ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL – ตอนที่ 26

ความทรงจำแรกของเขาคือหิมะ

“อู…อา”

ทารกถูกวางทิ้งไว้ในย่านสลัมแห่งหนึ่ง ห่อผ้าน้อยโดดเด่นออกมาจากโลกสีขาว

“อู…แง…อุแว๊!!”

ทารกน้อยร้องไห้ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีชื่อ ไม่มีแม้กระทั่งความสามารถในการเอาชีวิตรอด 

ทั้งหมดที่เขาทำได้ มีแค่การร้องไห้เท่านั้น

“…ชิ”

ผู้คนที่ผ่านไปมาได้แต่ส่ายหน้า บ้างก็มองด้วยความสงสาร แต่ว่าไม่มีใครหยุดช่วยเลยสักคน

เพราะว่าพวกเขาเองก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่รอดเช่นกัน

“แว๊…แว๊”

กลางคืนกำลังจะมาถึง ความหนาวเย็นจะทวีคูณยิ่งกว่าเดิม สลัมไม่มีเตาผิง แม้แต่ไม้ขีดสักแท่งก็ยังไม่มี

ทุกคนต่างอาศัยอยู่ได้ด้วยการแย่งชิงเตนท์ของคนอื่น หรือไม่ก็กอดกันแนบแน่นเพื่อคลายความหนาว

พวกเขาไม่มีเวลามาใส่ใจทารกที่กำลังจะตายในไม่ช้า

“…”

และไม่นานนักเสียงร้องไห้ก็หยุดไป 

พึบ ฟึบ…

ในตอนนั้นเอง ฝีเท้าอ่อนแรงก็ได้เดินย่ำพื้นหิมะเข้ามาใกล้

“…”

เด็กสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ชุดของเธอหลุดรุ่ย ชนิดที่ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นเสื้อผ้า

แม้จะตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เพียงใด แต่เธอก็ยังคงเอื้อมมืออันสั่นเทาไปหาห่อผ้านั้น

กึก 

ทารกน้อยที่ถูกยกขึ้นสัมผัสได้ถึงไออุ่นเป็นครั้งแรก 

“…แอ๊”

สิ่งแรกที่เขาพบเห็นท่ามกลางโลกสีขาวนี้ คือใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเด็กสาวคนหนึ่ง

“อา…สวัสดี”

รอยยิ้มของเธอละลายความหนาวเหน็บของโลกไปจนหมด…

“จูเลียซ!”

เด็กสาวที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ตะโกนเรียกชื่อเขา

“ครับ?”

จูเลียซผู้มีใบหน้าน่ารักน่าชังตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

“ลูกค้ามาแล้ว รีบไปแอบเร็ว!”

เด็กน้อยพยักหน้า ก่อนจะรีบมุดออกไปนอกเตนท์ และไม่นานนักเสียงผู้ชายแปลกหน้าก็ดังขึ้น รวมถึงเสียงของพี่สาวด้วย

“เวทย์ลวงตา เป็นสกิลระดับกลาง”

เด็กน้อยก้มลงอ่านหนังสือให้เงียบที่สุดเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่ก็ไม่อาจปกปิดดวงตาเป็นประกายของตัวเองได้

“โดยการใช้พลังเวทย์คลุมไว้ทั่วร่าง…”

พรึ่บ 

“เรียนถึงไหนแล้วหรอ?”

พี่สาวของเขาโผล่หน้าออกมาจากในเตนท์

“พี่ฮะ!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น จูเลียซก็วิ่งเข้าไปกอดเธออย่างสุดแรง 

“โอ๊ะ ๆ! เดี๋ยวก็ล้มหรอก”

โชคดีที่เขายังตัวเล็กอยู่ ทั้งคู่จึงยังไม่ล้มลงไปกองกับพื้น 

“ดูสิ ๆ!”

มือน้อย ๆ ยื่นสมุดเก่าที่แสดงตัวอักษรที่เธอไม่เข้าใจมาให้

“ถึงสกิลลวงตาแล้ว!”

