เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเหล่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็มั่นใจ
ไม่เพียงพวกหลัวจื้อเทาและถานจิ่นที่เป็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างเท่านั้น คังฮูหยินสามแม่ลูกและเขาต่างหายสาปสูญไปเป็นเวลานาน
ยอดฝีมือจากแต่ละที่ซึ่งพอจะรู้ตำแหน่งของทุกคนคร่าวๆ ต่างรวมตัวกันบนดินแดนหลวนเซียง เพื่อตามหาพวกนาง
บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เกิดความผิดปกติ กลายเป็นเขตแดนมายา ทำให้ประตูร่องแยกมิติของที่นี่หายไปด้วย
ยอดฝีมือจากแต่ละที่ซึ่งมาสนับสนุนโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังกริ่งเกรงกันและกัน จึงยื้อยันกันอยู่บนดินแดนหลวนเซียง ไม่มีใครกล้าวู่วาม
ตอนนี้ขณะเห็นบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ทุกคนพลันรู้สึกตัว ความสนใจต่างอยู่ที่นี่
เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง กลิ่นอายที่แข็งแกร่งที่สุดมีสองสาย เป็นปราณกระบี่ทั้งคู่
สายหนึ่งยิ่งใหญ่ทรงพลังเหมือนกับมหาสมุทร
สายหนึ่งไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด สะท้อนถึงความน่าอัศจรรย์ของกาลเวลา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นยอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ทางหนึ่งคือกู้หง ผู้คุ้มหอกระบี่ทะเลเหนือ ส่วนทางหนึ่งเป็นคนในสิบกระบี่ผู้วิเศษ
กู้หงก่อนหน้านี้ถูกยอดฝีมือฝีมือจากแต่ละพรรครุมจู่โจมได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้หายดีแล้วหรือไม่ยังบอกไม่ได้ คนที่มาสมควรเป็นเฮ่อตงเฉิง ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนอกจากคังผิงกับกู้จางอีกคน
นอกจากกู้หงกับเฮ่อตงเฉิงแล้ว ใกล้ๆ ยังมีกลิ่นอายของยอดฝีมือด้านวรยุทธ์คนอื่นปรากฏขึ้นด้วย
หนึ่งในนี้ยังมีคนของสำนักแสงสว่าง และจอมยุทธ์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง
ครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกออกมา พวกกู้หงก็ชะงักไป
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ทราบสถานการณ์ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ต่างคนต่างมาเพื่อตามหาคน
เยี่ยนจ้าวเกอเมื่อเห็นกู้กง ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่เมื่อคิดดูอีกที ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
กู้หงมายังที่นี่ ก็เพราะได้รับการไหว้วานจากสำนักแสงสว่าง
ถึงแม้ว่าเรื่องที่หนงอวี่ซวนสวมรอยในเหตุการณ์ค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ จะทำให้หอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักแสงสว่างไม่พอใจกัน แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ไม่ได้เป็นศัตรูคู่อาฆาต เหมือนสำนักแสงสว่างและสำนักความมืด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้ว่าสำนักแสงสว่างต้องจ่ายอะไรเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับหอกระบี่ทะเลเหนือดีขึ้น แต่ก็คงจะไม่ได้มีน้อยแน่
หนงอวี่ซวนตายไปแล้ว หอกระบี่ทะเลเหนือให้อภัยสำนักแสงสว่าง ถือว่ามีเหตุผลและเห็นแก่น้ำใจ
ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแม้ตอนนี้จะลดธงรบหยุดตีกลองศึก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประมุขอาคเนย์ ก่อนจะถึงเวลานั้นไม่มีใครทราบว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ทุกคนไม่แน่ว่าจะยังมีเวลาร่วมมือกันต้านศัตรู น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า สำนักแสงสว่างตั้งใจคืนดี หอกระบี่ทะเลเหลือก็ออกตัวช่วยอีกแรง
