ตอนที่ 799 : มังกรภูตผี
ฉินหยุนรู้สึก ว่าโลงศพยักษ์ภายในภูเขาน้ําแข็งนั้นสมควรมีอันตรายมากล้ําคงอยู่
หลันซูเหยาไม่กล่าวคําใด เพราะผู้คนของเขตแดนลึกล้ํา ต่างร่วมมือกับคนของชนเผ่ามนุษย์สัตว์ พวกเขาราวกับคลุ้มคลั่งโจมตีใส่ภูเขาน้ําแข็งกันยกใหญ่
“พวกเราควรอยู่ให้ห่างจากภูเขาน้ําแข็งนั่น!” เปาเฉิงโจ่วกล่าว
เจี้ยนสือเทียนและคณะคนกว่าสิบต่างเคลื่อนตัวออกห่าง พวกเขากังวลว่าจะได้รับผลกระทบ ยามเมื่อโลงศพขนาดใหญ่นั้นเปิดออกไม่นาน ภูเขาน้ําแข็งจึงแหลกออกเป็นชิ้น
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เดิมภูเขาน้ําแข็งนั่นสมควรมีผนึกมากมาย ทว่าด้วยเวลาผ่านไปนานนับไม่ถ้วน ผนึกเหล่านั้นจึงเสื่อมสภาพ ตอนนี้จึงเปิดออกได้ง่ายดายเช่นนี้”
ฉินหยุนเผยสีหน้าหนักอึ้ง เขาส่งเสียงสื่อสารหาเหยาเพิ่งที่อยู่ในไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณ เทวะเก้าตะวัน ทว่านางไม่ตอบกลับ นี่ยิ่งทําให้เขาเป็นกังวล
ตู้ม!
ท้ายที่สุด กลุ่มคนจึงทําลายภูเขาน้ําแข็งน้อยนั้นได้สําเร็จ โลงศพยักษ์ได้ร่วงหล่นลงกับพื้นพร้อมเสียงดังสนั่น
“เร่งรีบเปิดมัน ภายในสมควรมีแต่ของดี!” เซียนเฒ่าเต่าก้าวเดินไปพร้อมหัวเราะ จากนั้นเขาจึงตะโกน “พวกเราควรร่วมมือกันเปิดฝาโลงนี้!”
ครึ่งเซียนและจักรพรรดิยุทธ์ทั้งหลายต่างเดินเข้าไป ร่วมแรงกันยกเปิดฝาโลงศพ
หลันซูเหยาเกิดกังวลขึ้นมา นางถอยห่างจากโลงศพนั้น
ตุ้ม!
ฝาโลงศพยักษ์เปิดออกด้วยตัวของมันเอง กลุ่มก้อนมวลพลังงานสีดําทะลักล้นออกจากภายในโลงกระจายตัวออก
ตึง ตึง ตึง!
จากโลงศพยักษ์ หลายสิ่งอย่างหลุดลอยออกมาพร้อมมวลพลังงานสีดํา
“เป็นอุปกรณ์เต… กระทั่งมีอุปกรณ์ราชัน!” ครึ่งเซียนจากเขตแดนลึกล้ําตะโกนอย่างนึกถึง
พื้นที่ใกล้เคียงเวลานี้มีแต่อาวุธและสมบัติวางกอง แม้มวลพลังงานสีดํากระจายทั่ว กระนั้นก็ยังนําเอาอุปกรณ์วิเศษออกมาจากภายใน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากล่าวแล้วว่าเป็นสมบัติ! เจ้าปีศาจน้อยฉินหยุนนั่นกลับกล่าวว่าเป็นอันตราย!” เซียนเฒ่าเต่าหัวเราะดังขณะกล่าว จากนั้น กลุ่มคนที่ร่วมแรงจึงเริ่มทะเลาะกันแย่งชิงสมบัติ
“อย่าได้ไป!” เจี้ยนสือเทียนตะโกนบอกต่อบรรดาอาจารย์จารึกเต๋
อาจารย์จารึกเต๋เหล่านี้ที่คิดเข้าไป พลันต้องหยุดชะงัก
เซียนเฒ่าเต่ามองทางเจี้ยนสือเทียนและคณะพร้อมตะโกนดัง “อย่าได้คิดว่าพวกเจ้าจะนํามันไปได้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราเสียมารยาท! สิ่งของเหล่านี้เป็นของพวกเรา เจ้าไม่มีคุณสมบัติได้รับพวกมันไป!”
