ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด ภาค 2 ตอนที่ 7-2

บทที่ 7 การเดินทางไปเกาหลีใต้ของครอบครัวยากูซ่า (2)
Ink Stone_Y
“อะ อุ๊บ”
ไดกิใช้ฟันดึงลิ้นของมินจุนแล้วขบเบาๆ อีกทั้งยังดูดริมฝีปากล่างของเขาจนเสียงดังจ๊วบๆ ไดกิเข้ามารุกหนักตั้งแต่เช้า ก่อนกินอาหารเช้าไดกิพามินจุนเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วมอร์นิ่งคิสอย่างดูดดื่มพร้อมกับเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์ มินจุนตกใจรีบคว้ามือไดกิไว้แล้วเอนหัวไปข้างหลัง
“อะไรกันครับ ตั้งแต่เช้าเลย”
“มีปัญหาเหรอ”
“เปล่าครับ ไม่มีปัญหา แต่เดี๋ยวโทมะก็จะมาแล้วนะ”
สายตาอันเดือดพล่านของไดกิสงบลงอย่างหมดทางเลือกเมื่อได้ยินคำว่าโทมะ เขาลูบก้นของมินจุนจากด้านนอกของกางเกงยีนส์
“ฉันแค่เช็กดูว่ามันยังอยู่ดีไหม เมื่อวานถูกใช้งานหนักเลยนี่”
‘ใช่ หนักสิ ผมเกือบไม่รอดก็ตรงคุณบอกให้เสร็จพร้อมกันนี่แหละ วันนี้ตอนใส่กางเกงยีนส์แล้วไปโดนตรงนั้นนะ นึกว่าจะตายซะแล้ว ไอ้ปีศาจจอมลามก’
มินจุนยื่นคางออกไปและหรี่ตามองไดกิ เขาทำได้แค่ตะโกนสิ่งที่พูดออกไปไม่ได้อย่างเงียบๆ ในใจ
“ฉันได้ยินนะ ไอ้ปีศาจจอมลามกเต็มหูเลย”
“อุ๊ย นี่ผมพูดอะไรออกไปเหรอครับ”
มินจุนถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวเพราะนึกว่าตัวเองพูดความในใจออกไปโดยไม่รู้ตัว ไดกิที่ลองพูดหยั่งเชิงไปเกือบจะหลุดหัวเราะออกมากับปฏิกิริยาตอบสนองอันโจ่งแจ้งของมินจุน
ไดกิกำลังจะทำโทษอีกฝ่ายด้วยการจูบอย่างดูดดื่มอีกรอบ แต่เมื่อได้ยินเสียงเท้าที่กำลังวิ่งตุบตับเข้ามา เขาก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปมองที่ทางเข้าห้องแต่งตัว ไม่นานโทมะที่สวมเสื้อกันหนาวลายเป็ดน้อยกลับด้านก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เคนตะเดินตามหลังเด็กน้อยมาเช่นเคย แต่พอถึงหน้าห้องเขาก็หันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ
“หม่าม้า ป๊ะป๋า โทมะหิวแย้ว”
“โทมะของหม่าม้าหิวแล้วสินะ ขอโทษนะ หม่าม้ากำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”
มินจุนรีบกอดโทมะเอาไว้แล้วใช้มือลูบแก้มเด็กน้อยเพื่อปลอบใจ โทมะไม่ได้ร้องไห้แต่กลับทำเสียงสะอึกสะอื้นแล้วมองไปยังไดกิ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะรู้สึกกังวลระหว่างที่รอมินจุนซึ่งมักจะอยู่กับตัวเองเสมอในตอนเช้า ถูกไดกิพาออกไปแล้วไม่กลับมา ไดกิรู้สึกผิดเมื่อเห็นสายตาของลูกชายจึงยื่นมือออกไป