“โห! จูเลียซของเราเป็นอัจฉริยะสินะ ดีจังน้า~ พี่เองก็อยากมีเวทย์มนต์บ้างจัง”

“ฮี่ ๆ!”

เด็กชายผมดำยิ้มร่า ยามเมื่อมืออันหยาบกร้านวางลงบนศีรษะของเขา

“งั้นเดี๋ยวผมจะสอนให้เองนะ!”

“โอ้ จริงหรอ? จูเลียซเป็นเด็กดีจังน้า~”

คืนนั้นในเตนท์โทรม ๆ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของสองพี่น้อง ราวกับว่าที่แห่งนี้คือสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก

แต่ว่าน่าเสียดายที่ความสุขนั้นช่างไม่ยืนยาวเอาเสียเลย…

วันต่อมา ขบวนของพ่อค้าทาสได้มาเยือนที่สลัมของพวกเขา 

“ไปเอาตัวมาให้หมด อย่าให้เล็ดลอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”

ชายวัยกลางคนตะโกนสั่งให้ลูกน้องไปจับเด็กที่อายุต่ำกว่า 11 ปี ออกมา 

วิ้ง! ลูกแก้วสีแดงในมือเขาส่องสว่างขึ้น 

ชื่อของมันคือ ‘ลูกแก้วแห่งการคัดสรรค์’

ตามชื่อของมัน สิ่งนั้นคืออุปกรณ์ที่พวกขุนนางและเศรษฐีใช้ในการระบุเพศที่ 2 ของทายาทตั้งแต่แรกเกิด

ปกติแล้วเพศที่ 2 จะตื่นขึ้นเมื่อตอนอายุ 11 ปี แต่ ‘ลูกแก้วแห่งการคัดสรรค์’ สามารถย่นระยะเวลาในการระบุได้ทันทีตั้งแต่เกิด

“เบต้า เบต้า เบต้า…ชิ แม่งมีแต่เบต้ารึไงวะ ออกไป! อย่าจับนาน ของกูแพงนะเว้ย!”

“โอ้ย!”

พ่อค้าทาสใช้เท้าถีบเด็กผู้หญิงที่ยังวางมือบนลูกแก้วอย่างลืมตัว

“ถุ้ย! มีแต่ขยะ”

ชายตัวใหญ่สั่งให้ลูกน้องทำงาน พลางสบถต่อไป จนกระทั่งยามถึงคิวของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

วิ้งง! ลูกแก้วสีแดงส่องสว่างขึ้นยามที่เด็กคนนั้นสัมผัสมัน

“…อัลฟ่า! อัลฟ่า!! ฮ่า ๆๆ วันนี้ดวงดีเว้ยเฮ้ย!”

“…เอ๋?”

พ่อค้าทาสตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะตบไปที่ไหล่ของเด็กคนนั้นอย่างเป็นกันเอง 

สภาพจากหลังเท้าเป็นหน้ามือทำให้ผู้คนต่างพากันขนลุกไม่ได้…

“ไอ้หนู ยินดีด้วยแกเป็นอัลฟ่า! เตรียมเสวยสุขเป็นคุณชายได้เลย!”

“เอ่อ…”

เด็กผู้ชายคนนั้นค่อย ๆ หันกลับมามองครอบครัวด้วยใบหน้าไม่แน่ใจ

แต่สิ่งที่รออยู่คือสายตา ‘ริษยา’

“…”

และนั่นก็ทำให้เขาไม่กล้าหันกลับไปอีกเลย…

ทั้งหมดถูกแบ่งเป็นสองแถว

แถวแรกคือเบต้าที่พอหน้าตาดี ส่วนใหญ่จะโดนนำไปขายให้ซ่อง ไม่ก็โรงละครสัตว์

อัลฟ่าไม่ได้จัดเป็นแถว เพราะด้วยความที่มีเพียงคนเดียว และจะถูกขายแยกให้พวกเศรษฐีหรือขุนนางที่อยากได้ทายาท

ส่วนแถวสองคือ…

“แม่! แม่คะ ช่วยหนูด้วย!!”

“มิลลี่!! อย่าเอามิลลี่ ได้โปรด อย่าเอาลูกสาวฉันไ–”

พลั่ก!

“อย่ามาเกะกะนะเว้ย! อีนังกะXนี่!”

พ่อค้าทาสถีบหญิงวัยกลางคนจนล้มลงกับพื้น และด้วยความที่ขาดสารอาหาร ร่างกายผอมดุจกิ่งไม้จึงไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก

แถวสองคือโอเมก้า 

โอเมก้านั้นถูกเลือกโดยไม่สนรูปลักษณ์หรืออายุ ทุกคนที่ถูกระบุว่าเป็นโอเมก้าจะถูกพาไปทั้งหมด

และหนึ่งในนั้นก็มีพี่สาวของเขาอยู่ด้วย…

“…พี่ครับ”

จูเลียซถูกสั่งให้ซ่อนอยู่หลังเตนท์ เขาจึงได้แต่ยืนมองด้วยความกังวล

[สกิล ‘ภาพลวงตา’ LV.1 เปิดใช้งาน]

ขอบคุณหนังสือที่พี่หามาให้ บวกกับพรสวรรค์ของเขา จึงไม่มีใครตามหาจูเลียซเจอ

“ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวพี่จะกลับมาพร้อมกับเงินเยอะ ๆ เลย!”

ตอนที่ขบวนพ่อค้าทาสมาถึง เธอได้สั่งให้เขาซ่อนตัว และห้ามส่งเสียงโดยเด็ดขาด

“เพราะงั้น…ดูแลตัวเองให้ดีจนกว่าจะถึงวันนั้นนะ”

มือหยาบกระด้างลูบผมของน้องชายด้วยความรักไคร่ 

“พี่รักเธอนะ”

หลังจากนั้นรถม้าก็ลับสายตาไป และจูเลียซก็ไม่ได้พบเธออีกเลย

จนกระทั่งผ่านไป 3 ปี เขาถึงได้พบเธออีกครั้ง 

ตุบ!

ในสภาพศพที่ถูกนำมาโยนทิ้งไว้ข้างกองขยะ

“…พี่…ครับ?”

เขากล่าวออกมาอย่างไม่มั่นใจ เพราะว่าสภาพของร่างนั้นช่างแตกต่างจากในความทรงจำโดยสิ้นเชิง

‘ไม่ใช่ พี่ผมสีน้ำตาล’

แต่ผมของร่างนั้นถูกไฟเผาจนไหม้เกรียมเป็นสีดำ

“ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวพี่จะกลับมาพร้อมกับเงินเยอะ ๆ เลย!”

‘พี่จมูกโด่งกว่านี้’

ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนไม่เหลือชิ้นดี รวมถึงดั้งจมูกที่ยุบลงจนเห็นกระดูกสีขาว

“เพราะงั้น…ดูแลตัวเองให้ดีจนกว่าจะถึงวันนั้นนะ”

‘ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พี่’

“พี่รักเธอนะ”

“…”

ท่ามกลางหิมะที่ล่วงหล่นลงมา เด็กชายในวัย 8 ปี มองร่างกายของคนที่รู้จัก แต่ก็เหมือนไม่รู้จัก ด้วยสายตายากจะคาดเดา

“อา…”

มันเจ็บปวดเกินไปที่จะต้องยอมรับว่าพี่สาวของเขาไม่มีอยู่อีกแล้ว…

เขาจึงเลือกที่จะ ‘ปฏิเสธ’ ความจริงตรงหน้าไป

“…ต้องกลับบ้านแล้วสิ…”

ตึก ตึก

จูเลียซก้าวเดินต่อไป โดยเชื่อว่าสักวันหนึ่งคนที่เขารักจะกลับมา…

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBLณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset