กระแสปั่นป่วนของมิติเวลาอันน่ากลัวปรากฏขึ้นอีกหน ความว่างเปล่ากลายเป็นน้ำวนสีเลือดขนาดยักษ์ กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
พวกคังฮูหยินสามแม่ลูก และพวกถานจิ่นที่เป็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างต่างติดอยู่ด้านใน
ในครั้งนี้แม้แต่หลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่างก็โดนม้วนเข้าไปด้วย
หลัวจื้อเทาที่น่าสงสารหวังจะกลับโลกซ้อนโลกมาโดยตลอด เสาะหามิติเขตแดนที่เดิมเป็นบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์จนเจอ
สุดท้ายกลับถูกกันเอาไว้ด้านนอกประตู ตอนนี้อุตส่าห์ได้เข้ามาแล้ว กลับเผชิญกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาที่บ้าคลั่งกว่าเดิม
พวกหลัวจื้อเทาและพวกคังฮูหยินทางหนึ่งดิ้นรน ทางหนึ่งมองเยี่ยนจ้าวเกอ
‘เจ้ามีพลังฝึกปรือน้อยที่สุด ในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาเช่นนี้ พวกเรายังลำบาก เจ้ายิ่งตายเร็วกว่าเดิม!’ พวกเขาต่างสบถในใจ
ทว่าหลังจากมองสถานการณ์รอบๆ ของเยี่ยนจ้าวเกอจนชัดเจนแล้ว ทุกคนต่างตื่นตระหนก ใจตกลงไปอยู่ก้นเหว
น้ำวนสีเลือดเบื้องหน้านี้อยู่ในลักษณ์กลับหัว ส่วนล่างของน้ำวน และมิติที่อยู่ด้านล่างน้ำวนซึ่งเยี่ยนจ้าวเกออยู่กลับเงียบสงบ
ไม่เพียงแค่นั้น ความว่างเปล่าตรงหน้าเริ่มค่อยๆ มีแสงระยิบระยับ
หลัวจื้อเทา คังฮูหยิน ถานจิ่นต่างมีสีหน้าตกตะลึง พวกเขามองออกว่า ประกายแสงนั้นไม่ใช่เพราะมีแหล่งกำเนิดแสงกำลังกะพริบ แต่เกิดขึ้นเพราะการบิดเบี้ยวและการกดอัดจากพลังแห่งเขตแดน
ความว่างเปล่าที่ส่วนล่างของน้ำวน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เยี่ยนจ้าวเกอยู่ ค่อยๆ กลับเป็นลักษณะเดิมของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อีกครั้ง
ถ้าหากว่าอยู่ด้านนอกน้ำวนสีเลือด จะเห็นมิติเวลาทั้งหมดต่างบิดเบี้ยว เส้นทางแสงสว่างเส้นหนึ่งกำลังค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างตรงส่วนที่ติดกับน้ำวนสีเลือด
เป็นบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์นั่นเอง
และตำแหน่งเดิมของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่ดินแดนหลวนเซียงในทะเลหวงเจียบนโลกซ้อนโลกก็มีแสงส่องระยิบระยับ ร่องแยกมิติที่เหมือนกับบาดแผลบนท้องฟ้าโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง
คนในสำนักแสงสว่างกับคังฮูหยินสามแม่ลูก ต่างรู้สึกว่ามีเลือดไหลมาอุุดที่หัวใจ คับข้องจนพ่นออกมาไม่ได้
ส่วนล่างของน้ำวนสีเลือดสงบราบคาบอย่างแท้จริง แต่คิดจะไปถึงตรงนั้นจากตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ กลับมีพายุที่น่ากลัวถึงขีดสุดขวางกั้นไว้
หากทะเลวงไป มีโอกาสตายถึงเก้าส่วน!
เยี่ยนจ้าวเกอกางพัดกระดาษไม้เจี้ยนอีกครั้ง เพื่อคุ้มกันตัวเอง เฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ เสี่ยวอ้าย และพ่านพ่าน
พัดกระดาษไม้เจี้ยนที่ก่อนหน้านี้ใช้ไปแล้ว พลังเหลืออยู่ร่อยหรอ ในตอนนี้กลับสั่นไหวน้อยๆ ขณะเผชิญพลังแห่งเขตแดนอังยิ่งใหญ่ กลับมีความรู้สึกแบกรับไม่ไหว
ทนได้อีกไม่นาน พัดกระดาษก็จะถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว
แต่นั่นก็ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับโลกซ้อนโลกได้แล้วเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าผ่อนคลาย โบกมือให้กับคังฮูหยินและพวกหลัวจื้อเทา “ทุกท่าน การวิ่งแข่งเริ่มขึ้นแล้ว ข้าขอตัวลาก่อน”
คังฮูหยินกับคนในสำนักแสงสว่างต่างหน้ามืด เกือบกระอักเลือดออกมา
ทว่าพวกเขาในตอนนี้ไม่มีเวลามาเคียดแค้นเยี่ยนจ้าวเกอ ต้องเร่งมือคิดหาวิธีช่วยตัวเอง
น้ำวนสีเลือดเบื้องหน้าอีกไม่นานจะพังทลายโดยสิ้นเชิง ถึงเวลานั้นจะเกิดการทำลายล้างที่น่ากลัวถึงขีดสุด
หากมีพลังฝึกปรือไม่ถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน ย่อมไม่อาจหลีกหนีได้
แม้จะเป็นยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นเทวะสำแดงเช่นหลัวจื้อเทา ต่อให้มีกงจักรสุริยันจันทราอยู่ในมือก็ต้านทานไม่ไหว เนื่องจากว่าเขาที่ไม่ได้อยู่ในขั้นสะพานเซียนไม่อาจใช้พลังทั้งหมดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้โดยสมบูรณ์
ผลลัพธ์สุดท้ายมีแต่จะทำให้กงจักรสุริยันจันทราได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่วนเจ้าของอย่างเขาก็ต้องสิ้นชีวิต
ยังมิพักเอ่ยว่า กงจักรสุริยันจันทราในมือเขา ขาดกงจักรจันทราไป!
ส่วนคนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ถึงแม้ว่าน้ำวนสีเลือดเบื้องหน้าจะน่ากลัวถึงขีดสุด แต่พวกหลัวจื้อเทาก็มีแค่ทางเดียวให้เดิน
พวกเขาต้องทะลวงออกไปก่อนที่น้ำวนสีเลือดจะพังทลายโดยสมบูรณ์ ขอแค่สามารถพุ่งไปถึงบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ได้ก็จะมีทางรอด
การทะลวงน้ำวนสีเลือด มีโอกาสตายเก้าส่วน แต่หากไม่ทะลวง รอจนน้ำวนสีเลือดพังทลาย ก็กลายเป็นตายสิบส่วนอย่างไร้ทางรอด
หลัวจื้อเทาส่งเสียงกู่ร้อง กระตุ้นกงจักรสุริยัน แสงอาทิตย์เจิดจ้าสว่างขึ้น ม้วนพวกถานจิ่นเอาไว้ ก่อนจะกลายเป็นแสงสีทอง พุ่งไปที่ใจกลางน้ำวนสีเลือด
คังฮูหยินกระตุ้นประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสเวลา พาคังจิ่นหยวนและคังเม่าเซิงสองพี่น้องมุ่งหน้าเข้าไปหาน้ำวนสีเลือดเช่นกัน
พลังฝึกปรือของนางแม้จะสู้หลัวจื้อเทาไม่ได้ และไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเหมือนกงจักรสุริยันคอยคุ้มกัน แต่การใช้กระบี่กาลเคลื่อนคล้อยทำลายเขตแดนมายาอย่างช้าๆ เมื่อครู่ ทำให้นางชิงโอกาสได้ก่อนจอมยุทธ์จากสำนักแสงสว่างหลายส่วน ในตอนนี้ยังมีโอกาสอยู่
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาที่คลุ้มคลั่ง ก็ยังทำให้พวกเขาเกือบสิ้นชีวิต
ขนาดคังฮูหยินที่เยือกเย็นและแน่วแน่มาแต่ไหนแต่ไร ในตอนนี้ยังเกิดความรู้สึกเสียใจ
เสียใจที่ไฉนตนถึงเข้ามาในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
ตอนแรกต้องการหาโอกาสกำหนดที่ตายให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ สุดท้ายกลับพลั้งพลาด ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
เพียงแต่ในตอนนี้คิดเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์ ความเร่งด่วนเฉพาะหน้าคือการหาทางทะลวงออกไป
นางไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงคนเดียว คังจิ่นหยวนกับคังเม่าเซิงในตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันกับนาง หากนางหนีออกไปไม่ได้ พวกเขาสองคนก็ต้องตายไปด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ร่างเหาะขึ้นด้านบน ข้ามผ่านมิติเวลา กลับสู่โลกซ้อนโลกผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
ขณะกำลังหลุดจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ เยี่ยนจ้าวเกอก็หันหน้าไปมอง เห็นน้ำวนสีเลือดนั้นถล่มลงอย่างรวดเร็ว เข้าสู่การพังพินาศโดยสมบูรณ์
ในตอนที่มิติเวลากำลังบิดเบี้ยว ก็เกิดเส้นทางที่เหมือนกับท่อลำเลียงเส้นหนึ่งตรงจุดที่เชื่อมกับบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
เพราะการกระแทกกระทั้นจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา พวกหลัวจื้อเทากับคังฮูหยินไม่เพียงแต่ไม่อาจร่วมมือกันทะเลวงด่านได้ กลับกลายเป็นสถานการณ์ที่มีเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่รอดไปได้เท่านั้น
โอกาสมีเพียงพริบตา หากพลาดก็จะหายไปทันที
หากลังเลเพียงเล็กน้อย ก็เป็นไปได้ว่าจะมีแค่ฝ่ายหนึ่งที่รอด อีกฝ่ายหนึ่งตกตาย
หลัวจื้อเทากับคังฮูหยินสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พุ่งไปหาประตูบานสุดท้ายที่กำลังจะปิดอย่างตาลีตาเหลือก
คังฮูหยินใช้เกราะฟ้าดินป้องกันการกระแทกจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา เจตจำนงจากกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของตัวเองแสดงความสามารถถึงขีดสุด ประกายกระบี่เหมือนกับลำธาร เกือบทะลุน้ำวนสีเลือด
คัมภีร์นภากาลเวลา หนึ่งในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน วิชาสายหยกพิสุทธิ์ เมื่อมาอยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษในตอนนี้ ความน่าอัศจรรย์ของมันถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจนที่สุด
คังฮูหยินที่ไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีพลังฝึกปรือต่ำกว่าขั้นหนึ่ง กลับเร็วกว่าหลัวจื้อเทาครึ่งก้าว!
หลัวจื้อเทาสีหน้าไร้อารมณ์ ดวงตาปรากฏประกายเย็นเยียบ
แสงสว่างไร้ประมาณสาดออกมา ดวงอาทิตย์สีทองดวงหนึ่งตกใส่ด้านหลังของคังฮูหยินอย่างสะเทือนเลือนลั่น!
เกราะฟ้าดินที่เดิมทีแบกรับภาระหนักไม่ไหวแตกร้าวทันที ท่าร่างของคังฮูหยินชะงัก ร่างเกือบถูกกระแสปั่นป่วนด้านในน้ำวนสีเลือดฉีกกระชาก การเคลื่อนไหวพลันเชื้องช้าลง
หลัวจื้อเทาฉวยโอกาสเร่งความเร็ว พุ่งไปที่ช่องบนบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
คังฮูหยินไม่มีเวลามาเคียดแค้นตกใจ ได้แต่พุ่งเข้าหาช่องนั้นสุดกำลัง
ที่ด้านหลังของพวกเขา น้ำวนสีเลือดเริ่มสูญสลายแล้ว!
‘ใครจะเร็วกว่า?’ เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทันได้ดูผลลัพธ์ ตัวเขาก็ถูกบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่สั่นไหวดีดออกไปเสียแล้ว
เบื้องหน้าเป็นท้องฟ้าคราม ดวงดาวบนศีรษะสว่างไสว เป็นภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของโลกซ้อนโลกนั่นเอง
เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ทันได้ตั้งหลัก ร่องแยกมิติที่ส่งแสงระยิบระยับด้านหลังกำลังบิดเบี้ยว ฟ้าดินของโลกซ้อนโลกตรงหน้ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากมายโผล่ขึ้น
บริเวณรอบๆ กลับมียอดฝีมือระดับสุดยอดหลายคนกำลังหยั่งเชิงกันอยู่ ตอนนี้ถูกความผิดปกติของบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ดึงดูดความสนใจไว้
…………………………..