ตอนที่ 666 จอมราชันดวงดาวอสูร

ตอนที่ 666 จอมราชันดวงดาวอสูร
หลังจากที่ฉินหยุนได้สังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ไปจำนวนมาก
เขาค่อยกลับไปหาเชี่ยวเย่ว์หลานและคณะ
“เย่ว์หลาน อสูรดวงดาวขนาดใหญ่เหล่านี้ล้วนหลับไหลและกำลัง
ดูดกลืนพลังดวงดาวชั่วร้าย ก่อนหน้าที่พวกมันจะเติบโตและ
วิวัฒนาการ พวกเราต้องสังหารให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นปล่อยไว้จะ
ยิ่งยากสังหารพวกมันได้!”
กล่าวคำจบ ฉินหยุนจึงมองทางเจี้ยนรั่วหยานที่กำลังพุ่งทะยานมา
เจี้ยนรั่วหยานคล้ายตื่นเต้นยินดีไม่น้อยที่ได้ลงมือสังหาร เมื่อนางได้
เห็นฉินหยุนจึงเผยยิ้มออก “อสูรดวงดาวขนาดใหญ่เหล่านี้อยู่ภายใต้
พายุหมุนใช่หรือไม่?”
ฉินหยุนพยักหน้ารับและเอ่ยถาม “พวกเจ้าคงรับมือกับกลุ่มอสูร
ดวงดาวขนาดใหญ่ที่ปิดล้อมได้ใช่หรือไม่?”
หลังจากที่เย่ว์ผูเฟิงและหลงเฉียวเฟิงมาถึง พวกเขาต่างพยักหน้ารับ
“พวกเจ้าคิดหาก็จำเป็นต้องทำไปทีละตัวแล้วลงมือสังหาร นั่นใช้
เวลานานเกินไป! ให้ข้าเขย่าพื้นที่อีกสักครั้ง ล่อพวกอสูรดวงดาว
ขนาดใหญ่ออกมา พวกเจ้าจะได้ลงมือสังหารพวกมันโดยไม่ต้องใช้
เวลามากนัก”
ฉินหยุนมองไปยังทิศทางหนึ่งก่อนบินไป
เชี่ยวเย่ว์หลานและผู้อื่นต่างตามติดด้านหลัง
ฉินหยุนเร่งรีบก้าวเหยียบพื้นพร้อมถล่มลงสู่เบื้องล่าง ทุกฝีก้าวเขา
จะปลดปล่อยความสามารถเทวะแผ่นดินไหวออกลงสู่พื้นดิน
พื้นดินเบื้องล่างคล้ายพร้อมปะทุระเบิดออก มันสั่นไหวรุนแรงขึ้น
ลงไปมา หลังจากที่ภูเขาทั้งหลายใกล้เคียงถล่มลงมา ก้อนหินและ
ฝุ่นดินมหาศาลจึงลอยฟุ้งกระจายทั่วทิศเปรียบดังคลื่นเพราะพลังสั่น
ไหวยังคงมีแรงหลงเหลือ
หลงเฉียวเฟิงและคณะบินลอยตัวอยู่กลางอากาศ พวกนางรับชมภาพ
ด้วยอาการตื่นตะลึง
ฉินหยุนเร่งรีบพุ่งตัวไปยังที่ห่างไกลออกไปยี่สิบลี้ ตลอดเส้นทางซึ่ง
เขาผ่านพ้นจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงต่อเนื่อง ด้วยมวลเมฆสีดำบน
ฟากฟ้า มันเปรียบดังวันสิ้นโลกก็ไม่ปาน
อสูรดวงดาวขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการดูดกลืนพลังดวงดาวชั่วร้าย
พวกมันถูกพลังสั่นไหวเข้ารบกวน แต่ละตัวต่างต้องตื่นขึ้นอย่าง
กราดเกรี้ยว ถ้ำที่พวกมันขุดขึ้นได้ถล่มทลายไม่หลงเหลือ ทำเอา
พวกมันต้องถูกฝังอยู่ใต้ชั้นดินและหิน
อสูรดวงดาวขนาดใหญ่ซึ่งถูกรบกวนจากการดูดพลังดวงดาวชั่วร้าย
พวกมันคำรามร้องกราดเกรี้ยวทะยานร่างออกพ้นจากกองเศษหิน
และมวลฝุ่น
จากพื้นดินเบื้องล่าง ร่างขนาดใหญ่ของอสูรดวงดาวเริ่มทะยานกัน
ออกมาเปรียบดังผึ้งที่โดนแหย่รัง
“ไป!” เชี่ยวเย่ว์หลานตะโกนคำเบาก่อนร่างจะพลันเลือนหาย
เย่ว์ผูเฟิงและผู้อื่นต่างเลือกหาเป้าหมายโดยแบ่งตามพื้นที่เป็นสัดส่วน
ก่อนจะพุ่งทะยานลงไป จากนั้นจึงเริ่มทำการเข้าสังหารอสูรดวงดาว
ขนาดใหญ่เหล่านั้น
หลังจากที่อสูรดวงดาวขนาดใหญ่โผล่ออกจากพื้น เป้าหมายของ
พวกมันย่อมต้องเป็นฉินหยุน
กระนั้นเวลานี้ ยามเมื่อสัมผัสได้ว่ามีผู้อื่นอยู่ใกล้เคียง พวกมันจึง
ปล่อยวางจากฉินหยุน เข้ารับมือกับเชี่ยวเย่ว์หลานและพลพรรค
แทนที่
“โชคดีนักที่เรามีสามแก่นเต๋า เมื่อกระดูกวิญญาณราชสีห์สวรรค์
ทำงาน พลังที่กักเก็บเอาไว้ภายในกระดูกนั้นทัดเทียมกับสามแก่น
เต๋า!”
เมื่อครู่ฉินหยุนใช้พลังงานไปอย่างมหาศาล กระนั้นเขาก็ยังยืนหยัด
อยู่ได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเพิ่งสังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ไป
มากมายก็ตามที
“เสี่ยวหยุน อัญเชิญราชสีห์สวรรค์ออกมา!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เจ้า
ต้องสงวนกำลังเอาไว้รับมือกับสัตว์ราชันอสูร ปล่อยพวกชั้นปลาย
แถวที่นี่ให้ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพจัดการ!”
ด้วยเหตุนี้ ฉินหยุนจึงอัญเชิญราชสีห์สวรรค์ทั้งสองตัวออกมา
โฮก! โฮก!
ราชสีห์สวรรค์ที่ทรงอำนาจทั้งสองพลันปรากฏจากหลุมดำ พวกมัน
คำรามร้องด้วยเสียงคำรามราชสีห์สวรรค์ คลื่นเสียงรุนแรงเข้าปะทะ
กับอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ ทำเอาพวกมันต้องเคลื่อนไหวเชื่องช้าลง
มหาศาล
อสูรดวงดาวขนาดใหญ่กว่าร้อยตัวกำลังรุมล้อมฉินหยุนเอาไว้
ทว่าหลังจากที่ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพปรากฏ พวกมันเริ่มลงมือสังหาร
ทีละหนึ่งด้วยกรงเล็บและฟันกรามอันน่าเกรงขาม อสูรดวงดาว
ขนาดใหญ่เหล่านั้นถูกฉีกกระชากจนตกตาย
ด้วยราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพสองตัวลงสมรภูมิ ฉินหยุนจึงผ่อนคลาย
ได้มาก เขานำเอาดาบของหลู่หลิงเทียนออกมาใช้แทนกระบี่ เร่งรีบ
พุ่งตัวเข้าไปสับฟันด้วยวิชากระบี่พื้นฐานเพื่อสังหารอสูรดวงดาว
ขนาดใหญ่ทั้งหลาย
อย่างกะทันหัน ฉินหยุนพลันสัมผัสได้ถึงออร่าคุ้นเคยไม่ไกลออกไป
นัก
“เจี้ยนหนันหู่!”