“จะโฮกใส่ป๊ะป๋าแย้ว ไปเยย หม่าม้าจะไปกะโทมะ”
โทมะดันมือไดกิออกแล้วเอาแขนคล้องคอมินจุนไว้แน่น
“หม่าม้าจะไปกับโทมะนะ ป๊ะป๋าทำหม่าม้าเกือบแย่ เดี๋ยวจะ ‘โฮกใส่ป๊ะป๋า’ ไปครึ่งวันเลย”
“หม่าม้าก็โฮกป๊ะป๋าหยอ”
“ใช่แล้ว โทมะ วันนี้เราขอให้ลุงโชทำกุ้งชุบแป้งทอดให้กินกันดีไหม”
“อื้อ จะกิมเยอะๆ เยย”
“เอาสิ กินเยอะๆ เลยเนอะ”
ไดกิจ้องมองทั้งสองคนที่กลืนน้ำลายขณะพูดคุยเรื่องอาหารเลี่ยนๆ กันแต่เช้าอยู่ข้างหลัง ได้แต่กลั้นความรู้สึกคลื่นไส้เอาไว้

* * *

ไดกิจมอยู่กับความคิดขณะตรวจสอบพินัยกรรมที่เรียวสึเกะนำมาให้ ถ้าเขาไม่มีมินจุนก็คงจะไม่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพินัยกรรมแบบนี้ เพราะแม้จะเป็นเงินจำนวนมากแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเสียดายเพราะเดิมทีมันก็ไม่ใช่ของเขาอยู่แล้ว
ทว่าตอนนี้มันต่างไป ไดกิกำลังคิดอย่างจริงจังว่าเขาควรละทิ้งหน้าที่บอสยากูซ่าสักพักเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับมินจุนและโทมะหรือไม่ แม้ว่าความคิดของเขาจะโอนเอียงไปทางนี้แล้ว แต่เมื่อนึกถึงชินเปมันกลับไม่ง่ายขนาดนั้น
“เรียวสึเกะ นายคิดว่าฉันจะออกจากอุเอะยามะไปใช้ชีวิตที่อื่นได้หรือเปล่า”
เรียวสึเกะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแม้จะตกใจกับคำถามที่ไม่ทันคาดคิด
“บอสเป็นคนที่เด็ดขาดมากกว่าใคร ไม่ใช่ว่าบอสตัดสินใจไปแล้วเหรอครับ”
เรียวสึเกะดูเหมือนเป็นคนอ่อนแอที่อาจหยุดหายใจเพราะแมลงตัวเดียวได้ ถึงกระนั้น เขาก็จะไม่แสดงความอ่อนไหวต่อหน้าคนอื่น ดังนั้น ไดกิจึงประเมินอีกฝ่ายไว้สูง
“ฉันอยากให้ความสำคัญกับมินจุนและโทมะเป็นอันดับแรก ที่จริงจะไม่เอาห้างก็ได้ แต่การไปอยู่ที่เกาหลีสักหนึ่งปีคงจะดีกับสองคนนั้นมากกว่า ไปดำเนินการซะ”
ปู่แท้ๆ ของไดกิซึ่งเป็นคนเกาหลีได้ทิ้งมรดกเป็นห้างสรรพสินค้าที่ประเทศเกาหลีใต้ไว้ให้เขา โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องไปอยู่ที่เกาหลีใต้และมีส่วมร่วมในการบริหารเป็นระยะเวลา 1 ปีจึงจะได้รับช่วงต่อ แต่ที่ไดกิตัดสินใจจะเดินทางไปเกาหลีใต้ก็เพื่อมินจุนกับโทมะเท่านั้น
ไม่มีใครออกตัวคัดค้านการตัดสินใจของไดกิ แต่พวกของเรนกับเรียวสึเกะก็รู้สึกกังวลว่าชินเปจะคิดอย่างไรกับการตัดสินใจเช่นนี้

* * *