หลันซูเหยาขมวดคิ้วแน่น นางหันมองทางกลุ่มก้อนพลังงานสีดําที่ลอยอยู่! มวลพลังงานสีดําอัดแน่นด้วยออร่าแข็งแกร่ง เพราะเซียนเฒ่าเต่าและผู้ปกครองแพะภูตผีได้ใจจนเกินไป พวกเขาจึงไม่สนใจอีกทางด้านหนึ่ง ทว่ากลุ่มของฉินหยุนต่างให้ความสนใจมาโดยตลอด
อย่างกะทันหัน มวลพลังงานสีดําที่ลอยด้านบนเริ่มควบแน่นขึ้นมา! ไม่ช้า มันเกิดขึ้นเป็นทรงกลม จากนั้นจึงก่อเกิดเป็นรูปลักษณ์มนุษย์อย่างรวดเร็ว!
“มีปัญหาแล้ว!” หลันซูเหยาตะโกน
ตอนนี้เอง บุคคลศีรษะมังกรสีดําสนิทได้ร่วงหล่นจากอากาศเบื้องบน บุคคลหัวมังกรผู้นี้มีเกล็ดมังกรกระจายตามร่างกาย ทั้งยังมีหางมังกรที่ดูทรงพลัง และหัวมังกรสีดําสนิท
ได้เห็นบุคคลหัวมังกรปรากฏตัวอย่างกะทันหันคณะของเจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่วต่างระแวดระวัง พวกเขารับรู้ถึงความหนักอึ้งที่บังเกิดในใจ เพราะบุคคลหัวมังกรตรงหน้าสมควรแข็งแกร่งเลิศล้ํา
เซียนเฒ่าเต่าและคณะผู้ซึ่งเก็บอาวุธและสมบัติ ได้เห็นบุคคลหัวมังกร เวลานี้พวกเขาเริ่มตื่นกลัว
“เหอะเหอะเหอะ เหล่านี้เป็นของขวัญข้ามอบให้ ชอบใจหรือไม่?” บุคคลหัวมังกรยิ้มกล่าวถาม
“นี่ ผู้อาวุโส ท่านมอบให้พวกเราจริงหรือ?” เซียนเฒ่าเต่าเอ่ยถาม ความกังวลภายในใจเวลานี้เลือนหายหลังได้ฟังคํากล่าว
“ข้ากล่าวไปแล้ว เหล่านี้เป็นของขวัญให้พวกเจ้า! พวกเจ้าได้เห็นการถือกําเนิดขึ้นใหม่ของข้า ถือเป็นโอกาสอันดีของพวกเจ้า! เร่งรีบหยดเลือดลงที่พวกมัน เช่นนี้พวกเจ้าจะได้รับรู้ถึงพลังอันเลิศล้ําของอุปกรณ์วิเศษเหล่านี้!” บุคคลหัวมังกรหัวเราะดังออกจากใจ
ได้ยินเช่นนี้ เซียนเฒ่าเต่าและผู้อื่นล้วนยินดีเป็นล้นพ้น ต่างเริ่มหยดเลือดลงไป เมื่อเลือดหยดลง บุคคลหัวมังกรจึงยิ่งหัวเราะอย่างสุขใจมากยิ่งขึ้น!
“ขอแสดงความยินดีแล้ว! นับแต่นี้พวกเจ้าเป็นของข้า เป็นข้าทาสของมังกรภูตผีตนนี้!” บุคคลหัวมังกรหัวเราะดัง
เซียนเฒ่าเต่าและคณะคนนับร้อยเผยสีหน้าแปรเปลี่ยนหลังได้รับฟัง พวกเขาเป็นครึ่งเซียนทรงพลังและอํานาจสูงส่ง ตอนนี้จะกลับกลายเป็นข้าทาสของผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?
“พวกเจ้าต่างรับอาวุธกันไปแล้ว หากไม่คิดเป็นข้าทาสของข้า เช่นนั้นจงรับความตาย!” มังกรภูตผีหัวเราะดังกล่าวคํา
ฉินหยุนย่อมได้ทราบ ว่ากําลังของมังกรภูตผีนี้ยังไม่ฟื้นคืนถึงจุดสูงสุด กระนั้นก็น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ไม่มีทางที่ครึ่งเซียนจะสามารถต่อกรกับเขาได้
หลังจากมังกรภูตผีมองที่เจี้ยนสือเทียนและคณะ เขาจึงกล่าวแค่นเสียง “พวกเจ้าไม่รับอาวุธข้า เช่นนั้นล้วนตายได้แล้ว!”
เจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่วต่างเร่งรีบทะยานออกซึ่งหน้า
“พวกเราหาได้หวั่นเกรงเจ้าไม่!” เจี้ยนสือเทียนกล่าวเสียงเย็น “สู้”
มังกรภูตผีกล่าว “เจ้าไม่คู่ควรต่อสู้กับข้า เอาอย่างนี้เป็นไร เจ้าต่อสู้กับข้าทาสของข้า หากสามารถเอาชนะพวกมัน เช่นนั้นข้าจะปล่อยไป!”
ผู้ปกครองแพะภูตผีโศกเศร้าเป็นล้นพ้น ทว่าเขาก็ไม่กล้าขัดขืนมังกรภูตผี หากเขาทํา เช่นนั้นก็มีแต่ความตายที่รอคอย ในเมื่อไม่อาจขัดคําสั่ง เขาก็ได้แต่ต้องทําตาม เขาย่อมพบเห็นว่า มังกรภูตผีตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด ติดตามอีกฝ่าย ก็ไม่คล้ายใช่เรื่องแย่
ผู้ปกครองแพะภูตผีก้าวเดินไปพร้อมกล่าว “นายท่าน ให้ข้าได้สู้! ท่ามกลางพวกมันมีบุคคลนามฉินหยุน เป็นมันครอบครองสองจารึกวิญญาณ และยังโฉดชั่วอย่างยิ่ง! ข้าคิดต่อสู้กับมัน!”
ผู้ปกครองแพะภูตผีชี้ทางฉินหยุน ก่อนหน้าเขาไม่อาจสังหารฉินหยุนเพราะหลันซูเหยาคุ้มกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโถ่วที่คอยเป็นปราการ โอกาสที่มีตอนนี้ถือว่าหาได้ยาก
“สองจารึกวิญญาณ? วิเศษนัก เจ้าไปจัดการมัน จดจําเอาไว้ อย่าได้ทําลายร่าง ข้าจะได้แยกจารึกวิญญาณออกจากกายมัน!” มังกรภูตผีมองทางฉินหยุนพร้อมหรี่ตา คล้ายเขากําลังตื่นเต้นยินดีเป็นล้นพ้น
ฉินหยุนสบถภายใน เขาได้แต่ต้องออกไปสู้แล้ว
“ฉินหยุน มันแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก นี่ไหวหรือไม่?” เจี้ยนสือเทียนกล่าวถาม
“ย่อมไหว!” ฉินหยุนก้าวเดินตรงออกไปรับศึก
หลันซูเหยาทําได้เพียงแต่รับชม นางไม่กล้าลงมือปุ่มบ่าม นางย่อมตระหนักได้ว่า ตัวนางไม่อาจทัดเทียมมังกรภูตผี
ฉินหยุนก้าวเดินออกมาพร้อมกล่าว “เมื่อใดข้าชนะ ให้พวกเราออกไป! อย่าได้กลับคืนคําสัญญา!”
มังกรภูตผีหัวเราะดังพร้อมกล่าว “ข้าไม่เคยคดโกง!”