ฉินหยุนตระหนักได้ เขากับราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพทั้งสอง ได้ลงมือ
สังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ไปกว่าร้อยแล้วจึงบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
เจี้ยนหนันหู่ถือดาบต้นกำเนิดเร่งรีบทะยานไปยังภูเขา
บนยอดเนินเขาของตัวภูเขา มันมีพายุหมุนปรากฏอยู่ ขนาดของมันก็
เหมือนดังที่อื่น ทว่ามันกลับมีพลังดวงดาวชั่วร้ายอัดแน่นด้วยปริมาณ
ที่มหาศาลยิ่งกว่า
“หรือสัตว์ราชันอสูรก็กำลังดูดกลืนพลังดวงดาวชั่วร้าย?” ฉินหยุน
อุทานออก
“เจี้ยนหนันหู่คงทราบวิธีการค้นหาสัตว์ราชันอสูรเป็นแน่!” หลิงหยุน
เอ๋อกล่าว
เมื่อเจี้ยนหนันหู่อยู่ห่างจากภูเขากว่าร้อยเมตร เขาพลันโบกสะบัด
ดาบในมือ ใช้ความสามารถเทวะ ดาบสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ดาบต้นกำเนิดสับฟันออกซึ่งพลังงานดาบ กลับกลายเป็นดาบจำนวน
นับไม่ถ้วนราวทัณฑ์แห่งสวรรค์พุ่งเข้าหาภูเขาลูกนั้น
ตู้ม! ครืน!
ภูเขาลูกใหญ่ถูกตัดอย่างแบนราบงดงามด้วยพลังงานดาบในพริบตา
โฮก!
พลังดวงดาวชั่วร้ายหนาแน่นพลันปะทุออก ท้องฟ้าระเบิดออกซึ่ง
สายฟ้าอสนีบาตสีแดงฉาน เป็นผลให้พื้นดินเบื้องล่างต้องกลับ
กลายเป็นสีเลือดวูบวาบไปมา
“สัตว์ราชันอสูรปรากฏตัวแล้วหรือ?” ฉินหยุนบินมาถึง
“ฉินหยุน? อย่าได้แย่งข้าแล้ว สัตว์ราชันอสูรตัวนี้เป็นของข้า!” เมื่อ
เจี้ยนหนันหู่พบเห็นฉินหยุนบินมาใกล้ เขาเร่งรีบตะโกนบอก “จง
หลบไปรับชมที่ตรงโน้นแล้ว!”
“อย่างนั้นเจ้ารับมือมันไปแล้วกัน ข้าไปสังหารอสูรดวงดาวขนาดใหญ่
แทน!”
ฉินหยุนเดิมคิดร่วมแรงกับเจี้ยนหนันหู่ ทว่าเจี้ยนหนันหู่ทะนงตนเอง
จนเกินไป เขาไม่คิดยอมรับการร่วมแรงเพื่อสังหารคู่ต่อสู้
หลังออกพ้นพื้นที่ เขาจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังกลุ่มพายุหมุนซึ่งอยู่ไกล
ออกไป ก่อนจะปล่อยความสามารถเทวะแผ่นดินไหวออกมา
เจี้ยนหนันหู่ได้เห็นภูเขาสั่นไหว พื้นดินปริแตกแยกออกขึ้นลงไปมา
พวกมันสั่นไหวราวเปลือกโลกได้เคลื่อนตัวรุนแรง “ฉินหยุนผู้นี้
หรือเขาครอบครองวิญญาณยุทธ์สั่นไหว? สุดท้ายแล้วเขาครอบครอง
วิญญาณยุทธ์อันใดกันแน่?”
ทันทีที่ฉินหยุนเคลื่อนตัวมาถึง เขาได้บุกทำลายภูเขาจำนวนมากเพื่อ
ปลุกให้อสูรดวงดาวขนาดใหญ่ตื่นขึ้นเป็นหมู่คณะ!
เชี่ยวเย่ว์หลานและผู้อื่นเพิ่งกวาดล้างฝูงอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ไป
ดังนั้นจึงเร่งรีบบินมาทางฉินหยุน พวกเขาต่างสัมผัสถึงออร่า
แผ่นดินไหวของฉินหยุน จึงทราบว่าเขาอยู่ที่ใด
“พี่หู่!” เจี้ยนรั่วหยานพอผ่านไปเห็นเจี้ยนหนันหู่ นางจึงร้องเรียกอีก
ฝ่ายเสียงเบา
“น้องหยาน ข้ากำลังจะรับมือสัตว์ราชันอสูร เจ้ามีธุระอะไรจงไป
ทำ!” เจี้ยนหนันหู่กระชับดาบในมือแน่นกล่าวคำ “สังหารสัตว์ราชัน
อสูรก็ถือเป็นเรื่องสำคัญแก่ข้า!”
ฮูม!
อย่างกะทันหัน สัตว์ราชันดวงดาวอสูรพลันปรากฏตัวออกจากพื้นดิน
พร้อมระเบิดเสียงคำรามกราดเกรี้ยว
สัตว์ราชันดวงดาวอสูรกำลังอยู่ระหว่างการแปรสภาพให้ใหญ่โตขึ้น
เพราะได้รับวิญญาณอสูรดวงดาว ดังนั้นสภาพจึงแทบไม่คล้ายเดิม
อีกต่อไป
สัตว์ราชันดวงดาวอสูรตรงหน้าเจี้ยนหนันหู่ มันยืนด้วยขาทั้งสอง
ต้นขาของมันหนาเปรียบดังเสาค้ำสิ่งปลูกสร้าง ร่างกายของมันใหญ่
ราวต้นไม้โบราณ ทั้งยังอัดแน่นด้วยมัดกล้าม เพียงรูปลักษณ์ก็บ่ง
บอกได้ว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด
ที่ชวนขนพองสยองเกล้าที่สุด คือร่างกายท่อนบนของสัตว์ราชัน
ดวงดาวอสูร
หน้าท้องของมัน รวมถึงหน้าอก และคอ แต่ละที่จะมีหัวสัตว์ดุร้าย
ปรากฏ รวมถึงร่างกายทั้งสองข้าง รวมแล้วมันมีแขนถึงหกข้าง
แต่ละแขนจะยาวและยืดหยุ่น พวกมันเปรียบดังหนวดของปลาหมึก
ยักษ์ ทั้งหมดเป็นสีแดง ไม่มีฝ่ามือ กระนั้นกลับมีหนามที่แหลมคม
ดังปลายหอก
“พี่หู่ ระวังตัวด้วย!” เจี้ยนรั่วหยานพอได้เห็นสัตว์ราชันดวงดาวอสูร
ภายในใจของนางต้องลอบขนลุก
ชั่วขณะนี้ สัตว์ราชันดวงดาวอสูรพลันบุกโจมตี ที่สร้างภัยคุกคาม
ที่สุด คือแขนจำนวนมากที่ยาวยิ่งของมัน
ชั่วขณะเวลานี้ แขนสองข้างกำลังยืดขยายเข้าใส่เจี้ยนรั่วหยานที่
ลอยตัวอยู่
เจี้ยนรั่วหยานหลบได้พ้นก่อนมันจะพุ่งเข้าหาฉินหยุนและคณะ
แขนอื่นที่เหลือของสัตว์ราชันดวงดาวอสูรได้ยื่นขยายเข้าพัวพันกับ
เจี้ยนหนันหู่
“อสูรกายที่บัดซบ อย่าได้คิดว่าจะทำร้ายข้าได้!” เจี้ยนหนันหู่ยังคงมี
ความมั่นใจสูงล้ำ ดาบในมือโบกสะบัดเข้าต้านรับหนวดเหล่านั้น
เอาไว้
เขาไม่คาดคิด ว่าหนวดเหล่านี้จะทนทานและยืดหยุ่นมหาศาล
หลังจากทิ่มแทงด้วยดาบไปนับร้อยครั้ง พวกมันไม่แม้จะถูกแทง
ทะลวงเข้าไป ทั้งยังจะเด้งกลับมา
การจ้วงแทงของเจี้ยนหนันหู่ทำได้เพียงสกัดต้านรับหนวดเหล่านี้
เอาไว้ และครานี้เอง หนวดทั้งสองที่โจมตีเจี้ยนรั่วหยานก่อนหน้า
มันได้เหวี่ยงสะบัดเข้ามาจากอีกทิศทางหนึ่ง
“อย่าได้ฝัน!”
ดาบของเจี้ยนหนันหู่เพิ่มความเร็วจนถึงขีดสุด ดาบนั้นมีเพียงหนึ่งที่
โจมตี กระนั้นมันกลับโจมตีใส่หนวดของสัตว์ราชันดวงดาวอสูรไป
นับสิบครั้งแทบจะพร้อมเพรียงกัน
สัตว์ราชันดวงดาวอสูรตัวนี้ยังวิวัฒนาการไม่สมบูรณ์ กระนั้นความ
แข็งแกร่งของมันก็ไม่ใช่ประมาทได้
เจี้ยนหนันหู่ย่อมทราบ ว่าหากสัตว์ราชันดวงดาวอสูรตัวนี้วิวัฒนาการ
โดยสมบูรณ์ เขาจะไม่อาจรับมือมันได้ไหว
สัตว์ราชันดวงดาวอสูรคล้ายไม่โง่งมเหมือนดังอสูรดวงดาวตัวอื่น
ได้เห็นเจี้ยนหนันหู่ไม่ง่ายรับมือ มันจึงคิดมุดลงพื้นดิน ความเร็วนี้
ทำเอาเจี้ยนหนันหู่ต้องทึ่ง
“คิดหนีหรือ?” เจี้ยนหนันหู่อึ้งไปวูบก่อนจะเร่งรีบไล่ตาม
เขามองไปยังหลุมลึกพร้อมสะบัดดาบในมือ พลังงานดาบของดาบ
สะท้านฟ้าสะเทือนดินพลันรวมตัวกันเป็นบอลพลังงาน จากนั้นจึง
ร่วงหล่นลงสู่หลุมใหญ่เบื้องล่าง
ตู้ม ตู้ม!
พื้นดินพลันถูกฉีกกระชากออกจากกันด้วยพลังงานดาบ หลงเหลือ
ไว้เพียงหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่
กระนั้น มันกลับไม่หลงเหลือร่องรอยของสัตว์ราชันดวงดาวอสูร
แล้ว
เจี้ยนหนันหู่เร่งรีบหลับตา ไม่ทราบว่าเขาใช้วิธีการใด ทว่าเขา
สามารถพบเจอร่องรอยของสัตว์ราชันดวงดาวอสูรได้ในพริบตา
เมื่อเขาคิดพุ่งตัวไปยังทิศทางดังกล่าว เขาพลันได้เห็นบุคคลหนึ่งเร่ง
รีบบุกมาพร้อมกระบี่ในมือ
“ศิษย์หุบเขาเซียนโอสถ?”
เจี้ยนหนันหู่ได้เห็นชายหนุ่มในชุดดำที่ดวงตาแดงก่ำ อีกฝ่ายถือ
กระบี่อสูรเอาไว้ในมือ
“เจี้ยนหนันหู่ สวะที่ทะนงตนเช่นเจ้ายังจดจำข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
ชายหนุ่มอสูรเผยเสียงแหบกล่าวคำ
“เหลียงหยวนไห่ เจ้าสมควรอยู่อันดับสองหรือสามในหุบเขาเซียน
โอสถที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้นใช่หรือไม่?” เจี้ยนหนันหู่
แค่นเสียง “ข้าไม่มีเวลามาเสียกับเจ้า ข้าต้องไปจัดการสัตว์ราชัน
อสูร!”
เหลียงหยวนไห่หัวเราะโฉดชั่ว “เจี้ยนหนันหู่ เจ้าไม่อาจแม้กระทั่ง
เอาชนะข้าได้ ยังคิดว่าจะสังหารจอมราชันดวงดาวอสูรได้งั้นหรือ?”
“อะไรคือจอมราชันดวงดาวอสูร?” เจี้ยนหนันหู่ถามกลับเสียงเย็น
“ผู้นั้นคือจอมราชันแห่งดวงดาวอสูร และนายท่านได้รับอิสรภาพ
แล้ว ตราบเท่าที่นายท่านจอมราชันดูดกลืนพลังดวงดาวชั่วร้ายได้
มากพอ เขาจะฟื้นฟูพลังจนถึงจุดสูงสุด! และข้าได้ยอมรับใช้ต่อเขา!
หากเจ้ายังไม่อยากตาย ข้าสามารถแนะนำเจ้าแก่นายท่านจอมราชัน
ให้เป็นข้าทาสได้!” เหลียงหยวนไห่หัวเราะดังอย่างต่ำช้า “ตราบ
เท่าที่เจ้าได้เป็นข้าทาสของนายท่านจอมราชัน พละกำลังของเจ้าจะ
เพิ่มขึ้นกว่าตอนนี้หลายเท่านัก!”
แม้เจี้ยนหนันหู่ปรารถนาต่อความแข็งแกร่ง ทว่าคำกล่าวของเหลียง
หยวนไห่ไม่คล้ายมีผลใดต่อเขา “เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น เจ้าถึงกับยอม
เป็นคนก็ไม่ใช่สัตว์ก็ไม่เชิง ผีก็ไม่น่าใช่อย่างนั้นหรือ? ข้าย่อมไม่คิด
เป็นเช่นเจ้า! พลังของข้าต้องได้รับโดยการฝึกฝนด้วยตนเอง และมี
เพียงข้าที่จะควบคุมมันได้! พลังของเจ้าก็แค่หยิบยืมมาจากจอมราชัน
อะไรนั่น!”
“หากไม่ใช่พลังของตนเอง เจ้าคิดหรือว่าจะสามารถใช้งานมันด้วยดี
ได้?”
เหลียงหยวนไห่หัวเราะดัง “วิเศษ… วิเศษนัก เช่นนั้นข้าจะแสดงกำลัง
ให้เจ้าได้ประจักษ์! ตราบเท่าที่ข้าเอาชนะเจ้าได้ เจ้าคงได้รู้ตัวว่าพลัง
ที่นายท่านจอมราชันมอบให้นั้นวิเศษเพียงใด และเจ้าต้องยินดีเป็น
ข้าทาสแก่นายท่านจอมราชัน!”
“ความชั่วร้ายไม่อาจทัดเทียมความยุติธรรม จงหุบปากสุนัขเจ้าเสีย
เป็นข้าสะอิดสะเอียนจะได้ฟังแล้ว!” เจี้ยนหนันหู่กระชับดาบพุ่งเล็ง
เป้าเข้าที่ปากของเหลียงหยวนไห่
เหลียงหยวนไห่พลันกัดเข้าที่ปลายดาบของเจี้ยนหนันหู่!
เสียงแตกหักดังขึ้น! ดาบต้นกำเนิดของเจี้ยนหนันหู่กลับกลายเป็น
แตกสลายเพียงเพราะแรงกัด!
ดาบต้นกำเนิดที่แตกหักได้บินกลับหายเข้าในร่างเจี้ยนหนันหู่
“บัดซบ!”
เจี้ยนหนันหู่ภายในย่อมตระหนักได้แล้ว เขาสบถด้วยโทสะก่อนจะ
เร่งรีบบินไปยังทิศทางที่ฉินหยุนอยู่

Nine Sun God King

Nine Sun God King

Qin Yun, fallen crown prince of Qin Empire. Inherits the martial legacy of nine sun world. The superb martial legacy in his arsenal, insane inscription techniques in his fingertips, surrounded by enemies and beauties abound. But Qin Yun is not satisfied, he wants to go beyond the nine suns into the great astral infinity, to become a GOD.

Options

not work with dark mode
Reset