอเร็วกว่าที่คิดนะเจ้าคะ สมแล้วที่ได้อันดับหนึ่งของโรงเรียน”
“เหอะ ถ้าให้ผมแปลงร่างเป็นหมีล่ะก็จะหาเจอเร็วกว่านี้อีก”
“…อย่าเลยดีกว่าเจ้าค่ะ หมาป่าก็พอแล้ว”
ในด้านการดมกลิ่น หมีดีกว่าหมาป่าก็จริง แต่ด้านรูปลักษณ์ หมาป่าน่ารักกว่าแน่ ๆ…
จินเก็บเสื้อของเจ้าชายที่เป็นตัวช่วยในการตามหาเข้าช่องมิติ ก่อนจะเดินตามจูเลียซไปข้างหน้า
“เป็นโอเมก้าเหมือนกัน แต่ความสามารถเราต่างกันลิบลับเลยนะครับ คุณชายจูเลียซเนี่ยเก่งกาจจริง ๆ”
“ต้องบอกว่าคุณกากเองมากกว่านะ”
อุก!
“…แฮะ ๆ”
หนุ่มผมทองรู้สึกเหมือนโดนธนูปักหน้าอกดัง ฉึก! แต่ก็ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้ แตกต่างจากลุยซาร์ที่จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเหลือเชื่อ
‘อีกฝ่ายคงเป็นประเภทพูดจาตรง ๆ สินะ’
“คุณพูดถูกครับ ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ในฐานะคนรับใช้ของฝ่าบาทได้ ก็เพราะเส้นสายล้วน ๆ…”
ต่างจากเมดลุยซาร์ผู้มีความมุมานะ หรือโอเมก้าผมดำผู้มีพรสวรรค์ ตัวจินนั้นไม่มีอะไรเลย แม้แต่ความพยายามเขาก็ไม่เคยต้องใช้
“ผมไม่ว่างมาฟังเรื่องเศร้าของคุณหรอกนะ รีบ ๆ ไปหาเจ้าชายได้แล้ว”
น่าเสียดายที่จูเลียซไม่แม้แต่จะปรายตามองแม้แต่น้อย เขาแค่ถูกอีกฝ่ายขอร้องให้ช่วยตามหาคนหายก็เท่านั้น และตอนนี้เขาก็ทำสำเร็จแล้ว
ท่าทีของชายหนุ่มทำให้จินหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา
“คุณคงจะเป็นห่วงท่านไนติงเกลมากเลยสินะครับ?”
“หึ! ก็เป็นเพื่อนสนิท(?)ล่ะนะ!”
‘เพิ่งเจอกันวันเดียว ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่??’
แน่นอนว่าลุยซาร์ไม่ได้พูดออกมา
ทั้งสามรีบเร่งฝีเท้าไวขึ้นเมื่อนึกถึงคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ก่อนที่พวกเขาจะมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง
“ที่นี่มัน…ห้องน้ำที่ฝ่าบาทเข้าไป แต่ว่าผมเข้าไปหามาแล้วนะครับ?”
“จมูกของผมไม่เคยพลาดหรอกนะ เขาอาจจะปวด**อีกรอบเลยกลับมาก็ได้ ใครจะรู้”
“อ-เอ๋ อ้อ งั้นหรอครับ??”
“…ด้วยปากแบบนี้ สักวันท่านต้องถูกตัดหัวแน่นอนเจ้าค่ะ…”
หัวหน้าแม่บ้านส่ายหัวอยู่หลังสุด
และโดยไม่แม้แต่จะเคาะก่อน จูเลียซก็ประตูเปิดเข้าไปแล้ว
แอ้ดด
…
ความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อห้องน้ำก็คือ…
‘กว้างชิบหาย’
ตอนแรกเขานึกว่านี่คือประตูวาร์ปที่พามาโผล่ที่อื่น เพราะว่ามันมีขนาดกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน ประหนึ่งยกสวนหลังโรงเรียนมาวางไว้
ห้องน้ำสุดหรูถูกประดับด้วยทองทั่วทุกที่ จนต่อให้ไม่ต้องเปิดประตูเข้าไปดู เขาก็มั่นใจมากว่าตัวโถชักโครกเองก็น่าจะทำมาจากทองด้วยแน่ ๆ
ที่ใจกลางห้องมีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้ และที่บริเวณฐานก็มีชายคนหนึ่งนอนเอนหลังอยู่
“!”
และชายคนนั้นก็คือเจ้าชายที่พวกเขาตามหายู่ องค์รัชทายาท ‘เอียน ไวน์เบิร์ก’ นั่นเอง
“ว้าว ฝ่าบาทยังอยู่ในห้องน้ำจริง ๆ ด้วย! ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังหาไม่เจอเลยแท้ ๆ!”
จินรีบพุ่งเข้าไปหาเขา จากนั้นก็ยืนด้อม ๆ มอง ๆ เหมือนอีกฝ่ายเป็นสัตว์หายาก
ตัวคนที่ถูกทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เจ้าชายเพียงมองมาที่พวกเขาด้วยดวงตาสีดำสนิท
“…”
“ท่านหายไปไหนมาหรือขอรับ? ทำไมกระหม่อมหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ!”
“…”
“ระหว่างที่เข้ามาล้างมือก็เกิดง่วงขึ้นมา? อา อย่างนี้นี่เอง!”
“…”
“ใช่ขอรับ กระหม่อมเข้ามาดูไปแล้วรอบนึง”
…
จูเลียซ “…”
ลุยซาร์ “…”
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมราชวงศ์ถึงตัดสินใจให้จินรับตำแหน่งนี้…
‘แม่งคุยกันรู้เรื่องด้วยว่ะ…’
นี่เป็นครั้งแรกที่จูเลียซกับลุยซาร์คิดแบบเดียวกัน