ภาพโทมะที่กำลังแกว่งหางแมววิ่งไปมาอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้ชายหน้าโหดใส่สูทสีดำนั้นไม่เข้ากับบรรยากาศอันตึงเครียดเลยแม้แต่น้อย แต่ในสายตาของพวกเขาเหล่านั้น ภาพแบบนี้ของโทมะช่างน่าประทับใจและน่าเอ็นดูทุกครั้งที่ได้เห็น
ปกติถ้าไม่ใช่วันงานเลี้ยงประจำเดือน โทมะไม่จำเป็นต้องใส่สูท วันนี้ก็เช่นกัน ไดกิสวมชุดสูทเหมือนทุกครั้ง มินจุนสวมเสื้อแจ็กเก็ตธรรมดา ส่วนโทมะเลือกใส่ชุดที่ตัวเองชอบที่สุดเวลากลับไปบ้านเกิด
อาจฟังดูเข้าใจยากอยู่เล็กน้อย แต่โทมะที่สวมชุดจั๊มสูทหางแมวก็วิ่งพรวดเข้าไปหาชินเปทันทีที่เห็นอีกฝ่าย
“ตาทวก”
ชินเปมีศักดิ์เป็นตาของไดกิ มินจุนจึงสอนให้โทมะเรียกว่า ‘ตาทวด’ แต่เพราะออกเสียงได้ไม่ชัดเลยกลายเป็นเรียกว่า ‘ตาทวก’ ซึ่งชินเปก็ดูจะชอบใจอยู่เหมือนกัน
“โธ่ เจ้าหนู วิ่งแบบนี้เดี๋ยวก็ล้มหรอก”
“ตาทวก ดูจิ นี่หางแมว”
โทมะหมุนตัวไปมาและส่ายก้นให้ชินเปดูอยู่กลางลานบ้าน ชินเปมองภาพนั้นด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนผิดไปจากฉายาบอสยากูซ่าในตำนาน ดวงตาที่มองไปยังโทมะเคลิบเคลิ้มราวกับมีน้ำผึ้งหยดลงมา
“เจ้าแมวโทมะมาหาตาแล้วเหรอ”
“ต้าวแมวโทมะ เมี้ยว”
เมื่อโทมะร้องเสียงแมวพร้อมกับหมุนตัวไปรอบๆ ชินเปก็พุ่งเข้าไปกอดเด็กน้อย โทมะโน้มคอปู่ทวดลงมาแล้วทำท่าคลอเคลียเลียนแบบแมว
“คุณตาสบายดีหรือเปล่าครับ”
“ดูเหมือนเขาจะเลียนแบบสัตว์ได้เก่งขึ้นทุกวันเลยนะ”
ไดกิโค้งศีรษะขณะเดินเข้าไปหาชินเป มินจุนรีบเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ เขาแอบเกรงสายตาของชินเปเพราะการที่โทมะเลียนแบบสัตว์ได้เก่งแบบนี้ย่อมมีสาเหตุอยู่
“หลังจากไปสวนสัตว์มาเมื่อปีที่แล้วโทมะก็ชอบเลียนแบบสัตว์น่ะครับ”
ไดกิพูดแก้ตัวแทนมินจุน เขาไม่คิดจะบอกความจริงเรื่องที่โทมะเล่นเลียนแบบสัตว์กับมินจุนทุกวัน
“สะ สวัสดีครับ คุณตา”
“ว่าไง รีบเข้ามาสิ ตอนอายุเท่านี้ก็เล่นอะไรแบบนี้แหละ ฉันอยากให้โทมะมีช่วงเวลาวัยเด็กเหมือนคนทั่วไปนะ”
“ใช่ไหมครับคุณตา ผมรู้ว่าคุณตาต้องเข้าใจผม ไดกิเอาแต่ดุที่พวกผมเล่นแบบนี้กันทุกวัน คุณตาช่วยดุไดกิให้หน่อยนะครับ”
มินจุนยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ชินเปพูดอย่างเข้าอกเข้าใจ
“ไม่ต้องมากล่าวหาฉันเลย”
ชินเปไม่ได้รู้สึกปฏิเสธเรื่องที่มินจุนฟ้อง เขาบ่นไดกิขณะเดินเข้าไปข้างในบ้าน มินจุนยักไหล่ใส่ไดกิ จากนั้นก็เดินตามหลังชินเปไป
“ว่าไง มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
ชินเปยิ้มให้กับโทมะแล้วหันมาถามมินจุน
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ อยู่ๆ ไดกิก็ชวนผมมาหาคุณตาครับ”
