ถึงแม้การโจมตีของตนจะถูกสกัดไว้ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้จูเลียซถอยหลังกลับไป กลับกันเขายิ่งเพิ่มพลังใส่ลงในหมัดข้างนั้นมากขึ้น
แคร่ก! รอยร้าวกระจายไปทั่วบาเรียในพริบตา
“…”
อีกไม่ถึง 1 วินาที บาเรียของเขาก็จะถูกทำลายลง แต่เอียนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดหวั่นหรือแม้แต่จะขมวดคิ้ว
แคร่ก ๆ… เพล้ง! บาเรียที่ถูกสร้างจากน้ำ แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนจะระเหยขึ้นไปกลายเป็นควัน
แต่ก่อนที่การโจมตีจะถึงตัว ทันใดนั้นเจ้าชายก็ร่ายสกิลซ้อนขึ้นมาถึง 3 อันรวดเดียว
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
…
“หะ??”
จูเลียซร้องอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นบาเรียสามชั้นของเจ้าชาย แต่น่าเสียดายที่ป้อมปราการณ์สุดเวอร์วังของอีกฝ่ายไม่ได้หยุดแค่นี้…
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
[สกิล ‘การคุ้มครองจากน้ำ’ LV. 4 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
พริบตาเดียวบาเรียน้ำก็เริ่มเปลี่ยนจากสีฟ้าใสกลายเป็นสีขุ่นเหมือนบ่อปลา…
“…”
จูเลียซมองป้อมปราการณ์ตรงหน้าที่ราวกับจะบอกว่า ‘เก่งจริงเอ็งก็ทุบให้หมดสิ’ ด้วยสีหน้าว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง…
“…หึ ๆ”
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าตื่นเต้นอีกครั้ง
“ก็เอาสิ ฉันจะทำลายให้หมดเลย!”
เปรี๊ยะ!
เสียงประจุไฟฟ้ากับเสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกัน
“แพนกวิ้น!”
“กว๊ากก!!”
จูเลียซให้เรียกเจ้าแพนกวิ้นที่ยืนเหงาอยู่ตัวเดียวมานาน ทำให้มันอดไม่ได้ที่จะร้องด้วยความสุข
ถึงแม้รูปลักษณ์จะดูน่าตลก แต่สติปัญญาของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์เลย ทันทีที่จูเลียซเรียก มันก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไง
“แกว๊ก ๆ กว๊าก!”
[การอวยพรจากหัวหน้าเผ่าแพนกวิ้นอันทรงเกียรติ LV. 6 ผู้ใช้ คอนเนอร์]
ทันใดนั้นพลังมหาศาลก็ไหลเข้ามาในร่างกายของเขา
เปรี๊ยะ ๆ ๆ!!
สาเหตุที่ชายหนุ่มภูมิใจนักหนากับสัตว์อัญเชิญของเขา นั่นก็เป็นเพราะว่าสกิลนี้นี่แหละ
********
ในขณะเดียวกันไนติงเกลที่กำลังไล่ปัดหน้าต่างสกิลของเอียนออกไปให้พ้น ๆ ทาง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
[การอวยพรจากหัวหน้าเผ่าแพนกวิ้นอันทรงเกียรติ LV 6 ผู้ใช้ คอนเนอร์
เพิ่มพลังเวทย์ 10% และยกระดับ LV. สกิลประเภทสายฟ้า 1 ระดับ]
‘ไม่รู้จะตกใจชื่อหรือธาตุประจำตัวแพนกวิ้นก่อนดีเลย…’
**********
เอียนเองก็รู้ตัวแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีพลังเวทย์มากพอที่จะสร้างบาเรียหรือเวทย์จู่โจมเพิ่มแล้ว
“พรืด…”
“?”
ในตอนนั้นเอง คาปิบาร่าก็พ่นลมออกทางจมูกเป็นการเรียก และเมื่อเอียนถามกลับไป แสงประหลาดก็ปรากฏขึ้นที่มือของเขา!
[อาวุธคู่กายของราชาคาปิบาร่า(ยืม) LV. 10 5 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก]
วิ้ง
แสงสว่างหายไป เหลือเพียงแต่อาวุธชนิดหนึ่งในมือของเขา มันคือ ‘แส้’ ที่ถูกสร้างขึ้นจากกระแสน้ำ
“อืม”
“พรืด”
เขาหันกลับไปขอบคุณคู่หูของตัวเอง หลังจากได้รับของขวัญอันแสนวิเศษ ถึงแม้จะแค่ให้ยืมก็เถอะ
********
‘ไอ้เจ้าพวกนี้นี่…ไม่ได้เป็นแค่ตัวโจ๊กหรอกเรอะ…?’
ไนติงเกลมองหน้าต่างสกิลที่โผล่ขึ้นมาด้วยความหมดอาลัยตายอยาก…
[อาวุธคู่กายของราชาคาปิบาร่า(ยืม) LV. 10 5 ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก
เพิ่มพลังกายและพลังเวทย์ 20% 10%
สร้างความเสียหายต่อสายฟ้าเป็นพิเศษ
*ความสามารถพิเศษอื่น ๆ ถูกจำกัด เนื่องจากเป็นการยืม
‘นอติลุส’ แส้วิเศษที่ราชาคาปิปี้ที่ 1 สร้างขึ้นจากกระแสน้ำที่แรงที่สุดในทะเลตะวันออก ขอเบิกโดย องครักษ์รักษาพระองค์ ดยุคคุมเปป้า]
‘ที่สำคัญคือแกยศเท่าพ่อฉันด้วยเรอะ นังคุมเปป้า!!?’
************
เปรี๊ยะะ!
กระแสไฟฟ้าไหลขึ้นจากใต้ดินขึ้นมายังเวที ก่อนจะถูกดูดเข้ามาในตัวของจูเลียซ ผมสีดำที่ดูนุ่มนิ่มเริ่มกระจายเล็กน้อยเพราะประจุไฟฟ้า
ทางฝั่งเจ้าชายเองก็ไม่ได้สร้างบาเรียเพิ่มแล้ว แต่กำลังจับตามองทุกการกระทำของอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง
อาจารย์วิสเวียสที่พอเดาได้ว่าจะเกิดการปะทะรุนแรงขึ้นอีกครั้ง จึงรีบกางบาเรียขึ้นด้านหน้า โชคดีที่นักเรียนทุกคนย้ายมาอยู่ด้านเดียวกันหมด การป้องกันจึงค่อนข้างสะดวก…
ทันใดนั้นเองเสียงตะโกนของชายผมดำก็ดังขึ้น
“เตรียมรับมือให้ดี!!”
ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังพูดถึงรัชทายาทหรือคนดู แต่ทุกคนก็ต่างพากันเกร็งตัวรอแต่โดยดี
พึ่บ!
จูเลียซใช้แรงเท้ากระโดดขึ้นไปบนอากาศเหนือเวทีประมาณ 3 เมตร จากนั้นก็พุ่งตัวลงมาเป็นแนวทแยงใส่บาเรียน้ำของเอียนพอดี!
บึ้ม!!
เสียงประหลาดคล้ายกับระเบิดดังขึ้น ในตอนนั้นเอง ทุกคนก็ได้เห็นสายฟ้าปรากฏขึ้นในสนามอีกครั้ง!
แคร่ก! เพล้ง!
ป้อมปราการณ์ของเอียนพังลงอย่างรวดเร็ว จูเลียซทำลายบาเรียอันแล้วอันเล่า จนในที่สุดเขาก็เข้ามาอยู่ใกล้เจ้าชายเพียงเอื้อมมือ
ในตอนนั้นเองที่เขาคิดว่าจะชนะแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“…หะ”
รอยยิ้มหายออกไปจากใบหน้าของจูเลียซอีกครั้ง และนั่นก็เป็นเพราะว่าบาเรียที่เขาเหยียบอยู่หายไปทันทีที่แตะ…
ไม่ใช่…มันถูกทำให้กลายเป็นอย่างอื่นต่างหาก!
บาเรียที่เขาคิดว่าอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด กลายสภาพเป็นแส้แทน!
[ผู้ใช้ เอียน ไวน์เบิร์ก ได้ทำการยกเลิก ‘สกิลภาพลวงตา’ LV. 2]
ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้สกิลที่เขาเคยใช้ช่วยแก้ปัญหามาทำแบบนี้!?
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัชทายาทนำอาวุธมาจากไหน ด้วยความที่บาเรียน้ำของพี่แกหนาเสียเหลือเกิน จนทำให้กลายเป็นที่บังตาชั้นดี…
‘ต้องรีบหนี!’
จูเลียซตั้งใจจะใช้สกิลแรงโน้มถ่วงเพื่อหยุดร่างกายตัวเองที่กำลังก้าวเข้าสู่กับดัก แต่น่าเสียดายที่เอียนขยับตัวไวกว่า
ควับ! แส้ที่ราวกับสิ่งมีชีวิตรัดไปที่ข้อเท้าของเขา จากนั้นร่างกายของจูเลียซก็หยุดชะงักลงจนตกลงมาบนพื้นเวที ดัง ตุ้บ!
“…อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เป็นประเภทสร้างความเสียหายต่อธาตุโดยเฉพาะสินะ?”
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงลุกขึ้นมาไหวอยู่
“แต่น่าเสียดายนะ ที่ผมไม่ได้ถนัดแค่ธาตุเดียว!”
ทันใดนั้นไฟสีแดงก็ปรากฏขึ้นที่เท้าของเขา หมายจะละเหยแส้น้ำที่รัดอยู่ให้หายไป
แต่…
“…งั้นหรอ”
“หืม?”
ด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินอีกฝ่ายพูด จูเลียซจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง แน่นอนว่ารวมถึงไนติงเกลและคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
โดยไม่สนใจสีหน้าเหลือเชื่อของผู้อื่น เอียน ไวน์เบิร์กเริ่มการกระทำต่อไปทันที
“งั้นทำแบบนี้แล้วกัน”
“อะไร–”
เจ้าชายเสริมพลังเวทย์เข้าไปที่มือข้างที่ถือแซ่ จากนั้นก็ใช้พลังทั้งหมดที่มี เหวี่ยงร่างของจูเลียซที่ถูกผูกกับแส้ออกไปเหมือนกำลังหว่านเบ็ด
“หะ ห๊ะ อ้าาาาากกกกกกกก!!!”
ตู้มม!
ร่างของเขาถูกเหวี่ยงออกนอกสนาม ด้วยเสียงที่ดูไม่น่าจะออกมาจากร่างกายมนุษย์ …โดยมีตัวการยืนปาดเหงื่ออยู่ที่เดิมด้วยความโล่งใจ
“ฟู่ว”
…
ทุกคน “…”
ไนติงเกล ‘…พระเอกเมิง นั่นมันนายเอกนะเว้ย’