ด้านในจวนตระกูลเซี่ย ครั้นชายหนุ่มอาภรณ์ดำกล่าวจบ ก็ไม่รอช้า ต่อยหมัดหนึ่งใส่ชายหนุ่มผอมสูงที่อยู่ตรงข้ามทันที
ลมพัดโหม จวนตระกูลเซี่ยและเมืองตกวาฬเหมือนกับสั่นสะเทือนเล็กน้อย
แต่ว่าพลังที่อยู่ด้านในหุบลงรวมกันเป็นจุดเดียวอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้น
รอบๆ ชายหนุ่มผอมสูงที่สวมอารภรณ์ขาวเสื้อคลุมน้ำเงิน ยังมีจอมยุทธ์เมืองตกวาฬมากมายที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในตระกูลเซี่ย เพื่อร่วมกันพิสูจน์เรื่องนี้
ในพริบตาที่ชายหนุ่มอาภรณ์ดำลงมือ พวกเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเงาดำอันพรั่นพรึงที่รุนแรงครอบคลุมจิตใจ เหมือนกับทุกคนกำลังจะถูกชายหนุ่มอาภรณ์ดำสังหารในหมัดเดียว
แต่ว่าหลังจากพลังหมัดรวมเป็นจุดเดียว ทุกคนก็ผ่อนคลายลง แต่ยังคงมองการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มอาภรณ์ดำไม่ออก
ทุกคนจิตใจสั่นสะท้าน ‘เป็นยอดฝีมือจริงๆ ด้วย!’
เซี่ยเลี่ยงประมุขตระกูลเซี่ย และผู้อาวุโสพรรคลมหายใจวาฬที่อยู่ด้านข้างเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้ยังรู้สึกตาพร่า
พวกเขารู้ว่าต่อให้ร่วมมือกัน ก็รับหมัดนี้ของชายหนุ่มอาภรณ์ดำไม่ได้!
‘หรือว่า…’
ทุกคนเพิ่งคิดได้แค่ครึ่งทาง พลันเห็นภาพรอบๆ เหมือนกับหยุดลง
ชายหนุ่มอาภรณ์ดำที่ก่อนหน้านี้มองการเคลื่อนไหวกับท่าร่างไม่ออก ปรากฏตัวในสายตาของทุกคน ราวกับหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ
ชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้นยกมือข้างหนึ่งขึ้นอย่างเรียบเฉย ยื่นฝ่ามือออกไปด้านหน้า ป้องกันหมัดอันรุนแรงชนิดทำลายศิลาสะท้านฟ้าของชายหนุ่มอาภรณ์ดำเอาไว้
หมัดนี้ถ้าหากใช้โจมตีเมืองตกวาฬ ก็เป็นไปได้ว่านอกจากจวนตระกูลเซี่ยแล้ว ป้อมปราการจะถูกทำลายไปด้วย
หากรวบรวมพลังจู่โจมจวนตระกูลเซี่ย จวนตระกูลเซี่ยอาจจะกลายเป็นที่รกร้าง
แต่ว่าหมัดนี้กลับถูกชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้นรับไว้อย่างง่ายดาย
แววตาของชายหนุ่มอารภรณ์ดำปรากฏความตื่นตระหนก
เขารีบเปลี่ยนกระบวนท่า ทว่าอีกฝ่ายกลับเร็วกว่า หลังจากใช้ฝ่ามือปัดหมัดของเขา ก็เปลี่ยนฝ่ามือเป็นนิ้ว จิ้มใส่กลางคิ้วของเขา
ชายหนุ่มอาภรณ์ดำถูกกระแทกถอยหลัง อีกฝ่ายตามติด พลันเปลี่ยนจากป้องกันเป็นจู่โจม สภาวะฝ่ามือต่อเนื่องไม่ขาดสายเหมือนกับแม่น้ำใหญ่
ภายใต้การกดดัน พลังของชายหนุ่มอาภรณ์ดำผู้นั้นกระจัดกระจายเล็กน้อย ไม่อาจรวบรวมพลังของตัวเองได้
ญาณจริงแท้อันบ้าคลั่งกลายเป็นลมกรรโชกหลายสาย เริ่มกระจายออกไปรอบๆ แม้จะเป็นแค่คลื่นหลงเหลือจากพายุอันน่ากลัวนี้ คนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์หากโดนเข้าก็มีแต่ทางตายสถานเดียว
แต่ว่าชายหนุ่มผอมสูงที่สวมอาภรณ์ขาวเสื้อคลุมน้ำเงินผู้นั้น ภายใต้การครอบคลุมของสภาวะฝ่ามือ กลับพันธนาการลมคลั่งเหล่านั้นอย่างหนาแน่น ทำให้พวกมันไม่อาจพัดกระหน่ำได้
เขาขยับทีละท่วงท่าอย่างง่ายดาย มีลำดับขั้นตอนชัดเจน
เหมือนกับตัวละครหลักในการแสดงงิ้ว แม้จะคุยกันเร็ว ทว่าแต่ละคำพูดก็ชัดแจ้งทำให้คนได้ยินเต็มสองหูและเข้าใจความหมาย
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ขอแค่พลังฝึกปรืออยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ จะมองทุกกำปั้นทุกการก้าวเท้าของเขาออก
กระนั้นการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนไม่เร็วนี้ กลับสะกดชายหนุ่มอาภรณ์ดำที่ตอนแรกเร็วเหมือนสายฟ้าฟาดไว้อย่างหนาแน่น ทำให้สภาวะหมัดของอีกฝ่ายที่คนทั่วไปรับมือไม่ทัน ช้าลงเท่ากับเขา ถึงขั้นช้ายิ่งกว่าเขาเสียอีก
เมื่อดูถึงตรงนี้ ความสูงต่ำก็ถูกกำหนดทันที
คนที่ดูอยู่รอบๆ ต่อให้สายตาแย่กว่านี้ ก็มองออกว่า แม้ชายหนุ่มอาภรณ์ดำผู้นั้นจะยโสโอหง อีกทั้งลงมือยั่วยุด้วยความมั่นใจ แต่คู่ต่อสู้ของเขาแกร่งกว่าอย่างชัดเจน!
