นักพรตสือไม่มีสีหน้าสบายใจอีกต่อไป
ไม่เหมือนกับเสวียนมู่อ๋องที่ในตอนนั้นได้รับบาดเจ็บจากโลกแปดพิภพมาแล้ว
ไม่เหมือนกับเสวียนมู่อ๋องในตอนนั้น ที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดงเหมือนกับเยี่ยนตี๋ซึ่งเพิ่งจะลอยขึ้นมา
เสวียนเฉิงอ๋องในตอนนี้เป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางอย่างแท้จริง ทั้งยังผ่านสงครามมานับร้อย
ทว่าเยี่ยนตี๋กลับไม่พึ่งพาค่ายกล ไม่ใช้ประโยชน์จากชัยภูมิ ไม่อาศัยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง
ดาบยาวในมือของเขาก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง ดาบสวรรค์มังกรทะยานที่ตนได้หลอมขึ้นมาใหม่ในตอนที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดง
อาศัยแค่พลังของตัวเอง หนึ่งคนหนึ่งดาบ เล่นงานเสวียนเฉิงอ๋องจนต้องถอยติดต่อกัน!
เห็นเยี่ยนตี๋ได้เปรียบแล้วไม่ปราณี ดาบกลายเป็นสายโซ่ เคลื่อนไปด้านหน้า เหมือนกับคลื่นแห่งยุคสมัยม้วนพัดฟ้าดิน ไม่อาจหยุดยั้ง
เขาก้าวเท้าออก เข่นฆ่ามาถึงเบื้องหน้าเสวียนเฉิงอ๋องในชั่วพริบตา แล้วฟันดาบหนึ่งใส่อีกครั้ง!
เสวียนเฉิงอ๋องในตอนนี้ปั้นพระพักตร์เคร่งขรึม
ไม่ว่าจะเป็นความดูแคลนหรือความประมาท ล้วนหายไปหมดสิ้น
ความพิโรธและความเคียดแค้นที่โอรสถูกสังหาร ถูกกำจัดทิ้งเช่นกัน
การแยกแยะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและอารามณ์ด้านลบทางจิตใจทั้งหมด ในตอนนี้ถูกเสวียนเฉิงอ๋องสลัดทิ้งออกไปจากจิตใจ
เหลือแต่ความเยือกเย็นและความตั้งใจในตอนที่ยอดฝีมือคนหนึ่งเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอีกคน
เมื่อทอดพระเนตรเห็นเยี่ยนตี๋ไล่ตามโจมตีมาถึงเบื้องหน้า เสวียนเฉิงอ๋องก็รวบรวมสมาธิเตรียมตัว ไม่หลบหลีก ใช้พระวรกายของตัวเองปะทะกับดาบของอีกฝ่ายตรงๆ!
บนพระวรกายของพระองค์พลันมีแสงสว่างขึ้น เกราะรบชิ้นหนึ่งช่วยพระองค์ป้องกันคมดาบของเยียนตี๋
บนเกราะสลักลวดลายของเจ็ดวิหค มีห้าอัคคีลุกท่วม
เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นหนึ่ง!
แม้ว่าเสวียนมู่อ๋องจะถูกชิงหอกราชาลี้ลับไป แต่การเสด็จกลับทะเลหวงเจียในครั้งนี้ของเสวียนเฉิงอ๋อง ได้นำเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคกลับมาด้วย!
มันกับหอกราชาลี้ลับดึงจุดเด่นในด้านการโจมตีและการป้องกันของกันและกันออกมา เสวียนเฉิงอ๋องรอวันนี้มาโดยตลอด นอกจากจะสังหารเยี่ยนตี๋และทั่วทั้งเขากว่างเฉิงแล้ว ยังต้องการชิงหอกราชาลี้ลับกลับไปด้วย
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนแสดงพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม เกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคที่อยู่บนพระวรกายของเสวียนเฉิงอ๋องแสดงพลังป้องกันที่น่าตกตะลึงออกมา
ขณะที่ปะทะกับดาบของเยี่ยนตี๋ เสวียนเฉิงอ๋องก็แทงหอกหนึ่งใส่ทรวงอกของเยี่ยนตี๋ในทันที!
ในระยะห่างที่ใกล้กันขนาดนี้ พระองค์มีความเร็วสูงยิ่ง กำปั้นที่เหมือนกับปลายหอก พุ่งเข้าหาทรวงอกของเยี่ยนตี๋ในชั่วพริบตาเดียว
มือซ้ายที่ว่างเปล่าของเยี่ยนตี๋ยื่นออกมาดุจสายฟ้าแลบ จับพระกรของเสวียนเฉิงอ๋อง หยุดไม่ให้คมหอกของอีกฝ่ายเคลื่อนที่มาด้านหน้าต่อ
ทว่าเปลวเพลิงที่น่ากลัวนั้นได้กลายเป็นคมหอก หมายจะแทงทะลุร่างของเขา
เยี่ยนตี๋ไม่เกรงกลัว พ่นลมหายใจตะโกนออกมา
ท่ามกลางเสียงตวาด แสงสีขาว เขียว ดำ แดง เหลืองสว่างขึ้นบนลำตัวของเขา
มาจากอวัยวะภายในทั้งห้าของเขาเอง
ด้านในหัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไตของเยี่ยนตี๋ เหมือนกับมีวิญญาณเทพห้าตน จักรพรรดิห้าพระองค์สถิตอยู่
พลังแห่งห้าธาตุ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดินหมุนวน พลังชีวิตก่อกำเนิด พลังป้องกันและพลังฟื้นฟูที่กล้าแข็งแสดงความสามารถ ต้านทานการโจมตีของเสวียนเฉิงอ๋อง!
คัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิต ร่างมหาเซียนปัญจธาตุ!
เสวียนเฉิงอ๋องตกพระทัย เยี่ยนตี๋สบตากับอีกฝ่ายอย่างเย็นชา มือขวาพลิกดาบยาวครั้งหนึ่ง ฟันใส่แขนของศัตรูที่มือซ้ายจับไว้!
“เปิด!” เสวียนเฉิงอ๋องตวาดเสียงต่ำ พลังป้องกันของห้าอัคคีเจ็ดวิหครวมตัวกันบนปลอกแขน ป้องกันดาบของเยี่ยนตี๋อีกครั้ง
พระองค์เองใช้อีกมือหนึ่งแสดงวิชาหอก จากด้านล่างเหมือนมีมังกรร้ายออกถ้ำ โถมใส่เยี่ยนตี๋
เยี่ยนตี๋ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นถีบใส่ข้อศอกของเสวียนเฉิงอ๋อง
ไม่ใช่แค่วิชาดาบเท่านั้น ทุกกระบวนท่าทุกการเคลื่อนไหวของเยี่ยนตี๋ เหมือนกับรวบรวมสภาวะยิ่งใหญ่ของฟ้าดิน ทำลายทุกสิ่งที่ขัดขางตัวเอง
หลังจากป้องกันการโจมตีจากเสวียนเฉิงอ๋องแล้ว เยี่ยนตี๋ก็ปล่อยพระกรอีกข้างของเสวียนเฉิงอ๋อง จากนั้นก็หมุนร่างครั้งหนึ่ง
ดาบสวรรค์มังกรทะยานถูกชูสูง ครั้งนี้เยี่ยนตี๋ใช้สองมือถือดาบ ฟันใส่พระเศียรของเสวียนเฉิงอ๋อง!
ท้องฟ้าเหนือดินแดนจิตคุณธรรมในตอนนี้เหมือนถูกทำลาย มวลเมฆกระเพื่อม ฟ้าดินทั้งหมดราวกับถูกบดขยี้เป็นเสี่ยงๆ
ทิวทัศน์ยังคงเป็นทิวทัศน์ดั่งเดิม แต่แยกกันเป็นชิ้นๆ
เหมือนกับฟ้าดินแห่งนี้เป็นภาพวาดที่อยู่บนเครื่องลายคราม
และในตอนนี้ เครื่องลายครามก็แตกออกแล้ว
ชิ้นส่วนของฟ้าดินแยกออกเป็นสองทางตามคมดาบของเยี่ยนตี๋ จากนั้นก็ถูกม้วนพัด ห่อหุ้มอยู่ด้านหลังคมดาบ ติดตามคมดาบนี้ฟันใส่เสวียนเฉิงอ๋อง!
เสวียนเฉิงอ๋องทรงครางหนักๆ คำหนึ่ง พลังป้องกันของเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคถูกกระตุ้นถึงขีดสุด
หอกยาวซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น พระองค์ขวางหอก ก่อนจะยกขึ้นเหนือพระเศียร เสริมพลังวิญญาณของเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคเข้าไป ต้านทานดาบนี้ของเยี่ยนตี๋
ท่ามกลางเสียงระเบิด ธารอัคคีไร้สิ้นสุดกับปราณดาบกระจายออกไปรอบๆ
ท้องทะเลบนดินแดนจิตคุณธรรมที่เดิมทีสับสนปั่นป่วน ครั้งนี้ถูกพัดจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ
ใจกลางที่พลังไหลรวมกัน หอกในพระหัตถ์ของเสวียนเฉิงอ๋องแยกจากหนึ่งเป็นสอง หักเป็นสองท่อน!