“เขาไม่ได้บอกอะไรเลยเหรอ”
“ใช่ครับ”
ไดกิมองมินจุนที่มักจะกลัวจนตัวสั่น พูดคุยกับชินเปอย่างสนุกสนาน เขารู้สึกทึ่งอีกครั้งกับความเป็นกันเองของอีกฝ่าย
“ตาทวก โทมะอยากกิมวัว”
“วัวเหรอ”
“อ๋อ… หมายถึงเนื้อวัวน่ะครับ ตอนที่ไปหาแม่ผมเขากินไปเยอะเลย”
“ยังไงดีล่ะ โทมะคงจะอยากกินมากเลยสินะ”
“โทมะกิมเนื้อดิบเป็นต้วยน้า”
“โอ้ เคยกินเนื้อดิบด้วยเหรอ กินอาหารเกาหลีเก่งนะเนี่ย รู้จักกินของดีซะด้วย”
สีหน้าของไดกิหม่นหมองลงทันทีที่ได้ยินคำว่าเกาหลีออกมาจากปากของชินเป ไดกิเดินตามพวกเขาเข้าไปข้างในด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง
ชาอู่หลงถูกเสิร์ฟแทนชาเขียวให้กับมินจุนที่ดื่มชาขมๆ ไม่ค่อยได้ มินจุนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก เขารู้สึกผิดเสมอที่ไม่สามารถร่วมธรรมเนียมชงชากับชินเปได้
“ฉันเคยบอกให้พาโทมะมาหาเดือนละสองครั้ง แต่ยังไม่ถึงวันมานี่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณตาก็เลยชวนกันมาน่ะครับ”
แม้ชินเปจะดูสุขุมเยือกเย็น แต่ไดกิรู้ดีกว่าใครว่าชินเปใจร้อนเป็นไฟเลยทีเดียว ถึงขั้นเคยลักพาตัวมินจุนแล้วสั่งให้เลิกกับเขา ถ้าไม่ได้เห็นน้ำตาของโทมะที่รักมินจุนมาก ชินเปก็คงไม่ยอมรับมินจุน
อาจเพราะเหตุนี้ จึงไม่ง่ายเลยที่ไดกิจะพูดออกมา เขากังวลว่าความผิดทั้งหมดเกี่ยวกับการตัดสินใจไปประเทศเกาหลีใต้จะย้อนกลับไปที่มินจุน ไดกิจึงตั้งใจไม่บอกเหตุผลในการมาที่นี่แม้แต่กับมินจุนก็ตาม
“เรื่องอะไรถึงได้ลังเลขนาดนั้น”
“นั่นสิครับ ผมเองยังสงสัยจะแย่ แล้วคุณตาจะสงสัยขนาดไหนกัน”
“ใช่แย้ว โทมะก็อยากยู้”
โทมะที่นั่งลงบนตักชินเปตบขาตาทวดเบาๆ พลางดูดอมยิ้มเสียงดังจ๊วบจ๊าบโดยที่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่คุยเรื่องอะไรกัน
“ผมคงต้องไปจากที่นี่สักปีนึงครับ”
ภายใต้ความเงียบหลังเสียงเข้มเงียบลง เสียงดูดอมยิ้มของโทมะดังก้องเป็นพิเศษ มินจุนจ้องไดกิเขม็งจากนั้นก็เบนสายตาไปที่ชินเป เขาไม่เข้าใจว่าไดกิพูดเรื่องอะไรจึงมองไปที่ชินเป เผื่อว่าชินเปจะรู้ แต่สายตาของอีกฝ่ายกลับสื่อว่าไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน
“หมายความว่ายังไง”
“ทางฝั่งคุณพ่อส่งพินัยกรรมมาครับ”
“หมายถึงประธานโจน่ะเหรอ”
ชินเปขมวดคิ้วสีขาวเข้าหากันแล้วพูดเบาลง มินจุนที่ฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ไม่รู้เรื่องได้แต่หันมองทั้งสองคนสลับไปมาด้วยสีหน้ามึนงงเจือหวาดกลัว
“ใช่ครับ”
“เนื้อหาในพินัยกรรมล่ะ”
“พินัยกรรมระบุว่าผมต้องมีส่วนร่วมในการบริหารด้วยตัวเองเป็นเวลา 1 ปีเพื่อรับช่วงต่อกิจการที่เกาหลีใต้”
“เรื่องมีส่วนร่วมในการบริหารก็น่าจะทำจากที่นี่ได้หมดนะ”
น้ำเสียงของชินเปส่งให้บรรยากาศกดดันขึ้นราวกับเตือนว่าพายุกำลังจะโหมกระหน่ำในไม่ช้า มินจุนกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอและยื่นมือไปที่โทมะโดยอัตโนมัติ โทมะชำเลืองมองชินเปแล้วก็รีบเดินไปหามินจุนพร้อมกับสวมกอดคอของมินจุนไว้อย่างเคยชิน
“มันเป็นแค่ข้ออ้างอย่างที่คุณตาว่านั่นแหละครับ”
ไดกิเงียบไปสักพักแล้วหันไปมองโทมะที่ยืนโอบคอมินจุนอยู่ เด็กน้อยทำตาโตมองไปรอบๆ ท่ามกลางบทสนทนาที่ตึงเครียดของพวกผู้ใหญ่
“ผมอยากให้โทมะได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ได้มีเพื่อนวัยเดียวกัน แม้จะเป็นเวลาแค่ปีเดียวครับ”
“คิดว่าอยู่ที่เกาหลีใต้แล้วมันจะเป็นไปได้งั้นเหรอ”

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด

ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด
Score 8.9
Status: Ongoing
อ่านตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติดเรื่องย่อ อุตส่าห์วาดฝันชีวิตในต่างแดนไว้อย่างดี แต่ทำไมทุกอย่างมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย! มินจุน หนุ่มน้อยสัญชาติเกาหลีวัย 22 ปี ดั้นด้นจากบ้านเกิดมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ทว่าเขาดันถูกคนรักที่เพิ่งคบกันเมื่อหกเดือนก่อนหลอกรีดไถเงินไปจนหมด แถมยังโดนเอาชื่อไปใช้กู้เงินนอกระบบอีก และถึงจะอยากหนีกลับเกาหลีมากแค่ไหน พาสปอร์ตก็ถูกยึดไปแล้ว! ขณะที่สิ้นหวังว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี จู่ๆ ฟ้าก็ประทานขบวนรถเบนซ์สีดำเรียงแถวหน้ากระดานมาจอดตรงหน้า มินจุนผงะ ถอยกรูดไปชิดกำแพงอัตโนมัติด้วยความตื่นกลัว …จากนั้นก็มีเด็กชายตัวน้อยวิ่งลงจากรถเบนซ์เข้ามากอดเขาโดยไม่ทันตั้งตัว “หม่าม้า!” ‘อะไรนะ หม่าม้า? ใครกัน? ฉันเหรอ!?’ “ฉันจะให้นายมาเป็นแม่ชั่วคราวของลูกชายฉัน” เจ้าพ่อยากูซ่าอย่าง ไดกิ พูดไปควงปืนไป แบบนี้… เขาคนเดียวจะไปสู้ไหวเหรอ!? แต่ผู้ชายหล่อบาดใจแถมอันตรายนิดๆ นี่มันสเป็คเขาเลยนี่นา… ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองจีบยากูซ่าสักครั้งก่อนตายก็แล้วกัน!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset