ตอนที่ 516 ร่วมสาบาน

ตอนที่ 516 ร่วมสาบาน
เต๋าฟานกล่าวกดดันเรียบร้อย ฉินหยุนและคณะจึงเกิดความหนักอึ้ง
เข้าเกาะกุม
พวกเขาย่อมไม่คิดไปทํางานขุดเหมืองครึ่งปี อย่างแรกเลย พวกเขา
จะต้องไม่ไปทํางานหนักหนาเพียงนั้นและเสียเวลาถึงครึ่งปี อย่าง
เด็ดขาด
นอกจากนี้ หากพวกเขาไปปรากฏตัวด้านนอกหอขุนเขาดาบกระบี่
เมื่อนั้นจะเป็นเป้าแก่การล้างแค้นของตระกูลหยางและตระกูลหลง
เต๋าฟานเพียงเอ่ยถึงเรื่องงานแข่งขันดาบกระบี่บุกโจมตีและตั้งรับที่
เคยจัด จากนั้นจึงค่อยกลับห้องพักของตนเองไป
ฉินหยุนและคณะวันนี้เหนื่อยล้าไม่น้อยแล้ว ท้องฟ้าก็หม่นแสง พวก
เขาจึงเร่งรีบกลับไปพักผ่อน
อาการบาดเจ็บของเทียนรั่วเหลิงหนักหนาที่สุด ทว่าแก่นเต๋าของนาง
หาได้รับความเสียหายใดไม่ ดังนั้นจึงสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
พักผ่อนทั้งคืน เทียนรั่วเหลิงค่อยกลับมาหายดีดังเก่า
เย่ว์อู่หลันอยู่ที่ห้องโถงเล็ก นางกําลังฮึมฮัมเสียงเพลง นําเอาขนม
และผลไม้จํานวนหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“ในเมื่อพวกเราคุ้มกันดาบและกระบี่ส่งกลับคืนแก่สระนํ้าดาบกระบี่
สถาบันกระบี่ลําดับที่เก้าของพวกเรา จึงได้รับมาทั้งสิ้นห้าร้อยแต้ม!”
เย่ว์อู่หลันมองทางฉินหยุน นางเร่งรีบกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง
“แล้วแต้มเหล่านั้นนําไปทําอันใดได้?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“หากสะสมแต้มได้มากพอ สถาบันกระบี่ของพวกเราจะสามารถก้าว
หน้าสู่ระดับถัดไป นี่เป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสฟานเพิ่งบอกกับข้า!” เย่ว์อู่หลัน
บอกกล่าวตอบกลับมา
เทียนรั่วเหลิง ขณะนี้ก็มาถึงห้องโถงเล็ก เริ่มกัดกินผลไม้วิญญาณ
ที่ตั้งเรียงไว้
“ตื่นเช้านัก!” เทียนรั่วเหลิงพักฟื้นทั้งคืน หากไม่ทราบมาก่อน คง
บอกไม่ได้ว่านางเคยได้รับบาดเจ็บที่ตรงใดบ้าง
เย่ว์อู่หลันกล่าวตอบ “พี่สาว ท่านหายดีเกือบหมดแล้ว เช่นนั้นไปพบ
ผู้อาวุโสฟานให้ชี้แนะการฝึกฝนแก่พวกเรากันดีกว่า!”
เทียนรั่วเหลิงพยักหน้ารับ นางทราบว่าวิชากระบี่พื้นฐาน ก็มีความ
ทรงพลังในแบบของมัน
มันคือสิ่งที่จะทําให้พวกเขา สามารถปลดปล่อยพลังที่มากล้นยิ่งขึ้น
ผ่านตัวกระบี่ได้
เต๋าฟานออกไปแต่เช้าตรู่ กลับมาก็บ่ายกว่าแล้ว
“เหล่าฟาน ท่านสอนพวกเราถึงเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐานได้แล้ว!” เย่ว์
อู่หลันกล่าวด้วยความเร่งร้อน
“วิเศษนัก! แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ข้าจําเป็นต้องบอกกล่าว ตระกูลหลงได้
ออกใบประกาศล่ามังกรสวรรค์แล้ว!” เต๋าฟานกล่าว “สาเหตุหลักก็
เพื่อไล่ล่าและสังหารพวกเจ้าทั้งสาม เมื่อใดพวกเจ้าออกพ้นประตู
เมื่อนั้นจงระวัง ดีที่สุดคือช่วงนี้อย่าได้ออกไปที่ใด!”
“ใบประกาศล่ามังกรสวรรค์ ฟังดูน่าสนใจดีนี่!”
ฉินหยุนยิ้มกว้าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกหมายหัว ดังนั้นเขาจึงไม่มี
อะไรให้ต้องเกิดความวิตกกังวล
“เสี่ยวหยุน มันคือใบประกาศล่าค่าหัวของตระกูลหลง เสนอให้คน
ละสองร้อยล้านเหรียญม่วง! พวกเราสามคนรวมกัน ก็เท่ากับหกร้อย
ล้าน!” เย่ว์อู่หลันกล่าวพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด
“อู่หลัน เจ้าที่เป็นคนตรงไปตรงมา ฆ่าคนตระกูลหลงไม่แม้กระพริบ
ตา ขณะนี้เกิดความกลัวหรือ?” ฉินหยุนยิ้มถาม
“ในเมื่อเรื่องราวมันเกิดไปแล้ว ก็ให้มันเป็นไป! เพียงแค่ให้ความสนใจ
ระวังมากขึ้นก็เท่านั้น!”
เทียนรั่วเหลิงถอนหายใจยาวออกมา เป็นนางรู้สึกหนักอึ้งภายในใจ
ชัดเจนว่าได้รับผลกระทบมาจากคําสั่งล่าค่าหัวมังกรสวรรค์
เย่ว์อู่หลันแค่นเสียง “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกสารเลวตระกูลหลง! หาก
เป็นพวกมันที่สังหารผู้อื่น คงไม่มีอันใดเกิดกับพวกมันแม้สักนิด!
แต่หากเป็นพวกเราสังหารพวกมัน เช่นนั้นจะมีคําสั่งล่าตัวหาทางตัด
หัวพวกเราเสียแทน!”
“สารเลวเหล่านั้น พวกมันอาศัยแต่เหรียญม่วงมากมายในมือ หว่าน
โปรยรังแกผู้อื่นไปเรื่อย หากมีผู้ใดคิดต่อต้าน เช่นนั้นพวกมันจะใช้
อํานาจที่ยิ่งใหญ่กว่าเข้าสะกดข่ม!”
“ข้ามีเหรียญม่วงในมือไม่มากนัก ทว่าข้ามีอุปกรณ์เต๋า! จะเกิดอะไร
ขึ้นหากข้าใช้อุปกรณ์เต๋าเป็นรางวัลค่าหัวแก่ผู้นําตระกูลหลง?”
ฉินหยุนหันมองทางเต๋าฟาน
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ทั้งสองเผยอาการตื่นตะลึง
“ฉินหยุน นี่เจ้าเอาจริงหรือ?” เต๋าฟานสูดลมหายใจเย็นเข้าลึก “หาก
เจ้าทําจริง เช่นนั้นผู้นําตระกูลหลงคงไม่มีชีวิตที่ง่ายดายเหมือนแต่
ก่อนนัก!”
“ผู้นําตระกูลหลงย่อมต้องมีศัตรู! หากมีรางวัล ศัตรูเหล่านั้นจะยิ่ง
กระเหี้ยนกระหาย!” เย่ว์อู่หลันหัวเราะยินดี
“เหล่าฟาน มีวิธีการออกใบล่าค่าหัวหรือไม่?” เทียนรั่วเหลิงเอ่ยถาม
“ย่อมมี ทว่าคิดรับมือกับตระกูลหลง ก็ยังเป็ นเรื่องยาก! ให้ข้าสอบถาม
ไปยังเซียงเต๋า เขาน่าจะมีหนทาง!”
