คนธรรมดาไม่มีทางรู้ประวัติของใบไม้แห้งในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
เพราะมันเป็นสิ่งที่แทบจะมีอยู่แค่ในเทพนิยายปรัมปราเท่านั้น
ว่ากันว่ามีต้นผลไม้มหัศจรรย์ผลหนึ่ง เป็นต้นไม้วิญญาณที่ฟ้าดินให้กำเนิดขึ้น
สามพันปีมันถึงจะบานดอก จากนั้นอีกสามพันปีมันจะออกผล อีกสามพันปีผลจึงจะสุก
ในเวลาหนึ่งหมื่นปี มันจะออกผลแค่เพียงสามสิบผลเท่านั้น
คนที่มีวาสนาได้ดม จะอายุยืนถึงสามร้อยหกสิบปี หากได้รับประทาน จะมีอายุยืนถึงสี่หมื่นเจ็ดพันปี
ผลที่ออกมาเมื่อพบทองจะร่วงหล่น เมื่อพบไม้จะแห้งเหี่ยว เมื่อพบน้ำจะเปลี่ยนแปลง เมื่อพบไฟจะไหม้เกรียม เมื่อพบดินจะหลอมรวม
ผลชนิดนี้มีชื่อว่าผลอายุยืน เป็นผลไม้วิญญาณที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในตำนานไซอิ๋ว
เจ้าของต้นผลไม้คือบรรพบุรุษเซียนดินในตำนาน หรือเทพเจิ้นหยวนจื่อผู้คำนับฟ้าดิน ไม่คำนับสามสามพิสุทธิ์ ผู้คงอยู่พร้อมกับโลก
แม้จะบอกว่าคำนับฟ้าดิน แต่ความจริงแล้วคำนับแค่มรรคาฟ้า คำว่า ‘ดิน’ ที่เพิ่มมา หมายถึงความปรองดองของฟ้าดิน
พูดอีกอย่างก็คือ ในสายตาของบุคคลผู้ร้ายกาจท่านนี้ ‘ฟ้า’ มีค่าพอคบหากับพระองค์ ทว่า ‘ดิน’ ยังมีค่าไม่พอ
ว่ากันอย่างยุติธรรม มหาเทพเจิ้นหยวนผู้นี้เป็นหนึ่งในบุคคลที่เก่งกาจที่สุดซึ่งมีจำกัดในประวัติศาสตร์ของสำนักเต๋า และเป็นผู้มีอำนาจในเทพนิยายตัวจริง
ทว่าพระองค์กับต้นผลอายุยืนหายไปนานยิ่ง แม้จะเป็นก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็ไม่ปรากฏข่าวคราวมาเนิ่นนาน แทบจะเป็นบุคคลที่มีอยู่แค่ในตำนานโดยสมบูรณ์
ถึงอารามอู่จวงที่พำนักของเทพเจิ้นหยวนจื่อจะยังคงอยู่ แต่ก็มีลูกศิษย์แค่ไม่กี่คน
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย คนที่อยู่ในโลกซ้อนโลกในปัจจุบันก็ไม่กล้ายืนยันว่าอารามอู่จวงยังคงอยู่หรือไม่
ทว่าบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ มีรากฐานของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่งมาจากการสืบทอดส่วนหนึ่งของเทพเจิ้นหยวนจื่อ
เป็นผู้สืบทอดที่แท้จริง หรือกลายเป็นผู้สืบทอดต่างยุคสมัยหลังจากขุดค้นเจอการสืบทอดในซากโบราณสถาน กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้
บุคคลที่ยิ่งใหญ่ท่านนี้คือจักรพรรดิเอกภพกำเนิด หนึ่งในห้าจักรพรรดิ
แม้ว่าจะไม่ได้รับการสืบทอดที่แท้จริงทั้งหมดของเทพเจิ้นหยวนจื่อ ทว่าก็ปั่นป่วนใต้หล้า ถูกขนานนามพร้อมกับพวกจักรพรรดิแพร
เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอเห็นค่ายกลฟ้าดินแผ่ขยาย เขาก็สัมผัสได้ถึงวิถีการสืบทอดของอารามอู่จวงที่อยู่ด้านใน
เพียงแต่การสืบทอดของอารามอู่จวงค่อนข้างมีความพิเศษ มีการบันทึกเก็บไว้ในหอหนังสือวังเทพในอดีตอย่างจำกัด ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่กล้ายืนยันในทันที
แต่ทว่าในตอนนี้หลังจากเจอใบไม้จากต้นผลอายุยืนที่แห้งเหี่ยวใบหนึ่งด้านในถุงใส่ของของนักพรตสือ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่รู้สึกสงสัยอีก
คนที่ส่งเสวียนเฉิงอ๋อง นักพรตสือ ผู้วิเศษเซิงมาวางค่ายกลบูชาฟ้าในทะเลหวงเจีย เพื่อตามหามารดาแห่งแผ่นดิน ซึ่งก็คือจักรพรรดิเอกภพกำเนิด
