อาหู่มองตามสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอไป
นั่นเป็นแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ กว้างขวางและยาวเหยียดสายหนึ่ง
ผิวแม่น้ำกว้างเหมือนทะเล ทำให้ผู้คนที่เห็นถอนใจชมเชย
“แม่น้ำนี้ชื่อแม่น้ำเฉาเหอ เป็นสายน้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงบนโลกซ้อนโลก” เยี่ยนจ้าวเกอมองผิวน้ำพลางกล่าว “ตอนอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ข้าได้ยินคนในเขาโถงทองบอกไว้”
ที่ปลายแม่น้ำเฉาเหอไม่ใช่เขารอบวง และไม่ใช่เขตเพลิงทักษิณ แต่ว่าเป็นเขตมหานภากลางที่อยู่ทางเหนือ
ต้นน้ำอยู่ในเขตมหานภากลาง ทอดไปยังตะวันออก ข้ามผ่านอาณาเขตนับล้านล้านลี้ เข้าออกสถานที่มากมายในเขตมหานภากลางและเขตเพลิงทักษิณ
เทือกเขารอบวงเป็นหนึ่งในจำนวนนี้ อาณาเขตทั้งหมดถูกแม่น้ำเฉาเหอแบ่งออกเป็นสองส่วน
จากนั้นก็ออกจากเทือกเขารอบวง ไหลต่อไปทางใต้
แม่น้ำใหญ่ระหว่างเทือกเขานับว่าเป็นลักษณะเด่นทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเขารอบวง
ในฐานะพรมแดนของเขตเพลิงทักษิณซึ่งอยู่ติดกับทะเลหวงเจีย เยี่ยนจ้าวเกอย่อมใช้ความพยายามศึกษาที่นี่อย่างจริงจัง
ไม่ใช่แค่จอมยุทธ์ทิศใต้ที่เคลื่อนไหวที่นี่ ยังครอบคลุมถึงลักษณะเด่นทางภูมิประเทศที่มีชื่อเสียงของที่นี่ด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอรู้จักแม่น้ำเฉาเหอ แต่ว่าวันนี้เพิ่งได้มาที่นี่ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
สาเหตุที่มั่นใจมาก และเดินทางจากเทือกเขายาวเหยียดมายังตะวันออกโดยไร้ข้อกริ่งเกรง เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่คิดทำสงครามโดยไม่ได้เตรียมตัว
เนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์และเขตเพลิงทักษิณมีกองรบปักหลักอยู่ที่เขารอบวง คอยเฝ้าระวังยอดฝีมือจากตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่อีกฝั่ง เรื่องนี้เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้
แต่ว่าเขาก็ยังคงมาที่นี่
ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้ตอนยังไม่ได้บรรลุถึงเขารอบวง มีความมั่นใจเจ็ดแปดส่วน ตอนนี้พอมาถึงเขารอบวง และได้เห็นแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่สายนี้ด้วยตัวเองแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มีความมั่นใจมากกว่าเก้าส่วน
เซี่ยกวงยามนี้ปรากฏตัวด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ ทอดถอนใจไม่หยุด
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอบอกว่าต้องการทะลวงกลับมา เขาจึงรู้สึกฮึกเหิม
ทว่าในตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆ นอกจากความจิตใจอันร้อนระอุแล้ว เซี่ยกวงก็รู้สึกสะท้านสะเทือนยิ่ง
ตั้งแต่เขายาวเหยียดเป็นต้นมา มียอดฝีมือทิศใต้จำนวนนับไม่ถ้วนล้มลงต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
ในเทือกเขาสันติภาพ ผู้คนชุมนุมกันเพื่อรับมือเยี่ยนจ้าวเกอ สุดท้ายชายหนุ่มบุกไปถึงเขามหาวิญญาณ เล่นงานเขามหาวิญญาณจนเกือบล้างสำนัก ยอดฝีมือฝั่งทิศใต้ที่ชุมนุมกันล้วนหนีเตลิด
หยวนเสี่ยนเฉิง จ้าวเจิน และนักพรตตงเฉวียน ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดผู้ยิ่งใหญ่สามคนในงานชุมนุม มีสองคนตกตาย
แม้แต่จางซู่เหรินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายก็สู้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ ได้แต่รีบร้อนกลับเขารอบวง ยืนหยัดรักษาอยู่ในค่ายกลไม่กล้าออกมา
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงคนหนึ่งกระทำการตามใจในเขตเพลิงทักษิณ ผู้คนได้แต่ก้มหน้า ความประทับใจนี้บันดาลให้เซี่ยกวงรู้สึกปรารถนาจนคิดหมอบกราบกรานด้วยความนับถือ
พลังของเขามหาวิญญาณ เมื่อเทียบกับเขาสามขาแล้ว บางทีอาจด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็เป็นสำนักที่มีระดับคล้ายๆ กัน
ในสำนักมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนไม่ต่ำกว่าหนึ่งคนคุ้มครอง มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยสะกดอยู่
ทว่าตัวตนที่ไม่ว่าจะไปอยู่ในเทือกเขาเสียงระรัว ทะเลหวงเจีย หรือที่ราบสูงยอดขจีก็เรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอำนาจเช่นนี้ กลับถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำลายจนสูญสิ้นด้วยตัวคนเดียว
ยอดฝีมือระดับสูงรวมถึงนักพรตตงเฉวียนเสียชีวิตแทบหมดสิ้น อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอย่างแส้หางมังกรตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
เขามหาวิญญาณทั้งลูกถูกเยี่ยนจ้าวเกอกระทืบแหลกด้วยหนึ่งเท้า หายไปจากโลกนับตั้งแต่บัดนี้
ขอแค่คิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ เซี่ยกวงก็รู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่น อยากจะมีความสามารถเช่นนั้นบ้าง จะได้รีบเข่นฆ่าเขาสามขาให้พินาศ
“คุณชาย ค่ายกลที่อยู่ตรงหน้านี้ขวางทางที่พวกเราจะใช้กลับเขตตะวันอาคเนย์ไว้พอดี” อาหู่ครั้งนี้เอ่ยขึ้น “ถึงแม้จะไม่ทราบว่าไฉนจนถึงตอนนี้จึงยังไม่มียอดฝีมือทิศใต้คนอื่นไล่ตามพวกเรา แต่ว่าถ้าถูกสกัดไว้ที่นี่นานเกินไป เรื่องราวก็ยากจะบอกแล้ว”
เซี่ยกวงได้ยินก็ระวังตัวขึ้นตาม
ถึงเขาจะรู้จักเขตเพลิงทักษิณไม่มาก แต่เขาก็ทราบว่าที่นี่ไม่ใช่มีแค่จางซู่เหรินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเพียงคนเดียว
“จะต้องมีคนไล่ตามมาแน่” เยี่ยนจ้าวเกอตอบเหมือนไม่มีเรื่องราวใด “ก่อนหน้านี้ข้าเองก็สงสัย แต่ต่อมาถึงค่อยเข้าใจ”
“คนเหล่านั้นเกรงว่าตอนแรกจะไล่ล่าไปทางเหนือ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าผละไปโดยใช้เส้นทางของเขตมหานภากลาง”
พูดถึงตอนนี้แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เบะปาก “รอจนรู้ตัว ย่อมต้องเปลี่ยนเส้นทาง ไล่ล่ามาทางตะวันออก”
“ข้าทะลวงมา เสียเวลาไปมากเกินไป ย่อมเทียบกับอีกฝ่ายที่ตั้งใจติดตามไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาไล่ตามมาด้านหลังไม่ไกลแล้ว”
เซี่ยกวงใบหน้าฉายแววกังวล “คุณชายเยี่ยน…”
เขานึกขึ้นได้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอเคยกล่าวว่า ในตอนที่เจอกับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิขั้นเก้าขึ้นไปสักคนในแต่ละครั้ง ต่อให้มีคนขัดขวาง ก็ต้องทะลวงกลับไป
มาวันนี้เยี่ยนจ้าวเกอได้พิสูจน์แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คุยโวโอ้อวด
แต่ว่าเพราะประโยคก่อนหน้า พอนึกขึ้นมาในตอนนี้ ก็ทำให้เซี่ยกวงอดเป็นห่วงไม่ได้
ด้านหน้ามีจางซู่เหรินขวางทาง คนที่ไล่ตามมาด้านหลังสมควรมียอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายนำขบวน
ถ้าหากถูกอีกฝ่ายขนาบจู่โจมหน้าหลัง ผลลัพธ์ก็คง…
เยี่ยนจ้าวเกอกลับชี้แม่น้ำที่ทอดขวางเหนือใต้อย่างผ่อนคลาย “ยังไม่เอ่ยถึงสถานที่อื่น แม้กระทั่งทะเลวงเจียก็ทำไม่ได้ แต่ว่าข้าสามารถยืดเส้นยืดสายในเขารอบวงแห่งนี้ได้”