เต๋าฟานกล่าวคําจบ เขาจึงเร่งร้อนออกไปจากห้องโถงน้อย
“เสี่ยวหยุน เจ้าถึงกับมีอุปกรณ์เต๋ามากมาย!”
เย่ว์อู่หลันมองทางฉินหยุนอย่างนึกเสียดายพลางบุ้ยปาก
“อยากได้หรือ?” ฉินหยุนยิ้มถาม
“อุปกรณ์เต๋าเชียวนะ ผู้ใดไม่อยากได้กันบ้าง?” เย่ว์อู่หลันกล่าวออก
ด้วยใบหน้าเผยความต้องการล้นเหลือ
เพื่อได้รับอุปกรณ์เต๋า นางกระทั่งคิดยอมใช้ร่างกายขายแก่ฉินหยุน
กระนั้น ฉินหยุนกลับยังวางตัวเฉย เป็นนางไม่มีหนทางเลือกอื่น
“แม้อุปกรณ์เต๋าดีเยี่ยม แต่ข้าใช้งานพลังของมันได้เพียงสองหรือ
สามในสิบเท่านั้น! อุปกรณ์เต๋าที่เสี่ยวหยุนมอบให้เป็นกระบี่ แต่ข้าก็
ยังไม่อาจใช้งานมันให้ดีได้!”
เทียนรั่วเหลิงมองที่อุปกรณ์เต๋าในมือพลางถอนหายใจ
“ถูกต้องแล้ว นั่นก็เพราะเจ้ายังไม่ได้ขัดเกลาอุปกรณ์เต๋าด้วยโลหิต
อย่างไรเล่า!”
“หากเจ้าต้องการสร้างอุปกรณ์เต๋า อาจารย์จารึกเต๋าจะรวบรวมเลือด
เจ้านับเหยือก หรืออาจมากยิ่งกว่านั้น และใช้พวกมันเพื่อกระบวนการ
ขัดเกลาสร้างอุปกรณ์เต๋าสําหรับเจ้าขึ้นมา!”
“ด้วยวิธีการดังกล่าว เมื่อได้รับวัตถุอยู่ในมือ เจ้าจะสามารถปรับตัว
และสําแดงพลังอํานาจอย่างเต็มที่ของอุปกรณ์เต๋าออกมาได้!”
ขณะฉินหยุนทานของหวาน เขาก็เอ่ยถึงเรื่องอุปกรณ์เต๋าไปด้วย
เย่ว์อู่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “หากเป็ นเช่นนั้น ไม่ใช่หมายความว่า
เมื่อใดที่ข้าปรับตัวอย่างสมบูรณ์เข้ากับอุปกรณ์ลึกลํ้า พลังของมันจะ
เพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง จนไม่จําเป็นต้องสังเวยเลือดเพื่อสร้างอุปกรณ์
เต๋าหรอกหรือไร?”
เทียนรั่วเหลิงนําเอากระบี่ออกมา ลูบสัมผัส ความรู้สึกช่วยไม่ได้
ปรากฏเด่นชัด
ฉินหยุนตอบ “อุปกรณ์เต๋า คือสิ่งที่สามารถทําลายการป้องกันของ
ชุดเกราะทั้งหลายได้!”
“กระนั้น ก็เพียงแต่ชุดเกราะระดับต้น หากข้าต้องเผชิญหน้ากับชุด
เกราะเต๋า เรื่องราวก็หาได้ง่ายดายดังที่คิด!”
เย่ว์อู่หลันพอได้ฟังจึงคอตก “อุปกรณ์เต๋าถึงกับต้องอาศัยหลายปัจจัย
เพียงนี้!”
“นี่ไม่ใช่หมายความถึง หากไม่ใช่อุปกรณ์เต๋าที่ดัดแปลงเฉพาะบุคคล
แล้ว มันจะด้อยประสิทธิภาพอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเหตุใดผู้คนมาก
มายจึงต้องการมันกันเล่า?”
ในคราวแรก นางคิดว่าหลังได้รับอุปกรณ์เต๋า พละกําลังจะเพิ่มพูน
อย่างมหาศาลเสียอีก
“หากเป็นขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้าหรือยอดยุทธ์ พวกเขาจะสามารถขัด
เกลาอุปกรณ์เต๋าได้อย่างรวดเร็ว ทว่า พวกเราเพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์
เต๋า หากคิดขัดเกลาอุปกรณ์เต๋าของตนเอง ก็จําเป็นต้องใช้เวลายาว
นาน บางทีอาจต้องใช้เวลานับร้อยปี !”
“กระทั่งว่าเป็นอาจารย์ยุทธ์ ก็ยังจําเป็นต้องใช้เวลาสิบหรือยี่สิบปี
ก่อนจะสามารถปลดปล่อยพลังของอุปกรณ์เต๋าสักสี่หรือห้าในสิบ
ออกมาได้!”
“แน่นอนว่าในระยะยาว ตราบเท่าที่ครอบครองอุปกรณ์เต๋า และผ่าน
การขัดเกลาพวกมันมานานหลายร้อยปี เจ้าย่อมสามารถปลดปล่อย
พลังอํานาจแท้จริงของอุปกรณ์เต๋าออกมาได้”
ฉินหยุนอธิบายอย่างใจเย็น
“น้องหยุน เหตุใดเจ้าทราบเรื่องราวมากมายเพียงนี้? แล้วเจ้าได้รับ
อุปกรณ์เต๋าเหล่านั้นมาจากที่ใดกัน?” เย่ว์อู่หลันหยิกเข้าที่ใบหน้า
หล่อเหลาของฉินหยุนพร้อมเอ่ยถาม
“ข้าเก็บพวกมันได้!” ฉินหยุนยิ้มตอบ เขามักจะเลี่ยงคําตอบหากคิด
ถามถึงเรื่องนี้
“ข้าย่อมไม่เชื่อ!” เย่ว์อู่หลันแค่นเสียง
ฉินหยุนตอบกลับ “อู่หลัน ไม่ใช่ว่าเจ้าก็มีอาวุธที่ดีในครอบครอง
แล้วหรอกหรือ?”
“เฮอะ! เพื่อได้รับอาวุธที่ดี ข้ามีแต่ต้องขายตัวเองออก!”
“น้องหยุน ขณะนี้ข้าไม่ต้องการอุปกรณ์เต๋าใด พวกมันหาได้มี
ประโยชน์เพียงนั้น!”
เย่ว์อู่หลันมองทางฉินหยุนพร้อมบุ้ยปากบอกกล่าว
“พวกเราพบเจอและตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ให้ข้ามอบอุปกรณ์
วิญญาณระดับราชันแล้วกัน!” ฉินหยุนคิดไปครู่จึงค่อยกล่าวออก
“จริงหรือ? อุปกรณ์วิญญาณระดับราชันนับว่าไม่เลว!” เย่ว์อู่หลัน
ร้องโพล่งดัง “ต้องการให้ข้าอุทิศชีวิตด้วยหรือไม่?”
“ร่างกายเจ้าเป็นสมบัติลํ้าค่า ดังนั้นจงรักษาไว้ให้ดี อย่าได้มอบแก่
ผู้อื่นอย่างส่งเดช!” ฉินหยุนหยิกที่ใบหน้าซุกซนของนาง
เทียนรั่วเหลิงหัวเราะพลางส่ายศีรษะ “เสี่ยวหยุน นางคิดต้องการ
พึ่งพาเจ้าจริง! หากเป็นผู้อื่น กระทั่งว่ามอบอุปกรณ์เต๋าแก่นางสักสิบ
ชิ้น นางก็คงไม่ตกลงยอมพลีกายให้แน่!”
เย่ว์อู่หลันคว้ามือฉินหยุนเอาไว้พร้อมกล่าวด้วยนํ้าเสียงซุกซน
“เสี่ยวหยุน เจ้าไม่ชอบพอข้าหรือ? เป็นเพราะข้าแก่กว่าหรือ?”
“ย่อมไม่ใช่ เพราะข้ามีภรรยาแล้ว! นางเป็นคนของตําหนักจันทรา
ทมิฬ!” ฉินหยุนยิ้มตอบ
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ทั้งสองเผยความไม่เชื่อผ่านสีหน้า
“เข้าร่วมตําหนักจันทราทมิฬถือเป็ นเรื่องยากลํ้า! นอกจากนี้ พวก
นางยังมีกฎเกณฑ์เข้มงวด ศิษย์ของสํานัก จะไม่ได้รับอนุญาตให้
ติดต่อกับชายใด!” เย่ว์อู่หลันขมวดคิ้ว “เจ้าคิดหลอกลวงข้าหรือ?”
“ย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว!” ฉินหยุนไม่ทราบกฎเกณฑ์ของตําหนักจันทรา
ทมิฬ
“เช่นนั้นพวกเราเป็นพี่น้องกันเป็นอย่างไร? ข้าย่อมปกป้องเจ้า
นับตั้งแต่นี้!” เย่ว์อู่หลันเร่งรีบกล่าวคําขึ้น
“อย่างนั้นแล้ว น้องชายผู้นี้ขอคํานับต่อพี่สาวใหญ่ และพี่สาวรอง!”
ฉินหยุนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้พลางโค้งให้แก่เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่ห
ลัน
แม้เทียนรั่วเหลิงค่อนข้างเป็นคนรุนแรงไปบ้าง แต่ฉินหยุนก็นับถือ
นางจริง
“ต้องบอกกล่าวกันว่า สายตาของพี่สาวค่อนข้างดีนัก! นับตั้งแต่เริ่ม
นางมองที่น้องหยุน ทั้งยังดึงเข้าร่วมกลุ่ม! แต่เป็นข้า ที่ไม่กล้าทดลอง
เสี่ยงทาย!” เย่ว์อู่หลันหัวเราะออกมาแก้เขิน
“เป็ นเจ้าไม่ได้เหยียดหยันหนึ่งชีพจรวิญญาณของข้า เพียงเท่านั้นก็
นับว่าดีมากแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มขณะเดินออกจากห้องโถง
ก่อนหน้านี้ พวกเขาลงมือเย่ว์เหลียงและเทียนฉั่วด้วยกัน
เมื่อพวกเขาออกไปนอกเมือง สิ่งที่ต้องเผชิญคือตระกูลหลง และ
ขณะนี้พวกเขาทั้งสาม ถูกประกาศล่าค่าหัวโดยตระกูลหลงเป็นที่
เรียบร้อย
เพราะเรื่องนี้ ทั้งสามคนจึงต้องจับกลุ่มรวมกันและไว้ใจซึ่งกันและกัน
ฉินหยุนนําเทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลันสู่ห้องลับ
“พี่รอง หากต้องการอาวุธวิญญาณระดับราชันที่ดี ข้าจะไม่มอบมัน
ให้ขณะนี้! เป็นเพราะข้าต้องการปรับแต่งมันให้แก่ท่าน!” ฉินหยุน
กล่าวออกด้วยสีหน้าจริงจัง
“ว่าอะไร? ปรับแต่งสร้างขึ้นหรือ?” เย่ว์อู่หลันเอ่ยถามพร้อมอาการ
ตื่นตะลึง
“เสี่ยวหยุน เจ้ากําลังบอก ว่าตัวเจ้าจะขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณระดับ
ราชันแก่อู่หลันอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าเย็นเยือกและงดงามของเทียน
รั่วเหลิง ขณะนี้ก็เผยความประหลาดใจไม่น้อย
“ถูกต้อง กล่าวตามตรง ตัวข้าเป็นอาจารย์จารึกวิญญาณราชัน!” ฉิน
หยุนยิ้มกว้าง “เพราะข้ามีปัญหากับตําหนักจารึกเทวะ ดังนั้นขณะนี้
จึงไม่มีเหรียญตรา!”
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน ทั้งสองทราบดีว่าฉินหยุนอายุเพียงยี่สิบ
เอ็ด!
มันเป็ นเรื่องยากยิ่งที่บุคคลอายุยี่สิบต้น จะแข็งแกร่งจนถึงขั้นสามารถ
ลงมือสังหารอาจารย์ยุทธ์ได้!
แต่แล้วฉินหยุน เขายังเป็นถึงอาจารย์จารึกวิญญาณราชัน
เย่ว์อู่หลันและเทียนรั่วเหลิง ขณะนี้เผยอักษร ไม่เชื่อ ปรากฏชัดเจนที่
ใบหน้า
ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เชื่อฉินหยุน แต่เพราะเรื่องนี้ชวนให้เชื่อได้ยาก
“ยันต์วิญญาณสะกดกายระดับราชันแผ่นนี้ เป็นข้าทําขึ้นเอง!”
เมื่อฉินหยุนได้เห็นสายตาไม่เชื่อของสองสาว เขาจึงบุ้ยปากและ
กล่าวออก
“เสี่ยวหยุน ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า ย่อมต้องสามารถเข้าร่วมหอจารึก
และได้รับการดูแลที่เลิศลํ้า!” เทียนรั่วเหลิงกล่าวขึ้น
“ข้าย่อมไม่ไป! ข้ายังไม่คิดต้องการเปิ ดเผยตัวตนอาจารย์จารึกในตอนนี้!”
ฉินหยุนจําได้ ตั้งแต่ครั้งแดนยุทธ์อ้างว้าง มีผู้ต้องการฉกชิงอักขระที่
เขาครอบครองมาโดยตลอด
“เช่นนั้นเจ้าคิดปรับแต่งอุปกรณ์วิญญาณแก่ข้าอย่างไร?” เย่ว์อู่หลันมี
แต่ต้องเชื่อฉินหยุน
“ข้าต้องการเลือดและพลังจิตของท่าน!” ฉินหยุนนําเอาขวดขนาดใหญ่
และไข่มุกออกมา
“ขวดนี้สําหรับเก็บเลือด ไข่มุกนี้สําหรับเก็บพลังจิต! ให้เติมเต็มทั้ง
สองอย่างนี้แล้วค่อยส่งกลับคืนแก่ข้า”
เดิม เขาเพียงคิดใช้วิธีนี้ยามเมื่อขัดเกลาอุปกรณ์ลึกลํ้า
ทว่า ฉินหยุนครอบครองอักขระดวงดาวและจันทรา ดังนั้นเขาจึง
สามารถใช้วิธีการนี้ เพื่อสร้างอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน ซึ่งมี
ความซับซ้อนอย่างยิ่งยวดและเหมาะสมแก่เจ้าของได้
“เสี่ยวหยุน ข้าจะคืนอุปกรณ์เต๋าแก่เจ้า! และรบกวนช่วยขัดเกลากระบี่
แก่ข้าให้เล่มหนึ่ง!” เทียนรั่วเหลิงนําเอากระบี่เต๋าออกมา ส่งมันกลับคืน
แก่ฉินหยุน
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “พวกเราต้องหาทางสําเร็จการขัดเกลาภายใน
สิบวัน ดังนั้นเริ่มโดยเร็วที่สุดเป็นดี!”
เขาคิดฝึกฝนเคล็ดวิชากระบี่พื้นฐานช่วงกลางวัน และใช้เวลาช่วง
กลางคืนเพื่อขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันขึ้น

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset