กวนลี่เต๋อ ผู้วิเศษเซิง เสวียนเฉิงอ๋อง คังผิง เหล่ายอดฝีมือระดับสุดยอดต่างก็เสียชีวิตติดต่อกัน
ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแม้จะยังเหลือยอดฝีมืออย่างนักพรตสือ เฮ่อตงเฉิง และกู้จางคอยนำทัพ ทว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้ถูกกำหนดแล้ว
ด้วยการผนึกกำลังของนักพรตสือ เฮ่อตงเฉิง และกู้จาง หากเป็นในอดีตก็ย่อมกวาดล้างขุมกำลังใดๆ ในทะเลหวงเจียได้
อาศัยเพียงระดับค่ายกลของนักพรตสือ ถึงเกาะมนุษย์สำริดที่มีชัยภูมิด้านการป้องกันเป็นอันดับหนึ่งจะยังคงอยู่ ก็ไม่อาจต้านกีบเท้าเหล็กของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องได้
แต่ว่าความพ่ายแพ้ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกลับถูกกำหนดที่ใต้ตีนเขากว่างเฉิง
แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะต้องออกจาการต่อสู้เนื่องจากสูญเสียพลังมากเกินไป ทว่าอาศัยแค่เหล่ายอดฝีมือในเขากว่างเฉิงที่มีเยี่ยนตี๋เป็นผู้นำ ก็สามารถกวาดล้างศัตรูที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว
อีกทั้งพวกนักพรตสือ เฮ่อตงเฉิงได้รับบาดเจ็บ คิดหนีจึงเป็นเรื่องที่ยากเย็น
ในห้วงคับขัน พวกเขาคิดจะส่งกู้จางไป
กู้จางเองก็ฝึกฝนกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยเช่นเดียวกัน ประกายกระบี่ตึงมีความเร็วสูงยิ่ง
กระนั้นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ควบคุมหอกราชาลี้ลับอยู่ก็มีความเร็วไม่ด้อยไปกว่ากู้จางเลยแม้แต่น้อย ถ่วงแข้งถ่วงขาเขาไว้ ทำให้เขาไม่อาจหนีรอดได้
เยี่ยนตี๋กวาดล้างสนามรบ ดาบฟันลงที่ใดก็ปรากฏวิญญาณตายโหงที่นั่น
เป็นดังเช่นคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ คนที่มาบุกเขากว่างเฉิงในวันนี้ อย่าได้คิดหนีแม้แต่คนเดียว
ในตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้น ฟ้าดินใกล้ๆ ดินแดนจิตคุณธรรมสุดท้ายก็ค่อยๆ คืนสู่ความสงบ
ทว่าสภาพกลับเละเทะไม่มีชิ้นดี
โลกซ้อนโลกมีเขตแดนฟ้าดิน สภาพของปราณวิญญาณและระดับความแข็งแกร่งเหนือกว่าโลกเบื้องล่างอย่างโลกแปดพิภพ และโลกผืนสมุทร
พลังที่สามารถทำลายโลกแปดพิภพได้ เมื่ออยู่ที่นี่ก็อาจจะต่อให้เกิดคลื่นมรสุมได้เช่นกัน
ทว่าการต่อสู้ในวันนี้ ยอดฝีมือมากมายลงมือพร้อมกัน สู้กันจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ
ในตอนที่คนอื่นๆ สัมผัสได้ว่าคลื่นลมทางสนามรบบนดินแดนจิตคุณธรรมสงบลงในที่สุดแล้ว ก็ถึงจะกล้าเข้าใกล้เพื่อสังเกตสถานการณ์ ทว่าทิวทัศน์ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาราวกับวันสิ้นโลก
น้ำทะเลซัดสาด กอปรกันเป็นน้ำวนขนาดยักษ์มากมาย ยึดครองผิวทะเล คลื่นน้ำสูงเทียมฟ้า
หินโสโครกที่ก้นทะเลแตกร้าวจนหมดสิ้น ลำแสงสีแดงกระจายไปทั่วก้นทะเล ไหลเวียนและส่องแสงระยิบระยับอย่างต่อเนื่อง พวยพุ่งออกมากลายเป็นเปลวเพลิง
ร่องแยกของมิติหลายสายบนท้องฟ้า ในตอนนี้กลับเริ่มสมานตัวพร้อมกับบิดเบี้ยว ทว่ามองไปก็ดูน่าตกใจอยู่ดี
โจวฮ่าวเซิงเจ้าสำนักความมืดมองดูทิวทัศน์ตรงหน้า พร้อมกับสูดหายใจเย็นเยียบ “เมื่อครู่ที่นี่เกรงว่าจะน่ากลัวยิ่งกว่าตอนที่พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดรุนแรงที่สุดเสียอีก คนที่มีระดับพลังฝึกปรือไม่พอ หากเข้าไปแถวขอบสนามรบแล้วย่อมต้องโดนลูกหลง มีแต่ทางตายสถานเดียว”
ด้านข้างเขายืนไว้ด้วยผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หง “ยากจะจินตนาการจริงๆ ว่าในสถานการณ์ที่ไม่มีการช่วยเหลือจากภายนอก เขากว่างเฉิงรอดมาได้อย่างไร”
โจวฮ่าวเซิงเงียบงันไปครู่หนึ่ง “…หรือว่าจะเป็นเพราะอาวุธเซียนที่องค์จักรพรรดิทิ้งเอาไว้จริงๆ”
“ไม่ทราบได้” กู้หงเอ่ยขึ้น “ตามเหตุผลแล้ว เขากว่างเฉิงน่าจะไม่มีคนที่กระตุ้นอาวุธเซียนได้ แต่ว่าถ้าหากใช้เหตุผลทั่วไปมาชี้วัดได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่เขากว่างเฉิง ไม่ใช่เจ้าชายพระอาทิตย์แล้ว”
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ชื่นชอบฉายาเจ้าชายพระอาทิตย์เท่าไรนัก แต่ว่านามนี้ก็กระจายอยู่บนทะเลหวงเจียกับเขตตะวันอาคเนย์มากที่สุด
เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ คนที่เรียกเขาเช่นนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่มีเบื้องหลังและพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ
ทว่าในตอนนี้แม้แต่กู้หงก็ยังใช้นามนี้เรียกเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
สำหรับโจวฮ่าวเซิง เขากลับไม่รู้สึกว่าไม่มีตรงไหนไม่เหมาะสม ไม่ว่าอย่างไรก็มีแต่ความเหมาะสมอย่างยิ่ง
แม้ว่าหอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักความมืดจะถูกล้างสำนักไปแล้ว แต่ยามกู้หงกับโจวฮ่าวเซิงมาถึงเขากว่างเฉิง ก็ยังคงได้รับการต้อนรับทั้งคู่
หลังจากบรรลุถึงเขากว่างเฉิง รวมถึงถามไถ่สถานการณ์อย่างละเอียดแล้ว พวกกู้หงก็ตะลึงลานกว่าเดิม
ตอนแรกพวกเขานึกว่าเขากว่างเฉิงเพียงต้านทานการโจมตีจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ปกป้องตัวเองได้เท่านั้น
ตอนนี้จึงค่อยทราบว่าเขากว่างเฉิงไม่เพียงแต่รอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ไปได้เท่านั้น ยังกระทืบอีกฝ่ายไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วย!
เฮ่อตงเฉิง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น
กู้จาง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น
คังผิง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นสะพานเซียนระยะต้น ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน
นักพรตสือ จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น หนึ่งในปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับสุดยอด
เสวียนเฉิงอ๋อง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง เกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหค
ยังมีผู้วิเศษเซิงที่ก่อนหน้านี้ใช้หนึ่งหอกหนึ่งม้าทำลายหอกระบี่ทะเลเหนือและสำนักความมืด คล้ายกับฝันร้ายสำหรับกู้หงและโจวฮ่าวเซิง
นอกจากนี้แล้วยังมีคนที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกกู้หง นั่นคือฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อ ซึ่งอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย หนึ่งในยอดฝีมือที่มีอยู่ไม่กี่คนบนเขตตะวันอาคเนย์
กองทัพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ นอกจาเขาโถงทองแล้ว ทั่วทั้งเขตตะวันอาคเนย์จะมีใครบ้างที่สู้ได้
ทว่ายอดฝีมือเหล่านี้ ล้วนตายอยู่ใต้ตีนเขากว่างเฉิง ทั้งหมดต่างถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สังหาร!
คนที่มาบุกเขากว่างเฉิง ล้วนพินาศจนสิ้น!
ยอดฝีมือระดับสุดยอดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่บนทะเลหวงเจียถูกกวาดล้าง ขอแค่เขากว่างเฉิงต้องการ สามารถไปทำลายนครหลวงต้าเสวียน มิพักเอ่ยถึงการบดขยี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง
กู้หงกับโจวฮ่าวเซิงที่คิดถึงเรื่องนี้ ต่างก็เหม่อลอยอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากหลินฮั่นหัว ตอนนี้หลินฮั่นหัวกำลังต่อสู้กับยอดฝีมือจากเขตเพลิงทักษิณอยู่
พวกกู้หงเดิมทีเป็นห่วงว่าเขากว่างเฉิงจะต้านทานได้อย่างไร และพวกเขาสมควรทำอย่างไรดี
ทว่าดูจากตอนนี้แล้ว กลับต่างไปจากความคิดของเขาโดยสิ้นเชิง
หรืออาจจะพูดว่า นี่คือภัยพิบัติที่เขากว่างเฉิงนำมามอบให้กวนลี่เต๋อกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง
เมื่อได้สติกลับมา กู้หงกับโจวฮ่าวเซิงที่เคยเป็นผู้มีอำนาจและผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดบนทะเลหวงเจีย ต่างก็สบตากันพลางยิ้มอย่างขื่นขม
หากสำนักของพวกเขาคิดจะหยั่งเท้าบนทะเลหวงเจียอีกครั้ง เกรงว่าจะต้องถามความเห็นของเขากว่างเฉิงเสียก่อน
นี่…คือผู้ปกครองคนใหม่ของทะเลหวงเจีย
ผู้ปกครองที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง!
ไม่กี่ปีมานี้ ทะเลหวงเจียสับสนปั่นป่วน เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง มีแต่เหตุการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น
ทว่ามาถึงวันนี้ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนฟ้าโดยสมบูรณ์ เหมือนกับตอนที่ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างแผ่นดินขึ้น
เพียงแต่เทียบกับอดีตมงกรดุข้ามทะเลอย่างราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องแล้ว เขากว่างเฉิงในปัจจุบันผงาดขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง แสดงแสนยานุภาพไปทั่วสี่ทะเล ทำให้ผู้คนครั่นคร้ามในเวลาแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น
ในตอนนี้กู้หงทอดถอนใจยิ่งกว่าเดิม
ที่แล้วมาหอกระบี่ทะเลเหนือของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง วิธีของเขากว่างเฉิงเองก็ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง หอกระบี่ทะเลเหนือคิดเปิดสำนักใหม่จึงมีแรงกดดันไม่มานัก
โจวฮ่าวเซิงตอนนี้ไม่อาจไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน
เขาอดสงสัยไม่ได้ ว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงมีสภาวะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เป็นเพราะกงจักรมหาประกายกาฬ
ทว่าปัจจุบันเขาได้แต่ต้องกดความสงสัยนี้ไว้ใต้จิตใจ ไม่กล้าคิดต่อไป
กลับเป็นหลังจากได้ยินว่าสำนักแสงสว่างพินาศ หลัวจื้อเทาถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหารทิ้งด้วยมือตัวเอง โจวฮ่าวเซิงที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักแสงสว่างมาโดยตลอดก็ทอดถอนใจไม่หยุด
ศัตรูที่สู้กันมาตลอดชีวิตย่อยยับเช่นนี้ โจวฮ่าวเฉิงรู้สึกซับซ้อนยิ่ง
ความยินดี ความพลุ่งพล่น ความผิดหวัง อีกทั้งยังมีความเศร้าสร้อยอยู่เล็กๆ
กระนั้นเขาก็ได้แต่เก็บอารมณ์ความรู้สึก ตั้งใจรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสำนักตนกับเขากว่างเฉิง
หลังจากสงครามนี้สงบลง ผลการต่อสู้กระจายไปทั่วทะเลหวงเจีย รวมถึงสถานที่อื่นในทะเลหวงเจีย ผู้คนต่างก็ตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน
ขุมกำลังที่ระวังตัวมากมายในทะเลหวงเจีย พากันไปยังดินแดนจิตคุณธรรม เพื่อเยี่ยมเยียนราชาองค์ใหม่ของที่นี่
ส่วนสถานที่อื่นๆ ในทะเลหวงเจีย เช่นหมู่เกาะอาทิตย์ตกและเทือกเขาอาทิตย์หยก ล้วนจับตาดูเพื่อนบ้านผู้แข็งแกร่งที่ผงาดขึ้นมาใหม่นี้
เขากว่างเฉิง บรรพบูรพาสำนักเต๋า
ในยามที่ได้ยินฉายานี้อีกครั้ง คนส่วนใหญ่ก็พลันเกิดความรู้สึกต่างไปจากครั้งก่อนๆ