ฉินหยุนย่อมไม่เชื่อมังกรภูตผีแม้เพียงนิด กระนั้นนี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะลากถ่วงเวลา มังกรภูตผีอยู่ขอบเขตเซียน มีแต่เหยาเฟิงที่สามารถต่อกรอีกฝ่ายได้ ตราบเท่าที่เขารอคอยจนเหยาเฟิงออกมาได้ เมื่อนั้นเขาก็ไม่ต้องหวาดเกรงมังกรภูตผีแล้ว
ผู้ปกครองแพะภูตผีนําเอาตะขอยาวที่มีมวลพลังงานสีดําออกมา นี่เป็นอุปกรณ์เต่ําที่อีกฝ่ายเพิ่งได้รับมาเมื่อครู่
ผู้คนของตระกูลหลงและเขตแดนลึกล้ํา ต่างก็คิดว่าฉินหยุนไม่มีทางสามารถเอาชนะผู้ปกครองแพะภูตผี พวกเขายังคิดว่าฉินหยุนอย่างไรก็ต้องตายที่วันนี้ ทว่าพวกเขาไม่ยินดีจากก้นบึง เพราะผู้ที่ได้รับผลกําไรจากความตายครั้งนี้ไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นมังกรภูตผี ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังตกกลายเป็นข้าทาสของมังกรภูตผี!
ฉินหยุนนําเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกออกมา! หลังเผยกระบี่ออก ผู้คนที่นี้ต่างตื่นนตะลึงนิ่งค้าง พวกเขาต่างทราบว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึก เขาครอบครองอาวุธดีเลิศล้ําไม่ใช่น้อย กระนั้นตอนนี้ เขากลับนําเอากระบี่ผุพังที่มีแต่รอยปริแตกออกมาเล่มหนึ่ง!
“เจ้าหนู หากเจ้าไม่คิดสู้ หรือสู้ไม่ดีจนข้าเบื่อหน่าย เช่นนั้นเจ้าได้ตายอย่างชวนสังเวชแน่!” มังกรภูตผีแค่นเสียงกล่าว “เจ้าถึงขั้นกล้านําอาวุธสวะเช่นนี้ออกมาสู้อย่างนั้นหรือ?”
“จัดการกับตัวหัวแพะนี้ ข้ายังต้องการอาวุธอีกหรือ? สังหารมันไม่ใช่เรื่องยาก!” ฉินหยุนส่งเสียงเหยียดหยันดังตอบ
กําลังของผู้ปกครองแพะภูตผีทัดเทียมราชันยุทธ์ ด้วยระดับการฝึกฝนของฉินหยุนตอนนี้ หากสามารถใช้งานอาวุธ เขาย่อมต่อกรกับราชันยุทธ์ได้
“หัวแพะ หากจับเจ้าเด็กนี้ได้ ข้าจะให้ตําแหน่งสําคัญกับเจ้า!” มังกรภูตผีเอ่ยคํา
“นายท่านโปรดวางใจ ข้าจะจับตัวมันมาให้ได้!” ผู้ปกครองแพะภูตผีมั่นใจเป็นล้นพ้น เวลานี้ ภายในใจยินดีแทบตายแล้ว
“ข้าทาสหัวแพะที่น่าสังเวช อย่าได้เร่งรีบยินดีเกินไปนัก!” ฉินหยุนกระชับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกเอาไว้แน่น ฉับพลันนี้เขาทะยานออกซึ่งหน้า
ผู้ปกครองแพะภูตผีรอคอยให้ฉินหยุนมาถึง ฉินหยุนที่มาถึงจึงโจมตีออกด้วยกระบี่ เป็นกระบวนท่ากระบี่พื้นฐาน เป็นการโจมตีออกอย่างรวดเร็ว มันระเบิดออกซึ่งพลังเต่ลึกล้ําอัดแน่นด้วยพลังกลืนกินจิตวิญญาณแรงกล้า ผู้ปกครองแพะภูตผีไหววูบตะขอในมือโจมตีฉินหยุนในเวลาเดียวกันนี้
ติ้ง!