มิน่าเล่าก่อนหน้านี้ประมุขอาคเนย์ถึงอนุญาตให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว
‘บุคคลที่เดินไปถึงระดับนั้นได้ ต้องมีการสั่งสมลึกล้ำ และมีพลังกล้าแข็ง’ เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง กล่าวในใจ ‘ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ เกรงว่ามีไม่กี่คนที่ทราบว่าจักรพรรดิผู้นี้ นอกจากการสืบทอดจากอารามอู่จวงแล้ว ยังมีคัมภีร์นภากาลเวลาซึ่งเป็นวิชาสายหยกพิสุทธิ์ด้วย’
ในมือเขาปรากฏตราโบราณโลหะอันหนึ่ง มันมีรูปร่างเรียวยาว เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมือนกับกระบี่สั้นเล่มหนึ่ง แค่ไม่มีคมกระบี่เท่านั้น
ที่ปลายกระบี่สั้นถูกฝนจนเรียบ สลักรอยตราชนิดหนึ่ง ลวดลายโบราณและลี้ลับยิ่ง
เป็นตรากระบี่กาลเวลา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่ได้มาจากผู้วิเศษเซิง
กลิ่นอายอันเก่าแก่โบราณที่ลอยออกมาจากด้านในตราประทับรูปร่างกระบี่ เหมือนกับข้ามผ่านกาลเวลาอันเนิ่นนาน ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย
เมื่อมีคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต มีคัมภีร์นภากาลเวลาฉบับชำรุดที่ได้มาก่อนหน้า ในตอนนี้ยังได้ตรากระบี่กาลมาอีก เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถอนุมานคัมภีร์นภากาลเวลาที่สมบูรณ์ออกมาได้
แม้ด้านในจะต้องหลอมความเข้าใจส่วนตัวของจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและผู้วิเศษเซิงไว้ ไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนเช่นตอนแรก แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอสามารถอาศัยคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตมาค่อยๆ ปรับแต่งในขณะที่ฝึกฝนได้
แต่ว่าตรากระบี่กาลเวลาสุดท้ายยังเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ในนี้ยังเหลือเจตจำนงกระบี่ของผู้วิเศษเซิงที่เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง
คิดจะสยบและหลอมเปลี่ยนมันเพื่อถอนจิตพลังที่อยู่ด้านในออกไป จำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามเล็กน้อย
แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน
เขาเก็บตรากระบี่กาลเวลา สายตาตกอยู่บนใบไม้จากต้นผลอายุยืนที่แห้งเหี่ยวใบนั้นอีกรอบ ‘น่าเสียดายที่พลังชีวิตถูกทำลายไปแล้ว…’
คนปลูกต้นไม้ ฟ้าดินใส่วิญญาณ ด้านในก่อเกิดและซ่อนแฝงพลังวิญญาณ เป็นอันดับหนึ่งอันดับสองในหมู่ต้นไม้วิเศษมากมาย
แต่ในทางกลับกัน ยามที่พลังชีวิตของมันถูกตัดขาด แม้แต่เทพเซียนก็ยังยากจะหาเจอ
ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นใบไม้ที่ร่วงจากต้นใบหนึ่ง ทั้งยังแห้งเหี่ยวไปแล้ว แม้ว่าเขาจะครอบครองคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิต แต่ว่าก็ไม่อาจทำอะไรได้ตามใจชอล
ชายหนุ่มเก็บใบไม้ไว้ก่อน จากนั้นก็ศึกษาของอื่นๆ ที่ได้มา
มีสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาเล็กน้อย นั่นคือกวนลี่เต๋อเป็นถึงจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย ทว่าในถุงใส่ของของเขากลับไม่ค่อยมีอะไร ออกจะยากจนไปหน่อยด้วยซ้ำ
นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกออดรู้สึกคับข้องใจไม่ได้