“หา?” เซี่ยกวงประหลาดใจสุดแสน
อาหู่งงงวย จากนั้นก็หัวเราะอย่างสัตย์ซื่อ “คุณชาย ท่านมีแผนอะไรแล้วหรือ”
“ที่นี่เป็นที่ที่ดี” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางวูบไหวท่าร่าง พาคนทั้งสองพุ่งไปยังที่ไกลออกไป
จางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงที่อยู่ในค่ายกลหงส์เพลิงเกาะต้นจักรพรรดิ แม้นจะตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกจากค่ายกล แต่ในตอนนี้ก็ยังให้ความสนใจการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในตอนนี้เห็นเยี่ยนจ้าวเกอลอยขึ้น จากนั้นก็ถอยหลัง บ่ายหน้าจากไป จางซู่เหรินในใจไม่เพียงแต่ไม่ผ่อนคลาย ยังเปลี่ยนเป็นระวังตัวกว่าเดิม
ค่ายกลหงส์เพลิงเกาะต้นจักรพรรดิบดบังท้องนภา เคลื่อนย้ายเวลา ขวางทางเชื่อมของสองพรมแดน
นั่นย่อมไม่ใช่หมายความว่าแค่เยี่ยนจ้าวเกอลอยสูงขึ้นเล็กน้อยก็สามารถข้ามไปได้
ตอนนี้เขาหันหน้าไปทางตะวันตก กลับออกห่างจากค่ายกล ลอยไปยังเทือกเขาสันติภาพที่จากมา
จางซู่เหรินเห็นดังนั้นก็อดบ่นพึมพำในใจไม่ได้ ‘คนผู้นี้ทะนงตน แต่ก็เจ้าเล่ห์ แต่ถ้าหากคิดจะหลอกให้พวกเราออกจากค่ายกล ใช่คิดถึงเรื่องราวรวบรัดเกินไปหรือไม่’
ถ้าหากบอกว่าเยี่ยนจ้าวเกอทำลายค่ายกลหงส์เพลิงเกาะต้นจักรพรรดิไม่ได้ และกังวลว่าจะถูกจางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อขนาบโจมตี ดังนั้นจึงหลบเลี่ยงหนีไปยังสถานที่อื่นในเขตเพลิงทักษิณ จางซู่เหรินกลับรู้สึกว่าไม่ใช่
“อาจารย์อา เขาใช่ต้องการหาวิธีติดต่อกับจอมยุทธ์ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่อีกด้าน คิดโจมตีสองด้านหรือไม่” หยวนเสี่ยนเฉิงถาม
จางซู่เหรินพยักหน้า “นี่เป็นไปได้มากที่สุด ข้าไม่คิดว่าเขาจะยอมเลิกราเช่นนี้”
“ข้าจะเฝ้าใจกลางค่ายกล เสี่ยนเฉิงเจ้าไปตรวจสอบการเคลื่อนไหวทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้”
“ไม่ว่าจะอย่างไร ขอแค่พวกศิษย์น้องเผิงมาถึง เด็กน้อยผู้นี้ต่อให้ติดปีกบินก็หนีไม่รอด”
หยวนเสี่ยนเฉิงรับคำจากไป จางซู่เหรินอดทนสังเกตการณ์
เวลาผ่านไป จางซู่เหรินพลันรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณบริเวณเขารอบวงที่อยู่ข้างใต้เท้าเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
การเปลี่ยนแปลงนั้นดูเหมือนไม่มาก แต่กลับทำให้ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าผู้นี้เกิดความรู้สึกกระวนกระวาย
ต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงคล้ายจะมาจากทางแม่น้ำเฉาเหอที่พาดขวางเขารอบวงสายนั้น
จางซู่เหรินรู้สึกสับสน
แม่น้ำเฉาเหออยู่ในเขารอบวงแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ต้นน้ำอยู่ในเขตมหานภากลาง จึงไม่อาจสร้างทำนบสั่งสมน้ำให้ท่วมถึงค่ายกลหงส์เพลิงเกาะต้นจักรพรรดิ
จางซู่เหรินคิดไม่ออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะทำอะไรกับแม่น้ำเฉาเหอได้ ความเป็นไปได้ที่มีมากที่สุด จริงๆ แล้วดูเหมือนจะเป็นการล่อเขาออกจากค่ายกล จากนั้นค่อยซุ่มสังหาร
พอขบคิดถึงตรงนี้ จางซู่เหรินสุดท้ายก็ยังตัดสินใจใช้ไม่เปลี่ยนแปลงรับมือหมื่นเปลี่ยนแปลง
เหมือนกับว่าเป็นการมอบรางวัลให้แก่ความระมัดระวังตัวของเขา
บริเวณจุดตัดของเทือกเขาสันติภาพและเขารอบวงพลันมีประกายเพลิงแผ่พุ่ง
หงส์เพลิงสยายปีก นาวาเทพลำหนึ่งแล่นอยู่บนฟ้ามาถึงเขารอบวง
พวกเผิงเฮ่อราชาอัคคีที่เดินทางไม่หยุดพักมาโดยตลอด ในที่สุดก็ไล่ตามมาถึงแล้ว!