ชายหนุ่มผอมสูงผู้นี้ดูเหมือนสงบนิ่ง และขี้ขลาด บอกปัดหลีกเลี่ยงไม่กล้าลงมือ แต่แกร่งจนน่ากลัว
การประมือของเขากับชายหนุ่มอาภรณ์ดำในตอนนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญชนิดเคลื่อนคมดาบเหลือที่ว่าง
หลังจากชายหนุ่มหนีบนิ้วกลางฝ่ามือ ใช้สภาวะหมัดหยุดชายหนุ่มอาภรณ์ดำแล้ว ก็พลันจิ้มนิ้วหนึ่งออก โดนใส่ท้องน้อยของชายหนุ่มอาภรณ์ดำพอดี
ท้ายสุด เหมือนกับกระแสน้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง พุ่งชนเขื่อนที่ขวางอยู่
เขื่อนยาวพันลี้พังทลายเพราะโพรงมด ร่องแยกเล็กๆ ร่องหนึ่งปรากฏขึ้นมาก่อน จากนั้นเขื่อนทั้งหมดก็ได้แต่พังทลายอย่างทำอะไรไม่ได้
ท้องน้อยครั้นโดนนิ้วแทงใส่ ลมหายใจของอีกฝ่ายก็ขาดห้วง ชายหนุ่มผอมสูงไม่ปราณี ตามติดด้วยฝ่ามือหนึ่งทันที
ชายหนุ่มอารภรณ์ดำถูกฝ่ามือนี้ฟาดกระเด็น สองแก้มแดงซ่าน สุดท้ายอดกลั้นไว้ไม่ไหว มีแสงสว่างขึ้นบนร่าง ช่วยเขาป้องกันการบุกจู่โจมเพิ่มอีกก้าวของศัตรู
ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าศัตรูตรงหน้านี้เพียงแต่ไม่ลงมือเท่านั้น แต่เมื่อลงมือก็คิดฆ่าคนทันที!
ชายหนุ่มอาภรณ์ดำความจริงแพ้ไปตั้งแต่โดนแทงไปหนึ่งนิ้วแล้ว แต่สภาวะฝ่ามือของอีกฝ่ายหนุนเนื่อง แสดงให้เห็นว่าคิดจะฟาดเขาให้ตาย
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำ…” ชายหนุ่มผอมสูงสวมอาภรณ์ขาวเสื้อคลุมน้ำเงินผู้นั้น ฝ่ามือพอกระแทกใส่แสงนั้น ก็ทำให้แสงสว่างสั่นไหวและแตกร้าว
กระนั้นชายหนุ่มอาภรณ์ดำก็ฉวยโอกาสนี้ หลบเลี่ยงไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว สุดท้ายหนีตายจากอันตรายตายเก้ารอดหนึ่ง
ในที่สุดเขาก็อดกลั้นไว้ไม่ไหว กระอักเลือดออกมา แก้มที่แดนซ่านพลันซีดขาวลงในชั่วพริบตา
ชายหนุ่มผอมสูงครั้งนี้สุดท้ายก็หยุดลงมือ พิจารณาขึ้นลง กล่าวอย่างสงบนิ่ง “ข้าแซ่เยี่ยนบอกว่าตราประทับตะวันจะลงมือ ก็ต่อเมื่อต้องการชีวิตคน แต่ไม่ได้บอกว่าตัวข้าหากลงมือเอง ท่านจะรอดไปได้”
ชายหนุ่มอารณ์ดำมีสีหน้าท้อแท้เล็กน้อย ดวงตาฉายแววของผู้พ่ายแพ้และรู้สึกคับข้อง
เขาสามารถเห็นความรังเกียจและความกังขาจากในดวงตาของคนที่อยู่รอบๆ ได้อย่างชัดเจน
ตนมั่นใจในพลังฝึกปรือมากเกินไป ชิงลงมือก่อน สุดท้ายกลับพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ!
ในขณะที่เสียหน้า ก็เท่ากับสารภาพออกมาเอง
เขาในสภาพนี้จะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ เจ้าชายพระอาทิตย์ผู้สยบทะเลหวงเจียได้อย่างไร?
“ท่านสวมรอยเป็นข้าแซ่เยี่ยน เรื่องไม่จบลงเพียงเท่านี้แน่ แต่ตอนนี้ข้าเป็นแขกของที่นี่ ไม่คิดจะทำให้จวนเจ้าภาพสกปรก จะให้ท่านมีชีวิตต่อไปอีกสักพัก” ชายหนุ่มผอมสูงพูดจบ ก็หันไปพยักหน้าให้กับพวกเซี่ยเลี่ยง “เสียมารยาทแล้ว”
คนที่อยู่รอบๆ วิจารณ์กันต่างๆ นาๆ “แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แต่กลับถ่อมตัว สมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง!”
“ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะเป็นเจ้าชายพระอาทิตย์จริงๆ แล้ว!”
“ถูกต้อง คนที่มีความสามารถ เหตุใดต้องยกตนตลอดเวลาด้วย”
“ข้าว่าแล้ว มีหลักฐานจากเขาโถงทองด้วย จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร”
ด้านในห้องส่วนตัวของหอสุรา เฟิงอวิ่นเซิงขำออกมา “ข้าแซ่เยี่ยนที่แท้จริงไม่ได้ถ่อมตัวเช่นนี้หรอก”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้น “พวกเจ้าคิดว่าคนผู้นี้ถ่อมตัวจริงๆ หรือ? ข้าถึงแม้ไม่อาจยืนยันวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝนได้ แต่ข้ามองออกว่าเขาตั้งใจอำพราง ออมแรงมาตั้งแต่ต้น กลัวว่าคนอื่นจะมองความเป็นมาของเขาออก”
“พูดอีกอย่างก็คือ ในเกาะอาทิตย์ตกมีคนที่อาจจะจำวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลงมือด้วยพลังทั้งหมด”
เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ทันขาด ก็เห็นผู้อาวุโสพรรคลมหายใจวาฬในภาพเหมือนแสงเงา ที่ขณะนี้นั่งอยู่ด้านข้างประมุขตระกูลเซี่ยเลี่ยงอย่างเงียบๆ มาโดย พลันเลิกคิ้วขาวขึ้น จ้องมองชายหนุ่มผอมสูงที่เพิ่งได้รับชัยชนะ
“คุณชาย…คุณชายเยี่ยน ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากให้ชี้แนะ” ผู้อาวุโสพรรคลมหายใจวาฬผู้นี้กล่าวอย่างครุ่นคิดว่า “วรยุทธ์ที่ท่านใช้เมื่อครู่ จากที่ข้าดูแล้ว รู้สึกจะเหมือนกับดัชนีฝ่ามือบรรพตธารา วรยุทธ์หนึ่งเดียวของผู้เฒ่าชางหยวนแห่งยอดเขาซ้อนมังกร ซึ่งอยู่ในเทือกเขาหยกอาทิตย์บนแผ่นดินใหญ่ทางตะวันตกไม่ใช่หรือ?”
เขามองชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้น “ข้าไร้ความสามารถ หลายปีก่อนออกจากหมู่เกาะอาทิตย์ตกเพื่อไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เคยไปถึงเทือกเขาอาทิตย์หยก ได้เห็นผู้เฒ่าชางหยวนลงมือพอดี”
ชายหนุ่มผอมสูงเอ่ยอย่างราบเรียบ “เป็นดัชนีฝ่ามือบรรพตธาราจริงๆ แต่ว่าที่บอกว่าเป็นวรยุทธ์หนึ่งเดียว ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้น
“วรยุทธ์ที่ข้าใช้ได้ มีมากมายนัก”
ผู้อาวุโสพรรคลมหายใจวาฬผู้นี้เงียบงันลง ใคร่ครวญในใจ
ตอนนั้นเอง ‘เยี่ยนจ้าวเกอ’ คนที่สามที่คอยมองดูด้วยรอยยิ้มอยู่ด้านข้างมาโดยตลอด ก็ถูมือชมเชย “มีสีสันนัก แต่ว่าควรจะหยุดเพียงเท่านี้แล้ว”
เขาผุดกายขึ้น เดินเข้าไปหาชายหนุ่มผอมสูงผู้นั้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ด้านในห้องส่วนตัวของหอสุรา ขณะเยี่ยนจ้าวเกอมองดูใบหน้าที่แทบจะเหมือนกับตัวเองนี้ ก็อดรู้สึกเสียวฟันขึ้นมาไม่ได้