ด้วยตำแหน่งและพลังฝึกปรือของกวนลี่เต๋อ ในเมื่อฝ่าฟันอยู่บนโลกซ้อนโลกมานานขนาดนี้ ต่อให้เป็นถุงใส่ของที่พกติดตัว ก็สมควรจะมีสมบัติเปี่ยมล้นจึงจะถูก
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว เขาจนยิ่งกว่ากู้จางกับเฮ่อตงเฉิงที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดเสียอีก
ทั่วทั้งตัวเขา นอกจากมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่พกติดตัวแค่ไม่กี่ชิ้นแล้ว ของมีค่าอย่างอื่นก็ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอผิดหวังยิ่ง
‘ได้ยินว่ากวนลี่เต๋อแม้จะไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ก็มีลูกศิษย์ผู้สืบทอดอยู่’
เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ‘เขามายังทะเลหวงเจียหลายครั้ง ล้วนเป็นการมาด้วยตัวเองเป็นหลัก กลับไม่เห็นมีลูกศิษย์ติดตามมา ดูเหมือนลูกศิษย์ผู้ติดตามของเขาจะทำเรื่องบางอย่างแทนเขา อย่างเช่น การดูแลเตาโอสถ หรือช่วยกางค่ายกลหลอมอาวุธ’
ด้วยเหตุนี้ กวนลี่เต๋ออาจจะมีแผนการสร้างของวิเศษชิ้นหนึ่งอยู่
การสั่งสมก่อนหน้านี้ของเขา บางทีอาจจะใช้ไปกับของชิ้นนี้ก็ได้
เยี่่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วที่ริมฝีปาก กวนลี่เต๋อมาตีชิงตามไฟ เพิ่มอันตรายให้แก่เขากว่างเฉิง แม้กำจัดเขาทิ้งไปแล้วก็ไม่ถือว่าจบเรื่อง แต่ชายหน่มคิดว่าต้องมอบของขวัญตอบแทน บุกไปยังที่อยู่ของอีกฝ่ายสักครา
ทว่าในสถานการณ์ที่กวนลี่เต๋อตายไปแล้ว ประมุขอาคเนย์สมควรกลับมาดูแลคนรุ่นหลังของเขา
ผู้ตายในเมื่อจากไปแล้ว ต่อให้ประมุขอาคเนย์จะไม่พอใจกวนลี่เต๋อมากกว่านี้ แต่เรื่องราวก็ได้จบลงแล้ว ยามนี้น้ำใจจากการเป็นคนรู้จักอันน้อยนิดนั้นจึงค่อยเกิดประโยชน์
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจเรื่องนี้เป็นดี ยักไหล่เล็กน้อย เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น
‘ในตอนที่ผู้วิเศษเซิง นักพรตสือ เสวียนเฉิงอ๋องออกจากทะเลหวงเจีย น่าจะเป็นเพราะจักรพรรดิเอกภพกำเนิดมอบหมายภารกิจใหม่ให้พวกเขา’ เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดในใจ ‘จักรพรรดิผู้นี้วางแผนมากมายเกินไปแล้ว’
ในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอแม้จะเกิดความคิดมากมาย แต่ก็ไม่ได้แค่จัดระเบียบของที่ได้มาจากสงครามครั้งนี้เท่านั้น
เขาคัดเลือกของวิเศษแต่ละชนิดจากสิ่งที่ได้มาในครั้งนี้ เพื่อปรับปรุงโครงการหนึ่งของตัวเอง
นั่นคือการระเบิดบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้คิดเล่นๆ เขากำลังคิดถึงปัญหานี้อย่างจริงจัง
ไม่ทันไรก็มีข่าวหนึ่งส่งกลับมาจากชายแดน เหมือนกับพิสูจน์ความจำเป็นที่เยี่ยนจ้าวเกอต้องใคร่ครวญปัญหานี้
ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพเลวร้ายอย่างเด่นชัด การโจมตีจากเขตเพลิงทักษิณกลับเบาบางลง
เบาบางลง ไม่ใช่การถอยกลับ
ในทางตรงกันข้าม หลังจากลดการโจมตี พวกเขาก็มีความคิดจะกางปีกบุกเข้ามา
เหมือนกับขณะที่กำลังหลีกเลี่ยงศูนย์กลางของสำสนามรบ ก็เตรียมจะรุกรานเข้ามาในเขตตะวันอาคเนย์สุดกำลัง
ความคิดแรกหลังจากที่เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินข่าวนี้ก็คือ ประมุขทักษิณจวงเซินลงมือด้วยตัวเองแล้ว
………………..