เสียงแตกหักดังสะท้านทั่วทั้งห้องน้ําแข็งใต้ดินแห่งนี้ อาวุธของฉินหยุนและผู้ปกครองแพะภูตผีปะทะกันหนักหน่วง ผู้ปกครองแพะภูตผียังยืนกับที่ ขณะที่ฉินหยุนร่างกระเด็นไกล ฉินหยุนตอนนี้ค่อยทราบถึงความแตกต่างทางกําลังของตนเองและผู้ปกครองแพะภูตผี
ผู้คนล้วนได้เห็น ว่ากระบี่ในมือฉินหยุนหาได้เกิดความเสียหายใดไม่ พวกเขาต่างร้องอุทานเสียงเบา กระทั่งมังกรภูตผียังให้ความสนใจอาวุธของฉินหยุนแล้ว
ฉินหยุนไม่นําคอนเทวะเก้าตะวันออกมา เพราะเขาเกรงว่ามังกรภูตผีอาจทราบตัวตนและบีบบังคับน้ํามันไป
ผู้ปกครองแพะภูตผีส่งร่างฉินหยุนกระเด็น เขาย่อมได้เห็นว่าอาวุธฉินหยุนไม่ได้รับความเสียหาย ภายในเวลานี้เกิดหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ร่างกายของเขาระเบิดออกซึ่งแสงสีแดง ร่างพลันทะยานออกเข้าถึงข้างกายฉินหยุนในพริบตาพร้อมระดมโจมตีด้วยตะขอยาว
ตะขอยาวเผยมวลพลังงานสีดํากระจายตัวออก พร้อมปลดปล่อยพลังสีแดงเฉพาะตัวของผู้ปกครองแพะภูตผี นําพามาซึ่งออร่าชั่วร้ายเย็นเยือกเข้ากัดกิน ระหว่างโจมตีไป เสียงสายลมโหยหวนจะดังไม่หยุดหย่อน
ฉินหยุนคิดหลบเลี่ยง ทว่าเรื่องราวไม่ง่าย เขาไม่อาจใช้งานกระบี่ต้านรับไว้ เพราะตัวเขาจะถูกส่งร่างกระเด็น และแขนยังต้องแบกรับอาการเจ็บปวด
ตุ้ม!
ตะขอยาวของผู้ปกครองแพะภูตผีคํารามร้องสนั่นหวั่นไหวพร้อมแสงสีแดง มันสั่นสะเทือนน้ําแข็งย้อยที่นี้นําพาพวกมันร่วงหล่นลงมา
เฉินหยุนไร้ซึ่งทางเลือก มีแต่ต้องต้านรับตะขอยาวไว้ด้วยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลก อาวุธทั้งสองปะทะกันอีกครั้งหนึ่ง พลังงานสีดําและแดงทะลักล้นกระจายออก เสียงดังสนั่นบังเกิดสั่นไหวทั้งลานกว้างหลายครั้งครา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกถูกส่งกระเด็นไกลจนปักเข้ากับชั้นน้ําแข็งที่กําแพง
“ฉินหยุน เจ้าตายแน่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผู้ปกครองแพะภูตผีหัวเราะดัง เขาพยายามใช้ตะขอในมือเข้าจ้วงแทงลําคอของฉินหยุน
ขณะผู้ปกครองแพะภูตผีหัวเราะ ฉินหยุนจึงปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ ครั้งสุด ท้ายที่เขาใช้งานพลังนี้ ตัวเขาไม่ได้ใช้มันอย่างหมดสิ้น ทว่าสะกดเอาไว้ส่วนหนึ่ง ตอนนี้จึงเป็นโอกาสให้เขาได้เผยพลังอีกครั้ง
คณะคนของเจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโจ่วต่างตระเตรียมลงมือ ทว่าฉับพลันสัมผัสได้ถึงออร่าของฉินหยุนทะลักล้นพุ่งทะยาน
ผู้ปกครองแพะภูตผีย่อมสัมผัสถึงได้ กระนั้นเวลาไม่พอให้ตอบสนองแล้ว แก้มทั้งสองของเขา ถูกฉินหยุนฟาดหวดตบรุนแรงคลุ้มคลัง
“หัวแพะเอ๋ย เป็นเจ้าที่ต้องตาย!” ฉินหยุนคําราม
ภายในพริบตาเดียว ผู้ปกครองแพะภูตผีจึงถูกตบใบหน้าปูดบวมนองด้วยเลือด หัวแพะเวลานี้กลับกลายเป็นหัวหมูแทนแล้ว!
Related