“เยี่ยนจ้าวเกอ?!” จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างเห็นเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัวขึ้น จิตใจก็เปลี่ยนเป็นเลวร้ายทันที
น่าเสียดาย พูดถึงด้านความสัมพันธ์แล้ว หอกระบี่ทะเลเหนือกลับใกล้ชิดเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับมหาสมุทรนั้น แผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งมาทางบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
เจตจำนงที่ยิ่งใหญ่ดุจท้องทะเลของกู้หงเข้าปะทะในทันที คุ้มกันเยี่ยนจ้าวเกอ ขวางอีกฝ่ายเอาไว้
“สหายน้อยเยี่ยน…” กู้หงใช้สายตาสอบถามมองเยี่ยนจ้าวเกอ
ชายหนุ่มแบมือ “พวกหลัวจื้อเทากับถานจิ่นอยู่ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ แต่ว่ากระแสปั่นป่วนของมิติเวลาด้านในนั้นในตอนนี้กำลังรุนแรง พวกเขาจะออกมาได้หรือไม่ ต้องดูความสามารถของตัวเองแล้ว”
“นอกจากนี้แล้ว ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็อยู่ด้านในเช่นกัน”
กู้หงตกใจ มองไปยังบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ เห็นด้านในนั้นกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
พริบตาต่อมาก็มีเงาคนพุ่งมาจากด้านใน สภาพทุลักทุเล กลับเป็นหลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่าง
ด้วยประสบการณ์ของหลัวจื้อเทา ตอนนี้มีความรู้สึกรอดตายจากภัยพิบัติ ในใจยังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่
ยอดฝีมือของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่นำคนมายังที่นี่ ดูเหมือนแก่หง่อม แต่ว่าลูกตาปราดเปรียวและอ่อนเยาว์เหมือนกับคนหนุ่ม เป็นยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น
หลังจากเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทาออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ แต่ไม่เห็นเงาของคังฮูหยินสามแม่ลูก ก็อดร้อนรนขึ้นมาไม่ได้
เขากระตุ้นประกายกระบี่ พิรุณแสงตกลงมามากมาย ‘หยาดฝน’ กระจายไปทั่ว มิติกำลังเสื่อมสลาย
กู้หงกระตุ้นพลังฝึกปรือของตัวเองถึงขีดสุดท่ามกลางเสียงกู่ร้อง
ปราณกระบี่ยิ่งใหญ่กลายเป็นมหาสมุทรไร้ขอบเขต ลอยนิ่งอยู่กลางท้องฟ้า คลื่นน้ำสูงเท่านภา เข้าปะทะกับอีกฝ่าย
ครั้นเห็นเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทาหลุดออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อย่างปลอดภัยแล้ว กู้หงก็ไม่คิดสู้ต่อ แต่นำทุกคนสู้พลางถอยพลาง
หลัวจื้อเทาแม้จะออกมาจากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ได้ แต่ก็อ่อนระโหยโรยแรง มาตรว่าจะมีกงจักรตะวันอยู่ในมือ แต่ก็ไม่อาจเข้าร่วมการต่อสู้ของยอดฝีมือในขั้นสะพานเซียนได้อีก
ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมียอดฝีมือมากมาย ถ้าหากมีกองกำลังเสริม พวกเขาก็ได้แต่รับมือด้วยความอิดโรย
นอกจากนี้เมื่อเห็นหลัวจื้อเทามองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยใบหน้าเคียดแค้น กู้หงก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา
เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจ หลังจากมองหลัวจื้อเทาด้วยรอยยิ้มแล้ว ก็หันไปมองบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์อีกครั้ง
เฮ่อตงเฉิงเป็นห่วงทางบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เช่นกัน เห็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับกู้หงถอยไป กลับโล่งใจลง รีบพุ่งไปยังร่องแยกมิตินั้น
ร่องแยกมิติที่เปล่งแสงระยิบระยับกำลังบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ประกายแสงส่องสว่างอย่างแปลกประหลาด
ทันทีที่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของมิติ สีหน้าของเฮ่อตงเฉิงก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เขารู้สึกได้ว่า ด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ไม่เพียงแต่เชื่อมไปยังโลกเบื้องล่างใบหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเชื่อมต่อกับเขตแดนมิติเวลาอันเป็นเอกเทศแห่งหนึ่งด้วย
และเขตแดนของมิติเวลานั้น ในตอนนี้พังทลายลงไปโดยสมบูรณ์แล้ว อานุภาพอันน่าสะพรึงทำให้เฮ่อตงเฉิงที่อยู่ในขั้นสะพานเซียนยังรู้สึกหวาดกลัว
สิ่งที่ทำให้เขาร้อนใจยิ่งกว่าก็คือ ถ้าหากว่าคังฮูหยินสามแม่ลูกอยู่ด้านในเขตแดนมิติแห่งนั้น ตอนนี้ต่อให้เขาพุ่งเข้าไปในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก็ช่วยเหลือไม่ทันกาลอยู่ดี เขตแดนมิติแห่งนั้นได้พินาศลงแล้ว
เฮ่อตงเฉิงกำลังคิดจะพยายามเป็นครั้งสุดท้าย กลับเห็นประกายกระบี่ที่พร่างพราวถึงขีดสุดสายหนึ่ง พุ่งออกมาจากด้านในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
หลัวจื้อเทามองประกายกระบี่สายนั้น ใบหน้าฉายแววตกใจ
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกเหนือความคาดหมายเช่นกัน ตามความเข้าใจของเขา น้ำวนสีเลือดนั้นจะพังทลายอย่างรวดเร็ว ระหว่างฝ่ายหลัวจื้อเทากับฝ่ายคังฮูหยิน จะมีแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่หนีออกมาได้
กระนั้นพอเห็นประกายกระบี่ที่พร่างพราวถึงขีดสุดนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้
เมื่อได้รับกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยจากคัมภีร์นภากาลเวลา ประกายกระบี่จะคงอยู่ชั่วกัลปาวสาน ยิ่งการฝึกปรือลึกล้ำเท่าไร ประกายกระบี่ก็ยิ่งบริสุทธิ์เท่านั้น เหมือนกับดวงจันทร์ไร้ร่องรอย
เหมือนกับความเจิดจ้าในตอนนี้ ความจริงแล้วเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา
สว่างในชั่วพริบตาเหมือนกับดาวตก
ภายใต้การนำของกู้หง ทุกคนไม่ได้หยุดนิ่งอยู่นาน ผละไปอย่างรวดเร็ว
ทางราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเหมือนถูกพันแข้งพันขาไว้ พวกเฮ่อตงเฉิงจึงไม่ได้ไล่ตาม
หลังจากออกห่างมาจากดินแดนหลวนเซียงแล้ว กู้หงก็มองเยี่ยนจ้าวเกอกับหลัวจื้อเทา “ทั้งสองท่าน เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“จะว่าไป เจ้าสำนักหลัวกลายเป็นปลาติดรากแหไปด้วยแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอบรรยายอย่างง่ายๆ “ข้ามาทำธุระที่บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสถานและคนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะมาที่นี่ด้วย”
“ทั้งสองฝ่ายคิดจะจัดการข้า ข้าย่อมไม่อาจนั่งรอความตาย จึงใช้ประโยชน์จากบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์รับมือพวกเขา”
เยี่ยนจ้าวเกอมองหลัวจื้อเทา “ตอนที่เห็นพวกเจ้าสำนักหลัว ข้าถึงได้รู้ว่าพวกผู้อาวุโสถานมาที่นี่เพื่ออะไร”
เขาหัวเราะขึ้น “แน่นอนว่าข้าไม่แน่ใจ ถ้าหากข้ารู้แต่แรก ข้าคงจะขวางทางกลับสู่โลกซ้อนโลกไว้ ดังนั้นหากพูดเรื่องผลลัพธ์แล้ว ก็ไม่มีอะไรต่างกันนัก”
………………..