ตัวพระองค์แม้จะมีเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคคอยปกป้อง ทว่าเลือดลมต่างพลุ่งพล่าน ถูกกระแทกถอยไปด้านหลัง
อีกด้านหนึ่ง กู้จางกับเฮ่อตงเฉิงไม่ได้สอดมือการต่อสู้ระหว่างเยี่ยนตี๋กับเสวียนเฉิงอ๋อง แต่ว่าพุ่งเข้าหาเขากว่างเฉิงอีกครั้ง
บนเขากว่างเฉิง แสงสว่างจากค่ายกลเทพไท่อี้ถล่ทลายสว่างขึ้นอีกครั้ง พุ่งไปยังหมู่เมฆา
นักพรตสือเห็นดังนั้นก็ไม่สนใจทางเยี่ยนตี๋กับเสวียนเฉิงอ๋องอีก แต่ตั้งใจพิจารณาค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย
เขาเคยศึกษาผังค่ายกลไม่สมบูรณ์มาอย่างละเอียด อีกทั้งยังสนิทสนมกับผู้วิเศษเซิงที่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลา ในตอนนี้ครั้นเห็นค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย ก็พลันมองเบื้องหลังออกไม่น้อย
นักพรตสือกางสองมือออก เขียนเป็นลวดลายอาคมที่ลี้ลับจำนวนนับไม่ถ้วนกลางอากาศในชั่วพริบตาเดียว
ลวดลายอาคมตัดสลับกัน กลายเป็นค่ายกลวิญญาณขนาดยักษ์
น่านน้ำของสถานที่ต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ดินแดนจิตคุณธรรมบนทะเลหวงเจียเช่นดินแดนภูผาสงัด ในตอนนี้มีแสงวิญญาณหลายสายปรากฏขึ้น
แสงวิญญาณเหล่านี้ปกคลุมดินแดนจิตคุณธรรม ประสานกับลวดลายค่ายกลที่นักพรตสือเขียนขึ้น
วินาทีต่อมา ค่ายกลที่กินพื้นที่ใหญ่กว่าดินแดนจิตคุณธรรมมหาศาลก็กลายเป็นรูปเป็นร่างโดยสมบูรณ์ บรรจุทุกคนไว้ด้านใน
แผ่นดินที่ก้นทะเลสั่นไหว สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งมุดออกมาจากก้นทะเล จากนั้นก็ข้ามน้ำทะเล ลอยขึ้นบนผิวน้ำ
นั่นเป็นเต่าตัวหนึ่ง มีสีดำแดง มีหัวเป็นนก มีหางเป็นตัวหุ่ย
มันมีชื่อว่าเต่าปูลู เป็นเผ่าพันธ์ปีศาจที่หาได้ยากยิ่ง
เต่าปูลูตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณและพาหนะที่นักพรตสือเลี้ยงไว้
มันปรากฏตัวขึ้น ลวดลายหลายกลุ่มบนกระดอง สลักร่องรอยของกาลเวลาเอาไว้
ในตอนนั้นเองบนกรอดองเต่ามีลวดลายค่ายกลสว่างขึ้น ประสานกับค่ายกลที่ครอบคลุมเขากว่างเฉิงอยู่
กลุ่มแสงสีดำแดงหลายสายแผ่กระจายไปทั่วฟ้าดิน ชอนไชกัดกร่อนแสงสีขาวที่เกิดจากค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายไม่หยุด
เนื่องจากผลของค่ายกลนี้ พลังของค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายเริ่มเปลี่ยนจากโชติช่วงเป็นเสื่อมโทรม ค่อยถูกบีบอัดและทำลาย!
เมื่อไม่มีการสะกดจากค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่มีกู้จางกับเฮ่อตงเฉิงเป็นผู้นำ ก็พลันปลดเปลื้องพันธนาการ เริ่มโจมตีใส่สำนัก
ทว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถือหอกราชาลี้ลับ มาขวางอยู่บนเส้นทางของกู้จาง
จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงที่เหลือเองก็ไม่ได้สับสน ร่วมมือกันหยุดเฮ่อตงเฉิงกับยอดฝีมือแห่งต้าเสวียนที่เหลือ สถานการณ์รบพลันเปลี่ยนเป็นดุเดือด
อีกด้านหนึ่ง เยี่ยนตี๋กวาดมองด้านล่าง จู่ๆ ก็ฟันดาบออกอย่างดุดัน กดดันเสวียนเฉิงอ๋องอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็หมุนตัวดุจสายฟ้าฟาด สาวเท้าออกก้าวหนึ่ง เข่นฆ่ามาถึงเบื้องหน้าเฮ่อตงเฉิงในชั่วอึดใจ ก่อนจะฟันออกไปหนึ่งดาบ!
เฮ่อตงเฉิงตื่นตระหนก ความสามารถในการตัดสินใจอันแม่นยำทำให้เขาไม่กล้าชักช้า ละทิ้งคู่ต่อสู้ที่เหลือทันที จากนั้นก็กลายร่างเป็นลำแสง หลบไปด้านข้าง
ทว่าเยี่ยนตี๋ฟันดาบเบิกฟ้ามา เฮ่อตงเฉิงยังคงครางหนักๆ คำหนึ่ง
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำนั้น พลันถูกย้อมด้วยสีโลหิตชั้นหนึ่ง!